ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (Christmas) 10 วัน
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (Christmas) 10 วัน
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 27 พ.ย. 67 - 6 ธ.ค. 67 | 185,900 บาท |
2 | 10 ธ.ค. 67 - 19 ธ.ค. 67 | 185,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมปราสาท Hohenzollen Castle เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดในเยอรมัน (UNSEEN)
- 2ชมหมู่บ้าน Rothenburg ob der Tauber หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของเยอรมัน เส้นทาง Romantic Road
- 3ชมหมู่บ้าน Colmar / Riquewihr / Eguisheim / Strasbourg แคว้นอัลซาสของฝรั่งเศส
- 4ชมหมู่บ้าน Gengenbach / Rottweil / Tubingen เมืองเส้นทางบ้านเรือนทรงไม้ (UNSEEN)
- 5ชมหมู่บ้าน Dinkelsbühl / Nordlingen หมู่บ้านสีลูกกวาดของเยอรมัน เส้นทางสาย Romantic Road (UNSEEN)
- 6ชมหมู่บ้าน Essingen an Neckar เมืองน่ารักสุด (UNSEEN)
- 7ชมเมือง Heppenheim เมืองเล็กๆน่ารัก อายุกว่า 1,000 ปี (UNSEEN)
- 8ชมเมือง Ulm เมืองที่มีโบสถ์เคยสูงที่สุดในยุโรป (UNSEEN)
- 9ชมเมือง Stuttgart และ พิพิธภัณฑ์รถยนต์ Porche Museum
- 10ชมเมือง Titisee เมืองทะเลสาบแห่งป่าดำเยอรมัน แหล่งผลิตนาฬิกากุ๊กกู ชื่อดัง
- 11ชมเมือง Heidelberg และปราสาท Heidelberg Castle ขึ้นชื่อว่า ปราสาทซากปรักหักพังที่สวยที่สุดในโลก
- 12ชมเมือง Frankfurt หนึ่งในเมืองธุรกิจของประเทศเยอรมัน
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์ยุโรป เยอรมัน – ฝรั่งเศส (เทศกาลตลาดคริสต์มาส)
เส้นทางโรแมนติค ป่าดำ – อัลซาส 10 วัน 7 คืน
โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพมหานคร
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 สายการบินไทย เคาน์เตอร์ H พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกโปรดสังเกตป้าย HAPPYLONGWAY
- 23.45 น. ออกเดินทางบินตรงสู่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 920
แฟรงก์เฟิร์ต - เฮพเพนไฮม์ - ไฮเดลเบิร์ก - โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์
- 06.00 น. เดินทางถึง สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี
- นำท่านเดินทางออกสู่เมือง เฮพเพนไฮม์ (Heppenheim) เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของเยอรมัน เป็นเมืองเก่าแก่กว่า 1,000ปี บ้านเรือนสไตล์ Half-Timbered house ที่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี (ระยะทาง 65 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที) เมืองเฮพเพนไฮม์ เป็นที่ตั้งของเขต Bergstraße ตั้งอยู่ริม Odenwald เป็นบ้านเกิดของ Sebastian Vettel แชมป์โลก Formula One สี่สมัย เป็นแหล่งปลูกองุ่นและผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียง
- นำท่านชมจัตุรัสเมืองเก่าอันสวยงาม ให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) (ระยะทาง 35 กิโลเมตรใช้เวลา 40 นาที) ตั้งอยู่ในรัฐ Baden-Wurttemburg ทางใต้ของแฟรงค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ (Neckar) โดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเชิงเขา
- นำท่านเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเขาแบร์กบาห์น ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความาเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม 30ปี และมาถูกเผาทำลายถึง 2ครั้งในปี 1689 และ 1693 ในสงครามกับฝรั่งเศส จึงเหลือตาซากปรักหักพัง และได้การยอมรับว่านี้คือซากปรักหักพังของปราสามที่สวยงามที่สุดในโลก
- นำท่านชมวิวจากจุดชมวิวบนตัวปราสาท ท่านจะมองเห็นเมืองไฮเดลเบิร์กได้อย่างสวยงาม
- นำท่านชมเก็บ ถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความจุราว 222,000ลิตร
- จากนั้นนำท่านลงสู่ตัวเมืองเก่าของไฮเดลเบิร์ก
- นำท่านชมสะพานเก่าอัลเทอบรุค (Alte Brucke) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเดินข้ามสะพานไปแล้วมองหันกลับมาท่านจะเห็นปราสาทไฮเดลเบิร์กสีชมพูอมแดงตั้งโดดเด่นเหนือตัวเมืองไฮเดลเบิร์ก
- นำท่านชมรูปปั้นลิง บนตัวสะพานที่มีความเชื่อว่าหากได้มาสัมผัสรูปปั้นลิงนี้จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่ จตุรัสมาร์คพลัทซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์ไฮลิก ไกสท์เคียร์เค่อ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นศิลปะแบบโกธิค
