ทัวร์ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส 10 วัน


Tour Recommend, Tour by HappyLongway

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ยุโรป เยอรมัน ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส 10 วัน

รหัสทัวร์ : ROMANTIC VILLAGES GERMANY & AUSTRIA & SWITZERLAND & FRANCE 10 DAYS (TG)
ระยะเวลา 10 วัน 7 คืน
สายการบิน : Thai Airways (TG)

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 6 มี.ค. 69 - 15 มี.ค. 69 179,900 บาท
2 7 เม.ย. 69 - 16 เม.ย. 69 189,900 บาท
3 24 เม.ย. 69 - 3 พ.ค. 69 189,900 บาท
4 8 พ.ค. 69 - 17 พ.ค. 69 189,900 บาท
5 5 มิ.ย. 69 - 14 มิ.ย. 69 189,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    พิชิตยอดเขา Zugspitze Mt. ยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน (TOP OF GERMANY)
  • 2
    นั่งรถไฟไต่ภูเขาที่ชันที่สุดในโลก พิชิตยอดเขา Pilatus Mt. ยอดเขาสุดสวยของสวิตเซอร์แลนด์
  • 3
    ชมหมู่บ้าน HALLSTATT หมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ในออสเตรีย
  • 4
    ชมหมู่บ้าน Colmar / Equisheim / Riquewihr / แคว้นอัลซาสประเทศฝรั่งเศส
  • 5
    ชมเมือง Strasbourg เมืองหลวงแสนสวยแห่งแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส
  • 6
    ชมปราสาท Neuschwanstein Castle ปราสาทแสนสวยในเทพนิยาย
  • 7
    ชมปราสาท Heidelberg Castle ได้ขึ้นชื่อว่า ปราสาทซากปรักหักพังที่สวยที่สุดในโลก
  • 8
    ล่องเรือทะเลสาบ Konigssee ทะเลสาบที่น้ำใสสะอาดที่สุดในยุโรป!! (Unseen)
  • 9
    ชมหมู่บ้าน Ramsau หมู่บ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยมาก (Unseen)
  • 10
    ชมหมู่บ้าน Mittenwald หมู่บ้านเฟรสโก้บาวาเรีย สุดสวย (Unseen)
  • 11
    ชมเมือง Innsbruck หนึ่งในเมืองสวยทที่มีชื่อเสียงระดับโลก
  • 12
    ชมเมือง St.Gallen ชมหนึ่งในห้องสมุดที่สวยที่สุดในโลก มรดกโลกของสวิสฯ
  • 13
    ชมเมือง Basel เมืองแห่งศิลปะของสวิสฯ

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ROMANTIC VILLAGES 10 วัน 7 คืน

ทัวร์ยุโรป เยอรมัน-ออสเตรีย-สวิตเซอร์แลนด์-ฝรั่งเศษ
โดยสายการบินไทย (TG)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 21.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
DAY2

มิวนิค (เยอรมัน) - ฮอลสตัท (ออสเตรีย) - ชมวิว SKYWALK PLATFORM

  • 00.50 น บินตรงสู่มิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 924
  • 07.05 น. ถึงสนาบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน
  • จากนั้นเดินทางสู่เมือง ฮอลสตัท (HALLSTATT) เมืองมรดกโลกริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก ประเทศออสเตรีย (ระยะทาง 210 กิโลเมตร ใช้เวลา 2.45 ชม.)
  • นำท่านขึ้นรถรางขึ้นสู่ภูเขาด้านบนชมวิวมุมสูง SKYWALK PLATFORM WELTERBEBLICK จุดชมวิวแบบพาโนราม่าของเมือง ที่มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมยื่นออกไป เรียกว่า มีความสูง 360 เมตรจากตัวเมือง                                                                                                    hallstatt skywalk (3) - Living + Nomads – Travel tips, Guides, News & Information! | Hallstatt, Travel blog, Travel pictures
  • อิสระให้ท่านถ่ายภาพความงดงามตามอัธยาศัย (รถรางเปิดให้บริการเฉพาะ ช่วงเดือนเดือน เม.ย. – ม.ค  เท่านั้น)

(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆ เช่น เนื่องสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย หรือมีการปิดปรับปรุงหรือทางรถรางไม่เปิด ให้ขึ้นชม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้ขึ้นชม โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า คืนเงินให้ท่านละ 20 ยูโร)

