ทัวร์นอร์เวย์ นอร์ทเคป หมู่เกาะโลโฟเทน Midnight Sun
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์นอร์เวย์ นอร์ทเคป หมู่เกาะโลโฟเทน Midnight Sun
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 11 ก.ค. 67 - 23 ก.ค. 67 | 299,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชม MIDNIGHT SUN ที่แหลม NORTH CAPE พร้อมลิ้มรส Sparkling wine แกล้มด้วยไข่ปลาคาร์เวีย
- 2ชม NORTH CAPE ปลายสุดของแผ่นดินของยุโรป ที่รัชกาลที่ 5 เคยทรงเสด็จประพาส
- 3สัมผัสความสวยงาม หมู่เกาะลอฟโฟเทน (LOFOTEN ISLANDS)
- 4ชมหมู่บ้าน HAMNOY หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน
- 5ชมหมู่บ้าน REINE หนึ่งในหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน
- 6ชมหมู่บ้าน Å เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่แหลมปลายสุดของหมู่เกาะโลโฟเทน
- 7เปิดประสบการณ์ นำท่านนั่งเรือออกไปจับปูยักษ์ (KING CRAB SAFARI)
- 8เปิดประสบการณ์ นำท่านนั่งเรือออกไปชมปลาวาฬ (WHALE WATCHING)
- 9ชมหมู่เกาะ SENJA หนึ่งในหมู่เกาะฟยอร์ดติดกับหมู่เกาะโลโฟเทน
- 10ชมเมือง TROMSO และ นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN)
- 11ชมเมือง NARVIK เมืองที่รัชกาลที่ 5 เคยทรงเสด็จประพาส
- 12ชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่หมู่เกาะโลโฟเทน
- 13ช้อปปิ้งกรุงออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 21.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
สต๊อคโฮล์ม - คิรูน่า - นาร์วิค
- 00.05 น. ออกเดินทางสู่กรุงสต๊อคโฮล์ม ประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG960
- 07.00 น. เดินทางถึงสนามบินออสโล (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
- 13.20 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินคิรูน่า โดยสายการบินสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SK1042
- 14.55 น. เดินทางถึง สนามบินคิรูน่า หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองคิรูน่า (Kiruna) เมืองเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ ประชากรส่วนใหญ่ทำงานในเหมืองแร่ เนื่องจากมีการค้นพบแหล่งแร่เหล็กในภูเขาแถบนั้น ต่อมาจึงมีการสร้างเหมืองแร่ และสร้างเมืองในเวลาต่อมา ปัจจุบันเหมืองแห่งนี้กลายเป็นเหมืองแร่เหล็กใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- นำท่านชม โรงแรมน้ำแข็ง (ICEHOTEL) เป็นโรงแรมน้ำแข็งแห่งแรกของโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1994 ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Jukkasjärvi ทางภาคเหนือของประเทศสวีเดน ครอบคลุมพื้นที่ 59,200 ตารางฟุต สร้างขึ้นจากเสาน้ำแข็ง 2,000 และก้อนน้ำแข็งอีก 3,000 ตัน โดยใช้วัตถุดิบน้ำแข็งใกล้ๆบริเวณแม่น้ำ Torne ทุกปีจะศิลปินจากทั่วโลกพากันไปโรงแรมน้ำแข็ง ทุกฤดูหนาวเพื่อสัมผัสบรรยากาศไม่ซ้ำซาก รวมถึงช่วยสร้างห้องหรือประติมากรรมน้ำแข็งเพิ่มสภาพแวดล้อมใหม่ๆให้กับโรงแรม
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนาร์วิค (NARVIK) (ระยะทาง 190 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่แวดล้อมด้วยภูเขาและทะเลอันกว้างใหญ่ มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นที่การเล่นสกีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก ในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการดูแสงเหนือ พร้อมกับแนวชายฝั่งฟยอร์ดและวิวภูเขาที่รายล้อมเมืองอย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสอีกด้วย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCANDIC HOTEL NARVIK หรือเทียบเท่า ระดับ 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำนวนจำกัด หากเต็มทางบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ในการไปพักเมืองข้างเคียง
นาร์วิค - สโววาร์ - คาเบลวัก - HENNINGSVAER - สโววาร์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสโววาร์ (SVOLVAER) (ระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม. 30 นาที) หมู่เกาะโลโฟเทน (LOFOTEN ISLANDS) ตั้งอยู่ที่เมือง NORDLAND ประเทศนอร์เวย์ เป็นหมู่บ้านของชาวประมงที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการหาปลาในช่วงฤดูหนาว และทำปลาตากแห้งส่งออกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เอกลักษณ์ที่สำคัญของหมู่เกาะแห่งนี้ก็คือ กระท่อมสีแดงแบบดั้งเดิม (RORBUER) ของชาวประมงที่กลายเป็นสีสันริมชายฝั่ง ที่ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับการดูแสงเหนือที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ เนื่องจากความมหัศจรรย์ ทางธรรมชาติที่ถูกเสกสร้างมาอย่างพิถีพิถัน มีผืนน้ำสีฟ้าคราม ท้องฟ้าสีใส ภูเขาสูงตระหง่าน แทรกแซมด้วยบ้านชาวประมงทรงสวยแปลกตา นับว่าเป็นเมืองสวยท่ามกลางธรรมชาติที่ดูคล้ายเมืองในจินตนาการมากกว่าความจริง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ คาเบลวัก (Kabelvag) (ระยะทาง 6 กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที) เป็นหมู่บ้านชุมชนชาวประมงเก่าแก่แห่งแรกๆในหมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสโววาร์
- นำท่านชมหมู่บ้านน่ารักตามสไตล์นอร์เวย์แท้ๆ แวะชม โบสถ์วาแกน (Vagan Church) โบสถ์ไม้ ที่ใหญ่ที่สุดบนหมู่เกาะโลโฟเทน จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเฮนนิ่งสวาร์ (HENNINGSVAER) (ระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลา 30 นาที) เป็นเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงประมงกันอยากคึกคัก เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาแวะเวียน ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือบ้านชาวประมงสีแดง (RORBUER) ตั้งอยู่ริมทะเล มีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย เป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย
- ให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
THON HOTEL LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า
**หมายเหตุ ที่พักบนเกาะโลโฟเทนมีจำกัดและห้องพักโรงแรมบางแห่งอาจมีขนาดเล็ก ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง***
สโววาร์ - หมู่บ้าน Å - รีนน์ - ภูเขา Hammarskaftet - ซาคริเซย - แฮมนอยด์ นัสฟยอร์ด - สโววาร์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านชม หมู่บ้าน Å (ระยะทาง 130 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชม.) เป็นหมู่บ้านที่อยู่ปลายสุดของหมู่เกาะ LOFOTEN อันเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ให้ท่านเดินชมหมู่บ้านตามอัธยาศัย
- นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (NORWEGIAN FISHING VILLAGE MUSEUM) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะโลโฟเทน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสถานที่ต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม อาทิโรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอด (COD LIVER OIL FACTORY), ร้านขายเบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ (หมายเหตุ : ร้านค้าและโรงงานต่างๆ อาจปิดทำการเนื่องจากวันหยุด เทศกาลโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า) ให้ท่านได้เดินเล่นชมหมู่บ้าน และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางไปยัง เมืองรีนน์ (REINE) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ระหว่างสองข้างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา ไปตามถนนสาย E10 ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักสายเดียวของหมู่เกาะโลโฟเทน นำท่านเดินทางผ่านถนนเส้นเล็กๆเชื่อมต่อระหว่างเกาะเล็กเกาะน้อย ข้ามสะพานต่างๆ จนกระทั่งเดินทางถึง เมือง REINE ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง และถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ
- นำท่านเที่ยวชมหมู่บ้านแฮมนอยด์ (Hamnoy) หมู่บ้านชาวประมงที่ปรากฏอยู่ในโปสการ์ดโลโฟเทน ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้บ่อยตามร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ภาพหมู่บ้านชาวประมงหลากสี พร้อมวิวของเทือกเขาสูงเป็นฉากหลังนับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้านแฮมนอยด์ตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านแวะหมู่บ้าน Horn แวะถ่ายรูปกับยอดภูเขา Hammarskaftet เป็นชื่อของภูเขายอดแหลมรูปกรวยคว่ำ เป็นจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด
- นำท่านแวะถ่ายรูปกับหมู่บ้านซาคริเซย (Sakrisøy) หนึ่งในหมู่บ้านชาวประมง น่ารักๆ มีสีเหลืองของบ้านเรือนเป็นจุดเด่น อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ นัสฟยอร์ด (Nusfjord) (ระยะทาง 37 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที) อีกหนึ่งเมืองเล็กๆน่ารักๆแห่งหมู่เกาะโลโฟเทน ให้ท่านได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันแปลกตา ภูเขาสลับแม่น้ำ และทะเลสาบที่ สะท้อนภาพเทือกเขาบนผืนน้ำ หมู่บ้านชาวประมงนัสฟยอร์ด ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดียิ่งอีกแห่งของนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้มีการรังสรรค์หมู่บ้านหลากสีสัน ทั้งแดง เหลือง เขียว และยังคงอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้ อย่างดียิ่ง
- อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย หรือจะนั่งเล่น จิบกาแฟ ชื่นชมกับธรรมชาติของเมืองนี้ นอกจากนี้ เมืองนัสฟยอร์ดยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สโววาร์ (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลา 1.20 ชม.)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
THON HOTEL LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า
**หมายเหตุ ที่พักบนเกาะโลโฟเทนมีจำกัดและห้องพักโรงแรมบางแห่งอาจมีขนาดเล็ก ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง***
สโววาร์ - เลกเนส - ฮาร์สตัด
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองเลกเนส (LEKNES) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.) อีกหนึ่งเมืองสวยอันขึ้นชื่อของหมู่เกาะ LOFOTEN นำท่านเดินเล่นชมเมือง และเก็บภาพความประทับใจ อีกหนึ่งเมืองสวยอันขึ้นชื่อของหมู่เกาะโลโฟเทน
- นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (LOFOTR VIKING MUSEUM) เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะโลโฟเทน มีการค้นพบว่าเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งที่แสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งไว้มากมาย ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้ง ให้ ท่านชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง และพายเรือไวกิ้งโบราณ ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ เมื่อไปเยือนพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งแห่งนี้
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านสู่เมืองฮาร์สตัด (Harstad) (ระยะทาง 230 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที) โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเทศมณฑลทรุมส์ โดยมีใจกลาง เมืองที่เล็กกะทัดรัดที่หันหน้าออกไปรับกับทะเลนอร์เวย์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
CLARION COLLECTION HOTEL ARCTICUS หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ฮาร์สตัด - อันเดเนส - ล่องเรือชมปลาวาฬ - กริลล์ฟยอร์ด - เซนญา
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองอันเดเนส (Andenes) (ระยะทาง 170 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง) เมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกในการดูปลาวาฬในช่วงฤดูร้อนและดูสงเหนือในช่วงฤดูหนาว
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ (Whale Watching) กิจกรรมอันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการดูปลาวาฬแบบธรรมชาติ ปลาวาฬที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำแถบนี้จะมี 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ วาฬมิงค์, วาฬหลังค่อม (Humpback) และวาฬเพชรฆาต (Killer Whale) การล่องเรือ ชมวาฬใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง (บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง กรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย)
- 17.00 น.จากนั้นนำท่านข้ามเรือ Ferry สู่ท่าเรือหมู่บ้านชาวประมงกริลล์ฟยอร์ด (Gryllefjord Fishing Village) ซึ่งมีประชากรอยู่ราวๆ 400 คน
- ผ่านชมบ้านเรือนและความสวยงามของพื้นที่เรียบชายฝั่งทะเลและฟยอร์ด (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที)
- นำท่านเดินทางต่อสู่ อ่าวแฮมน์ไอเซนญา (Hamn I Senja) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกของเกาะเซนญาและเป็นที่ตั้งของรีสอร์ท ที่มีชื่อเสียงซึ่งนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือนเพื่อชมความงามของธรรมชาติและแสงเหนือ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
HAMN I SENJA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
***หมายเหตุ ห้องพักที่ HAMN I SENJA เป็นแบบคละ TYPE / 2 ห้องนอน ขอสงวนสิทธิ์ให้ท่านที่จองเข้ามาก่อน ***
เซนญา - ทรอมโซ - ชมเมือง - ยอดเขาสโตนสไตเนิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองทรอมโซ (TROMSO) (ระยะทาง 200 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติก โดยมันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ถือว่าเป็นอีกเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงดงามของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญทั้ง แสงเหนือ และพระอาทิตย์เที่ยงคืนในดินแดนแถบนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวอย่างมากเลยทีเดียว
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ขั้วโลก (Polar Museum) อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในอาคารไม้สีแดง มีลักษณะคล้ายๆกับโกดังเก็บของ ตั้งอยู่บนท่าเทียบเรือ เป็นอีกหนึ่งอาคารแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1830 ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาค การสำรวจขั้วโลก รวมไปถึงพื้นที่ในแถบอาร์กติก นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในเขตอาร์กติก ซึ่งได้แก่ ปลาวาฬ หมีขั้วโลก และสิงโตทะเล
- จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารอาร์คติก (ARCTIC CATHEDRAL) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 อีกทั้งยังมีโครงสร้างโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการ สร้างมากจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ มหาวิหารอาร์คติกยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง หนึ่งของเมืองทรอมโซ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืน ได้อย่างชัดเจน จากนั้นเชิญท่านอิสระเดินเล่นตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านนั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN) เป็นยอดเขาสูงที่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกันโดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ
- อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
RADISSON BLU HOTEL TROMSO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ทรอมโซ - อัลตา - ฮอนนิ่งสแวก - นอร์ทเคป - ชมพระอาทิตย์เที่ยงคืน + รับประกาศนียบัตร
รับประทานอาหารเช้าแบบ ณ โรงแรมที่พัก
- 08.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินทรอมโซ
- 11.15 น. ออกเดินสู่เมืองอัลตา โดยสายการบิน WIDERØE เที่ยวบินที่ WF 922
**หมายเหตุไฟล์ทบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์แปลงแปลงตามความเหมาะสม**
- 12.40 น. เดินทางถึงสนามบินอัลตา นำท่านตรวจรับสัมภาระ
- นำท่านสู่ตัวเมืองอัลตา (ALTA) เมืองใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์ก เป็นที่รู้จักกันในหมู่ชาวประมงว่ามีแหล่งน้ำที่มีปลาแซลมอนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เป็นเมืองหน้าด่านของการมาสู่นอร์ธเคป เพื่อไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืน สามารถชมสถานที่ต่างๆ ในเมืองนี้
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ คาฟยอร์ด (KAFJORD) เพื่อลอดอุโมงค์ใต้ทะเลที่มีความยาวถึง 6,780 เมตร เพื่อเดินทางต่อสู่ เมืองฮอนนิ่งสแวก (HONNINGSVAG) (ระยะทาง 210 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม.) ซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่เหนือสุดของโลก ดินแดนทางภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นแคว้นกว้างใหญ่ซึ่งเป็นบริเวณแห่งทะเลน้ำแข็ง (ARCTIC CIRCLE) และเป็นดินแดนแห่ง พระอาทิตย์เที่ยงคืน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
SCANDIC HONNINGSVAG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
- 22.30 น. นำท่านออกเดินทางสู่ที่ตั้งของ ศูนย์นิทรรศการนอร์ธเคป ซึ่งตั้งอยู่บนปลายแหลมนอร์ธเคป ชมภาพถ่ายเกี่ยวกับการประพาสของรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2450 ซึ่งพระองค์ได้จารึกพระปรมาภิไธยบนก้อนหินขนาดใหญ่ ที่ปัจจุบันได้จัดแสดงไว้ให้ชาวไทยได้มีความภาคภูมิใจในพระปรีชาสามารถภายในพิพิธภัณฑ์สยาม ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศไทย รับฟังและชมเรื่องราวของปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในห้อง Auditorium ก่อนที่จะไปชมปรากฏการณ์จริงด้านนอก
- ต่อจากนั้นเฉลิมฉลองการพิชิตแหลมนอร์ธเคปด้วย Sparkling wine แกล้มด้วยไข่ปลาคาร์เวียเลิศรส แล้วรับมอบประกาศนียบัตร สําหรับผู้มาเยือน สมควรแก่เวลานําท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก
ฮอนนิ่งสแวก - KING CRAB SAFARI - อัลตา
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านสัมผัสประสบการณ์ใหม่ กิจกรรมการจับปูยักษ์ (KING CRAB SAFARI) ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก โดยการนั่งเรือ RIB BOAT ออกไป ปูยักษ์ (RED KING CRAB) เป็นปูมีขนาดใหญ่ความโดยวัดจากก้ามปูยาวได้ถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 กก. โดยประมาณ เจ้าหน้าที่จะโชว์วิธีการจับปูยักษ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์และปรุงเป็นอาหารมื้อกลางวัน (ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชม.)
