ทัวร์ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย ฝรั่งเศส 11 วัน
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย ฝรั่งเศส 11 วัน
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 12 ต.ค. 65 - 22 ต.ค. 65 | 149,900 บาท |
2 | 26 ต.ค. 65 - 5 พ.ย. 65 | 149,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ขึ้นยอดเขา Zugspitze Mt. ยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน
- 2ขึ้น รถรางชมวิวพาโนรามา เหนือหมู่บ้านฮอลสตัล
- 3ชมหมู่บ้าน Colmar / Riquewihr / Eguisheim / Strasbourg เมืองสวยที่สุดในแคว้นอัลซาสของฝรั่งเศส
- 4ชมหมู่บ้าน Rothenburg ob der Tauber หนึ่งในสามหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเยอรมัน
- 5ชมหมู่บ้าน Mittenwald / Garmisch หมู่บ้านเฟรสโก้บาวาเรียที่สวยที่ในเยอรมัน (Unseen)
- 6ชมหมู่บ้าน Ramsau หมู่บ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยมาก (Unseen)
- 7ชมทะเลสาบ Gosausee หลบซ่อนตัวในหุบเขา (Unseen)
- 8ล่องเรือทะเลสาบ Konigssee ทะเลสาบที่น้ำใสสะอาดที่สุดในยุโรป !!
- 9ขึ้นยอดเขา Zugspitze Mt. ยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน
- 10ชมหมู่บ้าน Hallstatt / St.Wolfgang หมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ในออสเตรีย
- 11เข้าชมปราสาท Heidelberg Castle ได้ขึ้นชื่อว่า ปราสาทซากปรักหักพังที่สวยที่สุดในโลก
- 12ชมปราสาท Herrenchimsee Palace ปราสาทที่สวยที่สุดของพระเจ้าลุดวิคที่ 2 (Unseen)
- 13ชมเมือง Wurzburg เมืองแสนสวยต้นทางของเส้นทางสายโรแมนติคของเยอรมัน
- 14ชมเมือง Innsbruck หนึ่งในเมืองสวยทที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- 15ชมหมู่บ้าน Titisee ในเขตป่าดำต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู
- 16ชมหมู่บ้าน Lidau ริมทะเลสาบ Bodensee
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
เยอรมัน – ออสเตรีย- ฝรั่งเศส
(บาวาเรีย – ทิโรล – อัลซาส) 11 วัน 8 คืน
โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
- 23.45 น.ออกเดินทางบินตรงสู่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 920
แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมัน) - วูซเบิร์ก - แบมเบิร์ก - โรเธนเบิร์ก
- 06.00 น. เดินทางถึง เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
- จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER)ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อ (OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียด
- นำท่าน ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน ผ่านชมโบส์ถเซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมือง
- ท่านเดินทางสู่เมือง วูร์ซเบิร์ก (Wuerzburg) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. )เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน
- นำท่านชมความงดงามของเมือง วูร์ซเบิร์ก โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) แวะถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบริ์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ คศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์
- จากนั้นนำท่านเดินชมเมือง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274 นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
ไฮเดลเบิร์ก - ปราสาทไฮเดลเบิร์ก – สตราสบูร์ก (ฝรั่งเศส)
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านออกเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก(Heidelberg) (ระยะทาง 140 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1ชม. 30 นาที ) ตั้งอยู่ในรัฐ baden-Wurttemburg ทางใต้ของแฟรงค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ (Neckar) โดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเชิงเขา
- จากนั้นเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเขาแบร์กบาห์น ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความาเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม30ปีและมาถูกเผาทำลายถึง 2ครึ่งในปี 1689และ 1693 ในสงครามกับฝรั่งเศส จึงเหลือตาซากปรักหักพัง และได้การยอมรับว่านี้คือซากปรักหักพังของปราสามที่สวยงามที่สุดในโลก
