ทัวร์บาวาเรีย – ทิโรล 11 วัน
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์บาวาเรีย – ทิโรล 11 วัน

กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 10 ก.ย. 68 - 20 ก.ย. 68 | 199,900 บาท |
2 | 16 ต.ค. 68 - 26 ต.ค. 68 | 199,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ขึ้นเขา ZUGSPITZE Mt. ยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน (TOP OF GERMANY)
- 2ชมหมู่บ้าน HALLSTATT หมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ในออสเตรีย
- 3นั่งรถไฟฟันเฟือง SCHAFBERGBAHN ชมวิวเหนือทะเลสาบวูลฟ์กัง (Unseen)
- 4ล่องเรือทะเลสาบ KONIGSSEE ทะเลสาบที่น้ำใสสะอาดที่สุดในยุโรป!!
- 5ชมหมู่บ้าน RAMSAU หมู่บ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยมาก (Unseen)
- 6ชมทะเลสาบ GOSAU ทะเลสาบสุดสวยในทิโรล (Unseen)
- 7ขึ้น รถรางชมวิวพาโนรามา เหนือหมู่บ้านฮอลสตัล
- 8สนุกสนานกับกิจกรรม SALT MINE เหมืองเกลือโบราณ
- 9ชมปราสาท NEUSCHWANSTIEN CASTLE ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดของพระเจ้าลุดวิคที่ 2
- 10ชมปราสาท HERRENCHIMSEE PALACE ปราสาทที่สวยที่สุดของพระเจ้าลุดวิคที่ 2
- 11ชมปราสาท LINDERHOF CASTLE ปราสาทแสนสวยที่สมบูรณ์ที่สุดของพระเจ้าลุดวิคที่ 2
- 12ชมพระราชวัง RESIDENZ MUNICH PALACE พระราชวังที่มีชื่อเสียงในเมืองมิวนิค
- 13ชม SWAROVSKI KRISTALLWELTEN โรงงานผลิตคริสตัล สวารอฟสกี้ แห่งแรกของโลก
- 14ชม MITTENWALD / OBERAMMERGAU / GARMISCH หมู่บ้านเฟรสโก้บาวาเรียสุดสวย
- 15ชม BMW MUSEUM พิพิธภัณฑ์รถ BMW
- 16ชมโบสถ์ ETTAL โบสถ์ใหญ่ในเมืองแอทเทิล
- 17ชมเมือง INNSBRUCK หนึ่งในเมืองสวยทที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- 18ชมเมือง SALZBURG หนึ่งในเมืองสวยของยุโรป
- 19ชมเมือง MUNICH เมืองหลวงแคว้นบาวาเรียสุดสวย
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
บาวาเรีย – ทิโรล
(เยอรมัน – ออสเตรีย) 11 วัน 8 คืน
โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
- 21.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
มิวนิค (เยอรมัน) - ปรีน - พระราชวังแฮริมคีมเซ - ซาลส์บวร์ก (ออสเตรีย)
- 00.50 น. ออกเดินทางบินตรงสู่มิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 924
- 07.05 น. เดินทางถึง เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมันนี
- จากนั้นนำท่านเดินสู่หมู่บ้านปรีน (ระยะทาง 85 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ใหญ่ที่สุดริมทะเลสาบคีมเซ หรือทะเลสาบบาวาเรีย ตั้งอยู่ใจกลางแคว้นบาวาเรียตอนเหนือระหว่างเมืองมิวนิคและซาล์สบวร์ก
- นำท่านล่องเรือไปยังเกาะแฮเรนอินเซลซึ่งตั้งอยู่กลางทะเลสาบอันเป็นที่ตั้งของ พระราชวังแฮเรนคีมเซ (Herrenchiemsee Palace) พระราชวังที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 โดยมีพระประสงค์ให้สร้างเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายน์ แต่ให้หรูหราอลังการกว่าด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยในยุคนั้น
- นำท่านเที่ยวชมห้องภายในพระราชวังแฮเรนคีมเซ่, ห้องฑูตานุทูต, ห้องทรงงานห้องบรรทม, ห้องเสวย และห้องกระจก ที่ประดับตกแต่งอย่างสง่างามด้วยทองและแพรพรรณหลากสี แต่น่าเสียดายที่ปราสาทแห่งนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ด้วยพระเจ้าลุควิกที่ 2 สิ้นพระชมน์ไปก่อน ซึ่งพระเจ้าลุดวิกที่2 ได้ใช้เงินในการก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้มากกว่าพระราชวังลินเดอร์ฮอฟและปราสาทนอยชวานสไตน์ จนเป็นที่มาทำให้พระองค์ถูกตั้งกรรมการสอบสวน
- จากนั้นได้เวลานำท่านนั่งเรือกลับสู่แผ่นดินใหญ่
