ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (ไรน์แลนด์ – อัลซาส – บาวาเรีย)
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (ไรน์แลนด์ – อัลซาส – บาวาเรีย)
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 19 ต.ค. 65 - 29 ต.ค. 65 | 155,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมปราสาท Eltz Castle เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดในเยอรมัน อายุกว่า 1,000 ปี สวยมากๆ
- 2ชมหมู่บ้าน Rothenburg ob der Tauber หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของเยอรมัน
- 3ชมหมู่บ้าน Cochem ริมแม่น้ำ Mosel สุดสวยเป็นหนึ่งในหมู่บ้านสวยของเยอรมัน
- 4ชมหมู่บ้าน Bacharach / Rudesheim / Beilstein ลุ่มแม่น้ำไรน์เป็นหนึ่งในหมู่บ้านสวยของเยอรมัน
- 5ชมหมู่บ้าน Colmar / Riquewihr / Eguisheim / Strasbourg เมืองสวยที่สุดในแคว้นอัลซาสของฝรั่งเศส
- 6ชมหมู่บ้าน Idstien / Gengenbach / Essingen / Besigheim / Bad Wimpfen/ Schwabisch hall
- 7ชมหมู่บ้าน Dinkelsbühl หมู่บ้านสีลูกกวาดของเยอรมัน
- 8ชมเมือง Wurzburg หนึ่งในเมืองสวยต้นทางของเส้นทางสาย Romantic Road
- 9ชมเมือง Freiburg / Titisee เมืองแห่งต้นทางป่าดำแห่งเยอรมัน
- 10ชมเมือง Trier อดีตเมืองแห่งอาณาจักรโรมัน และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน
- 11ชมเมือง Wurzburg หนึ่งในเมืองสวยต้นทางของเส้นทางสาย Romantic Road
- 12ชมเมือง Heidelberg และปราสาท Heidelberg Castle ขึ้นชื่อว่า ปราสาทซากปรักหักพังที่สวยที่สุดในโลก
- 13ชมเมืองสวย Koblenz เมืองแห่งแม่น้ำ 2 สาย
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส
ไรน์แลนด์ – อัลซาส – บาวาเรีย
11 วัน 8 คืน โดยสารการบินไทย (TG)
เส้นทางพิเศษเจาะลึกหมู่บ้านสวย UNSEEN เดินทางไม่ไกล
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 21.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
- 23.45 น. ออกเดินทางบินตรงสู่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 920
แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมัน) – อิดสไตน์ - รูเดสไฮม์ -นั่งกระเช้า - บาคาราค - โคเบลนซ์
- 06.00 น. เดินทางถึง เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิดสไตน์ (IDSTIEN) (ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ) ตั้งอยู่ใจกลางประเทศเยอรมนี ตรงบริเวณเชิงเขา “เทานุส” ที่มีความสูงประมาณ 300 เมตร เป็นที่ตั้งของ ปราสาทอิดสไตน์ (Burg Idstein) เป็นปราสาทบนเนินเขาที่พำนักของแนสซอ-อิดสไตน์ สถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนสซองส์ โดยหอคอยแม่มดของปราสาทเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและเป็นสถานที่สำคัญในท้องถิ่น โดยปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นประมาณ ค.ศ.1170 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17สมัยเจ้าชายจอร์จ ออกัสตัส ซามูเอลแห่งแนสซอ-อิดสไตน์ การตกแต่งภายในแบบบาโรกเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1714 โดดเด่นและสวยงามของบ้านสไตล์ Fachwerkstraße หรือเรียกว่าเยอรมันไม้กรอบ (German Timber-Frame Road) ถือเป็นเส้นทางหมู่บ้าน Fachwerkstraße Road นำท่านชมย่านจัตุรัสเมือง อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง รูเดสไฮม์ อัม ไรน์ (Rudesheim am Rhein) (ระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ) (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) เป็นเมืองเก่าเล็กๆ ที่มีประวัติเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำไรน์ ทิวทัศน์เต็มไปด้วยไร่องุ่นนับพันไร่จึงเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางการผลิตไวน์ชั้นดี มีปราสาทเก่าแก่อยู่หลายแห่ง บางแห่งอายุนับพันปี นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีบ้านเรือนที่เก่าแก่และธรรมชาติที่สวยงาม
- นำท่านเดินเล่นถนนที่ดังที่สุดของเมือง ถนน Drosselgasse ยาว 144 เมตร แต่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผ่านชมพิพิธภัณฑ์ไวน์ไรน์ เกา (Rheingau Wine Museum) อันเลื่องชื่อในหมู่คอไวน์ เพราะเป็นแหล่งรวบรวมประวัติความเป็นมาของการผลิตไวน์ในเมืองรูเดสไฮม์
- จากนั้นนำท่านชมอาคารไม้ ที่มีลวดลายสวยงาม และเป็นอาคารไม้เก่าแก่ของเมืองที่สร้าง ขึ้นตั้งแต่สมันศตวรรษที่ 16 ที่เรียกว่า Klun- khardshof ถ่ายภาพกับหอพญาอินทรีย์ (EAGLE TOWER) หอคอยสูงประมาณ 20 เมตรอันเคยเป็นสถานที่ที่เกอเธ่ กวีเอกของเยอรมันมาพักอาศัยช่วงที่เดินทางมาเมืองแห่งนี้
- อิสระให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านนั่งกระเช้า Seilbahn-Ruedesheim Cable car ขึ้นสู่จุดชมวิวเหนือเมือง ท่านจะได้ชมวิว ของแม่น้ำไรน์ ที่รายล้อมไปด้วยไร่องุ่นและปราสาท ให้ท่านชื่นชมทัศนียภาพของตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ เมือง บาคาราค (Bacharach am Rhein) (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) เมืองเล็กๆริมฝั่งแม่น้ำไรน์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดและยังได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งที่ผลิตไวน์ที่ดีที่สุดในเขตลุ่มแม่น้ำไรน์และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco)
- นำท่านเดินเล่นชมเมืองบาคาราค ที่ยังคงมีโบสถ์ ปราสาท บ้านเรือน สมัยยุคกลางหลงเหลือให้ชม เช่น โบสถ์ St.Werner , หอคอย Markt Tower หรือปราสาท Burg Stahleck ที่อยู่บนเนินเขา ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการเป็น Youth hotel ให้ท่านอิสระเดินเล่นชมเมืองหรือเลือกซื้อไวน์ของเมือง Bacharach หรือสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคเบลนซ์ (Koblenz) (ระยะทาง 52 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) เป็นเมืองโบราณที่ถูกสร้างขึ้น 8 ปีก่อนคริสตกาล โดยจักรพรรดินีโร หรือที่รู้จักในชื่อ นีโรจอมโหด ซึ่ง มีชื่อเต็มใหม่ ว่า นีโร คลอดิอุส ซีซาร์ ดรุสซุส (Nero Claudius Caesar Drusus) สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำซึ่งเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำ 2 สาย คือแม่โมเซล (Moselle River) และแม่น้ำไรน์ (Rhine River) ซึ่งต่อมาในปี 1992 เมืองโคเบลนซ์ได้ฉลองครบรอบอายุ 2000 ปีของเมืองอีกด้วยเมืองโคเบลนซ์ยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ค่อนข้างโดดเด่น ภายในเมืองนั้นรายล้อมไปด้วยป้อมปราการที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงอาคารที่มีความเก่าแก่
- นำท่านนั่งกระเช้าสู่ป้อมเอียเรียนบรายทชไตน์ (Ehrenbreitstein Fortress) ป้อมปราการรูปสามเหลี่ยมที่มีผนังหนากว่า 20 ฟุตถูกสร้างขึ้นโดยปรัสเซียในต้นศตวรรษที่ 19 ป้อมเอียเรียนบรายทชไตน์ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเมืองโคเบลนซ์ ในช่วงระหว่างปี 1817 – 1832 ป้อมปราการถูกใช้รักษาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์และแม่โมเซล ปัจจุบันถือว่าเป็นอีกหนึ่งป้อมปราการที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากแห่งหนึ่งของประเทศ
- นำท่านชม มุมแห่งเยอรมนี (Deutsches Eck) ชมพระบรมรูปทรงม้าสง่างามของจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 ประดิษฐานเมื่อปี ค.ศ. 1897 แต่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วสร้างขึ้นมาใหม่ในปีค.ศ. 1993
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
MERCURE HOTEL KOBLENZ หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโคเบลนซ์มีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
โคเบลนซ์ - ปราสาทเอลทส์ – โคกเฮม – Beilstein - เทียร์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ที่ตั้งของ ปราสาทเอลทส์ (Eltz Castle) (ปราสาทนี้สวยมาก ท่านจะได้พบกับปราสาทในยุคกลางที่คงความสมบูรณ์ที่สุดในยุโรป ( เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดในเยอรมัน) (ระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร ใช้เวลา 1.45 ชม. ) ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นในยุคกลาง มีอายุเกือบ 1,000ปี โดยสร้างครั้งแรกปี ค.ศ.1157 และไม่เคยถูกทำลายจากภัยของสงครามเลย และถือเป็นปราสาทที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศเยอรมัน
(หมายเหตุ : ปราสาท Eltz Castle เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปลาย มี.ค. – ปลายตุลาคม ของทุกปี)
-
นำท่านเดินทางสู่เมืองโคกเฮม (Cochem) (ระยะทางประมาณ 56 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ ที่แสนโรแมนติกแห่งหนึ่งในหุบเขาในมลรัฐไรน์แลนด์ ฟาลซ์ (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน )
- นำท่านขึ้นชมวิวเมือง ณ ปราสาท Reichsburg Castle ปราสาทที่มีอายุเกือบ 1,000ปี เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่รายล้อมไปด้วยไรองุ่นที่มีพื้นที่มากถึง 80,000 ไร่ และมีแม่น้ำโมแซล (Mosselle river) ไหลผ่านใจกลางเมือง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินชมเมืองให้ท่านสัมผัสบรรยากาศอันสวยงามหรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง Beilstein (ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 นาที) เป็นเมืองเล็กๆริมน้ำโมเซล บางครั้งก็รู้จักกันในชื่อ Rothenburg ob der Tauber ขนาดจิ๋วหรือ Dornröschen der Mosel (“เจ้าหญิงนิทราแห่ง Moselle”) ใกล้กันท่านจะได้พบกับปราสาท Hohenbeilstein ปราสาทนี้เชื่อกันว่ามีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 12 และถูกทำลายโดยกองทหารฝรั่งเศสในปี 1689 ขณะที่อยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของตระกูลเมทเทอร์นิช ปัจจุบัน เหลือเพียงฐานรากของกำแพงปราสาทเท่านั้น จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เทียร์ (Trier) หรือเมืองทิเออร์ (ระยะทาง ประมาณ 82 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 20 นาที) เมืองที่มีชื่อเสียงมากๆอีกเมืองของเยอรมัน และถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมันด้วย ถูกตั้งขึ้น 16 ปีก่อนคริสตกาล และในช่วงต้นศตวรรษที่3 ยังได้รับการสถาปนาเป็นโรมที่สองอีกด้วย และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) อีกด้วย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
MERCURE HOTEL TRIER PORTA NIGRA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
เทียร์ - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านถ่ายรูปกับประตูโรมัน พอร์ทา นีกา (Porta Nigra) ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 ถือเป็นประตูโรมันมี่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของเทือกเขาเอล์ป จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านอกกับ มหาวิหารเทียร์(Trier Cathedral) เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุด และมีความเก่าที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมัน ถูกสร้างตั้งแต่ช่วงสมัยโรมัน ปัจจุบันถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียร์อีกด้วย จากนั้นอิสระทุกท่านเดินเล่นชมเมืองเทียร์
- นำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2.45) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส (Alsace)ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม La Petite France (ปารีสน้อย)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชมเขต La Petite France ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins
- นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนู หอยเอสคาโก้
HILTON STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2คืน)
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
สตราสบูร์ก - เอกิซไฮม์ - กอลมาร์ - ริคเวีย - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Equisheim) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1ชม. ) Les Plus Beaux Village de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Villageมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึงปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่ ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาส และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านเดินชมเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง
- จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- ได้เวลานำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr) (ระยะทาง 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส
- นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง
- อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HILTON STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
สตราสบูร์ก - เจนเก้นบาค – ไฟรบวร์ก - ทิทิเซ่
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเจนเก้นบาค (Gengenbach) (ระยะทาง 40 กม. ใช้เวลาประมาณ 38 นาที) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนีใกล้ป่าดำ เป็นเมืองที่มีความสวยงามตามแบบฉบับของเมืองเยอรมันแบบดั้งเดิมจึงได้รับเลือกให้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์เช่น ‘Charlie and the Chocolate Factory’ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้คือ อัญมณียุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีถนนสายหลักสามสาย Hauptstrase, Adlergrasse และ Victor Kretz Strase ตรอกซอกซอยเล็ก ๆ เริ่มต้นจากถนนทั้งสามแห่งนี้ซึ่งสามารถเดินทางได้ด้วยการเดินเท้าหรือขี่จักรยานเท่านั้นซึ่งจะทำให้มีความสงบมากขึ้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองอิมพีเรียลเสรีในอดีตซึ่งหมายความว่ามีอิสระทางการค้าในการจัดเก็บภาษี ปัจจุบันเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ด้วยเสน่ห์ที่ทำให้มีผู้มาเยือนมากมาย จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมืองไฟรบวร์ก อิมไบรส์เกา หรือ ไฟรบูร์ก อิม ไบรส์เกา (Freiburg im Breisgau) (ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวมากเมืองหนึ่งของประเทศเยอรมนี (German)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
- นำท่านชมโบสถ์ Freiburg Muenster เป็นโบสถ์ใหญ่ประจำเมืองที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 313 ปี และมีความสูงถึง 116 เมตร โบสถ์นี้รอดพ้นจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ตัวเมืองถูกทำลายลงถึง 90%
- จากนั้นนำท่านเดินเล่นถนนที่สวยสุดของเมืองที่เรียกว่า Konviktstrasse เป็นบริเวณที่มีร้านค้ามากมาย มีไม้เลื้อยขึ้นตามบ้าน ทำให้ถนนเส้นนี้น่ารักยิ่งขึ้นไปอีก ละถือเป็นไฮไลท์ของเมืองแห่งนี้คือ รางน้ำเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมถนนเกือบทุกเส้นในเมือง สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางเป็นที่ระบายของเสีย ดับไฟ และใช้ป้องกันไม่ให้ไฟลามตอนเกิดไฟไหม้ และให้สัตว์ได้ดื่มกิน ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นที่นั่งเล่นของเด็กๆในฤดูร้อน
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิทิเซ่ (TITISEE) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เขตป่าดําตอนใต้(SOUTH BLACK FOREST) เมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางป่าสนอันอุดมสมบูรณ์และทะเลสาบสุดสวย นําท่านชมทะเลสาบที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ทะเลสาบทิทิเซ่ (TITISEE LAKE) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในป่าดํามีความยาว 2 กิโลเมตร และมีความกว้าง 700 เมตร ผ่านบริเวณนี้ ท่านจะได้พบกับยอดเขาที่สูงที่สุดในป่าดํานั่นคือ ยอดเขา FELDBERG ซึ่งความสูงถึง 1500 เมตร เดินทางถึง ทะเลสาบทิทิเซ่ ท่านจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติที่ห้อมล้อมทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยติดอันดับในทวีปยุโรปอีกด้วย
- นําท่านชมทิวทัศน์ความงดงามของป่าดํา และทะเลสาบ มนต์เสน่ห์ที่ท่านจะต้องหลงใหลไม่มีวันลืม
- ให้ท่านได้เลือกซื้อหรือชม นาฬิกากุ๊กกู เป็นของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MARITIM HOTELTITISEE HOFGUT STERNEN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
ทิทิเซ่ - เอสลิงเก้น - ชตุตการ์ต
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเอสลิงเก้น อัม เน็คคาร์ (Essingen an Neckar) (ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เมืองริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ เมืองแห่งนี้มีการพัฒนามาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน ทำให้ขนาดเมืองนี้ค่อนข้างใหญ่ โดยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น สิ่งทอ อาหาร เหล็ก เอสลิงเก้น ได้รับความเสียหายบางส่วนจากเหตุสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในเขตเมืองเก่านั้นได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี
- นำท่านชม St.Agnes Bridge สะพานข้ามคลองที่สร้างขึ้นในปีค.ศ.1893 โดยถือว่าจุกนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ชม Church of St.Dionys โบสถ์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ ชตุตการ์ต (Stuttgart) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) คือเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ Baden-Württemberg ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Neckar เป็นต้นกำเนิดของรถยนต์ในยุคแรก ๆ มีบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ,พอร์เช่ ,มายบัค รวมถึงรถต้นแบบคันแรกของโฟล์คสวาเกน เช่นกัน
- นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ ปอร์เช่ (Porsche Museum) คือสถานที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาตั้งแต่รถยนต์ปอร์เช่คันแรกที่สร้างจนถึงรถรุ่นปัจจุบัน โดยมีรถปอร์เช่กว่า 80 คันและมีเพียงรุ่นละ 1 คันในโลกเท่านั้นที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
- นำท่านชม จตุรัสลอสส์พลาทซ์ (Schlossplatz) เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในสตุทท์การ์ท ปัจจุบันจัตุรัสกลางแห่งนี้มีอาคารประวัติศาสตร์ล้อมรอบ มีอนุสาวรีย์กระจายอยู่ทั่วไป มีการออกแบบที่สมมาตร โดยมีสนามหญ้าหลายแห่งตัดกับทางเดินกว้าง ตรงกลางมีอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะที่เป็นเสาสูง ซึ่งประดับด้านบนด้วยรูปปั้นคองคอร์เดียเคลือบทอง ด้านข้างอนุสาวรีย์มีน้ำพุประดับทั้งสองข้าง ซึ่งน้ำพุนี้เป็นจุดไฮไลท์ของจัตุรัสแห่งนี้ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยียมชมเป็นจำนวนมาก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
PARK INN BY RADISSON STUTTGART HOTEL (SUPERIOR ROOM) หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ชตุตการ์ต - ชไวท์ซิงเงน - บาด วิมเฟน - ไฮเดิลเบิร์ก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ เมือง Besigheim ซึ่งได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองไวน์ที่สวยที่สุดของเยอรมนี เป็นเมืองเก่ายุคกลาง มีถนนแคบๆให้เดินเล่นขึ้นไปยังสันเขาซึ่งถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำสามด้าน นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง ซึ่งถูกสร้างเมื่อปี 1459 นั่นคือมีอายุประมาณหกร้อยปี อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมืองบาด วิมเฟน (Bad Wimpfen) ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเนคคาร์ ( River Neckar) ปัจจุบันเมืองบาด วิมเฟนได้กลายเป็นศูนย์รวมของสถาบันสปาต่างๆ รวมไปถึงเหล่าอาคารบ้านเรือนที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็น อาคารศาลาว่าการเมือง โบสถ์ หอคอย โรงแรม พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงเหล่าอาคารบ้านเรือนที่สร้างในแบบโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านออกเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก(Heidelberg) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 นาที)ตั้งอยู่ในรัฐ baden-Wurttemburg ทางใต้ของแฟรงค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ (Neckar) โดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเชิงเขา
- จากนั้นเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเขาแบร์กบาห์น ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความาเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม30ปีและมาถูกเผาทำลายถึง 2ครึ่งในปี 1689และ 1693 ในสงครามกับฝรั่งเศส จึงเหลือตาซากปรักหักพัง และได้การยอมรับว่านี้คือซากปรักหักพังของปราสามที่สวยงามที่สุดในโลก
- นำท่านชมวิวจากจุดชมวิวบนตัวปราสาท ท่านจะมองเห็นเมืองไฮเดลเบิร์กได้อย่างสวยงาม นำท่านชมเก็บ ถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความจุราว 222,000ลิตร
- นำท่านลงสู่ตัวเมืองเก่าของไฮเดลเบิร์ก นำท่านชมสะพานเก่าอัลเทอบรุคเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเดินข้ามสะพานไปแล้วมองหันกลับมาท่านจะเห็ปราสาทไฮเดลเบิร์กสีชมพูอมแดงตั้งโดดเด่นเหนือตัวเมืองไฮเดลเบิร์ก
- นำท่านชมรูปปั้นลิง บนตัวสะพานที่มีความเชื่อว่าหากได้มาสัมผัสรูปปั้นลิงนี้จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
- จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่จตุรัสมาร์คพลัทซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถไฮลิก ไกสท์เคียร์เค่อ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นศิลปแบบโกธิค
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
HEIDELBERG MARRIOTT HOTELหรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ไฮเดิลเบิร์ก - ชเวบิชฮาล – ดิงเกลส์บูล - โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองชเวบิชฮาล (Schwabisch hall) (ระยะทาง 110 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 20 นาที) เมืองเล็กๆทางตอนใต้ของเยอรมัน โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ที่ราบระหว่างหุบเขา โดยชื่อเมืองที่มีคำว่า Hall ต่อท้ายนั้น มีที่มาจากวิธีการผลิตเกลือที่อยู่ใต้ดินด้วยการใข้ความร้อนซึ่งเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในช่วงยุคกลาง (คำว่า Hall ในภาษาเยอรมันแถบตะวันตกมีความหมายว่าการทำบางอย่างให้แห้งโดยใช้ความร้อน) นำท่านชมบ้านเรือนยุคกลางศิลปะแบบ Half-Timbered ที่ตั้งเรียงกันตามแนวแม่น้ำ Kocher ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้