- นำท่านเดินเล่นถนนคนเดิน Hauptstrasse ถนนนี้เป็นถนนสายหลักของเมือง สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองส่วนใหญ่ก็ตั้งอยู่ตามสองข้างทางของเมืองให้ดูกันไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าเมื่อเป็นถนนสายหลัก สองข้างทางก็ต้องเต็มไปด้วยแหล่ง Shopping และของกิน
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 25 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
- จากนั้นนำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก (ระยะทาง 165 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274
- นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค
- นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองซื้อของฝากและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 29 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (NO PORTER)
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
โรเธนเบิร์ก - ดิงเกลส์บูล - เนิร์ดลิงเง่น - อูล์ม
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ดิงเกลส์บูล (Dinkelsbühl) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมืองท่องเที่ยวที่เก่าแก่แห่งแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ของประเทศเยอรมนี (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) ส่วนใหญ่มักถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและอาคารเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ด้วยสีสันและศิลปะในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จึงส่งผลให้ดิงเกลส์บูลเป็นเมืองที่น่ามาเยือนมากที่สุด
- นำท่านชมย่าน ไวน์มาร์ค (Weinmarkt) หรือไวน์ มาร์เก็ต (Wine Market) ซึ่งเป็นตึกเก่าเรียงตัวกันอยู่ 5 หลัง มีสีสันตัดกันตั้งแต่สีส้ม สีเขียว สีแดง สีเหลือง ซึ่งการทาสีบ้านในเมืองนี้เน้นการทาสีเดียว (single color) และเขียนชื่อธุรกิจไว้หน้าบ้านด้วยตัวหนังสือแบบลายมือ (calligraphy letter) ในสีเอิร์ธโทน (earth tone) นอกจากตามหน้าต่างจะมีการประดับด้วยกระถางไม้ดอกสีสดใสแข่งขันชูช่อออกดอกบานสะพรั่งแล้ว อีกเอกลักษณ์สำคัญของอาคารเก่าก็คือ หลังคาสีแดงสดที่เหมือนกันไปหมดทั้งเมือง ในส่วนของจุดเด่นของอาคารแถบนี้คงเป็นที่หน้าจั่วแบบขั้นบันได โดยตึกสีส้มที่อยู่ตรงหัวมุมจะมีลักษณะพิเศษเพิ่มนอกจากหน้าจั่วแล้วยังมีโดมเล็กๆ อยู่ด้านบนอีก ปัจจุบันเป็นโรงแรมที่ชื่อว่า อัลเดอร์เมน อินน์ (Aldermen’s Inn) ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นที่ประทับของบุคคลสำคัญๆ เช่น จักพรรดิ์คาร์ลที่ 5 (Emperor Karl V) เมื่อปี ค.ศ.1546 และกษัตริย์กุสตาฟ อดอล์ฟ แห่งสวีเดน เมื่อปี ค.ศ.1632 จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 28 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง เนิร์ดลิงเง่น (Nordlingen) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40นาที) ตั้งอยู่ในเขต Donau-Ries แคว้น Bavaria มีประชากรอาศัยอยูประมาณ 20,000 คน ผู้คนเหล่านี้อาศัยอยู่ในเมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยายแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นแอ่งตื้น เมืองก่อนยุคประวัติศาสตร์แห่งนี้แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในประเทศเยอรมนีก็คือ สถานที่ตั้งของเมืองซึ่งตั้งอยู่กลางหลุมอุกกาบาตขนาดมหึมาซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 กิโลเมตร อุกกาบาต Nördlinger Ries ลูกนี้พุ่งชนโลกเมื่อ 14.5 ล้านปีก่อน แต่เพิ่งมาถูกค้นพบต้นกำเนิดและประวัติของมันเมื่อประมาณ 50 ปีก่อนนี่เอง
- นำท่านชมเมืองเก่าแก่มีอายุเกือบ 1พันปี ตัวเมืองมีลักษณะเป็นวงกลมมีกำแพงเมือง สร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ.1327 หอคอย 11 แห่งและประตูเมือง 5 ประตูที่ล้อมเมืองไว้ สวยงามราวภาพวาด นำท่านเดินเล่นชมเมือง หรือท่านไหนสนใจขึ้นชมวิวเมืองจากมุมสูงสามารถขึ้นได้ ณ โบสถ์ใจกลางเมือง (ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์)
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 29 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง อูล์ม (Ulm) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำดานูบที่อยู่ทางใต้ของประเทศ เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปท่องเที่ยว เพราะนอกจากสวยงามแล้วเมืองแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.850 แล้ว ยังเป็นบ้านเกิดของนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์อีกด้วย