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมือง ซาลส์บวร์ก (SALZBURG) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที) ประเทศออสเตรีย เมืองแสนสวยที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำซาลซ่า มีบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ซึ่งตั้งอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาทุ่งหญ้าเขียวขจี และทะเลสาบมองต์เซ ซึ่งเคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เพลงชื่อก้องโลก The Sound of Music เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะแบบบาโรก จนได้ชื่อว่าเป็นนครหลวงแห่งศิลปะบาโรก และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
- นำท่านชม สวนมิราเบล (Mirabell Garden) ตั้งอยู่ที่เมืองซาลซ์บวร์ก (Salzburg) ภายในพระราชวังมิราเบล ภายในตกแต่งและออกแบบอย่างเป็นสัดส่วนในรูปแบบเรขาคณิตสไตล์บาโรก (baroque)เติมแต่งด้วยพันธุ์ไม้หลากสี อีกทั้งยังปรากฏรูปปั้นออตตาวิโอ มอสโต (Ottavio Mosto) รูปปั้นที่สะท้อนถึงองค์ประกอบ ดิน น้ำ ลม ไฟ อีกทั้งรูปปั้นคนตัวเล็กในสวนที่จำลองมาจากคนจริงในสมัย ค.ศ.1700 รวมถึงน้ำพุม้าปีกาซัส (The Pegasus Fountain) น้ำพุที่สะท้อนความเป็นยุโรปรวมถึงร่อยรอยทางศิลปะที่โดดเด่นและน่าหลงไหล เป็นสวนที่สวยและเลื่องชื่อที่เป็นหนึ่งในฉากของภาพยนตร์สุดคลาสสิกอย่าง The Sound Of Music
- จากนั้นนำท่านข้ามแม่น้ำซาลส์ซัค ที่ไหลผ่านกลางตัวเมืองมากมาย หรือชมเมือง ตามอัธยาศัย
- นำท่านเข้าสู่ ถนนเกรเทสเกสเซ่ ถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงของเมือง
- นำท่านไปถ่ายรูปด้านหน้า บ้านหมายเลข 9 ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ คีตกวีที่มีชื่อเสียงของโลก วูลฟ์กัง อมาดิอุส โมสาร์ทที่เพิ่งฉลองครบรอบ 250 ปี เมื่อปี 2006
- จากนั้นนำท่านสู่จัตุรัสกลางเมืองเพื่อถ่ายรูปคู่กับอนุเสาวรีย์โมสาร์ท ชมมหาวิหารใหญ่กลางใจกลางเมือง ให้ท่านอิสระช้อปปิ้ง สินค้าพื้นเมือง
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
MERCURE HOTEL SALZBURG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ซาลส์บวร์ก - ล่องเรือทะเลสาบโคนิกเซ - รามเซา - เหมืองเกลือ - เซนต์วูลฟ์กัง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบโคนิกเซ (Konigsee) หรือทะเลสาบกษัตริย์ มีน้ำใสราวกับมรกต ได้ขึ้นว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสและสะอาดที่สุดในยุโรป ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่งดงามที่สุดในประเทศเยอรมนี ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งกำเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งก่อให้เกิดทะเลสาบอันงามพิสุทธิ์ และความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก
- นำท่านล่องเรือชม ทะเลสาบกษัตริย์ (Konigsee) ฟยอร์ดแห่งนี้มีความยาวกว่า 8 กม. กว้างถึง 1,250 เมตร ลึก 190 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงกว่า 602 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 เพื่อไม่เกิดมลภาวะ เรือจะนำท่านล่องไปชมบรรยากาศแห่งฟยอร์ด จนถึงโบสถ์บาโธโลมิว อันเป็นเสน่ห์ของดินแดนแห่งฟยอร์ดนี้
- จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น เนื่องสภาพอากาศมาเอื้ออำนวยต่อการล่องทะเลสาบ โดยไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิก)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านรามเซา (Ramsau) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15นาที) หมู่บ้านเล็กๆ Unseen ของเยอรมันที่ติดกับพรมแดนออสเตรียที่หลบซ่อนตัวในเขตเทือกเขาเอลป์ โดยหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยมีโบสถ์เซนต์เซบาสเตียน (St.Sebatian) เป็นฉาก มีสะพานไม่เล็กทอดข้ามแม่น้ำ Arche ที่ไหลตัดผ่านหมู่บ้าน โดยมีฉากหลังของเทือกเขาเอลป์เป็นฉากหลัง
