ทัวร์โรมาเนีย บัลแกเรีย (เทศกาลกุหลาบ)
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์โรมาเนีย บัลแกเรีย (เทศกาลกุหลาบ)
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 1 มิ.ย. 68 - 12 มิ.ย. 68 | 199,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมเทศกาล Roses Festival หรือเทศกาลกุหลาบชื่อดังระดับโลก
- 2ชมปราสาท BRAN CASTLE ปราสาทสมญานาม ปราสาท Dracula
- 3ชมปราสาท PELES CASTLE ปราสาทที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของโรมาเนีย
- 4ชมอาราม Rila Monastery อารามที่มีชื่อเสียงที่สุดของบัลแกเรีย
- 5ชมโบสถ์ Alexander Nevsky Cathedral หนึ่งในโบสถ์สวยที่สุดของบัลแกเรีย
- 6ชมเมือง PLOVDIV เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของโลก
- 7ชม Belogradchik Fortress ป้อมปราการหินสุดอลังการ
- 8ชมเมือง Veliko Tarnovo เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของบัลแกเรีย
- 9ชมเมือง BRASOV ได้รับฉายาว่า เป็น “สวิสน้อยแห่งยุโรปตะวันออกเฉียงใต้
- 10ชมเมือง SIBIU เมืองเก่าแก่ ได้รับมรดกโลก
- 11ชมเมือง SIGHISOARA เมืองเก่าแก่ของโรมาเนีย ได้รับมรดกโลก
- 12ชมเมือง BIERTAN เมืองสวยโรมาเนียได้รับมรดกโลก
- 13ชมกรุง BUCHAREST เมืองหลวงสุดสวยของโรมาเนีย
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
GRAND ROMANIA – BULGARIA
เจาะลึกเส้นทางอันซีน โรมาเนีย – บัลแกเรีย (เทศกาลกุหลาบ)
โดยสายการบิน Austrian Airline (OS)
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ G สายการบิน AUSTRIAN AIRLINE (OS) พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
- 23.45 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเวียนนา โดยสายการบิน AUSTRIAN AIRLINE เที่ยวบินที่ OS026
เวียนนา (ออสเตรีย) - บูคาเรสต์ - ซีบิว
- 05.35 น. เดินทางถึงสนามบินเวียนนา (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
- 06.30 น. เดินทางสู่กรุงบูคาเรสต์ โดยสายการบินออสเตรียน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ OS 789
- 09.00 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเฮนรี โคอันดา ประเทศโรมาเนีย
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วิหารโคเซีย (COZIA MONASTERY) (ระยะทาง 200 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโอล์ตในแคว้นวัลลาเชีย แวดล้อมด้วยธรรมชาติสวยงามของป่าเขา วิหารสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.1387 หนึ่งในวิหารสวยงามสิ่งก่อสร้างโดยปู่ของเจ้าชายวลาด เทเปส หรือ แดร็กคูล่า เป็นสถาปัตยกรรมแบบไบแซนไทน์ ภายในวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามอลังการ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูและนักบุญในคริสต์ศาสนาถือเป็นศิลปกรรมชิ้นเอกและยังเป็นที่เก็บสะสมงานศิลป์ และวัตถุโบราณล้ำค่า ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้คงใช้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์และศาสนกิจของผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นเดินทางสู่เมืองซีบิว (SIBIU) (ระยะทาง 75 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองที่ร่ำรวยที่สุดแห่งแคว้นทรานซิลวาเนีย อยู่ระหว่างเทือกเขาทรานซิลวาเนียไปและโอล์ต แวเลย์เมืองซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ เมื่อ ปี 2004 และในปี ค.ศ.2007 เมืองซีบิวได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปคู่กับเมืองลักเซมเบิร์ก ติดอันดับสถาที่ที่งดงามที่สุดของยุโรป และเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของโรมาเนีย เมืองนี้จะมีสองส่วน คือ ส่วนบน (UPPER TOWN) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองที่เป็นประวัติศาสตร์และส่วนล่าง (LOWER TOWN) จะเป็นที่ตั้งบ้านเรือนที่มีสีสันสวยงามและบริเวณถนนก็จะตกแต่งด้วยอิฐสำหรับปูทำถนนและทางเดินและจะอยู่ในบริเวณที่เป็นกำแพงและหอคอย
