นํามือถือไปใช้ต่างประเทศ

สำหรับคนที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศนั้นบ่อยครั้งที่ต้องพบกับปัญหาการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะโทรภายในประเทศนั้นๆ หรือ โทรกลับประเทศไทย วันนี้จะมาเสนอวิธีการเตรียมตัวและ จะโทรให้ถูกได้อย่างไร     

ก่อนอื่นเราต้องเลือกก่อน ว่าเราต้องการใช้อะไรบ้าง เช่น ใช้แค่อินเตอร์เน็ท เพราะในปัจจุบันนี้ App ต่างๆในมือถือเราก็สามารถใช้โทรยังต่างประเทศ รวมถึงเล่นอินเตอร์เน็ทได้ด้วย ส่วนนี้แนะนำให้เช่า Wifi หรือ Sim ของเครือข่ายต่างๆ หรือต้องการรับโทรศัพท์รวมถึงการโทรออกในต่างประเทศ ควรซื้อแพคเกจของเครือข่ายที่ใช้อยู่แล้ว จะประหยัดได้มากขึ้น โดยมีข้อสังเกตุดังนี้

  1. คุณสามารถรับ sms ได้ฟรีเมื่อคุณอยู่ต่างประเทศ ดังนั้นจงใช้ประโยชน์ข้อนี้ให้ดี คุณต้องแน่ใจว่าเบอร์ของคุณได้เปิดบริการ roaming แล้วโดยให้ติดต่อกับ mobile operator ที่คุณใช้อยู่ในเมืองไทยเช่น ais, dtac, true ก่อนออกเดินทาง ส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้มักจะไม่คิดค่าเปิดบริการ แล้วบอกคนที่ติดต่อกับคุณเป็นประจำว่ามีอะไรก็ให้ sms มาก็ได้ แล้วถ้าจำเป็นคุณจะโทรกลับไปเอง อย่าลืมปิดบริการรับข้อความข่าวสารแบบสมาชิกที่คุณสมัครไว้ เช่น บริการข่าวสาร บริการดูดวง และอื่นๆเพราะคุณจะเสียเงินเมื่อรับข้อความเหล่านี้เมื่ออยู่ต่างประเทศ แค่นี้คุณก็รับข้อมูลจากคนที่ติดต่อคุณได้ฟรีๆแล้ว 
  2. อย่าลืมปิดบริการ voice mail หรือ sms alert miss call เพราะถ้ามีคนโทรมาแล้วเข้าฝากข้อความ คุณก็จะเสียเงินเหมือนรับสาย
  3.  ถ้ามีคนที่ไม่รู้ว่าคุณอยู่ต่างประเทศโทรมา หรือคนที่รู้ว่าคุณมาแต่อยากให้คุณโทรกลับ เมื่ออยู่ต่างประเทศจะโชว์เบอร์คนที่โทรมา คุณก็ยังไม่ต้องรับสาย แต่คุณสามารถ ใช้โทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่งของคุณพร้อมซิมในประเทศนั้นๆโทรกลับดีกว่า  แนะนำให้ลองไปหาซื้อซิมการ์ดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีทั้ง 3 ค่าย ทั้ง AIS DTAC หรือ TRUE ส่วนมากราคาจะอยู่ที่ 399 บาท / 3 หรือ 4 G / 7 -10 วัน หรือไม่ก็ไปซื้อที่ประเทศนั้นๆ 
  4. ปัจจุบันเครือข่ายต่างๆในประเทศไทยนั้น มีโปรโมชั่นต่างๆมากมาย ในการใช้ Data Roaming ในต่างประเทศ หากต้องการใช้ควรจะซื้อแพคเกจก่อนเดินทาง เพราะเมื่อไปถึงที่ต่างประเทศแล้ว จะทำให้เกิดความลำบากและเสียเงินมากขึ้น

สรุปสิ่งที่ควรเตรียมก่อนออกเดินทาง

1. โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เครื่องหนึ่งใช้ใส่ซิมของเมืองไทย อีกเครื่องใส่ซิมประเทศนั้นๆ หรือซิมใหม่ที่ใช้สำหรับเล่นอินเตอร์เน็ท
2. ซิมของประเทศนั้นๆ 
3. Data Roaming Package จากเครือข่ายของประเทศไทย



E-ticket คืออะไร? Happylongway ขอนำข้อมูลสำหรับหรือตั๋วเครื่องบินแบบ E-ticket มาให้ทราบ เพื่อเป็นข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวไปยังรอบโลก และเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด และการโดนหลอกลวงอีกด้วย

