ทัวร์ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย (บาวาเรีย – ทิโร)
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย (บาวาเรีย – ทิโร)
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 20 มี.ค. 63 - 29 มี.ค. 63 | 102,900 บาท |
2 | 29 เม.ย. 63 - 8 พ.ค. 63 | 105,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ขึ้นยอดเขา STUBAI GLACIER ยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตทิโรล ( Top of Tirol)
- 2สนุกตื่นเต้นกับ สะพานแขวน HIGHLINE 179 หนึ่งในสะพานแขวนที่ยาวที่สุด บันทึก Guinness World Record
- 3นั่งเคเบิ้ล NORDKETTE CABLE CAR ขึ้นชมวิวเหนือเมือง อินน์สบรูค
- 4สนุกสนานกับกิจกรรม SALT MINE เหมืองเกลือโบราณ !!!
- 5ล่องเรือทะเลสาบ KONIGSEE LAKE ทะเลสาบที่น้ำใสสะอาดที่สุดในยุโรป
- 6ชมหมู่บ้าน RAMSAU หมู่บ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยมาก
- 7ชมหมู่บ้าน MITTENWALD / GARMISCH / OBERAMMERGAU หมู่บ้านเฟรสโก้บาวาเรีย สุดสวย
- 8ชมหมู่บ้าน ROTHENBURG หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของเยอรมัน
- 9ชมเมือง NUREMBERG / WURZBURG หนึ่งในเมืองสวยของเยอรมัน
- 10เข้าชมพระราชวัง HERRENCHIEMSEE PALACE พระราชวังที่สวยที่สุดของพระเจ้าลุดวิคที่ 2
- 11เข้าชมปราสาท LINDERHOF CASTLE ปราสาทแสนสวยที่สมบูรณ์ที่สุดของพระเจ้าลุดวิคที่ 2
- 12เข้าชมปราสาท NEUSCHWANSTEIN CASTLE ปราสาทแสนสวยในเทพนิยายของพระเจ้าลุดวิคที่ 2
- 13เข้าชมพระราชวัง RESIDENT MUNICH PALACE พระราชวังที่มีชื่อเสียงที่สุด (Unseen)
- 14ชม SWAROVSKI KRISTALLWELTEN โรงงานผลิตคริสตัล สวารอฟสกี้ แห่งแรกของโลก
- 15ชมเมือง INNSBRUCK หนึ่งในเมืองสวยทที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- 16ชมเมือง MUNICH เมืองหลวงแคว้นบาวาเรียสุดสวย
- 17ชมเมือง BERCHTESGADEN เมืองสุดสวยในหุบเขา
- 18ชม BMW WELT พิพิธภัณฑ์รถ BMW
- 19ชมโบสถ์ WIESKIRCHE และ ETTAL โบสถ์สุดสวยในบาวาเรีย
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์เยอรมัน ออสเตรีย (บาวาเรีย – ทิโรล)10 วัน 7 คืน
โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
มิวนิค (เยอรมัน) – ปรีน – พระราชวังแฮเรนคีมเซ่ - เบิร์ชเทสกาเด้น – เหมืองเกลือ
- 00.50 น.ออกเดินทางบินตรงสู่มิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 924
- 07.05 น. เดินทางถึง เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนี
- นำท่านเดินสู่หมู่บ้านปรีนซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดริมทะเลสาบคีมเซ่ หรือทะเลสาบบาวาเรีย ตั้งอยู่ใจกลางแคว้นบาวาเรียตอนเหนือระหว่างเมืองมิวนิคและซาล์สบวร์ก นำท่านล่องเรือไปยังเกาะแฮเรนอินเซล ซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบอันเป็นที่ตั้งของ พระราชวังแฮเรนคีมเซ่ ( Herrenchiemsee Palace ) พระราชวังที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 โดยมีพระประสงค์ให้สร้างเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายน์ แต่ให้หรูหราอลังการกว่าด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในยุคนั้น
- นำท่านเที่ยวชมห้องภายในพระราชวังแฮเรนคีมเซ่, ห้องทูตานุทูต, ห้องทรงงาน,ห้องบรรทม, ห้องเสวย และห้องกระจก ที่ประดับตกแต่งอย่างสง่างามด้วยทองและแพรพรรณหลากสี แต่น่าเสียดายที่ปราสาทแห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ด้วยพระเจ้าลุควิกที่ 2 สิ้นพระชนม์ไปก่อน ซึ่งพระเจ้าลุดวิกที่2 ได้ใช้เงินในการก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้มากกว่าพระราชวังลินเดอร์ฮอฟและปราสาทนอยชวานสไตน์ จนเป็นที่มาทำให้พระองค์ถูกตั้งกรรมการสอบสวน
- อิสระให้ทุกท่านถ่ายรูปจนได้เวลานัดหมาย จากนั้นได้เวลานำท่านนั่งเรือกลับสู่แผ่นดินใหญ่
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น (Berchtesgaden ) (เยอรมัน)เจ้าของเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด 1 ใน 6 เส้นทางแสนสวยและยังเป็น เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็น ศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่
- นำท่านเข้าชมเหมืองเกลือเก่าเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden Salt Mine) เป็นเหมืองเกลือที่ถูกสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1517 ซึ่งในสมัยอดีต เหมืองเกลือ เป็นสถานที่ต้องห้ามของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเกลือมีค่าจนได้ชื่อว่าเป็นทองคำขาว
- นำท่านนั่งรถรางลอดอุโมงค์ยาว 700 เมตร ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับ และทะเลสาบใต้ภูเขาที่งดงามด้วยแสงเสียง บรรยากาศราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ชื่นชมในความเก่าแก่ของเมืองเกลือโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการบำรุงรักษาเอาไว้เหมือนดังเช่นในอดีตทุกประการ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALPENHOTEL FISCHER หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
เบิร์ชเทสกาเด้น - หมู่บ้านรามเซา (Unseen) - ล่องเรือทะเลสาบโคนิงซี - วัตเทน - SWAROVSKI KRISTALLWELTEN - อินน์สบรูค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน รามเซา (Ramsau) หมู่บ้านเล็กๆ Unseen ของเยอรมันที่ติดกับพรมแดนออสเตรียที่หลบซ่อนตัวในเขตเทือกเขาเอลป์ โดยหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยมีโบสถ์เซนต์เซบาสเตียน (St.Sebatian) เป็นฉาก มีสะพานไม่เล็กทอดข้ามแม่น้ำ Arche ที่ไหลตัดผ่านหมู่บ้าน โดยมีฉากหลังของเทือกเขาเอลป์เป็นฉากหลัง นำท่านเดินถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือสามารถเข้าชมด้านในโบสถ์ได้ฟรี
- นำท่านล่องเรือสู่ ทะเลสาบกษัตริย์ (Konigsee) ที่มีน้ำใสราวกับมรกต ได้ขึ้นว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสและสะอาดที่สุดในยุโรป ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่งดงาม ที่สุดในประเทศเยอรมนี ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งกำเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งก่อให้เกิดทะเลสาบอันงามพิสุทธิ์ และความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งใน โลกฟยอร์ดแห่งนี้มีความยาวกว่า 8 กม. กว้างถึง 1,250 เมตร ลึก 190 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงกว่า 602 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
- นำท่านล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 เพื่อไม่เกิดมลภาวะ เรือจะนำท่านล่องไปชมบรรยากาศแห่งฟยอร์ด จนถึงโบสถ์บาโธโล มิว อันเป็นเสน่ห์ของดินแดนแห่งฟยอร์ดนี้
- นำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองวัตเทน (Wattens) เป็นที่ตั้งของบริษัทคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski Crystal Glass Company) โรงงานผลิตคริสตัลที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือที่รู้จักกันในชื่อ สวารอฟสกี้ คริสตัล เวิลด์ (Swarovski Crystal World) แห่งแรกของโลก ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองไปแล้ว สวารอฟสกี้ เป็นกลุ่มบริษัทครอบครัวผู้ผลิตคริสตัลชั้นนำของโลก ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นกว่า100 ปี ณ เมืองวัตเทน แคว้นทิโรล ประเทศออสเตรีย โดยมีผู้ก่อตั้งคือ แดเนียล สวารอฟสกี้ ซึ่งเดินทางจากโบฮีเมียมาตั้งรกรากอยู่ที่แคว้นทิโรล ประเทศออสเตรีย ในปี ค.ศ.1995ได้มีการเปิดสวารอฟสกี้คริสตัลเวิลด์ เป็นพิพิธภัณฑ์คริสตัลเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมงานคริสตัลเครื่องแก้วคริสตัล “สวารอฟสกี้” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และนำเสนอคริสตัลในแนวศิลปะด้วยแสง สี เสียง รวมทั้งยังสามารถออกแบบได้ทุกรูปแบบตามต้องการ