- นำท่านชม วิหารอูล์ม (Ulm Munster) ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเมือง สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในโลกโดยมีความสูงที่ 161.53 เมตร เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งสูงมาก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนของเมืองก็จะเห็นยอดโบสถ์ตั้งเด่น สง่า อย่างชัดเจน
- จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสเมืองเก่า Marktplatz คือศาลากลางโกธิคที่สวยงาม (Rathaus) ที่มีภาพเฟรสโกตั้งแต่ปีพศ. 1540 เคยเป็นห้างสรรพสินค้าในยุคกลางและเป็นที่ตั้งของร้านค้าและช่างฝีมือต่างๆ ที่หลากหลายก่อนที่จะกลายเป็นศาลากลางจังหวัดซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ของอาคาร ได้แก่ การจำลองนาฬิกาดาราศาสตร์ในศตวรรษที่ 16 และน้ำพุที่สวยงามซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Fischkasten (ถังเก็บปลา) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีค. ศ. 1482 ซึ่งตั้งอยู่ด้านนอกอาคาร
- จากนั้นนำท่านชมย่านชุมชนเก่าแก่ ชาวประมง Tanners ‘Quarter ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำBlau ซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำดานูบ โดยยังมีบ้านไม้ขนาดครึ่งหลังที่ได้รับการบูรณะอย่างยอดเยี่ยมอีกทั้งยังมีการเชิญชวนให้ตรอกซอกซอยที่แคบและสะพานจำนวนมาก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 25 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
MARITIM HOTEL ULM หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
อูล์ม - เอสลิงเก้น - ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น - ชตุตการ์ต
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เอสลิงเก้น อัม เน็คคาร์ (Essingen an Neckar) (ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ เมืองแห่งนี้มีการพัฒนามาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน ทำให้ขนาดเมืองนี้ค่อนข้างใหญ่ โดยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น สิ่งทอ อาหาร เหล็ก เอสลิงเก้น ได้รับความเสียหายบางส่วนจากเหตุสงครามโลกครั้งที่2 แต่ในเขตเมืองเก่านั้นได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี
- จากนั้นนำท่านชม St. Agnes Bridge สะพานข้ามคลอง Roßneckarkanal ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1893 ที่ด้านหลังเป็น Stadtkirche St. Dionys หรือ Church of St. Dionys โบสถ์คริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ยุคโกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง
- จากนั้นนำท่านเข้าสู่จัตุรัสเก่ากลางเมือง Altes Rathaus ศาลาว่าการหลังเก่าที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 ถึงจะเก่าแต่ก็ยังสมบูรณ์งดงามมีเอกลักษณ์ ที่หน้าปัดนาฬิกาสีทองคลาสสิกจะมีนกอินทรีออกมากระพือปีกทักทายทุกๆ ต้นชั่วโมง ดูไปดูมาแล้วก็คล้ายกับนาฬิกากุ๊กกูเรือนยักษ์
- จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 26 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่ตั้งของ ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Castle) (ระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 15 นาที) รัฐ บาเดิน-เวิอร์ทเทมแบร์ก (Baden – Wurttemberg)
- นำท่าน เข้าชมด้านในของปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ปราสาทแห่งนี้เป็น 1 ใน 8 ปราสาทเทพนิยายของประเทศเยอรมัน และถือเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดของเยอรมัน โดยปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์นตั้งตระหง่านอยู่เหนือชนบทของ Zollemalb ที่ความสูง 855 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ปราสาทแห่งนี้เป็นบ้านของราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างในศตวรรษที่ 11 ต่อมาได้ถูกทำลายลงในปี ค.ศ.1423 และสร้างขึ้นใหม่ถึงสองครั้ง โดยรูปแบบปัจจุบันเป็นผลงานจากสมัยศตวรรษที่ 19 ตอนปลาย ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักประจำของราชวงศ์ปรัสเซีย และเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์น ในปัจจุบันมีการปรับใช้ปราสาทให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยเป็นทั้งโรงละครแบบเปิด สถานที่จัดคอนเสิร์ต ปัจจุบัน แต่ละปีมีมีผู้คนมาเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าปีละ 300,000 คน จึงเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีคนมาเยี่ยมชมอันดับต้นๆ ของประเทศเยอรมัน
- นำท่านชม Royal Winter Magic เป็นการตกแต่ง การแสดงแสงไฟอันมหัศจรรย์และวิจิตรบรรจง ทั้งภายในและภายนอกปราสาท
***เปิดให้เข้าชมช่วงเวลา 15.00 – 20.00 น.ช่วงระหว่าง วันที่ 22 พ.ย. 2567 – 6 ม.ค. 2568 ***
- นำท่านเดินทางสู่ ชตุตการ์ต (Stuttgart) (ระยะทาง 66 กม. ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) คือเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ Baden-Württemberg ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Neckar เป็นต้นกำเนิดของรถยนต์ในยุคแรก ๆ มีบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ,พอร์เช่ ,มายบัค รวมถึงรถต้นแบบคันแรกของโฟล์คสวาเกน เช่นกัน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
MARITIM HOTEL STUTTGART หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
ชตุตการ์ต - ทือบิงเงิน - ชตุตการ์ต
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ทือบิงเงิน (Tubingen) (ระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เป็นเมืองมหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งทางตอนกลางของรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองหลวงของรัฐ ตั้งอยู่บนฝั่ง “แม่น้ำเนคคาร์”และ”แม่น้ำอัมเมอร์ “ เป็นเมืองมหาวิทยาลัย ที่มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 88,000 คนและนักศึกษาประมาณ 28,000 คนผสมผสานกลิ่นอายของใจกลางเมืองยุคกลางที่ได้รับการบูรณะอย่างน่ารักเข้ากับความเร่งรีบและ สร้างความคึกคัก และสีสันของให้ชีวิตนักศึกษาเมืองเล็กๆแห่งนี้ เมืองที่มีหลักฐานเชื่อได้ว่ามีการตั้งรกรากกันมาตั้งแต่1,200 ปีก่อนคริสตกาล และนักประวัติศาสตร์ก็ค้นพบหลักฐานว่าที่นี่เคยเป็นที่อยู่ของชาวโรมันมาก่อนในราวปีคริสต์ศักราที่ 85 นี้เป็นที่อยู่ของชนเผ่า Alamanni หรือชาวเยอรมันพื้นเมืองที่อยู่ทางเหนือของแม่น้ำไรน์มาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 6 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเมืองนี้กลับเป็นไม่กี่เมืองของเยอรมันที่ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เลย อันเป็นผลมาจากการที่เมืองนี้ไม่มีอุตสาหกรรม
- นำท่านถ่ายรูปบนสะพาน Eberhardsbrucke สะพานข้ามแม่น้ำ Neckar สู่ตัวเมือง โดยมีบ้านเรือนสีสันสวยงามตั้งเรียงรายเป็นฉากหลัง
- จากนั้นนำท่านเข้าสู่จตุรัสกลางเมืองเก่า Marktplatz ที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง Rathaus ให้ท่านได้ชื่นชมความสวยงาม อิสระให้ทุกท่านเดินชมเมืองหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองชตุตการ์ต (ระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) จากนั้นนำท่านเดินเล่นช้อปปิ้งถนน KoenigStrasse เป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยร้านค้าทุกประเภท เป็นแหล่งย่านช้อปปิ้ง รวมทั้งบาร์ ร้านอาหาร คาเฟ่ ฯลฯ ที่สำคัญของเมือง อิสระท่านตามอัธยาศัย
- นำท่านชม จตุรัสลอสส์พลาทซ์ (Schlossplatz) เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในชตุทท์การ์ท ปัจจุบันจัตุรัสกลางแห่งนี้มีอาคารประวัติศาสตร์ล้อมรอบ มีอนุสาวรีย์กระจายอยู่ทั่วไป มีการออกแบบที่สมมาตรโดยมีสนามหญ้าหลายแห่งตัดกับทางเดินกว้าง ตรงกลางมีอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะที่เป็นเสาสูง ซึ่งประดับด้านบนด้วยรูปปั้นคองคอร์เดียเคลือบทอง ด้านข้างอนุสาวรีย์มีน้ำพุประดับทั้งสองข้าง ซึ่งน้ำพุนี้เป็นจุดไฮไลท์ของจัตุรัสแห่งนี้ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยียมชมเป็นจำนวนมาก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 27 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
MARITIM HOTEL STUTTGART หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ชตุตการ์ต - ร๊อตไว - ทิทิเซ่ - ไฟรบวร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ร๊อตไว (Rottweil) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐ Baden-Wirttemberg ประเทศเยอรมนี เป็นรัฐอิสระกว่า 600ปี เมืองนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ในสมัยที่กองทัพโรมันเดินทางผ่านเส้นทางแถบนี้ เมื่อสงครามจบก็เริ่มก่อตั้งปักถิ่นฐานเป็นที่อยู่อาศัย และขยับขยาย จนเป็นเมืองในปัจจุบัน ร็อตไว (Rottweil) ได้รับการยอมรับเป็นเมืองแห่งแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐนี้
- นำท่านเดินเล่นชมเมือง ท่านได้ได้พบการบ้านเรือนสีสันลูกกวาดสุดน่ารัก และยังมีรูปปั้นสุนัขไปทั่วเมืองเพราะเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler) ที่เป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลกในด้านพละกำลังและความดุดัน ซึ่งตั้งแต่โบราณสุนัขพันธุ์นี้มีความสำคัญอย่างมากต่อชาวเมืองในการใช้ขนของหรือลากรถเพื่อนำสินค้าและเครื่องอุปโภคบริโภคขึ้นมาบนเมืองนี้ ที่นี่จึงมีพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติและข้อมูลสำคัญของสุนัขพันธุ์นี้ตั้งอยู่ด้วย
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิทิเซ่ (TITISEE) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เขตป่าดําตอนใต้ (SOUTH BLACK FOREST) เมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางป่าสนอันอุดมสมบูรณ์และทะเลสาบสุดสวย
- นําท่านชมทะเลสาบที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ทะเลสาบทิทิเซ่ (TITISEE LAKE) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในป่าดํามีความยาว 2 กิโลเมตร และมีความกว้าง 700 เมตร ท่านจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติที่ห้อมล้อมทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยติดอันดับในทวีปยุโรปอีกด้วย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านทิทิเซ่ หมู่บ้านเล็กๆน่ารักริมทะเลสาบแสนสวย
- ให้ท่านได้เลือกซื้อหรือชมนาฬิกากุ๊กกู เป็นของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ไฟรบวร์ก อิมไบรส์เกา หรือ ไฟรบูร์ก อิม ไบรส์เกา (Freiburg im Breisgau) (ระยะทาง 35 กม. ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวมากเมืองหนึ่งของประเทศเยอรมนี (German) โดยเมืองถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1120 และเป็นหนึ่งในเมืองแห่งตลาดเสรีที่มีชื่อเสียงและมีความเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของประเทศ เมืองไฟรบวร์ก เป็นเมืองขนาดกลางที่ตั้งอยู่ใจกลางของศูนย์กลางการทำไวน์ โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ อยู่ระหว่างแม่น้ำไดรซัม (Dreisam River) ที่เชิงเขาด้านตะวันตกสุดของแบล็กฟอเรสต์ หรือ ป่าดำ ( Black Forest) โดยภายในเมืองยังเป็นที่ตั้งของมหาวิหารยุคกลางและมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ปัจจุบันเมืองไฟรบวร์ก กลายเป็นเมืองเก่าที่มีชื่อเสียงด้านความสวยงาม และยังเป็นเมืองที่มีแดดและอบอุ่นที่สุดในเยอรมนีอีกด้วย
- นำท่านชมโบสถ์ Freiburg Muenster เป็นโบสถ์ใหญ่ประจำเมืองที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 313 ปี และมีความสูงถึง 116 เมตร โบสถ์นี้รอดพ้นจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ตัวเมืองถูกทำลายลงถึง 90%
- จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมืองเก่า บริเวณจัตุรัสที่ Münster อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 และใช้สำหรับจัดเก็บสินค้าและเคลียร์ด่านศุลกากร สินค้าเคยถูกเก็บไว้ในลานภายใน 300 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันใช้สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- จากนั้นนำท่านเดินเล่นถนนที่สวยสุดของเมืองที่เรียกว่า Konviktstrasse เป็นบริเวณที่มีร้านค้ามากมาย มีไม้เลื้อยขึ้นตามบ้าน ทำให้ถนนเส้นนี้น่ารักยิ่งขึ้นไปอีก ละถือเป็นไฮไลท์ของเมืองแห่งนี้คือ รางน้ำเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมถนนเกือบทุกเส้นในเมือง สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางเป็นที่ระบายของเสียดับไฟ และใช้ป้องกันไม่ให้ไฟลามตอนเกิดไฟไหม้ และให้สัตว์ได้ดื่มกิน ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นที่นั่งเล่นของเด็กๆในฤดูร้อน
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 21 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
COURTYARD FREIBURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
ไฟรบวร์ก - เจนเก้นบาค - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เจนเก้นบาค (Gengenbach) (ระยะทาง 90 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนีใกล้ป่าดำ เป็นเมืองที่มีความสวยงามตามแบบฉบับของเมืองเยอรมันแบบดั้งเดิมจึงได้รับเลือกให้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์เช่น ‘Charlie and the Chocolate Factory’ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้คือ อัญมณียุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ถนนสายหลักสามสาย Hauptstrase, Adlergrasse และ Victor Kretz Strase ตรอกซอกซอยเล็ก ๆ เริ่มต้นจากถนนทั้งสามแห่งนี้ซึ่งสามารถเดินทางได้ด้วยการเดินเท้าหรือขี่จักรยานเท่านั้นซึ่งจะทำให้มีความสงบมากขึ้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองอิมพีเรียลเสรีในอดีตซึ่งหมายความว่ามีอิสระทางการค้าในการจัดเก็บภาษี ปัจจุบันเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ด้วยเสน่ห์ที่ทำให้มีผู้มาเยือนมากมาย
- นำท่านชมตรอก Engelgasse เป็นตรอกที่สวยงามที่สุดในเมือง จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 30 พ.ย. – 23 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส(Alsace)ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม La Petite France (ปารีสน้อย)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- ท่านชมเขต La Petite France ของเมืองสตราสบูร์ก ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
- นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 27 พ.ย. – 27 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส Noel en Alsace หนึ่งในสถานที่จัดตลาดคริสมาร์ตที่สวยอันดับต้นๆ ของยุโรป และสวยที่สุดของฝรั่งเศส
ตลาดคริสต์มาสที่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) นั้น ตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1570 หรือเกือบ 450 ปีที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเป็นเมืองหลวงของตลาดคริสมาสต์ยุโรป (The Capital of Christmas Market) และยังถือเป็นเมืองที่จัดตลาดคริสมาร์ตที่สวยและเก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส
- อิสระให้ทุกท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
NOVOTEL STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2คืน)
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
สตราสบูร์ก - ริคเวีย - เอกิซไฮม์ - กอลมาร์ - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นได้เวลานำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์
- นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูป
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 30 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส Noel en Alsace
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Eguisheim) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) Les Plus Beaux Village de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Villageมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึงปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่ ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 29 พ.ย. – 30 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส Noel en Alsace
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร
- จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1 ใน 10 เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาสและยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ
- เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบ Half – Timber และบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง ด้วยบรรยากาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลก
- เดินทางมาฮันนีมูนที่นี่ นำท่านเดินชมเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง
- จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 26 พ.ย. – 29 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส Noel en Alsace หนึ่งในสถานที่จัดตลาดคริสมาร์ตที่สวยอันดับต้นๆ ของยุโรป
- อิสระให้ท่านเดินชมตลาดคริสมาร์ต ตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
NOVOTEL STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
สตราสบูร์ก - แฟรงค์เฟิร์ต
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน (ระยะทาง 215 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2.45 ชม.)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER) ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียด
- นำท่าน ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม (GERECHTIGKEITSBRUNNEN) ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน
- ผ่านชมโบสถ์เซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมืองอิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 25 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2567 ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
สุวรรณภูมิ - กรุงเทพ ฯ
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