ทัวร์ฟินแลนด์ แลปแลนด์ 11 วัน



รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ฟินแลนด์ แลปแลนด์ 11 วัน

รหัสทัวร์ : EXCLUSIVE FINLAND - NORWAY LAPLAND - LOFOTEN ISLAND - KIRKENES 12 DAYS (AY)
ระยะเวลา 12 วัน 10 คืน
สายการบิน :

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 12 ธ.ค. 67 - 23 ธ.ค. 67 319,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    พักโรงแรมกระจก GLASS IGLOO 1 คืน (สะดวกสบายมีห้องอาบน้ำในตัว) ประเทศฟินแลนด์
  • 2
    พัก Seaside Glass Villa 1 คืน (สะดวกสบายมีห้องอาบน้ำในตัว) ประเทศฟินแลนด์
  • 3
    เรือตัดน้ำแข็ง SAMPO ICE BREAKER + ลอยตัวในทะเล ประเทศฟินแลนด์
  • 4
    สัมผัสความสวยงาม หมู่เกาะโลโฟเทน (LOFOTEN ISLANDS) ประเทศนอร์เวย์
  • 5
    ชมหมู่บ้าน HAMNOY หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน
  • 6
    ชมหมู่บ้าน REINE หนึ่งในหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน
  • 7
    ชมหมู่บ้าน Å เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่แหลมปลายสุดของหมู่เกาะโลโฟเทน
  • 8
    กิจกรรมจับปูยักษ์ KING CRAB SAFARI
  • 9
    นำท่านออกล่าแสงเหนือด้วย HEATING SLEDGE
  • 10
    ชมหมู่บ้านซานตาครอส SANTA CLAUS VILLAGE
  • 11
    สนุกสนานกับกิจกรรมการขับ SNOW MOBILE
  • 12
    สนุกสนานกับกิจกรรมการ นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์
  • 13
    สนุกสนานกับกิจกรรมการ นั่งสุนัขลากเลื่อน Husky
  • 14
    ชมแกะสลักน้ำแข็ง SNOW EXPERIENCE 365
  • 15
    ชมเมืองโรวาเนียมี
  • 16
    ช้อปปิ้ง เฮงซิงกิ

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์ฟินแลนด์ – นอร์เวย์

พัก GLASS IGLOO 1 คืน + SEASIDE GLASSVILLA 1 คืน
เรือตัดน้ำแข็ง ICE BREAKER – นอร์เวย์ – ทรอมโซ่ – หมู่เกาะโลโฟเทน
โดยสายการบินฟินแอร์ (AY)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์) - ทรอมโซ่

  • 05.00 น.คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ G สายการบินฟินแอร์ (AY) พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
  • 08.00 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 144
  • 15.30 น. เดินทางถึงทางอากาศนานาชาติเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 16.20 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินทรอมโซ่ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 937
  • 17.20 น. เดินทางถึง สนามบินทรอมโซ่ ประเทศนอร์เวย์ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ที่พัก

**หมายเหตุ ไฟล์ทบินอาจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับความเหมาะสม***

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCANDIC ISHAVSHOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว 

DAY2

ทรอมโซ่ - ชมเมือง - ล่าแสงเหนือ

 รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านชมเมืองทรอมโซ (TROMSO) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติก โดยมันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ถือว่าเป็นอีกเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงดงามของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญทั้ง แสงเหนือ และพระอาทิตย์เที่ยงคืนในดินแดนแถบนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวอย่างมากเลยทีเดียว
  • จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารอาร์คติก (ARCTIC CATHEDRAL) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 อีกทั้งยังมีโครงสร้างโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการ สร้างมากจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ มหาวิหารอาร์คติกยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง หนึ่งของเมืองทรอมโซ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืน ได้อย่างชัดเจน จากนั้นเชิญท่านอิสระเดินเล่นตามอัธยาศัยIn Pictures: The Arctic Cathedral of Tromsø - Life in Norway

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • จากนั้นนำท่านนั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN) เป็นยอดเขาสูงที่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกันโดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง                                                                    Tromsø: Arctic Panorama Fjellheisen Cable Car Ticket | GetYourGuide

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCANDIC ISHAVSHOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว 