รับประทานอาหารกลางวัน พิเศษ!!! ให้ท่านได้ลิ้มรส เนื้อปูยักษ์ แบบสดๆ และรับประทานกันอย่างเต็มอิ่ม
- นำท่านเดินทางสู่เมืองอัลตา (ALTA) เมืองใหญ่ที่สุดในฟินน์มาร์ก (ระยะทาง 210 กม.ใช้เวลา 3 ชม.)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
THON HOTEL ALTA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
อัลตา - ออสโล
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านชมโบสถ์แห่งแสงเหนือ (NORTHERN LIGHTS CATHEDRAL) โบสถ์สไตล์โมเดิร์นที่มีแสงเหนือเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่สนามบินเมืองอัลตา (ALTA)
- 15.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงออสโล โดยสายการบินสแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ SK4545
- 17.00 น. เดินทางถึงสนามบินออสโล นำท่านตรวจรับสัมภาระ
***หมายเหตุ ไฟล์ทบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง***
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
RADISSON BLU SCANDINAVIA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ออสโล - ชมเมือง
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านท่านเที่ยวชมเมืองออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ
- นำท่านชม สวนสาธารณะวิกเกอร์แลนด์ (VIGELAND SCULPTURE PARK) เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะประติมากรรม การแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ ผลงานของ ‘กุสตาฟ วิคเกอร์แลนด์ ‘ ปฏิมากรชื่อดัง โดยได้รับอนุญาตให้นำผลงานมาจัดแสดงอย่างถาวรในอุทยานฟรอกเนอร์ บาวท่านอาจเคยเห็นรูปของเสาโมโนลิท ที่เป็นรูปคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสา ที่ใช้เวลาสร้างรวม 22 ปี กลางสวนที่สูงถึง 17 เมตร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เชิญชมผลงานน้ำพุวงจรชีวิตที่มีความหมายสอนใจ โดยผลงานชิ้นเอกสูงถึง5.5ฟุต ชื่อ MONOLITTEN และรูปหล่อสำริด ชื่อ ANGRY LITTLE BOY อันถือว่าสัญลักษณ์ของกรุงออสโล
- จากนั้นนำท่านชม ปราสาทอาเคอรร์ชูส์ (Akershus Fortress) เป็นปราสาทในยุคกลางที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันเมืองออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ ปราสาทแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นฐานทางทหาร คุก และสถานที่ทางราชการต่างๆ การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ยังไม่รู้แน่ชัด แต่เชื่อว่าอยู่ในยุค 1290s โดยกษัตริย์โฮกุนที่ 5 แห่งนอร์เวย์ ซึ่งปราสาทแห่งนี้สามารถรอดจากการล้อมโจมตีโดยสวีเดนได้ทั้งหมด หลังปราสาทสร้างเสร็จ ช่วงปี 1300 กษัตริย์โฮกุนที่ 5 แห่งนอร์เวย์เริ่มอาศัยอยู่ในปราสาทแห่งนี้ และย้ายเมืองหลวงของนอร์เวย์จากแบร์เกนสู่ออสโล ทำให้ปราสาทนี้กลายเป็นพระราชวังสำหรับราชวงศ์อยู่หลายทศวรรษ หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ปี 1624 พระเจ้าคริสเตียนที่ 4 ก็ตัดสินใจสร้างเมืองใหม่ในออสโล โดยสร้างเมืองใกล้ๆกับปราสาทและปรับปรุงปราสาทใหม่ ปราสาทอาเคอรร์ชูส์เป็นพระราชวังจนถึงศตวรรษที่ 19
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง ณ ย่านถนนคนเดินคาร์ลโจฮันเกท (KARL JOHANGEN GATE) แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์ เป็นแหล่งทั้งย่านช้อปปิ้งและแหล่งพบปะของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนนอร์เวย์ ตั้งอยู่กลางกรุงออสโล มีสินค้าทุกสิ่งอย่างให้ได้เลือกช้อป ของฝากของขวัญที่น่าซื้อก็คือ ผลิตภัณฑ์จากขนสัตว์ น้ำมันปลา เนยแข็งเทียนไข และของที่ระลึก เช่น เรือไวกิ้ง หรือตุ๊กตา TROLL ตุ๊กตาพื้นบ้านของนอร์เวย์ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น สินค้าและ ของที่ระลึกต่างๆ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RADISSON BLU SCANDINAVIA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ออสโล - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินออสโล เพื่อทำการเช็คอินและทำ TAX REFUND
- 14.25 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 955
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 06.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