- อิสระท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิงเกลส์บูล ( Dinkelsbühl ) (ระยะทาง 68 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1ชม.) เมืองท่องเที่ยวที่เก่าแก่แห่งแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ของประเทศเยอรมนี (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน ) ส่วนใหญ่มักถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและอาคารเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ด้วยสีสันและศิลปะในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จึงส่งผลให้ดิงเกลส์บูลเป็นเมืองที่น่ามาเยือนมากที่สุด
- จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านชมโบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George’s Cathedral) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 โดยตัวโบสถ์นั้นออกแบบโดย Nikolaus Esele ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์ในแบบสไตล์โกธิคที่สวยงามอีกแห่งของเมือง
- ชมภาพเขียนรูปพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนฝีมือ มิคาเอล โวลเกอมุท (Michael Wolgemut) ที่อยู่เหนือแท่นบูชาที่สร้างในปี ค.ศ.1892 นำท่านชมย่าน ไวน์มาร์ค (Weinmarkt) หรือไวน์ มาร์เก็ต (Wine Market) ซึ่งเป็นตึกเก่าเรียงตัวกันอยู่ 5 หลัง มีสีสันตัดกันตั้งแต่สีส้ม สีเขียว สีแดง สีเหลือง ซึ่งการทาสีบ้านในเมืองนี้เน้นการทาสีเดียว (single color) และเขียนชื่อธุรกิจไว้หน้าบ้านด้วยตัวหนังสือแบบลายมือ (calligraphy letter) ในสีเอิร์ธโทน (earth tone) นอกจากตามหน้าต่างจะมีการประดับด้วยกระถางไม้ดอกสีสดใสแข่งขันชูช่อออกดอกบานสะพรั่งแล้ว อีกเอกลักษณ์สำคัญของอาคารเก่าก็คือ หลังคาสีแดงสดที่เหมือนกันไปหมดทั้งเมือง ในส่วนของจุดเด่นของอาคารแถบนี้คงเป็นที่หน้าจั่วแบบขั้นบันได โดยตึกสีส้มที่อยู่ตรงหัวมุมจะมีลักษณะพิเศษเพิ่มนอกจากหน้าจั่วแล้วยังมีโดมเล็กๆ อยู่ด้านบนอีก ปัจจุบันเป็นโรงแรมที่ชื่อว่า อัลเดอร์เมน อินน์ (Aldermen’s Inn) ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นที่ประทับของบุคคลสำคัญๆ เช่น จักพรรดิ์คาร์ลที่ 5 (Emperor Karl V) เมื่อปี ค.ศ.1546 และกษัตริย์กุสตาฟ อดอล์ฟ แห่งสวีเดน เมื่อปี ค.ศ.1632 จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- จากนั้นนำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก (ระยะทาง 49 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274
- นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า เก่า
- อิสระท่านเดินเล่นชมเมือง ซื้อของฝาก และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
โรเธนเบิร์ก – วูซเบิร์ก - แฟรงค์เฟิร์ต – จตุรัสโรเมอร์ – ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง วูร์ซเบิร์ก (Wuerzburg) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. )เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
- นำท่านชมความงดงามของเมือง วูร์ซเบิร์ก โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) แวะถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบริ์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ คศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์
- จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Wurzburg Residence สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่า สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2
- นำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน ( ระยะทาง 120กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. )
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER) ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อ (OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียด
- นำท่าน ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน ผ่านชมโบส์ถเซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมือง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยูมากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
สุวรรณภูมิ - กรุงเทพ ฯ
- 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