พิเศษ หลังอาหารค่ำ  นำท่านร่วมกิจกรรมสุดพิเศษล่องเรือชมแสงเหนือ (Aurora Cruising) ด้วยเรือพลังงานไฟฟ้าแบบ hybrid-electric เรือจะนำท่านออกจากฝั่งไปยังบริเวณที่สามารถมองเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน (ที่ห่างไกลจากแสงไฟของตัวเมือง) ภายในเรือจะมีเครื่องดื่มและอาหารว่างไว้คอยบริการทุกท่าน ** หมายเหตุ โปรแกรมอาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามความเหมาะสม**

โดยปรากฏการณ์แสงเหนือ NORTHERN LIGHT (AURORA BOREALIS) เป็นปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเขตบริเวณขั้วโลกเหนือในกลุ่มประเทศที่อยู่ในเขตอาร์กติก เซอร์เคิล โดยมีประเทศ ไอซ์แลนด์ รวมอยู่ ด้วย และถือเป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้ยาก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ, ค่า KP , สถานที่เกิด , มักจะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากเป็นแสงที่มาจากช่วงชั้นบรรยากาศ โดยจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาฟ้าเปิด  และอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน  – กลางเมษายน ของทุกปี ****

DAY3

ทรอมโซ่ - นาร์วิค - สโววาร์

 รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนาร์วิค (NARVIK) (ระยะทาง 230 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม. 30 นาที) เมืองทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่แวดล้อมด้วยภูเขาและทะเลอันกว้างใหญ่ มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นที่การเล่นสกีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการดูแสงเหนือ พร้อมกับแนวชายฝั่งฟยอร์ดและวิวภูเขาที่รายล้อมเมืองอย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสอีกด้วย

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองสโววาร์ (SVOLVAER) (ระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม. 30 นาที) หมู่เกาะโลโฟเทน (LOFOTEN ISLANDS) ตั้งอยู่ที่เมือง NORDLAND ประเทศนอร์เวย์          Lofoten Islands, Norway Travel Guide
  • เป็นหมู่บ้านของชาวประมงที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการหาปลาในช่วงฤดูหนาว และทำปลาตากแห้งส่งออกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เอกลักษณ์ที่สำคัญของหมู่เกาะแห่งนี้ก็คือ กระท่อมสีแดงแบบดั้งเดิม (RORBUER) ของชาวประมงที่กลายเป็นสีสันริมชายฝั่ง ที่ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับการดูแสงเหนือที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ เนื่องจากความมหัศจรรย์  ทางธรรมชาติที่ถูกเสกสร้างมาอย่างพิถีพิถัน มีผืนน้ำสีฟ้าคราม ท้องฟ้าสีใส ภูเขาสูงตระหง่าน แทรกแซมด้วยบ้านชาวประมงทรงสวยแปลกตา นับว่าเป็นเมืองสวยท่ามกลางธรรมชาติที่ดูคล้ายเมืองในจินตนาการมากกว่าความจริง                                                          9 reasons to visit Lofoten in the winter time

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
THON HOTEL LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า

**หมายเหตุ ที่พักบนเกาะโลโฟเทนมีจำกัดและห้องพักโรงแรมบางแห่งอาจมีขนาดเล็ก ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง**

DAY4

สโววาร์ - หมู่บ้าน Å - รีนน์ - ภูเขา Hammarskaftet - ซาคริเซย - แฮมนอยด์ - สโววาร์

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านชม หมู่บ้าน Å (ระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชม.) เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดบนหมู่เกาะ LOFOTEN อันเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว                                                                                                        Lofoten Islands Road Trip: Winter Photography Guide | Travel instagram accounts, Travel instagram, Lofoten
  • นำท่านถ่ายรูปกับ พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (NORWEGIAN FISHING VILLAGE MUSEUM) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะโลโฟเทน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสถานที่ต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม อาทิ โรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอด (COD LIVER OIL FACTORY), ร้านขายเบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ (หมายเหตุ : ร้านค้าและโรงงานต่างๆ อาจปิดทำการเนื่องจากวันหยุด เทศกาลโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)                                                                                                              Norwegian Fishing Village Museum" Images – Browse 33 Stock Photos, Vectors, and Video | Adobe Stock
  • ให้ท่านได้เดินเล่นชมหมู่บ้าน และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
  • จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองรีนน์ (REINE) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 นาที) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ระหว่างสองข้างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันสวยงามแปลกตาไปตามถนนสาย E10 ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักสายเดียวของหมู่เกาะโลโฟเทน
  • นำท่านเดินทางผ่านถนนเส้นเล็กๆเชื่อมต่อระหว่างเกาะเล็กเกาะน้อย ข้ามสะพานต่างๆ จนกระทั่งเดินทางถึง เมือง REINE ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง และถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ                            9 reasons to visit Lofoten in the winter time