- นำท่านเดินถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือสามารถเข้าชมด้านในโบสถ์ได้ฟรี อิสระเดินถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- นำท่านเข้าชม เหมืองเกลือเก่าเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน (Berchtesgaden Salt Mine) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) เป็นเหมืองเกลือที่ถูกสร้างตั้งแต่ ค.ศ. 1517 ซึ่งในสมัยอดีต เหมืองเกลือ เป็นสถานที่ต้องห้ามของบุคคลทั่วไป เนื่องจากเกลือมีค่าจนได้ชื่อว่าเป็นทองคำขาว นำท่านนั่งรถรางลอดอุโมงค์ยาว 700 เมตร ไปยังถ้ำเกลืออันระยิบระยับ และทะเลสาบใต้ภูเขาที่งดงามด้วยแสงเสียง บรรยากาศราวกับอยู่ในเหมืองจริงเมื่อ 500 ปีก่อน ภายใต้อุณหภูมิ 12 องศาเซลเซียส ชื่นชมในความเก่าแก่ของเมืองเกลือโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการบำรุงรักษาเอาไว้เหมือนดังเช่นในอดีตทุกประการ ** เป็นกิจกรรมที่สามารถสนุกสนานได้ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ***
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เซนต์วูลฟ์กัง (ST.WOLFGANG) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองรีสอร์ทเล็กๆริมทะเลสาบวูลฟ์กัง เมืองท่องเที่ยวที่สวยงามโรแมนติคที่สุดเมืองหนึ่งของออสเตรียที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ทะเลสาบสวยใส
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCALARIA HOTEL ST. WOLFGANG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเซนต์วูฟกัง มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
เซนต์วูลฟ์กัง - ฮอลสตัท - ขึ้นรถรางชมวิวฮอลสตัท - ทะเลสาบโกเซา - เซนต์วูลฟ์กัง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นเดินทางสู่เมือง ฮอลสตัท (HALLSTATT) เมืองมรดกโลกริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ประเทศออสเตรีย (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 30 นาที)
- นำท่านขึ้นรถรางขึ้นสู่ภูเขาด้านบนชมวิวมุมสูง SKYWALK PLATFORM WELTERBEBLICK จุดชมวิวแบบพาโนราม่าของเมือง ที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมยื่นออกไป เรียกว่า มีความสูง 360 เมตรจากตัวเมือง
- อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย
(รถรางเปิดให้บริการเฉพาะ ช่วงเดือนเดือน เม.ย. – ม.ค เท่านั้น)
(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆ เช่น เนื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีการปิดปรับปรุงหรือทางรถรางไม่เปิด ให้ขึ้นชมทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้ขึ้นชม โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า คืนเงินให้ท่านละ 20 ยูโร)
- นำท่านเดินเท้าเลาะริมทะเลสาบที่เรียกว่า “ซี สตราซ” (See Strasse) อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า ดอกไม้หลากสีสันสวยงามปลายสุดของถนนซีสตราซ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนู ปลาเทราซ์
- ท่านจะได้ชมจัตุรัสประจำเมืองซึ่งเป็นลานหินขนาดย่อม ประดับด้วยน้ำพุกลางลาน และอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม อิสระทุกท่านเดินชมหมู่บ้านฮอลสตัท ถ่ายรูปกับมุมต่าง หรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- นำท่านออกเดินทางสู่ ทะเลสาบโกเซา เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งบนแนวภูเขาขนาดใหญ่ชื่อว่า Dachstein ซึ่งโอบล้อมพื้นที่บริเวณนี้ ทำให้เกิดเป็นสถานที่สุดงดงามตามธรรมชาติ ท่านจะชมทัศนียภาพกว้างไกลของธารน้ำแข็ง Dachstein Glacier
- อิสระท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCALARIA HOTEL ST. WOLFGANG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเซนต์วูฟกัง มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
เซนต์วูลฟ์กัง - ขึ้นรถไฟล้อเฟือง Schafbergbahn - วัตเทน SWAROVSKI KRISTALLWELTEN - อินน์บรูค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ Schafbergbahn ซึ่งเป็นรางรถไฟที่เปิดในปี 1893 วิ่งจากเมืองเล็กๆ ของSt. Wolfgang im Salzkammergut บนชายฝั่ง Wolfgangsee ไปยังยอดเขามีทิวทัศน์มุมกว้างของภูเขา Salzkammergut และทะเลสาบ และยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมชื่อSchafbergspitze ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1862
- นำท่านขึ้นรถไฟล้อเฟือง ซึ่งจะวิ่งจาก St. Wolfgang (Schafbergbahnhof) เหนือSchafbergalpe (หยุดที่ 1363 ม.) ไปยังสถานีบนภูเขาที่ความสูง 1732 ม. ระยะทางของทางรถไฟคือ 5.85 กม. ที่มีความสูงต่างกันที่ 1188 เมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 35 นาที จากบนนี้เราสามารถเห็นทะสาบรอบๆ แบบชัดเจนถึง 5 ทะเลสาบด้วยกัน จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ด้านล่าง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง วัตเทน (Wattens) (ระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.) เป็นที่ตั้งบริษัทคริสตัลสวารอฟสกี้ (Swarovski Crystal Glass Company) โรงงานผลิตคริสตัลที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือที่รู้จกกันในชื่อ สวารอฟสกี้ คริสตัล เวิลด์ (Swarovski Crystal World) แห่งแรกของโลก ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองไปแล้ว สวารอฟสกี้ เป็นกลุ่มบริษัทครอบครัวผู้ผลิตคริสตัลชั้นนำของโลก ซึ่งได้ก่อตั้งขึ้นกว่า100 ปี ณ เมืองวัตเทน แคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย โดยมีผู้ก่อตั้งคือ แดเนียล สวารอฟสกี้ ซึ่งเดินทางจากโบฮีเมียมาตั้งรกรากอยู่ที่แคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย ในปี ค.ศ.1995ได้มีการเปิดสวารอฟสกี้คริสตัลเวิลด์ เป็นพิพิธภัณฑ์คริสตัลเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมงานคริสตัลเครื่องแก้วคริสตัล“สวารอฟสกี้” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และนำเสนอคริสตัลในแนวศิลปะด้วยแสง สี เสียงรวมทั้งยังสามารถออกแบบได้ทุกรูปแบบตามต้องการ
- ให้ท่านชม Swarovski Kristallwelten Store ที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยความระยิบระยับ คุณจะได้พบกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบทุกชนิด ตั้งแต่อัญมณีและเครื่องประดับ จนถึงประติมากรรมขนาดเล็ก และ SWAROVSKI OPTI อิสระให้ท่านเลือกซื้อหรือชมตามอัธยาศัย
- จากนั้นนําท่านเดินทางสู่เมือง อินน์สบรูค (Innsbruck) (ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 25 นาที) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ําอิน“Inn River” และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาเอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิ แม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมืองแห่งนี้
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
AC HOTEL INNSBRUCK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
อินน์สบรูค - มิดเท็นวาลด์ - การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านชมเมืองอินน์สบรูค
- นําท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ อาคารหลังคาทองคํา (Goldenness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus) ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโค เข้าไปในศตวรรษที่18 ทําให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดน เนอร์แอดเลอร์ (Goldener Adler Hotel) สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่16 เป็น โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับ อะคันตุกะจากต่างแดน มาแล้วอย่างมากมาย
- จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมืองอินน์สบรูค ให้ท่านได้ชมบ้านเรือนสีลูกวาดริมแม่น้ำอินน์โดยมีฉากหลังเป็นแนวเทือกเขาเอล์ป หรือให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินออกเดินทางสู่เมือง มิดเท็นวาลด์ (Mittenwald) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) พรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเอลป์ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านติดอันดับความสวยของเยอรมัน ถือเป็นสถานที่ UNSEEN ของเยอรมันด้วย นำท่านชมเมืองสูดอากาศอันบริสุทธิ์ เดินเล่นนั่งจิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์หรือเลือกสินค้าที่ระลึก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น (Garmisch-Partenkirchen) เป็นหนึ่งใน เมืองที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี เป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันบ้านเรือนตกแต่งด้วยสไตล์บาวาเรียน มีภาพเขียนสีตกแต่งตามบ้านเรือนและถือเป็นประตูสู่ยอดเขา Zugspitze ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมันนีและเป็นเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า เล่นสกี หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง นำท่านเดินเล่นเก็บบรรยากาศอันแสนโรแมนติคของเมือง (ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE HOTEL GARMISCH PARTENKIRCHEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
หมายเหตุ : โรงแรม มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
ยอดเขาซุกสปิตเซ่ - พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ - อารามเอททัล - การ์มิสช์
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน เยอรมนีคือ 9,721 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank) ซึ่งล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางและนักสกีทั้งสิ้น อิสระทุกท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง บนยอดเขา
- จากนั้นนท่านลงสู่ด้านล่าง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ พระราชวังลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof Palace) เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่พระเจ้าลุควิคที่ 2 ได้สร้างขึ้นมานับเป็นปราสาทหลังที่ 2 ที่พระองค์ได้เสด็จไปเยือนฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1867 เพราะความประทับใจในพระราชวังแวร์ซายน์ จุดประสงค์เพื่อใช้ล่าสัตว์และถือว่าเป็นปราสาทที่เล็กที่สุดใน 3 ปราสาทที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น โดยใช้เวลาสร้างถึง 4 ปี แบบศิลปะร็อกโคโคแบบฝรั่งเศส
- นำท่านเข้าชมห้องภายในปราสาท ซึ่งเปิดให้ท่านชมเพียง 9 ห้องเท่านั้น เช่น บัลลังก์เปลือกหอย,ห้องบรรทมห้องเสวย,ห้องแต่งตัว เป็นต้น ซึ่งถูกตกแต่งได้อย่างวิจิตรอลังการมาก ถือว่าเป็นปราสาทเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสถาปัตกรรมและความสวยงามจริงๆ จากนั้นอิสระให้ท่านถ่ายรูปพอสมควร
- นำท่านแวะชม สำนักสงฆ์แห่งเมืองเอททัล (Ettal Abbey) สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1330 ตรงกับวันนักบุญวีตาลิสแห่งมิลาน (Vitalis of Milan) โดย จักรพรรดิลุดวิกที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์หรือลุดวิกชาวบาวาเรียน (Ludwig the Bavarian) ที่หุบเขากราสแวง (Graswang valley) ตามที่พระองค์ได้ให้คำปฏิญาณไว้หลังจากกลับมาจากประเทศอิตาลี ตรงจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางการค้าขายระหว่างประเทศอิตาลีและเมืองเอาก์สบูร์ก ประเทศเยอรมนี ตามตำนานกล่าวว่าม้าของจักรพรรดิลุดวิกผงกหัวสามครั้งตรงที่ที่ต่อมาเป็นที่สร้างอารามเดิม ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ตั้งรูปปั้นพระแม่มารีย์ ที่เรียกกันว่า “Frau Stifterin” หรือ “Ettal Madonna” (เอททัลมาดอนนา) เป็นศิลปะตระกูลปีซาโน (Pisano) ซึ่งเป็นของขวัญที่จักรพรรดิลุดวิกทรงมอบให้แก่อาราม รูปปั้นนี้กลายมาเป็นเรลิกที่ผู้แสวงบุญนิยมกันมาสักการะ อารามนี้อุทิศให้แก่แม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์
หมายเหตุ : การเข้าชมด้านในโบสถ์บางวันหากมีพิธีสำคัญจะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชม ให้ชมได้แค่เพียงภายนอกเท่านั้น
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE HOTEL GARMISCH PARTENKIRCHEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
โอเบอร์อัมเมอร์เกา - ปราสาทนอยชวานชไตน์ - มิวนิค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองโอเบอร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) (ระยะทาง 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) ชื่อเมืองมาจากคำ 3 คำ Ober ก็คือ Upper ส่วน Ammer ก็คือ ชื่อแม่น้ำที่อยู่ตรงนั้น ส่วน Gau ก็คือ เขตแดน แปลง่ายๆ ก็คือ ดินแดนที่อยู่เหนือแม่น้ำอัมเมอร์ เมืองเป็นศูนย์กลางของศิลปะการวาดภาพบนผนังที่มีชื่อเสียงด้านการเพ้นท์กำแพงบ้านให้สวยงามในประเทศเยอรมัน ทำให้บ้านเรือนในเมืองนี้รวมถึงร้านค้าแทบทุกหลังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตลอดทางเดินจะมีร้านค้าส่วนใหญ่มีสินค้าจำพวกของที่ระลึกที่ใช้ฝีมือทำจากไม้ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา บ้านนก ที่กั้นประตูรูปไม้กางเขน
- อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Schloss Neuschwanstein) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิจที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิต
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านขึ้นรถมินิบัส เพื่อขึ้นเข้าชมตัวของปราสาท ซึ่งอยู่บนเนินเขาสูงที่สร้างจากบัญชากษัตริย์ลุดวิคที่ 2 ที่ต้องการสร้างปราสาทตามเทพนิยายของริชาร์ด วากเนอร์ ศิลปินคนโปรดของพระองค์
- จากนั้นนำท่านชมวิวสวยจากสะพานแมรี่จุดที่ถ่ายรูปกับปราสาทนี้ได้ดีที่สุด (เวลาเปิด-ปิดขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ดั่งรูปโปสเตอร์ โปสการ์ดต่างๆ ซึ่งความงามนี้ยังทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทต้นแบบที่วอลท์ดีสนีย์ได้นำมาสร้างเป็นปราสาทในภาพยนตร์การ์ตูนและเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทดิสนีย์ด้วย
** หมายเหตุ : ปัจจุบันรอบการเข้าของปราสาทนอยชวานสไตน์มีการเปลี่ยนแปลง และมีกฎเกณฑ์เยอะมาก หากรอบการเข้าชมเต็มหรือเวลาเข้าชมที่ไม่เหมาะทำให้ไปกระทบกับรายการอื่น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์งดเข้าชมด้านในให้ทุกท่านถ่ายรูปด้านนอกปราสาทเท่านั้น**
- จากนั้นได้เวลานำท่านลงจากปราสาทด้านล่างด้วยรถม้า ให้ท่านสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศและไม่ต้องย้อนเส้นทาง
หมายเหตุ : เนื่องจากปราสาทนอยชวานสไตน์ตั้งอยู่บนภูเขา ซึ่งในหน้าหนาวทำให้มีหิมะปกคลุม อาจมีการปรับเปลี่ยนรายการการขึ้น-ลง หรือการเข้าชมปราสาทเนื่องมากจากสภาพอากาศ หรือวันหยุดสำคัญต่างๆ)
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ นครมิวนิค (MUNICH) ประเทศเยอรมัน (ระยะทาง 110 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที) เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมในหลายรูปแบบ ไม่ว่าแบบเรอเนซองส์ คลาสสิคหรือทันสมัย
- นำท่านผ่านชมสถานที่สำคัญๆ มากมาย อย่างโรงละครโอเปร่า หน่วยงานราชการต่างๆบนถนนสายสำคัญ อย่างถนนแม็กซิมิเลียน ถนน ฟรานซ์โจเซฟ ฯลฯ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
WESTIN GRAND MUNCHEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
มิวนิค - BMW MUSEUM - พระราชวังเรสซิเดน - จัตุรัสมาเรียน - ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเข้าชม BMW MESUEM พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ยานยนต์ของค่ายใบพัดสีฟ้า บีเอ็มดับเบิ้ลยู ที่มีกว่า 100 ปี ท่านจะได้ชมนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้
- อิสระให้ท่านชมรถที่นำมาจัดแสดงตามอัธยาศัย หรือ เลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึกภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
- จากนั้นนำท่านเข้าชม พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิค (Residenz Munich) หรือ Residenz München สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1385 ที่นี่ถูกยกให้เป็นพระราชวังใจกลางเมืองที่มีชื่อเสียง และมีขนาดใหญ่มากที่สุดของประเทศเยอรมัน เคยเป็นที่ประทับและทรงงานของกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมากว่า 500 ปี! และยังเป็นที่ตั้งของรัฐสภาเยอรมันในสมัยนั้นๆ อีกหลายยุคสมัยด้วย ซึ่งภายหลังเกิดการปฏิวัติทำให้บ้านเรือนและชุมชนพังเสียหายมากมาย รวมทั้งพระราชวังเรสซิเดนซ์ด้วย ในปี ค.ศ. 1918 เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองสงบลง พระราชวังและรัฐสภาแห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์การออกแบบภายใน ใช้เป็นที่เก็บสะสมงานทางศิลปะและเป็นคลังเก็บสมบัติของกษัตริย์ รวมถึงมีอนุสาวรีย์หินสลักภาพภาพของผู้อุปถัมภ์ผู้ปกครองจาก House of Wittelsbach ผู้ปกครองบาวาเรียตั้งแต่ ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นไป และเปิดให้ประชาชนเข้าชมตอนปี ค. ศ. 1920
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) แลนด์มาร์คใจกลางเมือง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นตลาดเรียกว่า “ตลาดสี่เหลี่ยม” ภายหลังได้กลายเป็นที่ตั้งของ New Town Hall ได้รับการออกแบบและตกแต่งในสไตล์โกธิค ในบริเวณจตุรัสประกอบไปด้วย ศาลากลางเก่าที่มีซุ้มประตูและหอคอย ศาลาว่าการ New Town สถาปัตยกรรมเสารูปปั้นของพระแม่มารีสีทอง น้ำพุปลา และหอคอย Glockenspiel ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในช่วงฤดูร้อนจะมีการโชว์ระบำตุ๊กตาในช่วงเวลา 11.00 น. – 12.00 น. และ 17.00 น.
- จากนั้นให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย หรือเลือกเดินเล่นชมเมืองถ่ายรุปบริเวณจัตุรัสมาเรียน ตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
WESTIN GRAND MUNCHEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
วูร์ซบวร์ก - แฟรงค์เฟิร์ต – จตุรัสโรเมอร์ – ช้อปปิ้ง - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- อิสระทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 14.25 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 925
สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ
- 06.05 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