- ให้ท่านชม Swarovski Kristallwelten Store ที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยความระยิบระยับ คุณจะได้พบกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบทุกชนิด ตั้งแต่อัญมณีและเครื่องประดับ จนถึงประติมากรรมขนาดเล็ก และ SWAROVSKI OPTI อิสระให้ท่านเลือกซื้อหรือชมตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมืองอินน์สบรูค (Innsbruck) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน “Inn River” และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาเอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับวิวสองข้างทางที่สวยงาม ตามถนนเส้นทางอัลไพน์ ผ่านทั้งเทือกเขาเอลป์ ทะเลสาบ หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAUER BAR HOTEL INNSBRUCK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
อินน์สบรูค - ยอดเขา Stubai Glacier (Top Of Tirol) – อินน์สบรูค - Nordkette Cable Car - ชมเมือง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาสตูไบ กราเชีย (STUBAI GLACIER)
- นำท่านขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขาที่ความสูง 3,210 เมตร ( Top Of Tirol ) ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของยอดเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี จากนั้นอิสระให้ท่านสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการเล่นหิมะบนลานหิมะที่กว้างไกล ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันแสนบริสุทธิ์ ทัศนียภาพอันงดงามของธรรมชาติโดยรอบ บันทึกภาพความทรงจำอันแสนประทับใจกับการท่องเที่ยวครั้งนี้ที่เม้าท์สตูไบ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองบนยอดเขา
- นำท่านเดินทางกลับสู่ด้านล่าง นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองอินน์สบูรค นำท่านสัมผัสบรรยากาศ Nordkette Cable Car ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1928 แต่ได้ผ่านการปรับปรุงมาหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงการแปลงโฉมครั้งล่าสุดให้ดูทันสมัยขึ้น รถกระเช้าและสถานีสองแห่งได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกที่มีรางวัลเป็นประกันอย่างซาฮา ฮาดิด แม้แต่ตัวอาคารเองซึ่งมีรูปร่างโค้งมนคล้ายเมฆก็ยังเป็นจุดที่น่าถ่ายภาพแม้ไม่มีทิวทัศน์ภูเขาโดยรอบก็ตาม
- นำท่านเดินทางสู่สถานี Congress เพื่อนำท่านนั่งรถไฟสู่สถานี Hungerburg จากนั้นนำท่านเปลี่ยนเป็นนั่งกระเช้า เดินทางสู่สถานี Seegrube ที่ความสูง 1,905 เมตรในวันที่อากาศสดใส คุณจะเห็นไปไกลถึงชายแดนอิตาลีซึ่งมีหุบเขาและหุบเหวอยู่ตรงกลางจากนั้นนำท่าน นั่งกระเช้าขึ้นไปถึงสถานีสุดท้ายคือ Hafelekar ซึ่งอยู่ที่ความสูง 2,255 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตื่นตาตื่นใจกับความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างหุบเขาแห่ง Innsbruck ทางฝั่งหนึ่งกับธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ของเทือกเขาแอลป์อีกฝั่งหนึ่ง ให้ท่านได้มีเวลาถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ด้านล่าง
- นำท่านเข้าสู่ตัวเมืองนําท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ อาคารหลังคาทองคํา (Goldenness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus)ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโค เข้าไปในศตวรรษที่18 ทําให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดน เนอร์แอดเลอร์ (Goldener Adler Hotel) สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่16 เป็น โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับ อะคันตุกะจากต่างแดน มาแล้วอย่างมากมาย อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAUER BAR HOTEL INNSBRUCK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
อินน์สบรูค - มิดเท็นวาลด์(Unseen) – การ์มิสช์ - เอทเทล - โอเบอร์อัมเมอร์เกา - ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ - ฟุสเซ่น
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านออกเดินทางสู่เมือง มิดเท็นวาลด์ (Mittenwald) พรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเอลป์ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น1 ใน 10 หมู่บ้านติดอันดับความสวยของเยอรมัน ถือเป็นสถานที่ UNSEEN ของเยอรมันด้วย นำท่านชมเมืองสูดอากาศอันบริสุทธิ์ เดินเล่นนั่งจิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์หรือเลือกสินค้าที่ระลึก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น (Garmisch-Partenkirchen) เป็นหนึ่งใน เมืองที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี เป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันบ้านเรือนตกแต่งด้วยสไตล์บาวาเรียนมีภาพเขียนสีตกแต่งตามบ้านเรือนและถือเป็นประตูสู่ยอดเขา Zugspitze ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมันนี
- นำท่านเดินชมตัวเมืองการ์มิสช์ ท่านจะได้พบกับบ้านเรือนที่ตกแต่งภาพเขียนสีบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเอททัล (Ettal)
- นำท่านแวะชม สำนักสงฆ์แห่งเมืองเอททัล (Ettal Abbey) สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1330 ตรงกับวันนักบุญวีตาลิสแห่งมิลาน (Vitalis of Milan) โดย จักรพรรดิลุดวิกที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์หรือลุดวิกชาวบาวาเรียน (Ludwig the Bavarian) ที่หุบเขากราสแวง (Graswang valley) ตามที่พระองค์ได้ให้คำปฏิญาณไว้หลังจากกลับมาจากประเทศอิตาลี ตรงจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางการค้าขายระหว่างประเทศอิตาลีและเมืองเอาก์สบูร์ก ประเทศเยอรมนี ตามตำนานกล่าวว่าม้าของจักรพรรดิลุดวิกผงกหัวสามครั้งตรงที่ที่ต่อมาเป็นที่สร้างอารามเดิม ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ตั้งรูปปั้นพระแม่มารีย์ ที่เรียกกันว่า “Frau Stifterin” หรือ “Ettal Madonna” (เอททัลมาดอนนา) เป็นศิลปะตระกูลปีซาโน (Pisano) ซึ่งเป็นของขวัญที่จักรพรรดิลุดวิกทรงมอบให้แก่อาราม รูปปั้นนี้กลายมาเป็นเรลิกที่ผู้แสวงบุญนิยมกันมาสักการะ อารามนี้อุทิศให้แก่แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์
- นำท่านเดินทางสู่เมืองโอเบอร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau)ชื่อเมืองมาจากคำ 3 คำ Ober ก็คือ Upper ส่วน Ammer ก็คือ ชื่อแม่น้ำที่อยู่ตรงนั้น ส่วน Gau ก็คือ เขตแดน แปลง่ายๆ ก็คือ ดินแดนที่อยู่เหนือแม่น้ำอัมเมอร์ เมืองเป็นศูนย์กลางของศิลปะการวาดภาพบนผนังที่มีชื่อเสียงด้านการเพ้นท์กำแพงบ้านให้สวยงามในประเทศเยอรมัน ทำให้บ้านเรือนในเมืองนี้รวมถึงร้านค้าแทบทุกหลังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตลอดทางเดินจะมีร้านค้าส่วนใหญ่มีสินค้าจำพวกของที่ระลึกที่ใช้ฝีมือทำจากไม้ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา บ้านนก ที่กั้นประตู รูปไม้กางเขน อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
- นำท่านเข้าชม ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof) เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่พระเจ้าลุควิคที่ 2 ได้สร้างขึ้นมานับเป็นปราสาทหลังที่ 2 ที่พระองค์ได้เสด็จไปเยือนฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1867 เพราะความประทับใจในพระราชวังแวร์ซายน์ จุดประสงค์เพื่อใช้ล่าสัตว์และถือว่าเป็นปราสาทที่เล็กที่สุดใน 3 ปราสาทที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น โดยใช้เวลาสร้างถึง 4 ปี แบบศิลปะร็อกโคโคแบบฝรั่งเศส นำท่านเข้าชมห้องภายในปราสาท ซึ่งเปิดให้ท่านชมเพียง 9 ห้องเท่านั้น เช่น บัลลังก์เปลือกหอย,ห้องบรรทมห้องเสวย,ห้องแต่งตัว เป็นต้น ซึ่งถูกตกแต่งได้อย่างวิจิตรอลังการมาก ถือว่าเป็นปราสาทเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสถาปัตยกรรมและความสวยงาม จากนั้นอิสระให้ท่านถ่ายรูปพอสมควร
- นำท่านเดินทางสู่เมือง ฟุสเซ่น ( Fussen) เมืองฟุสเซ่นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เมืองฟุสเซ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของตัวตึกรามบ้านช่องเพราะทั้งเมืองจะมีหลากสีสันมากเหมือนกับลูกกวาดสีสวยๆ ทั้งเมืองจนได้รับสมญานามว่า City of Candy
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
LUITPOLDPARK-HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองฟุสเซ่นมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
ฟุสเซ่น - ปราสาทนอยชวานสไตน์ - สะพานแขวน Highline 179 (Unseen) - โบสถ์ วีสเกอเชอ (UNESCO) - มิวนิค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองชวานเกา ( Schwangau) หมู่บ้านเล็กๆ ที่เป็นที่ตั้งของปราสาทอันโด่งดัง
- นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Schloss Neuschwanstein) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิต พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียมีพระประสงค์ให้จัดสร้างเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คน และเพื่ออุทิศให้แก่กวีชื่อริชาร์ด วากเนอร์ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่องอัศวินหงษ์ (Swan Knight Lohengrin) ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องร่าวในบทประพันธ์ดังกล่าว ปราสาทแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยคริสทีอัน ยังค์ (Christian Jank) ซึ่งเป็นนักออกแบบทางการละคร มากกว่าที่จะเป็นสถาปนิก นำท่านขึ้นรถมินิบัส เพื่อขึ้นเข้าชมตัวของปราสาท ซึ่งอยู่บนเนินเขาสูงที่สร้างจากบัญชากษัตริย์ลุดวิกที่ 2 ที่ต้องการสร้างปราสาทตามเทพนิยายของริชาร์ด วากเนอร์ ศิลปินคนโปรดของพระองค์
- นำท่านชมวิวสวยจากสะพานแมรี่จุดที่ถ่ายรูปกับปราสาทนี้ได้ดีที่สุด (เวลาเปิด-ปิดขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ดั่งรูปโปสเตอร์ โปสการ์ดต่างๆ ซึ่งความงามนี้ยังทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทต้นแบบที่วอลท์ดีสนีย์ได้นำมาสร้างเป็นปราสาทในภาพยนตร์การ์ตูนและเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทดิสนีย์ด้วย จากนั้นนำท่านเข้าชมด้านในของปราสาท ให้ท่านได้ชมห้องต่างๆซึ่งมีความวิจิตรพิสดารเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นได้เวลานำท่านลงจากปราสาทด้านล่างด้วยรถม้า ให้ท่านสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศและไม่ต้องย้อนเส้นทาง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เขตอุทยานของ Reutte natural park
- นำท่านชมสะพานแขวน Highline 179 สะพานแขวนที่ได้รับรองจาก Guinness World Record ว่าเป็นสะพานแขวนเดินข้ามที่ยาวที่สุด โดยตัวสะพานพาดผ่านถนนสาย B179 ระหว่างซากปราสาท Ehrenberg และ ป้อมปราการ Claudia โดยมีความสูงจากพื้นประมาณ 115 เมตร มีความยาว 406 เมตร อิสระให้ท่านเดินเล่นบนสะพานแขวนถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ นครมิวนิค (MUNICH) เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมในหลายรูปแบบ ไม่ว่าแบบเรอเนซองส์ คลาสสิคหรือทันสมัย
- นำท่านแวะชม โบสถ์ วีสเกอเชอ (Wieskirche ) หรือเรียกว่า Pilgrimage Church of Wies เป็นชื่อของโบสถ์เล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ภายในโบสถ์ตกแต่งในสไตล์ Rococo ที่สมบูรณ์แบบที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO และเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดในโลก โดยโบสถ์แห่งนี้ถือกำเนิดขึ้น จากในปี ค.ศ. 1738 มีคำกล่าวอ้างว่า ประชาชนได้เห็นน้ำพระเนตรหลั่งจากพระเนตรของรูปไม้กางเขนแกะสลักไม้ของพระเยซู หรือที่เรียกกันว่าพระมหาไถ่ถูกเฆี่ยน (Scourged Saviour) เรื่องเล่าแห่งปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น เป็นเหตุให้มีนักแสวงบุญเดินทางไปจารึกบุญ เยี่ยมชม และอธิษฐานขอพรจากรูปแกะสลักพระเยซูอย่างมากมาย อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
SHERATON ARABELLA PARK HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
มิวนิค - BMW WELT - พระราชวังเรสซิเดนส์ - จัตุรัสมาเรียน - ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเข้าชม BMW WELT พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ยานยนต์ของค่ายใบพัดสีฟ้า บีเอ็มดับเบิ้ลยู ที่มีกว่า 100 ปี ท่านจะได้ชมนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ อิสระให้ท่านชมรถที่นำมาจัดแสดงตามอัธยาศัย หรือ เลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึกภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
- นำท่านเข้าชม พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิค (Residenz Munich) หรือ Residenz München สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1385 ที่นี่ถูกยกให้เป็นพระราชวังใจกลางเมืองที่มีชื่อเสียง และมีขนาดใหญ่มากที่สุดของประเทศเยอรมัน เคยเป็นที่ประทับและทรงงานของกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมากว่า 500 ปี! และยังเป็นที่ตั้งของรัฐสภาเยอรมันในสมัยนั้นๆ อีกหลายยุคสมัยด้วย ซึ่งภายหลังเกิดการปฏิวัติทำให้บ้านเรือนและชุมชนพังเสียหายมากมาย รวมทั้งพระราชวังเรสซิเดนซ์ด้วย ในปี ค.ศ. 1918 เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองสงบลง พระราชวังและรัฐสภาแห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์การออกแบบภายใน ใช้เป็นที่เก็บสะสมงานทางศิลปะและเป็นคลังเก็บสมบัติของกษัตริย์ รวมถึงมีอนุสาวรีย์หินสลักภาพภาพของผู้อุปถัมภ์ผู้ปกครองจาก House of Wittelsbach ผู้ปกครองบาวาเรียตั้งแต่ ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นไป และเปิดให้ประชาชนเข้าชมตอนปี ค. ศ. 1920 แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อสงครามสิ้นสุดลงพระราชวังเรสซิเดนซ์จึงถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค. ศ. 1945 พร้อมทั้งมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ของกรมบาวาเรียพาเลซ และสถาบันทางวัฒนธรรมอื่นๆ และที่นี่ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในบาวาเรียคอมเพล็กซ์ด้วย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) หรือ จัตุรัสมารี (Mary) แลนด์มาร์คใจกลางเมือง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นตลาดเรียกว่า “ตลาดสี่เหลี่ยม” ภายหลังได้กลายเป็นที่ตั้งของ New Town Hall ได้รับการออกแบบและตกแต่งในสไตล์โกธิค ในบริเวณจตุรัสประกอบไปด้วย ศาลากลางเก่าที่มีซุ้มประตูและหอคอย ศาลาว่าการ New Town สถาปัตยกรรมเสารูปปั้นของพระแม่มารีสีทอง น้ำพุปลา และหอคอย Glockenspiel ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในช่วงฤดูร้อนจะมีการโชว์ระบำตุ๊กตาในช่วงเวลา 11.00 น. – 12.00 น. และ 17.00 น.
- ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย หรือเลือกเดินเล่นชมเมืองถ่ายรุปบริเวณจัตุรัสมาเรียน ตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ขาหมูเยอรมัน + เบียร์
SHERATON ARABELLA PARK HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
มิวนิค – พระราชวังนึมเฟ่นบรว์ก - นูเรมเบิร์ก - โรเธนเบิร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านแวะถ่ายรูปด้านนอกกับพระราชวังฤดูร้อนนึมเฟ่นบรว์ก (Nymphenburg Palace) เป็นพระราชวังสมัยศตวรรษที่ 18 ที่ยังคงงดงามด้วยสไตล์เรียบหรู บนพื้นที่พระราชวังและอุทยานที่มีการจัดภูมิทัศน์อย่างลงตัว จุดโดดเด่นอยู่ที่การตกแต่งภายในที่ยังคงมีความวิจิตรข้ามสมัย ทำให้นักท่องเที่ยวอยากไปชมให้เห็นกับตาจุดเริ่มต้นของพระราชวังแห่งนี้ เป็นดำริของ Ferdinand Maria และ Henriette Adelaide ในการสร้างพระราชวังฤดูร้อนให้แก่พระราชโอรส Maximilian II Emanuel ในปีค.ศ.1664 และมีการขยาย ตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมแนวบาร็อค และปรับเปลี่ยนอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 18 ปลายๆ จนได้เป็นพระราชวังงดงามเช่นปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ประสูติของพระเจ้าลุควิคที่ 2 อีกด้วย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง นูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทราชวังแบบในการ์ตูน ทางเดินโรยกรวด ปูหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง ต้องที่นี่เลยเพราะนูเรมเบิร์กนั้นเสมือนดังเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่าน เดินชมเมืองโบราณที่มีอายุกว่า 900 ปี ผ่านชม เม้าท์ฮาล์ โรงเก็บส่วยภาษีอากรในอดีตที่ถือเป็นอาคารประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของเมืองนูเรมเบิร์กจากนั้น
- นำท่านชมบริเวณ จัตุรัสกลางใจเมือง (HAUPTMARKT) ซึ่งมีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง อันถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนีด้านตะวันออกของตลาดมี โบสถ์พระแม่มาเรีย (FRAUENKIRCHE) จุดเด่นคือ มีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรีย ตัวนาฬิกาและตุ๊กตาประดับนี้ถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังในปี ค.ศ. 1509 เพื่อเป็นการรำลึกถึง พระราชกฤษฎีกาทองคำปี 1356 ที่ตราขึ้นตามพระราชบัญชาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอัน ศักดิ์สิทธิ์
- นำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274
- นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค
- นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
โรเธนเบิร์ก – วูร์ซบวร์ก - แฟรงก์เฟิร์ต – จตุรัสโรเมอร์ – ช้อปปิ้ง - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง วูร์ซบวร์ก (Wuerzburg) เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน
- นำท่านชมความงดงามของเมือง วูร์ซบวร์ก โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) แวะถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซบวร์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์
- นำท่านเดินชมเมือง จนได้เวลานัดหมาย
- นำเดินทางเข้าสู่เมือง แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำชมย่าน โรเมอร์ จตุรัสเมืองที่เก่าแก่ของแฟรงค์เฟิร์ต ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและศิลปกรรมไว้อย่างดี
- อิสระให้ท่านเดินเล่น ชมเมืองเมืองช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ เช่น กระเป๋าเดินทาง Rimowa,Samsonite, นาฬิกาหรือ สินค้าแบรนด์เนมหรือของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพมหานคร
- 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