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านแวะหมู่บ้าน Horn (ระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลา 5 นาที) แวะถ่ายรูปกับยอดภูเขา Hammarskaftet เป็นชื่อของภูเขายอดแหลมรูปกรวยคว่ำ เป็นจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด                  Premium Photo | Splendid winter sunny view on hammarskaftet mountain peak with footbridge above gravdalbukta bay
  • นำท่านแวะถ่ายรูปกับหมู่บ้านซาคริเซย (Sakrisøy) (ระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลา 5 นาที) หนึ่งในหมู่บ้านชาวประมง น่ารักๆ มีสีเหลืองของบ้านเรือนเป็นจุดเด่น อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย        Olstind Cabins, Sakrisøy, Lofoten, Norway | UK & Internation… | Flickr
  • นำท่านเที่ยวชมหมู่บ้านแฮมนอยด์ (Hamnoy) (ระยะทาง 2 กิโลเมตร ใช้เวลา 5 นาที) หมู่บ้านชาวประมงที่ปรากฏอยู่ในโปสการ์ดโลโฟเทน ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้บ่อยตามร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ภาพหมู่บ้านชาวประมงหลากสี พร้อมวิวของเทือกเขาสูงเป็นฉากหลังนับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้านแฮมนอยด์ตามอัธยาศัย      Lofoten Islands Road Trip: Winter Photography Guide • Expert Vagabond
  • นำท่านเดินทางสู่ นัสฟยอร์ด (Nusfjord) (ระยะทาง 36 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที) อีกหนึ่งเมืองเล็กๆน่ารักๆแห่งหมู่เกาะโลโฟเทน ให้ท่านได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันแปลกตา ภูเขาสลับแม่น้ำและทะเลสาบที่ สะท้อนภาพเทือกเขาบนผืนน้ำ
  • นำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านชาวประมงนัสฟยอร์ด (Nusfjord Fisherman Village) ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดียิ่งอีกแห่งของ นอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้มีการรังสรรค์หมู่บ้านหลากสีสัน ทั้งแดง เหลือง เขียว และยังคงอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้ อย่างดียิ่งNusfjord authentic fishing village in winter. lofoten islands, norway photo – Mountain Image on Unsplash
  • อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย หรือจะนั่งเล่น จิบกาแฟ ชื่นชมกับธรรมชาติของเมืองนี้ นอกจากนี้ เมืองนัสฟยอร์ดยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ที่พัก (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที)
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สโววาร์ (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลา 1.20 ชม.)

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
THON HOTEL LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า

**หมายเหตุ ที่พักบนเกาะโลโฟเทนมีจำกัดและห้องพักโรงแรมบางแห่งอาจมีขนาดเล็ก ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง***

DAY5

สโววาร์ - คาเบลวัก - HENNINGSVAER - เลกเนส - นาร์วิค

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเดินทางสู่ คาเบลวัก (Kabelvag) (ระยะทาง 6 กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที) เป็นหมู่บ้านชุมชนชาวประมงเก่าแก่แห่งแรกๆในหมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสโววาร์
  • นำท่านชมหมู่บ้านน่ารักตามสไตล์นอร์เวย์แท้ๆ ชม โบสถ์วาแกน (Vagan Church) โบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดบนหมู่เกาะโลโฟเทน จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร                                                                    Lofotkatedralen | The church seats about 1,200 people, makin… | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเฮนนิ่งสวาร์ (HENNINGSVAER) (ระยะทาง 20 กิโลเมตร ใช้เวลา 30 นาที) เป็นเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงประมงกันอยากคึกคัก เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากันมาแวะเวียน ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือบ้านชาวประมงสีแดง (RORBUER) ตั้งอยู่ริมทะเล มีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย เป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย ให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย                                                                                                                Henningsvær - Wikipedia
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองเลกเนส (LEKNES) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.) อีกหนึ่งเมืองสวยอันขึ้นชื่อของหมู่เกาะ LOFOTEN นำท่านเดินเล่นชมเมือง และเก็บภาพความประทับใจ อีกหนึ่งเมืองสวยอันขึ้นชื่อของหมู่เกาะโลโฟเทน                                                                                                  From Leknes: Private Lofoten Islands Tour with Transfer | GetYourGuide