Electronic Ticket หรือชื่อย่อว่า E-Ticket หรือตั๋วเครื่องบินแบบอิเล็กทรอนิกส์

นั้นคือตั๋วเครื่องบินรูปแบบใหม่ ที่สายการบินต่างๆได้พัฒนาบริการมาให้บริการแก่ลูกค้าเพื่อลดค่าใช้จ่ายและขจัดปัญหาในด้านต่างๆของผู้โดยสารให้ลดลงมากที่สุด E-Ticket คือ ตั๋วเครื่องบินในระบบออนไลน์ คือเมื่อท่านได้ทำการจองแล้ว ท่านจะได้ Booking Code เพื่อทำการ Check-in แทนตั๋วแบบแข็งในอดีต ซึ่งจะให้เสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ซึ่ง E-Ticket นี้สามารถส่งรายละเอียดผ่าน E-mail หรือ Fax หรือแค่ภาพได้ก็เพียงพอ โดยจะระบุรายละเอียดต่างๆของผู้โดยสารไว้ทั้งหมดรวมทั้ง Ticket No. หรือหมายเลขของตั๋วเครื่องบินเพื่อเป็นการยืนยันว่าท่านที่จองตั๋วเครื่องบินสามารถเดินทางได้แน่นอน โดยเราสามารถนำเลขตั๋วเครื่องบิน หรือเลข Booking Code  ไปตรวจสอบกับสายการบิน เพื่อป้องกันการโดนหลอกได้อีกเช่นกัน สาเหตุที่เปลี่ยนการตั๋วเล่มมาเป็น E-Ticket เพื่อความสะดวกสบายประหยัดทรัพยากร รวมถึงป้องกันการสูญหาย เพียงแต่ถ่ายรูปไว้ หรือพกแค่กระดาษ ก็สามารถใช้ได้

ความเป็นมาของ E-Ticket หรือ Electronic Ticket

ในปัจจุบันสายการบินได้ใช้ E-Ticket แทนตั๋วแบบเดิมซึ่งมีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อนและสิ้นเปลืองทรัพยากรต่างๆเป็นอย่างมาก ตามคำสั่งของสมาคมการบินระหว่างประเทศ หรือ IATA ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2551 สายการบินที่เป็นสมาชิกของสมาคมต้องเปลี่ยนมาใช้บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ทันทีที่ท่านทำการสำรองที่นั่งโดยบัตรสารอิเล็กทรอนิกส์จะถูกบันทึกด้วยระบบออนไลน์ในระบบของสายการบิน หลังจากนั้นเพียงผู้โดยสารจัดพิมพ์รายละเอียดการสำรองที่นั่งก็สามารถขึ้นเครื่องได้ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ท่านสามารถใช้เพียงแค่หนังสือเดินทางของท่านเพื่อทำการเช็ก-อินได้ทันทีและภายในระยะเวลา 10 ปีนี้เราอาจจะไม่ใช้ตั๋วกระดาษอีกเลยก็เป็นได้

ความสะดวกของ Electronic Ticket

ท่านสามารถเดินทางได้ โดยเมื่อท่านตกลงซื้อตั๋วเครื่องบินกับทาง Happylongway แล้ว ท่านจะได้รับเอกสารการยืนยันผ่านทางอีเมล / ไลน์ หรือ Application ต่างๆ ท่านก็สามารถสั่งพิมพ์ตั๋วเครื่องบินได้จากเครื่อง Printer ของท่าน และท่านสามารถนำกระดาษที่ท่านสั่งพิมพ์จากเครื่อง Printer ของท่านไป check-in ได้เหมือนตั๋วเครื่องบินปกติ หรือเพียงแค่แสดง E-mail / รูปที่ Crop ไว้ให้เจ้าหน้าที่สายการบินก็ได้ เพราะข้อมูลการซื้อ E-Ticket ของท่านได้ถูกบันทึกอยู่ในระบบสำรองที่นั่งออนไลน์และระบบ check-in ของสายการบินนั้นๆเรียบร้อยแล้ว ข้อดีของระบบ Electronic Ticket อีกข้อก็คือราคาที่ถูกกว่าการซื้อตั๋วเครื่องบินแบบปกติเพราะสายการบินต่างๆจะมีต้นทุนในการผลิตที่ถูกกลงทำให้สามารถทำราคาตั๋วเครื่องบินในรูปแบบ E-Ticket ให้ถูกกว่าตั๋วเครื่องบินแบบเดิมได้ด้วย

E-Ticket สามารถใช้เดินทางได้จริงหรือเปล่า?

E-Ticket สามารถใช้เดินทางได้แน่นอนที่สุด เพราะในระบบ E-Ticket จะมีการระบุข้อมูลต่างๆของผู้โดยสารไว้อย่างครบถ้วน เช่น ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ Booking Number และ Ticket Number อีกด้วย สุดท้ายเพียงท่านโชว์ Passport พร้อมกับเลขหมาย E-ticket เพื่อเช็ค-อิน และท่านก็จะได้รับ Boarding pass เพื่อใช้สำหรับเดินทางได้ทันที เพียงแค่เท่านี้ท่านก็สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วแน่นอนแล้ว