ทัวร์ฝรั่งเศสใต้ อิตาลี (เอลป์ / โพรวองซ์ / ริเวียร่า) Lavender



รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ฝรั่งเศสใต้ อิตาลี (เอลป์ / โพรวองซ์ / ริเวียร่า) Lavender

รหัสทัวร์ : (LAVENDER) PROVENCE – RIVIERA - ALPS - ITALY 11 DAYS (EK)
ระยะเวลา 11 วัน 8 คืน
สายการบิน : EMIRATES (EK)

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 20 มิ.ย. 66 - 30 มิ.ย. 62 189,900 บาท
2 28 มิ.ย. 66 - 8 ก.ค. 66 189,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชม ทุ่งลาเวนเดอร์ LAVENDER FIELD แหล่งปลูกลาเวนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส
  • 2
    ขึ้นเคเบิ้ลไฟฟ้าสูงสุดในโลก AIGUILLE DU MIDI ชมวิวยอดเขา Mont Blance ยอดเขาสูงที่สุดในยุโรป
  • 3
    ชมหมู่บ้าน Cinque Terre หมู่บ้านชาวประมงหน้าผาบ้านริมทะเลอิตาลี
  • 4
    ชมหมู่บ้าน Gordes หนึ่งในหมู่บ้านแสนสวยของฝรั่งเศส (Unseen)
  • 5
    หมู่บ้านบนภูเขา Eze สวยระดับโลกของริเวียร่า (Unseen)
  • 6
    ชมหมู่บ้าน Yvoire อายุกว่า 700 ปี ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อหมู่บ้านดอกไม้ ของยุโรป (Unseen)
  • 7
    หมู่บ้านแห่งขุนเขา Chamonix หมู่บ้านแสนสวยในเขตเทือกเขาเอลป์
  • 8
    เมืองสุดสวยริมทะเลสาบ Annecy หนึ่งในเมืองคูคลองที่สวยติดอันดับโลก (Unseen)
  • 9
    ชมเมือง Menton เมืองที่สวยที่สุดของริเวียร่า (Unseen)
  • 10
    ชมเมือง MARSEILLE เมืองท่าในเขตรอเวียร่าที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด
  • 11
    ชมเมือง Avignon / AIX EN PROVENCE เมืองแสนสวยเขตโพรว๊องซ์
  • 12
    สะพานส่งน้ำโรมัน Pont du Gard อายุกว่าพันปี
  • 13
    ชมโบสถ์ Abbaye de Sénanque โบสถ์แสนสวย
  • 14
    เมืองสวยหรูหราระดับโลกในริเวียร่า Nice / Cannes / Monaco
  • 15
    ชมเมือง Milan เมืองแฟชั่นของโลก
  • 16
    ช้อปปิ้ง Serravalle Designer Outlet
  • 17
    ชิม WINE TASTING

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
PROVENCE – RIVIERA – ALPS – ITALY
เส้นทางเจาะลึก ฝรั่งเศสใต้ – อิตาลี
เทศกาลลาเวนเดอร์ 11 วัน 8 คืน
โดยสายการบิน EMIRATE AIRLINE (EK)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ – ดูไบ - เจนีวา

  • 07.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T ประตู 9-10 สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก ด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
  • 09.55 น. ออกเดินทางสู่ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบิน EK 375
  • 13.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 14.55 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยสายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบิน EK 083
  • 19.45 น.  ถึงสนาบินเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง

CROWNE PLAZA HOTEL GENEVA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY2

เจนีวา – อีวัวร์ (ฝรั่งเศส) – อานซี่ - ชาโมนิกซ์

  • จากนั้นนำท่านชมเมือง เจนีวา (GENEVA) เมืองศูนย์กลางการประชุมนานาชาติเมืองที่ตั้งองค์กรระดับโลก อาทิองค์การการค้าโลก(WTO)
  • จากนั้นนำท่านชมเมืองเจนีวา เริ่มจากนำท่าน ชมน้ำพุเจทโด  (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) อนุสาวรีย์การรวมชาติและนาฬิกาดอกไม้ อิสระเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย                                                              Geneva Travel Guide | Geneva Tourism - KAYAK
  • จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่หมู่บ้าน อีวัวร์ (Yvoire) (ระยะทาง 25  กิโลเมตร // ใช้เวลา 40 นาที ) ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี เป็นเมืองในยุคกลางของยุโรป ที่ยังมีการอนุรักษ์เก็บรักษาปราสาท ประตูเมือง และกําแพงเก่าแก่เอาไว้ ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้าน 18  ที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส โดยได้ฉลองอายุครบ 700 ปี ในปี 2006 และยังได้รับรางวัลชนะเลิศในปี 2006 ในการดูแลรักษาได้ดีที่สุด ตัวบ้านเรือนถูกประดับด้วยดอกไม้ไม่ว่า จะฤดูไหนก็ตามจนได้รับรางวัล “Four Flowers” ระดับยุโรป จนได้รับการขนานนามว่า หมู่บ้านดอกไม้  และได้รับรางวัล International Trophy for Landscape และพืชสวน และยังได้รับเป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” (Les Plus Beaux Village de France)                                                                                      Yvoire, Haute-Savoie - in photos - The Good Life France

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านสู่เมือง อานซี่ (Annecy) (ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.) เมืองเก่าเล็กๆ น่ารักที่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ Annecy Lake (ติดอันดับความสวยงามของโลก) และเทือกเขาเอลป์ เป็นเมืองตากอากาศที่สวยและบรรยากาศดีมากๆ อยุ่ห่างจากเมืองเจนีวาเพียง 35 กิโลเมตร จากนนั้นนำท่านชมเมืองเก่า
  • นำท่านถ่ายรูปกับ Palais de L’Isle เป็นมุมกลางน้ำ ตั้งโดดเด่นอยู่ในคลอง เคยเป็นที่อาศัยของตระกูลเดล ลิส์ล สร้างในศตวรรษที่ 12  แต่อีก 200 ปีกลายสภาพเป็นศาล จากนั้นก็เป็นคุก แล้วมาเป็นโรงกษาปณ์ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นที่ทำการของรัฐในศตวรรษที่ 15 แล้ว  กลับมาเป็นคุกใหม่อีกครั้งในช่วงปฏิวัตฝรั่งเศส  จนถึงปี 1986 ทางการฝรั่งเศสได้เข้าบูรณะใหม่ ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงนิทรรศการ ประวัติศาสตร์ของเมืองอ้านซี และซาวัว และปัจจุบันมุมของอาคารแห่งนี้ก็ยังใช้เป็นสัญญาลักษณ์ ของเมืองด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ถูกถ่ายไว้มากที่สุดในฝรั่งเศส  อิสระให้ท่านเดินเล่นในตัวเมือง ริมทะเลสาบ หรือเลือกซื้อของที่ระลึกสินค้าพื้นเมือง ตามอัธยาศัย หรือ เลือกจิบกาแฟ นั่งชมบรรยากาศ โรแมนติคสุดๆ                                                                                                              Discover the Palais de l'Île in Annecy - French Moments
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมือง ชาโมนิกซ์ (CHAMONIX) (ระยะทางประมาณ 95  กิโลเมตร ใช้เวลา 1.15 ชม.) เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่นักเล่นสกีและนักปีนเขานิยมมาเล่นสกีหรือปีนเขาที่แห่งนี้โดยมียอดเขามองบลังค์ (MONT BLANC) เป็นจุดหมายปลายทาง       Chamonix In the Summer: Full Travel Guide For Your Alpine Escape

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE HOTEL CHAMONIX CENTRE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY3

เคเบิ้ลไฟฟ้า AIGUILLEDU MIDI ชมวิวมองบลังค์ - - เกรอนอบ

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านนั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าขึ้นสู่สถานี ไอกุย ดู มิดิ  (Aiguille du Midi)  ด้วยความสูงระดับ 3,842 เมตร เป็นกระเช้าที่สูงที่สุดในโลก  ถูกสร้างขึ้นเมือปี คศ  1955  ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากสถานีนี้ท่านสามารถมองเห็นยอด เขา ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป (สูงกว่าจุงฟราวน์) และสูงเป็นอันดับที่ 11 ของโลก ที่มีความสูง 4,807 เมตร                                                                                          Aiguille du midi cable car | Savoie Mont Blanc (Savoie et Haute Savoie) - Alpes
  • อิสระให้ท่านชมวิวหรือทำกิจกรรมต่างๆ  ตามอัธยาศัย
  • จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ด้านล่างเมืองชาโมนิกซ์

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมเมืองชาโมนิกส์ ที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาสูง อิสระให้ท่านเพลิดเพลินเดินเล่น ชมเมือง ชาโมนิกซ์ ที่เป็นเมืองตากอากาศสีสันสดใส และมีการตกแต่งบ้านเรือนไว้อย่างสวยงาม ให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของฝากของที่ระลึกมากมายกับบรรยากาศโอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง หากอากาศดีๆ ท่านสามารถมองเห็นยอดเขามองบลัง ที่สูงถึง 4,807 เมตร สูงสุดในยุโรป และ อันดับที่ 11 ของโลก
  • อิสระให้ท่านชมเมืองหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย                                                                                        What to Expect Visiting Chamonix for Trail Running - Run the Alps
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง เกรอนอบ (Grenoble) (ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร  ใช้เวลา 2 ชม.)  เมืองศูนย์กลางของเฟรนช์แอลป์  เป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อ และเป็นแหล่งเล่นสกีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีก และเคยได้เป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1968 อีกด้วย  ผ่านชมสถานที่สำคัญๆของเมือง เช่น อาคารรัฐสภาของเมือง ฯลฯ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก

PARK HÔTEL GRENOBLE – MGALLERY หรือระดับเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัดหากเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง

DAY4

เกรอนอบ - ปงดูการ์ - อาวิญง - PALAIS DES PAPES

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สะพานส่งน้ำโรมัน ปงดูการ์ (PONT DU GARD) (ระยะทางประมาณ 230 กิโลเมตร  ใช้เวลา 3 ชม.)  เป็นสะพานตั้งขวางแม่น้ำการ์ดง ทางตะวันตกของอาวีญงราว 20 กิโลเมตร เป็นสะพานส่งน้ำโบราณในยุคโรมันเก่าแก่กว่า 2,000 ปี สร้างด้วยหินห้อนมหึมาทอดข้ามแม่น้ำการ์ดง (Gardon) เป็นส่วนหน่งของระบบส่งน้ำจากเมืองนีมส์ด้วยระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร มีความสูง 50 เมตร ยาว 275  ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)  ปี 1985
  • อิสระให้ท่านถ่ายรูปกับปงดูการ์จนเป็นที่พอใจ                                                                                       เที่ยวสะพานส่งน้ำปงดูว์การ์ Pont du Gard, ฝรั่งเศส

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอาวิญง (AVIGNON) (ระยะทาง 25 กิโลเมตร  ใช้เวลา 30 นาที)  เมืองยุคกลางที่พระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 5 แห่งโรม อพยพหนีความวุ่นวายทางการเมืองมาตั้งศูนย์กลางทางศาสนาขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากทางด้านศิลปะ และบันเทิงจุดสนใจที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาชมกันมาก คือ เมืองโบราณที่มีกำแพงล้อมรอบ และช่วงเวลาที่มีผู้คนหลั่งไหลมามากที่สุด คือ ช่วงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากเป็นช่วงเวลาแห่งเทศกาลดนตรี และการแสดง ซึ่งมีมากมายหลากหลายชนิด เพราะไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่ดนตรีคลาสสิคเท่านั้น นำท่าน ชมเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองเก่าในยุคกลางที่ยังคงความงดงาม และคลาสสิกที่สุดจนได้รับการขนานนามว่า “The Jewels of the Southern Rhone” ปัจจุบันกำแพงเมืองล้อมรอบวังพระสันตะปาปา และสิ่งก่อสร้างยังคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ในอดีต จึงทำให้เมืองอาวิญงกลายเป็นสถานที่สำคัญของแคว้นโปรวองซ์ ดังเดิม
  • นำท่านข้าชม พระราชวังของสันตะปาปา (PALAIS DES PAPES) ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเคยเป็นที่ประทับขององค์พระสันตะปาปาถึง 10 พระองค์ แม้จะถูกทำลายไปจากการเกิดเพลิงไหม้ในบางส่วนแต่ก็ได้รับการบูรณะ และกลับเป็นเหมือนดังเดิม  ให้ท่านถ่ายรูปกับสะพานเซนต์เบเนเซ่ (Pont Saint-Bénézet) หรือสะพานแห่งเมืองอาวิญง (Pont d’Avignon) สะพานคอนกรีตโบราณขาดเหลือไม่ถึงครึ่ง ที่ใช้ในการข้ามแม่น้ำโรนน์ ปัจจุบันกลายเป็นเครื่องหมายการแบ่งแยกดินแดนของฝรั่งเศสกับคริสตจักรที่ไม่ราบรื่น เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากบทเพลง (ซูริ เลอ ปองต์ ดาวิญง) ที่โดดเด่นสะดุดตามากที่สุด                                                                            Palais des Papes - Wikipedia
  • นำท่านเดินเล่นชมเมืองอาวิญง  เมืองที่คงอนุรักษ์ศิลปะในยุคกลางไว้ได้อย่างดี  ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองหรือเลือกนั่งดื่มกาแฟ ชมบรรยากาศของเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
GRAND HOTEL AVIGNON หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัดหากเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง

DAY5

อาวิญง – Abbaye de Sénanque - หมู่บ้านกอร์ด – บอนนิเยอ – Wine Tasting – อาวิญง

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ แอ๊บบี้เดอซีนอคค์ (Abbaye de Sénanque) (ระยะทางประมาณ 45  กิโลเมตร  ใช้เวลา 45 นาที ) ให้ท่านแวะถ่ายรูปด้านนอกกับ สำนักสงฆ์เก่าที่ได้รับการก่อสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12                                                                                                                                  Senanque Abbey, site visit, photos and information, by Provence Beyond
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกอร์ด (Gordes) (ระยะทาง 10  กิโลเมตร  ใช้เวลา 15 นาที ) เมืองเก่าแก่ที่มากด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล เป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ลักษณะเมืองจะสร้างจากยอดเขา และปลูกลดหลั่นกันมาตามไหล่เขามีบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศแบบชนบทดั้งเดิมของโพรวองซ์ รอบนอกของหมู่บ้าน นี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านหิน 6,000 ปี (Le village des Bories) หมู่บ้านหินเก่าแก่ที่สร้างด้วยการน่าหินมาวางเรียงรายโดยไม่ได้ใช้วัสดุเชื่อมใดๆความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ทำให้ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส(Les Plus Beaux Village de France)                                                                                      Discover Gordes, Provence | What to Do, Where to Stay

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านออกเดินทางต่อสู่ เมือง บอนนิเยอ (Bonnieux) (ระยะทาง 18  กิโลเมตร ใช้เวลา 25 นาที )  หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส (Les Plus Beaux Village de France) เป็นหนึ่งใน “หมู่บ้านบนเนินเขา” อันเก่าแก่ สร้างขึ้นบนที่ราบสูง ซึ่งท่านจะสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหุบเขาเบื้องล่าง
  • นำท่านเดินทางสู่ Château la Canorgue เพื่อชิมไวน์คุณภาพดี (Wine Tasting) โดยตั้งอยู่ที่ใจกลางอุทยานธรรมชาติประจำภูมิภาค Luberon ในปี 1970 Jean-Pierre Margan ผู้บุกเบิกด้านเกษตรอินทรีย์เริ่มต้นการดูแลไร่องุ่นและเริ่มผลิตไวน์คุณภาพสูงที่มีลักษณะเฉพาะตัว ถือเป็นกิจการของครอบครัวมากว่ากว่า 200 ปี                                                                                                              Joe's Retirement Blog: Château La Canorgue Winery, Bonnieux, Provence-Alpes-Côte d'Azur, France
  • จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองอาวีญง  (ระยะทาง 49  กิโลเมตร ใช้เวลา 45 นาที )

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAND HOTEL AVIGNON หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY6

อาวีญง – ชมสวนลาเวนเดอร์ - เอ็กซ์ ออง โพรวองส์ - มาร์กเซย

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่แหล่งปลูกลาเวนเดอร์  (LAVENDER FIELD) โดยในเขตโพรวองซ์ เป็นแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศส เป็นพื้นที่ในการจัดนิเทศกาลลาเวนเดอร์ทุกปี ให้ท่านชมทุ่งลาเวนเดอร์ ที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ให้ท่านเก็บภาพความประทับใจอย่างเต็มอิ่ม หรือเลือกซื้อของฝากที่แปรรูปมาจากลาเวนเดอร์                                                                                                          The Dreamiest Lavender Farms Around the World | Reader's Digest
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเอ็กซ์ ออง โพรวองส์ (AIX EN PROVENCE) (ระยะทางประมาณ 70  กิโลเมตร  ใช้เวลา 1 ชม. ) เมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดเมืองหนึ่งของฝรั่งเศส Aix-en-Provence Hotels vanaf €50 per nacht - Zoek op KAYAK

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองมาร์เซย (Marseille) (ระยะทางประมาณ 38 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที) เป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส อาหารทะเลสด มีความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรม    Marseille 2023 | Ultimate Guide To Where To Go, Eat & Sleep in Marseille | Time Out

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
NH COLLECTION MARSEILLE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY7

มาร์กเซย – คานส์ - นีซ

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเข้าชม มหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด (The Church of Notre-Dame de la Garde) ว่ากันว่ามหาวิหารแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์เรื่องการขอพร และถ้าอยากให้สัมฤทธิ์ผลโดยง่าย ชาวเมืองเชื่อกันว่า การเดินเท้าขึ้นไปสักการะจะขลังกว่า (น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 45 นาที) เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในมหาวิหาร ทั้งสองฝั่งของโถงกลาง จะเต็มไปด้วยป้ายหินสลักชื่อพร้อมคำขอบคุณ บางคนนำสิ่งของมาสักการะแทน เราจึงจะได้เห็นภาพเขียนเก่าแก่ ของตกแต่งอย่างเรือไม้แกะสลัก รวมทั้งของมีค่าต่างๆ ประดับอยู่ทั่ว มหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอไบเซนไทน์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 บนยอดโดมมีรูปปั้นพระแม่มารีและพระบุตร สร้างขึ้นจากทองแดงและทองคำเปลว ภายในสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเพดานที่เต็มไปด้วยลวดลายสุดวิจิตรบรรจง ข้อสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงควรใช้เวลาอย่างเงียบสงบเพื่อแสดงความเคารพ วิวระดับ to die for 360 องศา มองเห็นได้รอบเมืองมาร์กเซยจากบริเวณมหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ดคือที่สุดของหัวใจ เราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเมืองที่ไม่ได้มีตึกสูงแบบเมืองทันสมัย แต่เต็มไปด้วยบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีคุมโทนไปจนสุดลูกหูลูกตา                                                                                                    Basilique Notre-Dame de la Garde Reviews | U.S. News Travel
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคานส์ (CANNES) (ระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร  ใช้เวลา 2 ชม. 20 นาที ) เมืองชายทะเลเล็กๆที่มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี และเป็นเมืองที่ใช้สถานที่ในการประกวดภาพยนตร์นานาชาติที่โด่งดังไปทั่วโลก