  • นำท่านเดินเท้าเลาะริมทะเลสาบที่เรียกว่า “ซี สตราซ” (See Strasse) อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสายบ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วนประดับประดาด้วยของเก่า ดอกไม้หลากสีสันสวยงามปลายสุดของถนนซีสตราซ                                                                                เที่ยวฮัลส์สตัทท์ Hallstatt ออสเตรีย เมืองมรดกโลกริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก - Grazie Travel

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนู ปลาเทราซ์

  • ท่านจะได้ชมจัตุรัสประจำเมืองซึ่งเป็นลานหินขนาดย่อม ประดับด้วยน้ำพุกลางลาน และอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม อิสระทุกท่านเดินชมหมู่บ้านฮอลสตัท ถ่ายรูปกับมุมต่าง หรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SCALARIA HOTEL ST. WOLFGANG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเซนต์วูฟกัง มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง

DAY3

เซนต์วูลฟ์กัง - ล่องเรือทะเลสาบโคนิงซี - หมู่บ้านรามเซา - อินน์สบรูค

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น (Berchtesgaden) (เยอรมัน) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เจ้าของเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด 1 ใน 6 เส้นทางแสนสวยและยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็นศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่
  • นำท่านเดินทางสู่  ทะเลสาบกษัตริย์ (Konigsee) ที่มีน้ำใสราวกับมรกต  ได้ขึ้นว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสและสะอาดที่สุดในยุโรป ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่งดงาม ที่สุดในประเทศเยอรมนี ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งกำเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งก่อให้เกิดทะเลสาบอันงามพิสุทธิ์ และความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งใน โลกฟยอร์ดแห่งนี้มีความยาวกว่า 8 กม. กว้างถึง 1,250 เมตร ลึก 190 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงกว่า 602 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
  • นำท่านล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 เพื่อไม่เกิดมลภาวะ เรือจะนำท่านล่องไปชมบรรยากาศแห่งฟยอร์ด จนถึงโบสถ์บาโธโลมิว อันเป็นเสน่ห์ของดินแดนแห่งฟยอร์ดนี้                                                                                                                            เที่ยวทะเลสาบ Königsee, Germany - ทะเลสาบชื่อดังที่เยอรมัน
  • จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือ

(หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัย เช่น เนื่องสภาพอากาศมาเอื้ออำนวยต่อการล่องทะเลสาบ โดยไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิก)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านรามเซา (Ramsau) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15 นาที) หมู่บ้านเล็กๆ Unseen ของเยอรมันที่ติดกับพรมแดนออสเตรียที่หลบซ่อนตัวในเขตเทือกเขาเอลป์ โดยหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยมีโบสถ์เซนต์เซบาสเตียน (St.Sebatian) เป็นฉาก มีสะพานไม่เล็กทอดข้ามแม่น้ำ Arche ที่ไหลตัดผ่านหมู่บ้าน โดยมีฉากหลังของเทือกเขาเอลป์เป็นฉากหลัง                                                                            HD wallpaper: St Sebastian Church, Ramsau, Germany, white and grey painted church | Wallpaper Flare
  • นำท่านเดินถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือสามารถเข้าชมด้านในโบสถ์ได้ฟรี อิสระเดินถ่ายรูปตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนําท่านออกเดินทางสู่ เมืองอินน์สบรูค (Innsbruck) (ระยะทาง 150  กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน “Inn River” และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาเอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิ แม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมือง แห่งนี้ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับวิวสองข้างทางที่สวยงาม ตามถนนเส้นทางอัลไพน์ ผ่านทั้งเทือกเขาเอลป์ ทะเลสาบ หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า                                                                                    Innsbruck Travel Guide | Innsbruck Tourism - KAYAK
  • นําท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ อาคารหลังคาทองคํา (Goldenness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus)ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโค เข้าไปในศตวรรษที่18 ทําให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดน เนอร์แอดเลอร์ (Goldener Adler Hotel) สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่16 เป็น โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับ อะคันตุกะจากต่างแดน มาแล้วอย่างมากมายGoldenes Dachl in Innsbruck Editorial Stock Photo - Image of shingle, ancient: 175654233
  • จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมืองอินน์สบรูค ให้ท่านได้ชมบ้านเรือนสีลูกวาดริมแม่น้ำอินน์โดยมีฉากหลังเป็นแนวเทือกเขาเอล์ป หรือให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
AC HOTEL INNSBRUCK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

หมายเหตุ : โรงแรม มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง

DAY4

อินน์สบรูค - มิดเท็นวาลด์ - ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (TOP OF GERMANY) - การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินออกเดินทางสู่เมือง มิดเท็นวาลด์ (Mittenwald) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) พรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเอลป์ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านติดอันดับความสวยของเยอรมัน ถือเป็นสถานที่ UNSEEN ของเยอรมันด้วย
  • นำท่านชมเมืองสูดอากาศอันบริสุทธิ์ เดินเล่นนั่งจิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์หรือเลือกสินค้าที่ระลึก               Germany with Kids, Fun Things to do in Bavaria | Mittenwald germany, Germany travel, Germany
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน เยอรมนีคือ 9,721 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank) ซึ่งล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางและนักสกีทั้งสิ้น                          Landkreis Garmisch-Partenkirchen Mountains

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง บนยอดเขา

  • อิสระทุกท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น (Garmisch-Partenkirchen) เป็นหนึ่งใน เมืองที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี เป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันบ้านเรือนตกแต่งด้วยสไตล์บาวาเรียน มีภาพเขียนสีตกแต่งตามบ้านเรือนและถือเป็นประตูสู่ยอดเขา Zugspitze ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมันนีและเป็นเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า เล่นสกี หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง
  • นำท่านเดินเล่นเก็บบรรยากาศอันแสนโรแมนติคของเมือง

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE HOTEL GARMISCH PARTENKIRCHEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

หมายเหตุ : โรงแรม มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง

DAY5

ปราสาทนอยชวานชไตน์ - เซนต์ กัลเลน(สวิตเซอร์แลนด์)

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Schloss Neuschwanstein) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิจที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิต พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียมีพระประสงค์ให้จัดสร้างเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คน และเพื่ออุทิศให้แก่กวีชื่อริชาร์ด วากเนอร์ ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่องอัศวินหงษ์ (Swan Knight Lohengrin) ดังนั้นปราสาทแห่งนี้จึงได้รับการตกแต่งตามเรื่องร่าวในบทประพันธ์ดังกล่าว ปราสาทแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยคริสทีอัน ยังค์ (Christian Jank) ซึ่งเป็นนักออกแบบทางการละคร มากกว่าที่จะเป็นสถาปนิกFile:Schwangau - Schloss Neuschwanstein (b).JPG - Wikimedia Commons
  • นำท่านขึ้นรถมินิบัส เพื่อขึ้นเข้าชมตัวของปราสาท ซึ่งอยู่บนเนินเขาสูงที่สร้างจากบัญชากษัตริย์ลุดวิคที่ 2 ที่ต้องการสร้างปราสาทตามเทพนิยายของริชาร์ด วากเนอร์ ศิลปินคนโปรดของพระองค์
  • จากนั้นนำท่านชมวิวสวยจากสะพานแมรี่จุดที่ถ่ายรูปกับปราสาทนี้ได้ดีที่สุด (เวลาเปิด-ปิดขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ดั่งรูปโปสเตอร์โปสการ์ดต่างๆ ซึ่งความงามนี้ยังทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทต้นแบบที่วอลท์ดีสนีย์ได้นำมาสร้างเป็นปราสาทในภาพยนตร์การ์ตูนและเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทดิสนีย์ด้วย
  • จากนั้นนำท่านเข้าชมด้านในของปราสาท ให้ท่านได้ชมห้องต่างๆซึ่งมีความวิจิตรพิสดารยิ่ง

** หมายเหตุ : ปัจจุบันรอบการเข้าของปราสาทนอยชวานสไตน์มีการเปลี่ยนแปลง และมีกฎเกณฑ์เยอะมาก หากรอบการเข้าชมเต็มหรือเวลาเข้าชมที่ไม่เหมาะทำให้ไปกระทบกับรายการอื่น ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์งดเข้าชมด้านในให้ทุกท่านถ่ายรูปด้านนอกปราสาทเท่านั้น ทางบริษัทคืนเงินท่านละ 20 EURO **

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นได้เวลานำท่านลงจากปราสาทด้านล่างด้วยรถม้า ให้ท่านสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศและไม่ต้องย้อนเส้นทาง

หมายเหตุ : เนื่องจากปราสาทนอยชวานสไตน์ตั้งอยู่บนภูเขา ซึ่งในหน้าหนาวทำให้มีหิมะปกคลุม อาจมีการปรับเปลี่ยนรายการการขึ้น-ลง หรือการเข้าชมปราสาทเนื่องมากจากสภาพอากาศ หรือวันหยุดสำคัญต่างๆ)

  • จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมือง เซนต์ กัลเลน (St.Gallen) เป็นเมืองทางตอนเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ (ระยะทาง 150 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม เมืองนี้ได้รับชื่อมาจากนักบุญ Gallus ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในชุมชนเล็กๆเมื่อศตวรรษที่ 7 และยังได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก อีกด้วย
  • จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารเซนต์ กัลเลน Stiftskirche St.Gallen Cathedra เป็นหอคอยคู่    File:Stiftskirche St. Gallen (April 2017).jpg - Wikimedia Commons
  • และนำท่านเข้าชมห้องสมุดแอบบีย์ (Abbey Library) ห้องสมุด ที่เก่าแก่ที่สุดในสวิสฯ และเป็นห้องสมุดทางศาสนาคริสต์ที่ใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก                                                        File:Austria - Admont Abbey Library - 1277.jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นถนน Multergasse ถนนช้อปปิ้งสายหลักของเมือง ที่มีร้านค้ามากมาย ทั้งร้านนาฬิกา ร้านเสื้อผ้า และของที่ระลึกต่างๆ ถนน Spisergasse อีกหนึ่งถนนสายช้อปปิ้ง ที่มีอาคาร บ้านเรือนสไตล์บาร็อคสวยๆ ตลอดทั้งถนน และโซนสีแดง “Stadtlounge” (Red Carpet) จุดนั่งเล่นพักผ่อนแบบปูพรมแดง เก๋ๆ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RADISSON BLU HOTEL ST. GALLEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY6

เซนต์ กัลเลน - ยอดเขาพิลาตุส - บาเซิ่ล

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาพิลาตุส (Pilatus) ฉายาเจ้ามังกรแดง
  • ให้ท่านได้ นั่งรถไฟไต่เขาฟันเฟืองที่ชันที่สุดในโลก (45องศา) (World Steepest Cog Wheel Railway) ซึ่งเขาพิลาทุสได้ตั้งอยู่ตอนกลางของสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,132 เมตร ซึ่งรถไฟไต่เขานี้ เปิดมาตั้งแต่ปี 1889 โดยใช้หัวรถจักรไอน้ำในการขับเคลื่อน ส่วนในปัจจุบันใช้เป็นระบบไฟฟ้า วิวจากยอดเขาท่านจะได้ชมความงามของเทือกเขาที่สุดสวยงาม ได้ชมวิวทะเลสาบลูเซิร์น (Luzern Lake) จากมุมที่สวยที่สุดจากบนยอดเขา สำหรับยอดเขาพิลาตุสนั้นเป็นหนึ่งในยอดเขาที่มีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดในเขตเทือกเขาแอลป์ โดยบนยอดเขาแล้ว ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพแบบพาโนรามาของเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบลูเซิร์น และเมืองต่างๆโดยรอบ ในวันที่อากาศแจ่มใส จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์แบบพาโนรามาของยอดเขาอัลไพน์ได้กว่า 73 ยอดเลยทีเดียว โดยยอดเขาแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขามังกรแห่งสวิส ซึ่งมาจากตำนานใน ศตวรรษที่ 14-15 ที่มีชาวนาคนหนึ่งได้เห็นมังกรบินมาจากยอดเขาริกิและมังกรได้ปล่อยหินมาก้อนหนึ่งบนยอดเขาพิลาตุส และเชื่อกันว่าหินก้อนนี้สามารถรักษาโรคต่างๆได้ และคำว่าพิลาตุสนั้นมาจาก ปอนติอุส พิลาทุส (Pontius Pilatus) ผู้สั่งให้ตรึงพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขนในสมัยต้นคริสต์ศักราช โดยนอกจากทัศนียภาพอันงดงามแล้วนั้นบนยอดเขาพิลาตุส ยังมีกิจกรรมมากมายหลายๆอย่างให้ทำ ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามแต่ฤดูกาล อาทิ เช่น การเล่น Tabogan Run , การเล่นสกี , สโนว์บอร์ด หรือการขี้จักรยาน (ไม่รวมในค่าทัวร์)                                                             File:Pilatus railway train.jpg - Wikimedia Commons

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

  • จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่เมือง บาเซิล (Basel) ตั้งอยู่ในเขตชายแดนของ 3 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และเยอรมันนี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมด้านเคมี เภสัชภัณฑ์ และเป็นชุมทางรถไฟก่อนที่นักท่องเที่ยวจะแยกย้ายไปยัง มีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านกลางเมืองแบ่งตัวเมืองออกเป็น 2 ฝั่ง คือ Klein Basel (Little Basel) ฝั่งขวาและ Gross Basel (Great Basel) ฝั่งซ้ายแต่ศูนย์กลางการท่องเที่ยวจะอยู่ในเขตเมืองเก่าริมแม่น้ำฝั่งซ้ายเสียเป็นส่วนใหญ่
  • นำท่านถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมืองบาเซิล (Basel City Hall) อาคารสีแดงสด อาคารศาลาว่าการเมืองที่ตั้งอยู่ในใจกลางจัตุรัสเมืองเก่า เด่นสะดุดตาด้วยสีแดงสดทั้งอาคาร ตกแต่งด้วยภาพวาดเขียนสีเป็นลวดลายสดใสสวยงาม เป็นอาคารสไตล์เบอร์กันดีโกธิคสร้างในราว ปี 1504-1521                          File:Rathaus-004.jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านเมืองเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RADISSON BLU HOTEL BASEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY7

บาเซิ่ล - กอลมาร์ (ฝรั่งเศส) - เอกิซไฮม์ - ริคเวีย - สตราสบูร์ก

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10 เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาส  และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ                                    A great weekend in Colmar | Visit Alsace
  • เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบ Half – Timber และบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง ด้วยบรรยากาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลกเดินทางมาฮันนีมูนที่นี่
  • นำท่านเดินชมเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง
  • จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร

  • นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Equisheim) (ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) Les Plus Beaux Village de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Villageมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึ่งปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่                                                                                                  คลังภาพถ่ายฟรีของ @กลางแจ้ง, alsace, eguisheim, grand est, กล่องดอกไม้, กลางวัน, การท่องเที่ยว, ครึ่งไม้, งดงาม, จักรยาน, ชนบท, ชาวยุโรป, ชีวิตในหมู่บ้าน, ซอย, ถนน, ถนนแคบ ๆ, ทางเดิน, ที่นั่งกลางแจ้ง, ที่อยู่อาศัย, นักขี่รถจักรยาน, น่ารัก, ประตู ...
  • ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส
  • นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก
  • นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูป
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส (Alsace) ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม la Petite France (ปารีสน้อย)File:La petite France (30412644430).jpg - Wikimedia Commons

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY8

สตราสบูร์ก - ไฮเดลเบิร์ก (เยอรมัน)

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านชมเขต La Petite France ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins        File:La petite France (30412644430).jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหาร

  • จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) (ระยะทาง 130 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.45 ชม.) ตั้งอยู่ในรัฐ baden-Wurttemburg ทางใต้ของแฟรงค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ (Neckar) โดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเชิงเขา
  • จากนั้นนำท่านชมเมืองเก่าของไฮเดลเบิร์ก
  • นำท่านชมสะพานเก่าอัลเทอบรุคเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเดินข้ามสะพานไปแล้วมองหันกลับมาท่านจะเห็ปราสาทไฮเดลเบิร์กสีชมพูอมแดงตั้งโดดเด่นเหนือตัวเมืองไฮเดลเบิร์ก นำท่านชมรูปปั้นลิง บนตัวสะพานที่มีความเชื่อว่าหากได้มาสัมผัสรูปปั้นลิงนี้จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
Heidelberg Marriott Hotel หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว 

DAY9

ไฮเดลเบิร์ก - ปราสาทไฮเดิลเบิร์ก - แฟรงเฟิต - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเขาแบร์กบาห์น ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความาเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม30ปีและมาถูกเผาทำลายถึง 2ครึ่งในปี 1689และ 1693 ในสงครามกับฝรั่งเศส จึงเหลือตาซากปรักหักพัง และได้การยอมรับว่านี้คือซากปรักหักพังของปราสามที่สวยงามที่สุดในโลก
  • นำท่านชมวิวจากจุดชมวิวบนตัวปราสาท ท่านจะมองเห็นเมืองไฮเดลเบิร์กได้อย่างสวยงาม
  • นำท่านชมเก็บ ถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความจุราว 222,000ลิตร
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. )

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER) ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อ (OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียด                                                            File:Frankfurt Römerberg Ostzeile.jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรมที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน ผ่านชมโบสถ์เซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมือง
  • อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยูมากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
  • 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
DAY10

กรุงเทพฯ - สุวรรณภูมิ

  • 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน