ทัวร์เยอรมัน ออสเตรีย ฝรั่งเศส (บาวาเรีย – ทิโรล – ป่าดำ – อัลซาส)
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์เยอรมัน ออสเตรีย ฝรั่งเศส (บาวาเรีย – ทิโรล – ป่าดำ – อัลซาส)
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 6 มี.ค. 68 - 15 มี.ค. 68 | 179,900 บาท |
2 | 7 เม.ย. 68 - 16 เม.ย. 68 | 189,900 บาท |
3 | 24 เม.ย. 68 - 3 พ.ค. 68 | 189,900 บาท |
4 | 8 พ.ค. 68 - 17 พ.ค. 68 | 189,900 บาท |
5 | 5 มิ.ย. 68 - 14 มิ.ย. 68 | 189,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมหมู่บ้าน Colmar / Equisheim / Riquewihr / Strasbourg แคว้นอัลซาสสวยระดับโลกในฝรั่งเศส
- 2ชมหมู่บ้าน Hallstatt หมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ในออสเตรีย
- 3ชมหมู่บ้าน Rothenburg หนึ่งในสามหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเยอรมัน
- 4ล่องเรือทะเลสาบ Konigssee ทะเลสาบที่น้ำใสสะอาดที่สุดในยุโรป!! (Unseen)
- 5ชมหมู่บ้าน Ramsau หมู่บ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยมาก (Unseen)
- 6ชมหมู่บ้าน Mittenwald หมู่บ้านเฟรสโก้บาวาเรีย สุดสวย (Unseen)
- 7ชมปราสาท Neuschwanstein Castle ปราสาทแสนสวยในเทพนิยาย
- 8ขึ้นเขา Zugspitze Mt. ยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน (TOP OF GERMANY)
- 9ขึ้นรถรางชมวิวพาโนรามา เหนือหมู่บ้านฮอลสตัล**
- 10ชมปราสาท Heidelberg Castle ได้ขึ้นชื่อว่า ปราสาทซากปรักหักพังที่สวยที่สุดในโลก
- 11ชมเมือง Innsbruck หนึ่งในเมืองสวยทที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- 12ชมเมือง Titisee ในเขตป่าดำต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู
- 13ชมเมือง Lidau ริมทะเลสาบ Bodensee
- 14ชมเมือง Munich เมืองหลวงแคว้นบาวาเรียสุดสวย
- 15ชมเมือง Fussen เมืองเล็กๆสีลูกกวาด
- 16ชมเมือง Wurzburg เมืองสวยต้นทางของเส้นทางโรแมนติค
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
เส้นทางเจาะลึกหมู่บ้านเล็กแสนสวย
ทัวร์เยอรมัน ออสเตรีย ฝรั่งเศษ (ทัวร์บาวาเรีย – ทิโรล – ป่าดำ – อัลซาส)
10 วัน 7 คืน โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 21.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
มิวนิค (เยอรมัน) - ฮอลสตัท (ออสเตรีย) - ชมวิว SKYWALK PLATFORM - เซนต์วูลฟ์กัง
- 00.50 น. ออกเดินทางบินตรงสู่มิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 924
- 07.05 น. เดินทางถึง เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนี
- จากนั้นเดินทางสู่เมือง ฮอลสตัท (HALLSTATT) เมืองมรดกโลกริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ประเทศออสเตรีย (ระยะทาง 210 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม.)
- นำท่านขึ้นรถรางขึ้นสู่ภูเขาด้านบนชมวิวมุมสูง SKYWALK PLATFORM WELTERBEBLICK จุดชมวิวแบบพาโนราม่าของเมือง ที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมยื่นออกไป เรียกว่า มีความสูง 360 เมตรจากตัวเมือง
- อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย (รถรางเปิดให้บริการเฉพาะ ช่วงเดือนเดือน เม.ย. – ม.ค เท่านั้น)
(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆ เช่น เนื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีการปิดปรับปรุงหรือทางรถรางไม่เปิด ให้ขึ้นชม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้ขึ้นชม โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า คืนเงินให้ท่านละ 20 ยูโร)
- นำท่านเดินเท้าเลาะริมทะเลสาบที่เรียกว่า “ซี สตราซ” (See Strasse) อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า ดอกไม้หลากสีสันสวยงามปลายสุดของถนนซีสตราซ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนู ปลาเทราซ์
- ท่านจะได้ชมจัตุรัสประจำเมืองซึ่งเป็นลานหินขนาดย่อม ประดับด้วยน้ำพุกลางลาน และอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม อิสระทุกท่านเดินชมหมู่บ้านฮอลสตัท ถ่ายรูปกับมุมต่าง หรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เซนต์วูลฟ์กัง (ST.WOLFGANG) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) เมืองรีสอร์ทเล็กๆริมทะเลสาบวูลฟ์กัง เมืองท่องเที่ยวที่สวยงามโรแมนติคที่สุดเมืองหนึ่งของออสเตรียที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ทะเลสาบสวยใส
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCALARIA HOTEL ST. WOLFGANG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเซนต์วูฟกัง มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
เซนต์วูลฟ์กัง - ล่องเรือทะเลสาบโคนิงซี - รามเซา(Unseen) - อินน์สบรูค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น (Berchtesgaden) (เยอรมัน) (ระยะทาง 78 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที) เจ้าของเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด 1 ใน 6 เส้นทางแสนสวยและยังเป็น เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็น ศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่
- ท่านล่องเรือสู่ ทะเลสาบกษัตริย์ (Konigsee) ที่มีน้ำใสราวกับมรกต ได้ขึ้นว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสและสะอาดที่สุดในยุโรป ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่งดงาม ที่สุดในประเทศเยอรมนี ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งกำเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งก่อให้เกิดทะเลสาบอันงามพิสุทธิ์ และความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลกฟยอร์ดแห่งนี้มีความยาวกว่า 8 กม. กว้างถึง 1,250 เมตร ลึก 190 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงกว่า 602 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
- นำท่านล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 เพื่อไม่เกิดมลภาวะ เรือจะนำท่านล่องไปชมบรรยากาศแห่งฟยอร์ดจนถึงโบสถ์บาโธโลมิว อันเป็นเสน่ห์ของดินแดนแห่งฟยอร์ดนี้
(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น เนื่องสภาพอากาศมาเอื้ออำนวยต่อการล่องทะเลสาบ โดยไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิก)
- จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านรามเซา (Ramsau) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) หมู่บ้านเล็กๆ Unseen ของเยอรมันที่ติดกับพรมแดนออสเตรียที่หลบซ่อนตัวในเขตเทือกเขาเอลป์ โดยหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยมีโบสถ์เซนต์เซบาสเตียน (St.Sebatian) เป็นฉาก มีสะพานไม่เล็กทอดข้ามแม่น้ำ Arche ที่ไหลตัดผ่านหมู่บ้าน โดยมีฉากหลังของเทือกเขาเอลป์เป็นฉากหลัง
- นำท่านเดินถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือสามารถเข้าชมด้านในโบสถ์ได้ฟรี
- จากนั้นนําท่านออกเดินทางสู่ เมืองอินน์สบรูค (Innsbruck) (ระยะทาง 150 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน “Inn River” และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาเอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิ แม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวรก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมือง แห่งนี้ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับวิวสองข้างทางที่สวยงาม ตามถนนเส้นทางอัลไพน์ ผ่านทั้งเทือกเขาเอลป์ ทะเลสาบ หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า
- นำท่านเข้าสู่ตัวเมืองนําท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ อาคารหลังคาทองคํา (Goldenness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus) ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโค เข้าไปในศตวรรษที่18 ทําให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดนเนอร์แอดเลอร์ (Goldener Adler Hotel) สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่16 เป็น โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับ อะคันตุกะจากต่างแดนมาแล้วอย่างมากมาย
- จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมืองอินน์สบรูค ให้ท่านได้ชมบ้านเรือนสีลูกวาดริมแม่น้ำอินน์โดยมีฉากหลังเป็นแนวเทือกเขาเอล์ป หรือให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
AC HOTEL INNSBRUCK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรม มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
อินน์สบรูค - มิดเท็นวาลด์ (Unseen) - การ์มิส - ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (TOP OF GERMANY) - ฟุสเซ่น
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินออกเดินทางสู่เมือง มิดเท็นวาลด์ (Mittenwald) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) พรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเอลป์ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านติดอันดับความสวยของเยอรมัน ถือเป็นสถานที่ UNSEEN ของเยอรมันด้วย
- นำท่านชมเมืองสูดอากาศอันบริสุทธิ์ เดินเล่นนั่งจิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์หรือเลือกสินค้าที่ระลึก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน เยอรมนีคือ 9,721 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank) ซึ่งล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางและนักสกีทั้งสิ้น
- อิสระทุกท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง บนยอดเขา
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ฟุสเซ่น (Fussen) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) เมืองฟุสเซ่นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เมืองฟุสเซ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของตัวตึกรามบ้านช่องเพราะทั้งเมืองจะมีหลากสีสันมากเหมือนกับลูกกวาดสีสวยๆ ทั้งเมืองจนได้รับสมญานามว่า City of candy
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
SONNE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : เมืองฟุสเซ่น มีจำนวนจำกัด ทำให้ห้องพักมักเต็ม หากห้องพักเต็ม ทางบริษัทสงวนสิทธิ์ไปพัก ณ เมืองใกล้เคียง
ฟุสเซ่น - ปราสาทนอยชวานชไตน์ - ลินเดา
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Schloss Neuschwanstein) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิจที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิต พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียมีพระประสงค์ให้จัดสร้างเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คน และเพื่ออุทิศให้แก่กวีชื่อริชาร์ด วากเนอร์ ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่องอัศวินหงษ์ (Swan Knight Lohengrin) ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องร่าวในบทประพันธ์ดังกล่าว ปราสาทแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยคริสทีอัน ยังค์ (Christian Jank) ซึ่งเป็นนักออกแบบทางการละคร มากกว่าที่จะเป็นสถาปนิก นำท่านขึ้นรถมินิบัส เพื่อขึ้นเข้าชมตัวของปราสาท ซึ่งอยู่บนเนินเขาสูงที่สร้างจากบัญชากษัตริย์ลุดวิคที่ 2 ที่ต้องการสร้างปราสาทตามเทพนิยายของริชาร์ด วากเนอร์ ศิลปินคนโปรดของพระองค์
- จากนั้นนำท่านชมวิวสวยจากสะพานแมรี่จุดที่ถ่ายรูปกับปราสาทนี้ได้ดีที่สุด (เวลาเปิด-ปิดขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ดั่งรูปโปสเตอร์ โปสการ์ดต่างๆ ซึ่งความงามนี้ยังทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทต้นแบบที่วอลท์ดีสนีย์ได้นำมาสร้างเป็นปราสาทในภาพยนตร์การ์ตูนและเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทดิสนีย์ด้วย
- จากนั้นนำท่านเข้าชมด้านในของปราสาท ให้ท่านได้ชมห้องต่างๆซึ่งมีความวิจิตรพิสดารยิ่ง
** หมายเหตุ : ปัจจุบันรอบการเข้าของปราสาทนอยชวานสไตน์มีการเปลี่ยนแปลง และมีกฎเกณฑ์เยอะมาก หากรอบการเข้าชมเต็มหรือเวลาเข้าชมที่ไม่เหมาะทำให้ไปกระทบกับรายการอื่น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์งดเข้าชมด้านในให้ทุกท่านถ่ายรูปด้านนอกปราสาทเท่านั้น**
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นได้เวลานำท่านลงจากปราสาทด้านล่างด้วยรถม้า ให้ท่านสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศและไม่ต้องย้อนเส้นทาง
หมายเหตุ : เนื่องจากปราสาทนอยชวานสไตน์ตั้งอยู่บนภูเขา ซึ่งในหน้าหนาวทำให้มีหิมะปกคลุม อาจมีการปรับเปลี่ยนรายการการขึ้น-ลง หรือการเข้าชมปราสาทเนื่องมากจากสภาพอากาศ หรือวันหยุดสำคัญต่างๆ)
- จากนั้นนำท่านเดินสู่เมือง ลินเดา (Lindau) (ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 20 นาที) เมืองตากอากาศแสนสวยริมทะเลสาบคอนสแตนซ์ (Lake Constance) หรืออีกชื่อคือทะเลสาบโบเดนเซ (Bodensee)
- จากนั้นนำท่านเดินชม ลินเดา เมืองเล็กที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นเมืองเล็กๆอยู่ระหว่างสามประเทศ คือเยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ด้วยของเมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยทะเลสาบโดยมีฉากหลังเป็นเทือกเขาเอลป์จนได้รับฉายาว่า แชงกรีลา แห่งเยอรมัน นำท่านเดินเล่นถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมือง ถ่ายรูปกับเสาประภาคารบาวาเรียและเสารูปสิงโตซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองลินดา
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเฟรดริคฮาฟเฟ่น (Friedrichshafen) (ระยะทาง 20กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) เมืองสวยริมทะเลสาบคอนสแตนซ (Lake Constance) หรือทะเลสาบโบเดน (Bodensee)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอฃ
าหารพื้นเมือง
SEE HOTEL FRIEDRICHSHAFEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเฟดริคฮาฟเฟ่น มีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคีย
ป่าดำ - ทิทิเซ่ (เยอรมัน) - สตราสบูร์ก (ฝรั่งเศส)
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนําท่านเดินทางสู่เมืองทิทิเซ่ (TITISEE) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.40 ชม.) เขตป่าดําตอนใต้ (SOUTH BLACK FOREST) เมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางป่าสนอันอุดมสมบูรณ์และทะเลสาบสุดสวย
- นําท่านชมทะเลสาบที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ทะเลสาบทิทิเซ่ (TITISEE LAKE) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในป่าดํามีความยาว 2 กิโลเมตร และมีความกว้าง 700 เมตร ผ่านบริเวณนี้ ท่านจะได้พบกับยอดเขาที่สูงที่สุดในป่าดํานั่นคือ ยอดเขา FELDBERG ซึ่งความสูงถึง 1500 เมตร เดินทางถึง ทะเลสาบทิทิเซ่ ท่านจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติที่ห้อมล้อมทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยติดอันดับในทวีปยุโรปอีกด้วย
- นําท่านชมทิวทัศน์ความงดงามของป่าดํา และทะเลสาบ มนต์เสน่ห์ที่ท่านจะต้องหลงใหลไม่มีวันลืม
- ให้ท่านได้เลือกซื้อหรือชม นาฬิกากุ๊กกู เป็นของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส (Alsace) ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม la Petite France (ปารีสน้อย)
- นำท่านชมเขต La Petite France ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins
- นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง
- จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
MERCURE STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
หมายเหตุ : เมืองสตราสบูร์กมักถูกจัดงานแฟร์บ่อยๆ หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
กอลมาร์ - เอกิซไฮม์ - ริคเวีย - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาส และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ
- เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบ Half – Timber และบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ร้านค้าที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง ด้วยบรรยากาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลกเดินทางมาฮันนีมูนที่นี่
- นำท่านเดินชมเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง
- จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนูพิเศษ หอยเอสคาโก้
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Equisheim) (ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) Les Plus Beaux Village de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Village มีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึงปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่ ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลานำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก
- นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
สตราสบูร์ก - ไฮเดลเบิร์ก - ปราสาทไฮเดิลเบิร์ก - โรเธนเบิร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก(Heidelberg) (ระยะทาง 130 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1ชม. 30 นาที) ตั้งอยู่ในรัฐ baden-Wurttemburg ทางใต้ของแฟรงค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ (Neckar) โดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเชิงเขา
- จากนั้นเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเขาแบร์กบาห์น ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความาเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม 30 ปีและมาถูกเผาทำลายถึง 2 ครั้ง ในปี 1689 และ 1693 ในสงครามกับฝรั่งเศส จึงเหลือตาซากปรักหักพัง และได้การยอมรับว่านี้คือซากปรักหักพังของปราสามที่สวยงามที่สุดในโลก นำท่านชมวิวจากจุดชมวิวบนตัวปราสาท ท่านจะมองเห็นเมืองไฮเดลเบิร์กได้อย่างสวยงาม
- นำท่านชม ถังเก็บไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความจุราว 222,000ลิตร
- จากนั้นนำท่านลงสู่ตัวเมืองเก่าของไฮเดลเบิร์ก
- นำท่านชมสะพานเก่าอัลเทอบรุคเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเดินข้ามสะพานไปแล้วมองหันกลับมาท่านจะเห็นปราสาทไฮเดลเบิร์กสีชมพูอมแดงตั้งโดดเด่นเหนือตัวเมืองไฮเดลเบิร์ก
- นำท่านชมรูปปั้นลิง บนตัวสะพานที่มีความเชื่อว่าหากได้มาสัมผัสรูปปั้นลิงนี้จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารเอเชีย
- จากนั้นนำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกว่า เมืองโรเธนเบิร์ก (ระยะทาง 160 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิ ฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274
- นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค
- นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า
รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (NO PORTER)
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
วูร์ซบวร์ก - แฟรงค์เฟิร์ต - จตุรัสโรเมอร์ - ช้อปปิ้ง - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- ท่านเดินทางสู่เมือง วูร์ซเบิร์ก (Wuerzburg) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน
- นำท่านชมความงดงามของเมือง วูร์ซเบิร์ก โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) แวะถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบิร์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์
- จากนั้นนำท่านเดินชมเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER)ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อ (OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียด
- นำท่าน ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรมที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน
- ผ่านชมโบส์ถเซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมือง
- อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยูมากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น
- อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
กรุงเทพฯ – สุวรรณภูมิ
- 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