- นำท่านชมบ้านเรือนที่มีความโดดเด่นสวยงามตามแบบสถาปัตยกรรมเยอรมันที่มีสีสันสวยงามดั่ง
เมืองตุ๊กตา - นำท่านเข้าชม โบสถ์ซีบิว (Sibiu Evangelical Cathedral) โบสถ์เก่าแก่กลางเมืองที่สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1320 จนแล้วเสร็จในปี 1520 เป็นสถาปัตยกรรมโกธิคตามแบบของเยอรมันผสมผสานกับศิลปะดั้งเดิมของโรมาเนีย ตัวโบสถ์มียอดแหลม 5 ยอด ยอดที่สูงสุดวัดได้ คือ 74 เมตร และเคยใช้เป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญของซีบิลประมาณ 300 ปี ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ.1796 ก็มีการประกาศห้าม แต่ในปี ค.ศ.1803 ก็ได้มีการยกเว้นเมื่อสถานที่แห่งนี้ได้ฝังร่างของบารอน ซามูเอลวอน บรูเคนท้ลไว้ที่ใต้ถุนโบสถ์แห่งนี้
- อิสระท่านเดินเล่น ณ แกรนด์สแควร์ (Piata Mare) จัตุรัสสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่นี้เป็นจุดศูนย์กลางของซีบิวตั้งแต่ปี 1366 จัตุรัสแกรนด์สแควร์มีความยาว 142 เมตรกว้าง 93 เมตรทำให้เป็นหนึ่งในที่ใหญ่ที่สุดในทรานซิลเวเนียและเป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับตลาดงานแสดงสินค้าและ แม้กระทั่งการประหารชีวิต
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RAMADA HOTEL SIBIU หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ซีบิว - ซิกิสชัวร่า - เบรียเท่น - บราซอฟ
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองซิกิสชัวร่า (Sighisoara) (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที) คืออีกหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ ในเขตภูมิภาคทรานซิลเวเนีย (Transylvania) ประเทศโรมาเนีย ให้ท่านได้สัมผัสประวัติศาสตร์ความเก่าแก่ของแซกซอนแห่งทรานซิลเวเนีย(Saxons of Transylvania) ได้รับการรับรองให้เมืองเป็นมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1999
- จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์หอนาฬิกา (CLOCK TOWER) ที่มีชื่อเสียง นำท่านชมแต่ละห้องภายในหอนาฬิกา ซึ่งใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บสะสมของมีค่าที่ขุดได้ภายในเมืองนี้ ท่านจะสามารถชมตุ๊กตาไม้บนยอดนาฬิกาจะออกมาเต้นระบำทุกชั่วโมง แล้วนำท่านขึ้นชมทัศนียภาพของเมืองซิกิสชัวร่าจากยอดสูงสุดของหอนาฬิกา
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านเบรียเท่น (BIERTAN) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) ตำนานการก่อตั้งชุมชนย้อนไปถึงราวปี ค.ศ.1224 การเข้ามาของชาวแซกซอนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 นอกจากจะเป็นการถือกำเนิดเมืองป้อมปราการทั้ง 7 ของทรานซิลเวเนียแล้ว บรรดาหมู่บ้านน้อยใหญ่ที่มีชาวแซกซอนอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานก็มีการสร้างโบสถ์วิหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียกว่า โบสถ์ป้อมปราการ (FORTIFIED CHURCH) ที่เป็นลักษณะของโบสถ์ประจำเมือง มีป้อมปราการและหอรบล้อมรอบอย่างแน่นหนา ที่เป็นเช่นนี้เพราะนอกจากจะใช้เป็นศาสนสถานแล้ว โบสถ์ป้อมปราการยังถูกใช้ในการหลบภัยของชาวเมืองเมื่อเกิดภัยสงครามอีกด้วย