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  •  อิสระให้ท่านได้เก็บภาพกับ PALAIS DES FESTIVALS ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานประกวดภาพยนตร์ และ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โดยรอบอาคารจะมีรอยฝ่ามือของบรรดาเหล่าศิลปินที่มีชื่อเสียงจากฮอลลีวู้ดมาประทับเอาไว้บนพื้นซีเมนต์ ผ่านชมวิวทิวทัศน์ของเมืองบริเวณถนนลา กรัว เซต ย่านเดินเที่ยวริมทะเลที่ทันสมัยที่สุดในโลก เรียงรายไปด้วยทิวแถวของต้นปาล์ม ร้านบูติก และร้านค้ามีระดับ Palais des Festivals de Cannes | Florim S.p.A. SB
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนีซ (NICE) (ระยะทางประมาณ 30  กิโลเมตร  ใช้เวลา 50 นาที )เมืองพักตากอากาศทางที่เรียกว่า เฟรนช์ริเวียร่า มีชายทะเลที่สวยงาม ซึ่งเริ่มกลายเป็นสถานตากอากาศยอดนิยมของคนอังกฤษ และ ชาวยุโรปมาตั้งแต่สมัยวิคทอเรีย ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมานีส เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ชายหาดของ นีซไม่ใช่หาดทราย แต่จะเป็นหินก้อนเล็กๆที่ไม่คม ซึ่งคือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนีส
  • นำท่านชมเมืองนีซ  เมืองซึ่งอุดมไปด้วยสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมชั้นเยี่ยม ซากปรักหักพัง พิพิธภัณฑ์ ร้านเสื้อผ้า ตลาดกลางแจ้ง ภัตตาคาร อันเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ถ่ายภาพกับโบสถ์นอร์ทเทรอดามของเมืองนีซ (BASILQUE NOTRE-DAME DE NICE) เป็นโบสถ์ที่ได้รับการออกแบบสไตล์โกธิคอย่างชัดเจน เคยถูกสร้างขึ้นใหม่จากโครงสร้างเดิมในปี ค.ศ. 1868 ออกแบบโดยสถาปนิก C. Lenormand เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองและเป็นอาคารทางศาสนาแห่งแรกที่มีความทันสมัย ตั้งโดดเด่นสง่างามกลางถนนสายหลักในเมือง จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งบริเวณจัตุรัสมาสเซนา (Place Massena) บริเวณที่เป็นจุดคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยร้านแฟชั่น และน้ำหอม อันเป็นที่ตั้งของห้างชื่อดัง Nice Etoile และ Galeries Lafayette                                                                                     12 Best Things to Do in Nice - What is Nice Most Famous For? – Go Guides
  • อิสระทุกท่านเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
LE MERIDIEN HOTEL NICE หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY8

นีซ– เอเซ่ – โมนาโก – มองเต คาร์โล - มองตอง - เจนัว (อิตาลี)

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเอเซ่ (EZE VILLAGE) (ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลา 20 นาที )หมู่บ้านโบราณแห่งนี้ มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 และ มีทัศนียภาพที่งดงามโอบล้อมไปด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ต้องบอกกันปากต่อปาก เดินทางถึง หมู่บ้านเอเซ่ หมู่บ้านที่แสนจะน่ารัก อบอุ่น คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติ เป็นหมู่บ้านเล็กๆกะทัดรัดแต่แฝงด้วยเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ที่ท่านไม่ควรพลาดมาเยือน หากได้มาเยือนแถบนี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย                                                                Eze | Nice Côte d'Azur CVB
  • จากนั้นนำท่านทางสู่ โมนาโค (Monaco) (ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที )ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลอันงดงาม
  • ผ่านชมมหาวิหารเซนต์นิโคลัส ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ 1875 ที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซ เคลลี ราชธิดาแห่งโมนาโค
  • นำท่าน ถ่ายภาพกับปาเล เดอ แปรงซ์ (PALAIS DE PRINCES) ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐ Visit the interior of the Palace of Monaco
  • จากนั้นอิสระให้ท่านชมวิวทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยท่า จอดเรือยอร์ชอันหรูหราซึ่งแสดงถึงความมั่งคั่ง และร่ำรวยของดินแดนแห่งนี้

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเต คาร์โล (MONTE CARLO) เมืองใหม่ที่ตั้งอยู่ทางตอนปลายของฝรั่งเศส นําท่านถ่ายภาพกับความหรูหราของคาสิโนแห่งมองเต คาร์โล ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สําคัญของเมือง                                                                                                            Kasinot i Monte Carlo – Wikipedia
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง มองตอง (MONTON) (ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 20 นาที ) เมืองที่ได้รับการขนานนามว่า Pearl of France  หรือ ไข่มุกแห่งฝรั่งเศส และได้รับการยอมว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดของริเวียร่าฝรั่งเศส เมืองมองตอง เป็นเมืองพรมแดนฝรั่งเศส อิตาลี ซึ่งครั้งหนึงเคยเป็นของอิตาลี โดยเมืองมองตองถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในคริสต์ศตวรรษที่ 11 จากการตั้งถิ่นฐานของชาวอิตาลี แต่ต่อมากลายเป็นของฝรั่งเศสในช่วงนโปเลียนที่3 เมืองมองตองเป็นเมืองที่มีอากาศดีจึงเป็นแหล่งปลูกมะนาวที่สำคัญของฝรั่งเศส และทุกๆปีจะมีการจัดงานเกี่ยวกับมะนาว ถือเป็นงานที่สำคัญของเมืองแห่งนี้ นำท่านถ่ายรูปบริเวณชายหาด และท่าเรือจุดจอดเรือยอช ซึ่งเป็นจุดที่ท่านสามารถเก็บภาพบรรยากาศของเมืองเมืองได้ทั้งหมด จนได้เวลาสมควร                                              10 Best Things to Do in Menton - What is Menton Most Famous For? – Go Guides
  • จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองเจนัว (GENOA) (ระยะทางประมาณ 170 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชม. )หนึ่งในเมืองใหญ่ของอิตาลี ทั้งยังเป็นรัฐอิสระที่ตั้งอยู่ที่ลิกูเรีย ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเลอิตาลีที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 และด้วยสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการเดินเรือนี่เอง จึงส่งผลให้เมืองเจนัวกลายเป็นเมืองท่าที่สําคัญริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางฝั่งตะวันตกของอิตาลี