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (LOFOTR VIKING MUSEUM) เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะโลโฟเทน มีการค้นพบว่าเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งที่แสดงเรื่องราว และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งไว้มากมาย ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้ง ให้ท่านชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง และพายเรือไวกิ้งโบราณ ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ เมื่อไปเยือนพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งแห่งนี้  Enter the World of the Vikings in Lofoten - Visit Northern Norway
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนาร์วิค (NARVIK) (ระยะทาง 230 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม. 30 นาที)

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองที่ FJELLHEISRESTAURANTEN พร้อมชมวิวบรรยากาศมุมสูงของเมืองนาร์วิค
SCANDIC HOTEL NARVIK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

**หมายเหตุ ที่พักมีจำกัดและห้องพักโรงแรมบางแห่งอาจมีขนาดเล็ก ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง**

DAY6

นาร์วิค - เคิร์กเคเนส - SNOW HOTEL - จับปูยักษ์ KING CRAB SAFARI

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินอีฟเนส
  • 08.45 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเคิร์กเคเนสโดยสายการบิน…. เที่ยวบินที่ WF864/932 (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 12.00 น. เดินทางถึงสนามบินเคิร์กเคเนส นำท่านตรวจรับสัมภาระ

***หมายเหตุ ไฟล์ทบินอาจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับความเหมาะสม***

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • นำท่านชม เมืองเคิร์กเคเนส (KIRKENES) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ในเขตอาร์คติดเซอร์เคิล (ATCTIC CIRCLE) ซึ่งมีเขตติดกับประเทศรัสเซีย และยังเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคบาเรนส์ (BARENTS) เป็นอีกเมืองหนึ่งของนอร์เวย์ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ สุนัขลากเลื่อน, กวางลากเลื่อน, SNOW MOBILE, กิจกรรมจับปูยักษ์ (KING CRAB SAFARI), การตกปลาในน้ำแข็ง, การนอนใน SNOW HOTEL และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้เลือกทำกัน
  • นำท่านชม โรงแรมหิมะ (SNOW HOTEL) ซึ่งทำมาจากน้ำแข็งและหิมะ เปิดทำการในปี 2006 ซึ่งจะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวในเดือนธันวาคม – เดือนเมษายนเท่านั้น ภายในโรงแรมและห้องพักถูกตกแต่งด้วยปะติมากรรมน้ำแข็งและหิมะเป็นรูปแบบต่างๆ บาร์ เตียงโต๊ะและเก้าอี้เป็นน้ำแข็ง โดยจะมีการรักษาอุณหภูมิไว้ที่ -4 องศาเซลเซียส ซึ่งภายนอกอาจติดลบได้ถึง -30 องศาเซลเซียส                                                                                                                                                      Top 10: coolest ice & snow hotels in the world - the Luxury Travel Expert
  • อิสระให้ท่านชมโรงแรมหิมะตามอัธยาศัย
  • นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ กิจกรรมการจับปูยักษ์ (KING CRAB SAFARI) ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก โดยจะนำท่านนั่งรถลากเลื่อนโดย SNOWMOBILE ไปยังบริเวณทะเลสาบน้ำแข็งและเจาะช่องว่างน้ำแข็งเพื่อนำ ปูยักษ์ (RED KING CRAB) ที่อยู่ในกระชังขึ้นมา ปูยักษ์มีขนาดความโดยวัดจากก้ามปูยาวถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 กก. โดยประมาณ เจ้าหน้าที่จะโชว์วิธีการจับปูยักษ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์และปรุงอาหารมื้อ                                                                      King Crab Safari Winter Safari - Lapland North