- นำท่านชมวิวจากจุดชมวิวบนตัวปราสาท ท่านจะมองเห็นเมืองไฮเดลเบิร์กได้อย่างสวยงาม นำท่านชมเก็บ ถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความจุราว 222,000ลิตร
- จากนั้นนำท่านลงสู่ตัวเมืองเก่าของไฮเดลเบิร์ก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านชมสะพานเก่าอัลเทอบรุคเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเดินข้ามสะพานไปแล้วมองหันกลับมาท่านจะเห็ปราสาทไฮเดลเบิร์กสีชมพูอมแดงตั้งโดดเด่นเหนือตัวเมืองไฮเดลเบิร์ก นำท่านชมรูปปั้นลิง บนตัวสะพานที่มีความเชื่อว่าหากได้มาสัมผัสรูปปั้นลิงนี้จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
- จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่จตุรัสมาร์คพลัทซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถไฮลิก ไกสท์เคียร์เค่อ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นศิลปแบบโกธิค
- นำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 160 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชม. ) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส (Alsace)ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม la Petite France (ปารีสน้อย)
- นำท่านชมเขต La Petite France ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนูพิเศษ หอยเอสคาโก้
HILTON STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
กอลมาร์ – เอกิซไฮม์ - ริคเวีย – สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาส และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบ Half – Timber และบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง ด้วยบรรยากาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลกเดินทางมาฮันนีมูนที่นี่
- นำท่านเดินชมเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง
- จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Equisheim) (ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ) Les Plus Beaux Village de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Villageมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึงปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่ ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย
- นำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลาประมาณ 0 นาที) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก
- นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูป
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์กนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HILTON STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
สตราสบูร์ก – ทิทิเซ่ (ป่าดำ) - ลินเดา - การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นําท่านเดินทางสู่ เมือง ทิทิเซ่ (TITISEE) (ระยะทาง 85 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.) เขตป่าดําตอนใต้ (SOUTH BLACK FOREST) เมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางป่าสนอันอุดมสมบูรณ์และทะเลสาบสุดสวย ในประเทศเยอรมัน เดินทางถึง ทะเลสาบทิทิเซ่ ท่านจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติที่ห้อมล้อมทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยติดอันดับในทวีปยุโรปอีกด้วย นําท่านชมทิวทัศน์ความงดงามของป่าดํา และทะเลสาบ มนต์เสน่ห์ที่ท่านจะต้องหลงใหลไม่มีวันลืม ให้ท่านได้เลือกซื้อหรือชม นาฬิกากุ๊กกู เป็นของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
- ให้ท่านได้เลือกซื้อหรือชม นาฬิกากุ๊กกู เป็นของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินสู่เมือง ลินเดา (Lindau) (ระยะทาง 145 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ) เมืองตากอากาศแสนสวยริมทะเลสาบคอนสแตนซ์ (Lake Constance) หรืออีกชื่อคือทะเลสาบโบเดนเซ (Bodensee)