- นำท่านเดินทางสู่เมืองบราซอฟ (BRASOV) (ระยะทาง 148 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองใหญ่ที่สุดแห่งแคว้นทรานซิลวาเนีย แคว้นที่สวยงามและมีชื่อเสียงของโรมาเนีย แคว้นนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยชาวแซกซอน ซึ่งเคยถูกปกครองโดยชนชาติเยอรมันและเป็นศูนย์กลางการค้าของชาวแซกซอน อาคารโดยทั่วไปจึงตกแต่งตามสไตล์เยอรมัน ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความสวยงามจนได้รับฉายาว่า เป็น “สวิสน้อยแห่งยุโรปตะวันออกเฉียงใต้”
- จากนั้นนำชมตลาดใหญ่ใจกลางเมืองบราซอฟ “Walking Street” ตลาดนี้เป็นถนนระหว่างตึกขนาดใหญ่ยาวติดต่อกัน ข้าวของที่ขายมีมากมายหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าหนังเครื่องใช้ในบ้าน และโดยเฉพาะร้านหนังสือที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
- เชิญท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
GRAND HOTEL BELVEDERE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
บราซอฟ - บราน - ซินาย่า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำชมเมืองบราซอฟ นำท่านเข้าชมโบสถ์ดำ ที่มีชื่อเสียงหรือที่รู้จักในนาม “BLACK CHURCH” สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1383 ซึ่งจัดเป็นโบสถ์สถาปัตยกรรมโกธิคที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย
- จากนั้นนำท่านชมโรงเรียนแห่งแรกของประเทศโรมาเนีย (ROMANIAN FIRST SCHOOL) จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- นำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์สู่เมาท์เทมป้า (TAMPA CABLE CAR) ให้ท่านได้สัมผัสความงดงามของเมืองบราซอฟ ซึ่งเป็นเมืองสวยงามในหุบเขา อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความน่าประทับใจของเมืองบราซอฟจากมุมสูง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบราน (BRAN) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) เมืองที่มีชื่อเสียงมากอีกเมืองหนึ่งของโรมาเนีย เมืองซึ่งได้ชื่อว่าเป็นที่อยู่ของแดร็กคูล่า
- นำท่านเข้าชมปราสาทบราน (BRAN CASTLE) เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามที่สุดในโรมาเนีย ที่เล่าขานต่อกันว่าเป็นปราสาทของ “ท่านเคาท์แดร็กคูล่า” ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่บนภูเขาเพื่อป้องกันการรุกรานจากเขตชายแดนของแคว้นวาลาเคียและทรานซิลวาเนีย แต่ท้ายสุดปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นที่คุมขังของเจ้าชายวลาส เดเปล ผู้ที่ดำริสร้างปราสาทแห่งนี้เสียเอง จากนั้นเชิญท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองซินายา (SINAIA) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในมณฑลพราโฮวา (PRAHOVA COUNTY) โดยตัวเมืองนั้นตั้งลึกเข้าไปในเทือกเขาคาร์เพเธียน (CARPATHIAN MOUNTAINS) เป็น เมืองรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมเมืองหนึ่งของประเทศโรมาเนีย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก
HOTEL INTERNATIONAL IN SINAIA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ซินายา - ปราสาทเพเลส - กรุงบูคาเรสต์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านถ่ายรูปกับ อาคารศาลากลาง (TOWN HALL) จากนั้นชม วิหารซินายา (SINAIA MONASTERY) โดยวิหารตั้งอยู่บนภูเขาซีนาย (MOUNT SINAI) เป็นวิหารขนาดใหญ่ของนิกายออร์โธดอกซ์ ที่ก่อตั้งโดยเจ้าชาย MIHAIL CANTACUZINO ในปี 1695
- จากนั้นนำท่านเข้าชมปราสาทเพเลส (PELES CASTLE) ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาบูเซกิ กลางป่าสนบนเทือกเขาคาร์เปเทียน เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงาม และคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดในโรมาเนีย สร้างขึ้นโดยกษัตริย์คาโรล ที่ 1 เพื่อใช้เป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อนปราสาทนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 10 ปี ตัวปราสาทเป็นศิลปะแบบเยอรมัน ภายในปราสาทตกแต่งหรูหราอลังการด้วยไม้แกะสลักเสลาลวดลายงดงาม เป็นปราสาทที่รวบรวมงานศิลปะที่สวยงามมากมายจากประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น โคมไฟระย้าจากอิตาลี รูปภาพติดผนังจากฝรั่งเศส เป็นต้น
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบูคาเรสต์ (BUCHAREST) (ระยะทาง 110 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง) ซึ่งเป็นเมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศโรมาเนีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโรมาเนีย ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดมโบวิตา เมืองบูคาเรสต์มีระบุไว้ในเอกสารมาตั้งแต่ปี 1459 จากนั้นก็หายไปอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง จนกลายมาเป็นเมืองหลวงของโรมาเนียในปี 1862 เป็นเมืองมีจุดแข็งในเรื่องของศูนย์กลางของสื่อมวลชนโรมาเนียวัฒนธรรมและศิลปะมีสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบที่รวมสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์,สถาปัตยกรรมหลังสงคราม,เป็นต้น ความงามด้านสถาปัตยกรรมของเมืองทำให้เมืองมีชื่อเล่นว่า “ปารีสน้อยแห่งตะวันออก” (MICUL PARIS)
- นำท่านชม กรุงบูคาเรสต์ ที่ได้รับสมญานามว่า ปารีสน้อยแห่งยุโรปตะวันออก เนื่องจากในสมัยก่อนชนชั้นสูงของโรมาเนียนิยมส่งบุตรหลานไปเรียนที่ฝรั่งเศส จึงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมฝรั่งเศสทั้งในด้านแฟชั่นและศิลปะรวมทั้งสถาปัตยกรรมซึ่งยังปรากฏให้เห็นอย่างมากมาย
- นำท่านเข้าชมภายในอาคารรัฐสภา หรือทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศโรมาเนีย (PALACE OF THE PARLIAMENT) ทำเนียบประธานาธิบดีที่ใหญ่โตโอฬารของอดีตประธานาธิบดีจอมเผด็จการนิโคไลเชาเชสคู และนางเอลินา ภริยาผู้ซึ่งอยากมีชีวิตหรูหราประหนึ่งแบบเอวิต้า เปรอง โดยทำเนียบประธานาธิบดีแห่งนี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นอาคารรัฐสภานี้ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากตึกเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา
- ชมจัตุรัสแห่งการปฏิวัติหรือลานปฎิวัติสงคราม (REVOLUTION SQUARE) ซึ่งจะมีลักษณะถูกโอบล้อมไปด้วยอาคารที่มีความสำคัญซึ่งเคยเป็น สำนักงานใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ CEC (CEC HEADQUARTER) ของอดีต ประธานาธิบดีนิโคลัส เชาเชสกู (NICOLAE CEAUSESCU) ซึ่งเป็นผู้นำคอมมิวนิสต์ ที่เผด็จการ แสวงหาอำนาจในทางที่มิชอบ จึงโดนประชาชนก่อการปฎิวัติ ในปี ค.ศ. 1989
- ผ่านชมโอเปร่าเฮ้าส์ (OPERA HOUSE) โรงทหารแห่งชาติ (NATIONAL MILITARY ACADEMY)
- ผ่านชม ประตูชัย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนคิสเซเลฟฟ ซึ่งสร้างเลียนแบบประตูชัยในกรุงปารีส ในสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนีย (ROMANIAN ATHENAEUM)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
HILTON GARDEN INN BUCHAREST OLD TOWN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
กรุงบูคาเรสต์ - เวลิโค ทาร์โนโว - พลอฟดิฟ
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเวลิโค ทาร์โนโว (Veliko Tarnovo) (ระยะทาง 180 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.45 ชม.) หนึ่งในเมืองแห่งประวัติศาสตร์ของบัลแกเรีย เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาถึงสามลูก ซึ่งได้แก่ Tsarevets Trapezitsa และ Sveta Gora ด้วยความพร้อมในทุกๆด้านทำให้เมืองแห่งนี้ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของบัลแกเรียตอนเหนือ นอกจากนี้ในยุคกลางนั้น เวลิโค ทาร์โนโว ถือได้ว่าเป็นเมืองป้อมปราการที่มีความแข็งแกร่งอีกแห่งของบัลแกเรียอีกด้วย
- นำท่านเดินชมความงดงามของอาคารบ้านเรือนที่มีการอนุรักษ์ไวในแบบเดิม โดยบ้านแต่ละหลังนั้นมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมาย
- นำท่านเข้าชม ป้อมปราสาท Tsarevets (Tsarevets Fortress) อดีตที่ประทับของกษัตริย์แห่งบัลแกเรีย ซึ่งภายในมีอาคารและป้อมปราการรายอยู่รายล้อมซึ่งปัจจุบันคงเหลือเพียงกลิ่นอายของความรุ่งเรืองในอดีต
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) (ระยะทาง 200 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศบัลแกเรียรองจากเมืองโซเฟีย ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำมาริทซา ล้อมรอบด้วยภูเขาเจ็ดลูก จึงถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งขุนเขาทั้งเจ็ด” นอกจากนี้หลักฐานทางโบราณคดียังพบว่าเมืองนี้ถูกตั้งรกรากมากว่า 6,000 ปี ทำให้ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอีกด้วย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
DOUBLETREE BY HILTON PLOVDIV CENTER หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
พลอฟดิฟ - คาซานลัค - Roses Festival 2025 - พลอฟดิฟ
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองคาซานลัค (Kazanlak) (ระยะทาง 105 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เพื่อนำท่านชม ‘เทศกาลดอกกุหลาบ’ หรือ ‘Roses Festival’ ที่จัดที่เมืองคาซานลัค ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญว่าปลูกกุหลาบได้คุณภาพดีที่สุดในโลก จึงนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตั้งแต่สบู่ น้ำมันหอมระเหย โลชั่น และแชมพูต่างๆ ในเมืองนี้มองไปทางไหนก็จะพบแต่ดอกกุหลาบทุกหนแห่ง โดยเฉพาะไร่กุหลาบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ห่มคลุมภูเขาเป็นลูกๆ โดยเทศกาลนี้จะจัดขึ้นทุกๆปี ตั้งแต่ปี 1903 ในงานเราจะได้ชมขบวนพาเหรตดอกกุหลาบอันตระการตา มีสาวน้อยสาวใหญ่หน้าตาจิ้มลิ้มแต่งกายด้วยชุดสีชมพูหวาน มาเดินโปรยดอกกุหลาบหอมกรุ่น มีการแสดงพื้นเมือง รวมถึงไฮไลท์คือ ‘การประกวดราชินีกุหลาบ’ หรือ ‘The Queen of Roses’ ซึ่งหญิงสาวที่จะเข้าประกวดต้องเรียนจบชั้นมัธยมในเมืองคาซานลัคเท่านั้น นับเป็นงานเทศกาลที่จัดแค่ปีละครั้ง และสร้างความสดชื่น จนทำให้บัลแกเรียโด่งดังไปทั่วโลก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองพลอฟดิฟ (Plovdiv) (ระยะทาง 105 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองเก่าแก่ในประเทศบัลแกเรีย เมื่อปี 2019 เมืองแห่งนี้ได้รับรางวัลเมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรป European Capital of Culture นักโบราณคดีบางคนก็เชื่อว่า ที่นี่คือเมืองที่มีคนตั้งรกราก และอยู่กันต่อเนื่องมานานสุดในยุโรป โดยพบหลักฐานการก่อตั้งมากว่า 7,000 ปี พลอฟดิฟเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศ ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ บนฝั่งแม่น้ำมารีตซา ทางเหนือของทิวเขารอโดพี ซึ่งครอบคลุมอาณาเขตบนภูเขา 7 ลูกในแถบภาคกลางตอนใต้ของบัลแกเรีย
- นำท่านชม อัฒจันทร์รูปครึ่งวงกลม (Amphitheater) ตั้งอยู่ระหว่างเนินเขาดีสซามบาส (Dzhambaz Tepe) และ เนินเขาทักซิม (Taksim Tepe) ใจกลางเมือง อัฒจันทร์แห่งนี้สร้างขึ้นราวทศวรรษที่ 90 ภายใต้จักรพรรดิดอมิดี อานุส เพื่อให้จุคนได้ราว 5,000 ถึง 7,000 คน และยังถือเป็นผลงานชิ้นเอกของการบูรณะโบราณสถานของ ประเทศ ปัจจุบันมีการใช้จัดแสดงมหรสพและดนตรีในช่วงฤดูร้อนของประเทศ
- จากนั้นนำท่านชม เขตเมืองเก่า (Old Town) หรือที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตอนุรักษ์ทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ ของเมืองพลอฟดิฟ (Ancient Plovdiv Architectural and Historical Reserve) นั้น ตั้งอยู่ระหว่างเนิน เขาดีสซามบาส เบเบต (Nebet Tepe) และทักซิม โดยผู้มาเยือนจะได้เรียนรู้เรื่องราวในยุคต่างๆ ผ่านการเดินชม อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ในเขตเมืองเก่านี้
- นำท่านชมถนนสายหลัก (Main Street) เป็นเขตถนนคนเดินอยู่ในใจกลางเมือง ล้อมรอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อย่าง สวนของพระเจ้าซาร์ซิเมออนและน้ำพุร้องเพลง (Tsar Simeon’s Garden and Singing fountains) ตลอดสองข้างทางจะได้พบกับอาคารบ้านเรือนตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 และร้านค้าทันสมัยมากมาย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
DOUBLETREE BY HILTON PLOVDIV CENTER หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
พลอฟดิฟ - เวลินกราด – รถไฟ The Narrow-Gauge - โซเฟีย
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเวลินกราด (Velingrad) (ระยะทาง 80 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 1.20 ชม.) ตั้งอยู่ทางตะวันตกสุดของหุบเขา Chepino ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขา Rhodope เป็นศูนย์กลางการบริหารของเทศบาลเวลินกราดที่มีชื่อเดียวกัน และเป็นหนึ่งในรีสอร์ทบัลนีโอโลยีของบัลแกเรียที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และยังเป็นแบรนด์น้ำเราที่มีชื่อเสียงของบัลแกเรียอีกด้วย นำท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านออกเดินทางโดยรถไฟ The Narrow-Gauge Railway เป็นรถไฟรางแคบซึ่งแคบกว่าปกติ มีความกว้างประมาณ 610 – 1,067 mm
- นำท่านเดินทางสู่ สถานี Avramovo เป็นสถานีรถไฟอยู่ที่จุดสูงสุดของเส้นทางแคบเซ็ปเทมวรี–โดบรินิชเต ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านในเขตเทศบาล Yakoruda ในจังหวัดทางตะวันตกเฉียงใต้ของบัลแกเรียซึ่ง โดยรถไฟจะ ผ่านหุบเขาและช่องเขาระหว่างเทือกเขา Rila, Pirin และ Rhodopes มีระยะทางประมาณ 125 กม. ได้รับการจัดอันดับโดย The Guardian ให้ติด 10 อันดับแรกของการเดินทางด้วยรถไฟสายแคบที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุดในยุโรป
**หมายเหตุ หากรถไฟไม่สามารถวิ่งได้ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ**
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโซเฟีย (Sofia) (ระยะทาง 140 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศบัลแกเรีย เมืองมากเสน่ห์แห่งนี้มีภูมิทัศน์ที่โอบล้อมด้วยแนวเทือกเขาวิโตชา มีความหลากหลายของเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกัน นับเป็นอีกเมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง กระจัดกระจายไปด้วยร่องรอยแห่งอารยธรรมโบราณที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAND HOTEL SOFIA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
โซเฟีย - ป้อมเบโลกราดชิค - Venetsa Cave - โซเฟีย
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ ป้อมเบโลกราดชิค (Belogradchik Fortress) (ระยะทาง 180 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 2.45 ชม.) ตั้งอยู่บนเนินทางทิศเหนือของเทือกเขาบอลข่านใกล้กับเมืองเบโลกราดชิคทางตะวันตกเฉียงเหนือของบัลแกเรีย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชม ป้อมเบโลกราดชิค ป้อมปราการตั้งแต่สมัยโรมัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 3 ชาวโรมันได้สร้างถนนข้ามจังหวัดใหม่ของจักรวรรดิบนคาบสมุทรบอลข่านรวมถึงป้อมปราการบางแห่งเพื่อป้องกันพวกเขา ภารกิจของป้อมปราการ Belogradchik คือการควบคุมถนน พวกเขาสร้างส่วนที่สูงที่สุดของป้อมปราการที่เรียกว่า Citadel โดยใช้หินเป็นเกราะป้องกันตามธรรมชาติ
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Venetsa Cave (ระยะทาง 25 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) หนึ่งในถ้ำที่สวยที่สุดของบัลแกเรีย ถูกค้าพบในปีค.ศ.1973 หลักจากนั้นได้มีสำรวจวิจัยและติดตั้งบันได ไฟ LED ในจุดต่างๆ โดยในปี 2015 มีการเปิดให้เข้าชมความสวยงามทั้งหมด 5 โถง ให้ท่านได้สัมผัสความงดงามของหินงอกหินย้อยในถ้ำแห่งนี้ จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองโซเฟีย (ระยะทาง 170 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAND HOTEL SOFIA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
โซเฟีย - อารามรีล่า - พิพิธภัณฑ์โยเกิร์ต - โซเฟีย - ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่อารามรีล่า (Rila Monastery) (ระยะทาง 117 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) ตั้งอยู่บนเขาริลาทางตอนใต้ของนครหลวงโซเฟีย บนความสูง 1,147 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 โดยนักบุญจอห์นแห่งลีร่า ซึ่งรุ่งเรืองมากในสมัยนั้น ถึงขนาดตัวอาคารหลักขนาดใหญ่ยังสร้างด้วยทองคำแท้แห่งเดียวในบัลกาเรีย และเป็นที่รวบรวมเก็บของล้ำค่าไว้เป็นจำนวนมาก
- นำท่านชม อารามรีล่า (Rila Monastery) เป็นอารามอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในบัลแกเรีย ตั้งอยู่บนภูเขารีล่าทางตอนใต้ของนครหลวงโซเฟีย บนความสูง 1,147 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 และตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้งสำนัก คือ นักบวชไอแวนแห่งเมืองรีล่า สำนักสงฆ์เมืองรีล่าถูกรับรองโดยยูเนสโก้ให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกของประเทศบัลแกเรีย (UNESCO World Heritage) ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น มรดกโลกในปี ค.ศ.1983 ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวกว่า 900,000 คนเดินทางมาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านเดินทางสู่พิพิธภัณฑ์โยเกิร์ต (Yogurt Museum) (ระยะทาง 150 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Studen Izvor ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวที่มาของโยเกิร์ต โดยบัลแกเรียเป็นบ้านเกิดของแบคทีเรีย Lactobacillus bulgaricus ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่จำเป็นในการผลิดโยเกิร์ตแบบดั้งเดิม พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2007 ในนิทรรศการพิพิธภัณฑ์แห่งนี้อุทิศให้กับ Dr. Stamen Grigorov ผู้ก่อตั้งแบคทีเรีย Bacterium Bulgaricum ซึ่งเป็นสาเหตุของการหมักโยเกิร์ตและรสชาติเฉพาะตัวของโยเกิร์ตในพิพิธภัณฑ์โยเกิร์ต ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการหมักนมและเหตุผลที่ทำให้โยเกิร์ตมีรสชาติดีอย่างเหลือเชื่อ จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงโซเฟีย (ระยะทาง 80 ก.ม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ห้าง The Mall แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเมืองโซเฟีย อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAND HOTEL SOFIA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
โซเฟีย - ชมเมือง - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเข้าชม มหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ (Alexander Nevsky Cathedral) อาสนวิหารที่สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1882-1912 เพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารผู้เสียสละจำนวน 200,000 ราย จากหลากหลายสัญชาติ ในสงครามรัสเซีย-ออตโตมัน แลนด์มาร์กของประเทศบัลแกเรียแห่งนี้ เป็นอาสนวิหารที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับต้นๆในคาบสมุทรบอลข่าน ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวรัสเซียในสไตล์นีโอ-ไบแซนไทน์ซึ่งเป็นที่นิยมในรัสเซียยุคนั้น ประดับด้วยกระเบื้องโมเสกจากเวนิส หินอ่อนจากเยอรมนี และโดมสีทองอร่ามตรงกลางที่มีความสูง 45 เมตร ตระหง่านงามอยู่ใจกลางเมือง เมื่อเข้าไปด้านในจะตระการตาไปด้วยจิตรกรรม และบัลลังก์หินอ่อน
- นำท่านชม อาสนวิหารเซนต์เนเดลยา (Cathedral of Saint Nedelya) เป็นอาสนวิหารอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์ในโซเฟีย เมืองหลวงของบัลแกเรีย เป็นอาสนวิหารของสังฆราชโซเฟียแห่ง Patriarchate บัลแกเรีย วิหาร เซนต์เนเดลยา มีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญมรณสักขีคีเรียเกีย (หรือเนเดลยาในภาษาสลาฟ) โดยเป็นอาสนวิหารของเมืองตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านแวะถ่ายรูปกับ อาคารรัฐสภาแห่งกรุงโซเฟีย (Parliament) อาคารสีขาวรูปทรงโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้ามหาวิหารอเล็กซานเดอร์เนฟสกี้ ซึ่งปัจจุบันยังใช้เป็นที่ทำการของคณะรัฐบาลอยู่
- นำท่านถ่ายรูปกับ โบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George Church) โบสถ์หินโบราณที่เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโซเฟีย สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 และถูกต่อเติมเรื่อยมา นอกจากนี้ในอดีตยังเคยถูกใช้เป็นสุเหร่าหรือมัสยิดในสมัยที่กรุงโซเฟียถูกปกครองโดยจักรวรรดิออตโตมันก่อนจะถูกปรับปรุงกลับมาใช้งานเป็นโบสถ์ในคริสตจักร
- 15.00 น. จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินโซเฟีย
- 18.55 น. ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา โดยสายการบินAUSTRIAN AIRLINE เที่ยวบินที่ OS798
- 19.30 น. เดินทางถึงสนามบินเวียนนา (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
- 23.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินAUSTRIAN AIRLINE เที่ยวบินที่ OS025
สุวรรณภูมิ - กรุงเทพ ฯ
- 14.50 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