พิเศษ!!! ให้ท่านได้ลิ้มรส เนื้อปูยักษ์ แบบสดๆ และรับประทานกันอย่างเต็มอิ่ม

THON HOTEL KIRKENES หรือระดับเทียบเท่า

**หมายเหตุ ที่พักเมืองเคิร์กเคเนสมีจำกัดและห้องพักโรงแรมบางแห่งอาจมีขนาดเล็ก ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง***

DAY7

เคิร์กเคเนส (นอร์เวย์) - ขับ SNOW MOBILE + นั่งสุนัข Husky Sledge - ซาลิเซลก้า พิเศษ : นำท่านล่าแสงเหนือโดยการนั่ง HEATING SLEDGE

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองซาลิเซลก้า (Saariselka) เมืองท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์มีชื่อเสียง อย่างมากทางด้านที่พักและรีสอร์ท (ระยะทาง 260 กิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชม.)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าประทับใจในการขับขี่รถ SNOW MOBILE พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะหรือทุ่งน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนานและปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวแบบสโนว์โมบิลซาฟารี โดยทางบริษัทฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า      Snowmobile - Wikipedia
  • จากนั้นนำท่าน นั่งสุนัขลากเลื่อน Husky Sledge ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีมายาว นานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ฮัสกี้จึงได้กลายมาเป็นสุนัขลากเลื่อนพันธุ์แท้ ที่มีประสิทธิภาพในการลากเลื่อนสูงสุดในบรรดาสุนัขลากเลื่อนทั้งหมด นอกจากนี้สุนัขลากเลื่อนยังเป็นกีฬายอดนิยม โดยมี มัชเชอร์ (Musher) เป็นผู้บังคับเลื่อนในการแข่งขันแต่ละครั้งจนแพร่หลายไปยังหลายประเทศแถบขั้วโลก ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์สุนัขลากเลื่อน ณ ดินแดนแห่งนี้                                                                                        Where to go Dog Sledding in Europe? | Manawa

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตคารของโรงแรมที่พัก

KULTAHIPPU HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

**พิเศษ นำท่านล่าแสงเหนือโดยการนั่ง HEATING SLEDGE (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) หากไม่สามารถออกล่าแสงเหนือโดย HEATING SLEDGE ได้ ทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงยานพาหนะ ทั้งนี้การตามล่าหาแสงเหนือ ไม่อาจยืนยันได้แน่นอน ว่าท่านจะพบเห็นแสงเหนือทุกครั้งที่ออกเดินทาง เนื่องจากการเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การเกิดแสงเหนือ ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆ สภาพท้องฟ้า ก้อนเมฆ และค่าชี้วัดการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก (KP INDEX) ซึ่งค่า KP จะมีความแน่นอนต่อเมื่อเช็คค่าชี้วัด 2-3 ชั่วโมงล่วงหน้าเท่านั้น**

** ท่านไหนไม่อยากออกไปล่าแสงเหนือ  สามารถชมภายในบริเวณรีสอร์ทยามค่ำคืนปลอดแสงไฟ ท่านจึงสามารถชมปรากฎการณ์แสงเหนือได้จากภายในห้องพักรีสอร์ทของท่าน **

             Private: Northern Lights chase in heated sleigh - Visit Inari, Finland, Lapland

DAY8

ซาลิเซลก้า - โรวาเนียมี - REINDEER-SLEDDING - ชมเมือง

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองโรวาเนียมี (ROVANIEMI) ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของแลปแลนด์ เป็นเมืองเล็กๆน่ารัก ที่มีความเชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของซานต้าครอส (ระยะทางประมาณ 257 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. 30 นาที)

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการนั่งเลื่อนลากโดยกวางเรนเดียร์ (REINDEER-SLEDDING) ยานพาหนะของซานตาครอส ไปบนลานหิมะ ท่านสามารถให้อาหาร และสัมผัสความน่ารักของกวางเรนเดียร์ได้อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร                                                        5 Reasons You Should Try Reindeer Sledding | Manawa
  • นำท่านชมเมืองโรวาเนียมี ดินแดนตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่บนเส้นอาร์คติคและได้ชื่อว่าเป็น The Official Hometown of Santa Claus นำท่านสู่จัตุรัสลอร์ดิ (Lordi square) ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมือง เดิมเรียกจัตุรัสนี้ว่า แซมโป สแควร์ ใกล้จัตุรัสเป็นแหล่งช้อปปิ้งของเมืองโรวาเนียมี อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งซื้อของฝากตามอัธยาศัย                                                                                      Christmas Village | The Santa Village in Rovaniemi, Finland | Robert Parviainen | Flickr

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

SANTA’S IGLOOS ARCTIC CIRCLE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY9

โรวาเนียมี - หมู่บ้านซานตาคลอส - เคมิ - SNOW EXPERIENCE 365

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านซานตาคลอส (SANTA CLAUS VILLAGE) ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล นำท่านถ่ายรูปกับ เส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เส้นแบ่งเขตแดนตามเส้นรุ้งและเส้นแวงเพื่อกำหนดขอบเขตของบริเวณซีกโลกเหนือ                                                                              Premium Photo | Rovaniemi, finland - march 5, 2017: woman in santa claus office in santa village with christmas trees in lapland, finland, scandinavia, on arctic circle in winter.
  • นำท่านแวะชม ซานตาคลอสออฟฟิศ (Santa Claus Office) หรือที่ทำการของซานตาคลอส ภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใสมากมาย
  • แวะชม ที่ทำการไปรษณีย์ซานตาคลอส (Santa Claus Main post office) ท่านสามารถเลือกซื้อไปรษณีย์บัตรหลากหลายสีสันเพื่อเขียนอวยพรครอบครัวและมิตรสหาย พร้อมทั้งฝากซานต้าคลอสส่งกลับมายังประเทศไทยได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์นี้
  • นำท่านถ่ายรูปกับลุงซานต้าคลอส (รูปถ่ายไม่รวมในค่าทัวร์)
  • อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปในบริเวณหมู่บ้านซานตาคลอสที่ประดับประดาด้วยธีมคริสต์มาสอันสวยงามตามอัธยาศัย หรือจะเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึก ภายในหมู่บ้านซานตาครอสแห่งนี้

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองเคมิ (Kemi) เมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ริมอ่าวน้ำลึกบอธเนีย (Gulf of Bothnia) อีกหนึ่งเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ต้องการมาสัมผัสความเย็นยะเยือกของน้ำแข็ง
  • นำท่านชม SNOW EXPERIENCE 365 ซึ่งเปิดให้เข้าชมตลอดทั้งปี ภายในจะมีกำแพงที่มีหิมะปกคลุม ทางเดินที่ทำจากน้ำแข็งเหมือนฉากในเทพนิยาย เพลิดเพลินไปกับศิลปะแกะสลักน้ำแข็งที่น่าตื่นตาตื่นใจและทดลองกับกิจกรรม ice slide                                                                                        LumiLinnaan energiaa auringosta - ePressi

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

SEASIDE GLASS VILLA หรือระดับเทียบเท่า

Kemi Seaside Glass Villas Kemi - Discovering Finland

DAY10

เคมิ - SAMPO ICEBREAKER - เฮลซิงกิ

รับประทานอาหารเช้าบนเรือ พร้อมชื่นชมบรรยากาศ

  • นำท่าน ล่องเรือตัดน้ำแข็ง (SAMPO ICEBREAKER) หรือไอซ์เบรกเกอร์ ที่โด่งดังที่สุดในโลก หลังจากปลดประจำการแล้วนำมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความหฤหรรษ์ ประสบการณ์ใหม่ๆ จากเรือทลายน้ำแข็งที่บดทลายมากว่า 30 ปีในเขตอาร์กติก ในอดีตเป็นเรือตัดน้ำแข็งของรัฐบาลฟินแลนด์ ซึ่งใช้ล่องในอ่าวบอทเนีย มีน้ำหนักถึง 3,500 ตัน สร้างขึ้นในปี 1961                                      Sampo Arctic Icebreaker cruise - Taxari Travel Agency Lapland
  • จากนั้นเรือแซมโป้จะนำท่านล่องออกทะเลที่กลายเป็นน้ำแข็ง จะให้ความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นที่สุดในช่วงเวลาที่น่าจดจำของธรรมชาติในอาร์กติก ในขณะที่เรือขนาดใหญ่แบ่งน้ำแข็งออกเป็นสองฝั่ง พร้อมกับชื่นชมความงามของทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ ประกอบกับท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ที่สะท้อนกระทบปุยหิมะที่ปกคลุมเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เรือตัดน้ำแข็งนี้จะเจาะน้ำแข็งที่หนากว่า 1 เมตร เพื่อสร้างอ่างอาบน้ำที่หนาวจับขั้วหัวใจให้นักท่องเที่ยวลองท้าทายลงไปนอนลอยคอในน้ำแข็งแบบเย็นสุดขั้ว   **หมายเหตุ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย เพื่อความปลอดภัยของทุกท่าน ทางเรือจะไม่นำเรือออก ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกรายการ** 
  • นำท่านสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่น่าตื่นตาตื่นใจกับการลอยตัวในทะเลน้ำแข็ง ด้วยชุดความร้อนพิเศษ (Warm Impermeable Survival Suits)

***หมายเหตุ ในกรณีที่ Sampo ice breaker ยังไม่เปิด ขอสงวนสิทธิ์ เปลี่ยนเป็น Icebreaker Arktis Cruise แทน***

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินโอวลู (ระยะทางประมาณ 120 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที)
  • 18.05 น. ออกเดินทางสู่เมืองเฮลซิงกิ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 456

***หมายเหตุ ไฟล์ทบินอาจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับความเหมาะสม***

  • 19.05 น. เดินทางถึงสนามบินเฮลซิงกิ นำท่านตรวจรับสัมภาระ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก

RADISSON BLU SEASIDE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY11

เฮลซิงกิ - ช้อปปิ้ง - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านชม อาสนวิหารอุสเพนสเก้ (Uspenski Cathedral) เป็นโบสถ์ออร์ธอดอกซ์รัสเซียที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตประวัติศาสตร์กาตายานอกกา (Katajanokka) ของเฮลซิงกิ สถาปัตยกรรมเก่าแก่อันยิ่งใหญ่ งดงามแปลกตานี้สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของรัสเซียที่มีต่อเฮลซิงกิ และสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของจักรวรรดิรัสเซียที่เคยปกครองฟินแลนด์อยู่นานกว่า 100 ปี มหาวิหารอุสเพนสเก้มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นอยู่ที่หลังคาโดมสีเขียวอ่อนซึ่งมียอดโดมสีทอง สามารถมองเห็นจากระยะไกล ซึ่งนอกจากความสวยงามที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในยามกลางวันแล้ว ในยามค่ำคืนมหาวิหารแห่งนี้ก็ยังมีการประดับแสงไฟงดงามไม่แพ้กัน ภายในอาสนวิหารตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสีทองและอัญมณี ทันทีที่ก้าวเข้าไปนักท่องเที่ยวจะต้องตื่นตา ตื่นใจกับทางเดินกลางโบสถ์ ซึ่งมีเพดานสูงงามสง่า ซึ่งหากลองเปรียบเทียบระหว่างโบสถ์ออร์ธอดอกซ์รัสเซียแห่งนี้และโบสถ์ลูเธอรันที่มีอยู่เป็นส่วนใหญ่ในเฮลซิงกิแล้ว จะพบความแตกต่างคือโบสถ์ออร์ธอดอกซ์รัสเซียจะเน้นการตกแต่งที่หรูหราอลังการกว่ามาก       Uspenski Cathedral, Orthodox Church, Helsinki. | Pertti Määttä | Flickr
  • อิสระให้ท่าน ช้อปปิ้งบริเวณถนนเอสปลานาดิ (Esplanadi) ย่านถนนคนเดินสำหรับนักช้อปที่ต้องไม่พลาดมาเยือน เป็นแหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองซึ่งมีทั้งสินค้าพื้นเมือง
  • จากนั้นอิสระให้ท่านช้อปปิ้งบริเวณห้างสรรพสินค้าสต๊อกแมนน์ (STOCKMANN) ห้างใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวีย

***อิสระรับประทานอาหารกลางวัน คืนเงิน 40 ยูโร***

  • 13.30 น. นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินเฮลซิงกิ
  • 17.15 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 145
DAY12

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 09.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ…..


แชร์ให้เพื่อน