- จากนั้นนำท่านเดินชม ลินเดา เมืองเล็กที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นเมืองเล็กๆอยู่ระหว่างสามประเทศ คือเยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ด้วยของเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลสาบโดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาเอลป์จนได้รับฉายาว่า แชงกรีลา แห่งเยอรมัน นำท่านเดินเล่นถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง ถ่ายรูปกับเสาประภาคารบาวาเรียและเสารูปสิงโตซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลินดา อิสระทุกท่านเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น (Garmisch-Partenkirchen) (ระยะทาง 150 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ) เป็นหนึ่งใน เมืองที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี เป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันบ้านเรือนตกแต่งด้วยสไตล์บาวาเรียน มีภาพเขียนสีตกแต่งตามบ้านเรือนและถือเป็นประตูสู่ยอดเขา Zugspitze ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมันนีและเป็นเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า เล่นสกี หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE HOTEL GARMISCH-PARTENKIRCHEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2คืน)
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น - ยอดเขาซุกสปิตเซ่ ( TOP OF GERMANY) - มิดเท็นวาลด์ - อินน์สบรูค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินเล่นชมเมืองกร์มิสช์ นำท่านชมบ้านเรือนตกแต่งสไตล์บาวาเรียนสวยงาม
- นำท่านนั่ง Cable Car ขึ้นสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน เยอรมนีคือ 9,721 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank) ซึ่งล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางและนักสกีทั้งสิ้น นิทรรศการศิลปะบนที่สูงที่สุดและซุกสปิตซ์ปลาต ธารน้ำแข็งสายเดียวของเยอรมนีที่ยามหิมะตกหนา ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มิถุนายน กลายเป็นเส้นทางสกีให้เลือกเล่นหลายระดับ
- อิสระทุกท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง บนยอดเขา
- นำท่านออกเดินทางสู่เมือง มิดเท็นวาลด์ (Mittenwald) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) พรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเอลป์ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น1 ใน 10 หมู่บ้านติดอันดับความสวยของเยอรมัน ถือเป็นสถานที่ UNSEEN ของเยอรมันด้วย นำท่านชมเมืองสูดอากาศอันบริสุทธิ์ เดินเล่นนั่งจิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์หรือเลือกสินค้าที่ระลึก
- นําท่านเดินทางสู่เมือง อินน์สบรูค (Innsbruck) (ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 25 นาที) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ําอิน “Inn River” และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาเอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิ แม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้
- นำท่านเข้าสู่ตัวเมืองนําท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ อาคารหลังคาทองคํา (Goldenness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus)ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโค เข้าไปในศตวรรษที่18 ทําให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดน เนอร์แอดเลอร์ (Goldener Adler Hotel) สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่16 เป็น โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับ อะคันตุกะจากต่างแดน มาแล้วอย่างมากมาย
- จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมืองอินน์สบรูค ให้ท่านได้ชมบ้านเรือนสีลูกวาดริมแม่น้ำอินน์โดยมีฉากหลังเป็นแนวเทือกเขาเอล์ป หรือให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
GRAUER BAR HOTEL INNSBRUCK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรม มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
อินน์สบรูค - เบิร์ชเทสกาเด้น - ล่องเรือทะเลสาบโคนิงซี - รามเซา
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น (Berchtesgaden ) (เยอรมัน) (ระยะทาง 150 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เจ้าของเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด 1 ใน 6 เส้นทางแสนสวยและยังเป็น เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็น ศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่
- นำท่านล่องเรือสู่ ทะเลสาบกษัตริย์ (Konigsee) ที่มีน้ำใสราวกับมรกต ได้ขึ้นว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสและสะอาดที่สุดในยุโรป ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่งดงาม ที่สุดในประเทศเยอรมนี ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งกำเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งก่อให้เกิดทะเลสาบอันงามพิสุทธิ์ และความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลกฟยอร์ดแห่งนี้มีความยาวกว่า 8 กม. กว้างถึง 1,250 เมตร ลึก 190 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงกว่า 602 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล นำท่านล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 เพื่อไม่เกิดมลภาวะเรือจะนำท่านล่องไปชมบรรยากาศแห่งฟยอร์ด จนถึงโบสถ์บาโธโล มิว อันเป็นเสน่ห์ของดินแดนแห่งฟยอร์ดนี้
- จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น เนื่องสภาพอากาศมาเอื้ออำนวยต่อการล่องทะเลสาบ โดยไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้บริการ)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านรามเซา (Ramsau) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) เราเป็นบริษัททัวร์แรกที่จัดเข้าไปเที่ยว หมู่บ้านเล็กๆ Unseen ของเยอรมันที่ติดกับพรมแดนออสเตรียที่หลบซ่อนตัวในเขตเทือกเขาเอลป์ โดยหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยมีโบสถ์เซนต์เซบาสเตียน (St.Sebatian) เป็นฉาก มีสะพานไม่เล็กทอดข้ามแม่น้ำ Arche ที่ไหลตัดผ่านหมู่บ้าน โดยมีฉากหลังของเทือกเขาเอลป์เป็นฉากหลัง
- นำท่านเดินถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือสามารถเข้าชมด้านในโบสถ์ได้ฟรี จากนั้นอิสระเดินถายรูปตามอัธยาศัย
- เดินทางสู่เมือง เซนต์วูลฟ์กัง (ST.WOLFGANG) (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.) เมืองรีสอร์ทเล็กๆ ในหุบเขาริมทะเลสาบวูลฟ์กัง เมืองเล็กริมทะเลสาบที่มีความสวยงามไม่แพ้ฮอลสตัท มีบ้านเรือนสวยงาม
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCALARIA HOTEL ST. WOLFGANG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเซนต์วูฟกัง มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
ฮอลสตัท - ขึ้นรถรางชมวิวพาโนรามา - ทะเลสาบโกเซา - เซนต์วูลฟ์กัง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง ฮอลสตัท (HALLSTATT) เมืองมรดกโลก ริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก
- นำท่านเดินเท้าเลาะริมทะเลสาบ ที่เรียกว่า “ซี สตราซ” (See Strasse) อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า ดอกไม้หลากสีสันสวยงามปลายสุดของ ถนนซีสตราซ ท่านจะได้ชมจัตุรัสประจำเมืองซึ่งเป็นลานหินขนาดย่อม ประดับด้วยน้ำพุกลางลาน และอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม
- นำท่านขึ้นรถรางขึ้นสู่ภูเขาด้านบนชมวิวมุมสูง สามารถมองเห็นวิวพาโนรามา ให้ท่านได้ชมวิวเมืองฮอลสตัท และทะเลสาบจากด้านบน
(รถรางเปิดให้บริการเฉพาะ ช่วงเดือนเดือน เม.ย. – ธ.ค. เท่านั้น )
(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆ เช่น เนื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีการปิดปรับปรุงหรือทางรถรางไม่เปิด ให้ขึ้นชม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้ขึ้นชม โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนูปลาเทราซ์
- อิสระทุกท่านเดินชมหมู่บ้านฮอลสตัท ถ่ายรูปกับมุมต่าง หรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- นำท่านออกเดินทางสู่ หมู่บ้านโกเซา (Gosau) (ระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที) ชุมชนเล็กๆ บนแนวเทือกเขาแอลป์ในเขตการปกครอง Gmunden รัฐ Upper Austria ทางตอนกลางของประเทศ ชุมชนนี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 มีความอุดมสมบูรณ์ โกเซาลายล้อมไปด้วย ธรรมชาติและป่าไม่อันแสนอุดมสมบูรณ์ ให้ท่านได้สัมผัสป่าไม้และลำธารอันแสน อุดมสมบูรณ์ เดิมทีประชากรที่เมืองนี้ ประกอบอาชีพทําเหมืองเกลือมาตั้งแต่อดีตแต่ปัจจุบันการท่องเที่ยวเริ่มเข้ามา เป็นรายได้หลักของที่นี่
- นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบโกเซา (Gosausee) (ระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในเทือกเขาเอล์ป เป็นหนึงในทะเลสาบที่มีชื่อเสียงเรื่องความสวยงามของวิวทิวทัศน์และสีของน้ำทะเลสาบมีสีเทอคอยซ์ ยิ่งทำให้ทะเลสาบแห่งนี้สวยงามมาก
- อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
- เดินทางสู่เมือง เซนต์วูลฟ์กัง (ST.WOLFGANG) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที.) เมืองรีสอร์ทเล็กๆ ในหุบเขาริมทะเลสาบวูลฟ์กัง เมืองเล็กริมทะเลสาบที่มีความสวยงามไม่แพ้ฮอลสตัท มีบ้านเรือนสวยงาม อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCALARIA HOTEL ST. WOLFGANG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เซนต์วูลฟ์กัง - ปรีน – ทะเลสาบคิมเซ – พระราชวังแฮริมคีมเซ - มิวนิค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินสู่หมู่บ้านปรีน (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลา 1.30 ชม.) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดริมทะเลสาบคีมเซ หรือทะเลสาบบาวาเรีย ตั้งอยู่ใจกลางแคว้นบาวาเรียตอนเหนือระหว่างเมืองมิวนิคและซาล์สบวร์ก
- นำท่านล่องเรือไปยังเกาะแฮเรนอินเซล ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบอันเป็นที่ตั้งของ พระราชวังแฮเรนคีมเซ ( Herrenchiemsee Palace ) พระราชวังที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 โดยมีพระประสงค์ให้สร้างเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายน์ แต่ให้หรูหราอลังการกว่าด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในยุคนั้น นำท่านเที่ยวชมห้องภายในพระราชวังแฮเรนคีมเซ่, ห้องฑูตานุทูต, ห้องทรงงานห้องบรรทม, ห้องเสวย และห้องกระจก ที่ประดับตกแต่งอย่างสง่างามด้วยทองและแพรพรรณหลากสี แต่น่าเสียดายที่ปราสาทแห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ด้วยพระเจ้าลุควิกที่ 2 สิ้นพระชมน์ไปก่อน ซึ่งพระเจ้าลุดวิกที่2 ได้ใช้เงินในการก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้มากกว่าพระราชวังลินเดอร์ฮอฟและปราสาทนอยชวานสไตน์ จนเป็นที่มาทำให้พระองค์ถูกตั้งกรรมการสอบสวน อิสระให้ทุกท่านถ่ายรูป
- จากนั้นได้เวลานำท่านนั่งเรือกลับสู่แผ่นดินใหญ่
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ นครมิวนิค (MUNICH) (ระยะทาง 85 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.) เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมในหลายรูปแบบ ไม่ว่าแบบเรอเนซองส์ คลาสสิคหรือทันสมัย
- นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) แลนด์มาร์คใจกลางเมือง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นตลาดเรียกว่า “ตลาดสี่เหลี่ยม” ภายหลังได้กลายเป็นที่ตั้งของ New Town Hall ได้รับการออกแบบและตกแต่งในสไตล์โกธิค ในบริเวณจตุรัสประกอบไปด้วย ศาลากลางเก่าที่มีซุ้มประตูและหอคอย ศาลาว่าการ New Town สถาปัตยกรรมเสารูปปั้นของพระแม่มารีสีทอง น้ำพุปลา และหอคอย Glockenspiel ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในช่วงฤดูร้อนจะมีการโชว์ระบำตุ๊กตาในช่วงเวลา 11.00 น. – 12.00 น. และ 17.00 น.
- จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย หรือเลือกเดินเล่นชมเมืองถ่ายรุปบริเวณจัตุรัสมาเรียน ตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ขาหมูเยอรมัน + เบียร์
SHERATON ARABELLA PARK HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
มิวนิค – พระราชวังนึมเฟ่นบรว์ก - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านแวะถ่ายรูปด้านนอกกับพระราชวังฤดูร้อนนึมเฟ่นบรว์ก (Nymphenburg Palace) เป็นพระราชวังสมัยศตวรรษที่ 18 ที่ยังคงงดงามด้วยสไตล์เรียบหรู บนพื้นที่พระราชวังและอุทยานที่มีการจัดภูมิทัศน์อย่างลงตัว จุดโดดเด่นอยู่ที่การตกแต่งภายในที่ยังคงมีความวิจิตรข้ามสมัย ทำให้นักท่องเที่ยวอยากไปชมให้เห็นกับตาจุดเริ่มต้นของพระราชวังแห่งนี้ เป็นดำริของ Ferdinand Maria และ Henriette Adelaide ในการสร้างพระราชวังฤดูร้อนให้แก่พระราชโอรส Maximilian II Emanuel ในปีค.ศ.1664 และมีการขยาย ตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมแนวบาร็อค และปรับเปลี่ยนอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 18 ปลายๆ จนได้เป็นพระราชวังงดงามเช่นปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ประสูติของพระเจ้าลุควิคที่ 2 อีกด้วย
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 14.20 น.ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 925
สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพมหานคร
- 06.30น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