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
THE BRISTOL HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY9

เจนัว - ลา สเปเซีย – หมู่บ้านชิงเกว่ แตร์เร - เจนัว

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ลา สเปเซีย (La Spezia ) (ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที) เมืองท่าที่เป็นประตูสู่ 5 หมู่บ้านริมทะเลที่สวยที่สุดในโลก
  • หมู่บ้าน MANAROLAจากนั้นนำท่านนั่งรถไฟสู่หมู่บ้านชิงเกว่ แตร์เร (CINQUE TERRE) หมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่บน ชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี CINQUE TERRE มีความหมายว่า ห้าดินแดน(FIVE LANDS) ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่งได้แก่ VERNAZZA,MANAROL, RIOMAGGIORE , CORNIGLIA. MONTEROSSO AL MARE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้มีหุบเขาล้อมรอบประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ด้วย (UNESCO) เรานำท่านชมหมู่บ้านเพียงบางส่วน  เช่น หมู่บ้าน RIOMAGGIORE , หมู่บ้าน VERNAZZA , หมู่บ้าน MANAROLA                                          The BEST Cinque Terre Tours and Things to Do in 2023 - FREE Cancellation | GetYourGuide

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • ช่วงเย็นๆนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมพัก  อิสระให้ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองโรงแรมที่

THE BRISTOL HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY10

เจนัว - Serravalle Designer Outlet - มิลาน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Serravalle Designer Outlet (ระยะทาง 55 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที) เต็มไปด้วยร้านค้าใน Serravalle มีทั้งหมดกว่า 180 ร้าน สินค้าแฟชั่นแบรนด์อิตาลีและแบรนด์เนมระดับโลกอื่นๆ เช่น Gucci, Burberry, Prada,Benetton, Armani, Nike, Adidas, Michael Kors, Calvin Klein เป็นต้น อีกทั้งยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่หลากหลายให้เลือกใช้บริการอีกด้วย        2023 Vip shopping at Serravalle Designer Outlet with Wine Tasting

 อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย (คืนเงินให้ท่านละ 30 ยูโร)

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง มิลาน (MILAN) ( ระยะทาง 96 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที) เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดีเป็น เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม  10 Best Things to Do in Milan - What is Milan Most Famous For? – Go Guides
  • จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ลานจตุรัสบริเวณ มหาวิหารแห่งมิลานหรือมิลานดูโอโม (DUOMO) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วย หินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิคใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปีปัจจุบันเป็นโบสถ์แคธอล์ลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นมหาวิหารใหญ่อันดับ 4 ของโลก สูง 157 เมตรกว้าง 92 เมตรเริ่มสร้างในปีค.ศ. 1386 ใช้เวลาก่อสร้าง นานถึง 500 ปีชมความงดงามยอดปราสาทที่มีปลายยอดแหลมกว่า 135 ยอด อิสระให้ทุกท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินมิลาน เพื่อทำการเช็คอินและทำภาษี
  • 22.20 น. ออกเดินทางสู่ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบิน EK 092
DAY11

ดูไบ - สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ

  • 06.25 น.  เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 09.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบิน EK 372ฃ
  • 19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน