ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (ไรน์แลนด์ – อัลซาส – บาวาเรีย)



ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (ไรน์แลนด์ – อัลซาส – บาวาเรีย)

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (ไรน์แลนด์ – อัลซาส – บาวาเรีย)

รหัสทัวร์ : CHARMING VILLAGE IN GERMANY - FRANCE 10D (TG)
ระยะเวลา 10 วัน 7 คืน
สายการบิน :

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 10 เม.ย. 63 - 19 เม.ย. 63 109,900 บาท
2 1 พ.ค. 63 - 10 พ.ค. 63 105,900 บาท
3 12 มิ.ย. 63 - 21 มิ.ย. 63 105,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชมปราสาท Eltz Castle เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดในเยอรมัน อายุกว่า 1,000 ปี สวยมากๆ
  • 2
    ชมปราสาท Hohenzollen Castle เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดในเยอรมัน
  • 3
    ชมหมู่บ้าน Rothenburg ob der Tauber หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของเยอรมัน
  • 4
    ชมหมู่บ้าน Cochem ริมแม่น้ำ Mosel สุดสวยเป็นหนึ่งในหมู่บ้านสวยของเยอรมัน
  • 5
    ชมหมู่บ้าน Bacharach / Rudesheim ลุ่มแม่น้ำไรน์เป็นหนึ่งในหมู่บ้านสวยของเยอรมัน
  • 6
    ชมหมู่บ้าน Monschau หมู่บ้านในหุบเขาสุดลึกลับ เป็นหนึ่ง ในหมู่บ้านสวยของเยอรมัน
  • 7
    ชมหมู่บ้าน Dinkelsbuhl หมู่บ้านในเส้นทางโรแมนติค เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านสวยของเยอรมัน
  • 8
    ชมหมู่บ้าน Colmar / Riquewihr / Eguisheim เป็น 3 หมู่บ้านสวยที่สุดในแคว้นอัลซาสของฝรั่งเศส
  • 9
    ชมหมู่บ้าน Besigheim / Bad Wimpfen หมู่บ้านแห่งไวน์ที่ได้รับการโหวตว่าสวยที่สุดในเยอรมัน
  • 10
    ชมเมือง Trier อดีตเมืองแห่งอาณาจักรโรมัน และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน
  • 11
    ชมหมู่บ้าน Saarburg หมู่บ้านเล็กๆริมแม่น้ำโมเซลสุดน่ารัก
  • 12
    ชมหมู่บ้าน Titisee หมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเลสาบทิทิเซ่ ต้นกำเนิดนาฬิกากุ๊กกู
  • 13
    ชมโบสถ์ Aachen โบสถ์สุดสวย ได้รับ Unesco แห่งแรกของเยอรมัน
  • 14
    ชมเมือง Miltenberg สมญานามไข่มุกแห่งแม่น้ำไมน์
  • 15
    ชมมหาวิหาร Cologne โบสถ์สุดสวยแห่งเมืองโคโลญจน์ ได้รับ Unesco
  • 16
    ชมเมือง Stuttgart และ พิพิธภัณฑ์รถยนต์ Porche Museum
  • 17
    ชมเมือง Strasbourg เมืองสุดโรแมนติค มีชื่อเสียงระดับโลก
  • 18
    ล่องเรือชมวิวแม่น้ำไรน์

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส
ไรน์แลนด์ – อัลซาส – บาวาเรีย
10 วัน 7 คืน โดยสารการบินไทย (TG)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
  • 23.45 น. ออกเดินทางบินตรงสู่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 920
DAY2

แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมัน) – รูเดสไฮม์ - บาคาราค - ล่องแม่น้ำไรน์ - โคโลญจน์

  • 06.00 น. เดินทางถึง เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี  จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
  • นำท่านถึงเมือง รูเดสไฮม์ อัม ไรน์  (Rudesheim am Rhein) (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) เป็นเมืองเก่าเล็กๆ ที่มีประวัติเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำไรน์ ทิวทัศน์เต็มไปด้วยไร่องุ่นนับพันไร่จึงเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางการผลิตไวน์ชั้นดี มีปราสาทเก่าแก่อยู่หลายแห่ง บางแห่งอายุนับพันปี นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีบ้านเรือนที่เก่าแก่และธรรมชาติที่สวยงาม  นำท่านเดินเล่นถนนที่ดังที่สุดของเมือง ถนน Drosselgasse ยาว 144 เมตร แต่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
  • ผ่านชมพิพิธภัณฑ์ไวน์ไรน์ เกา (Rheingau Wine Museum) อันเลื่องชื่อในหมู่คอไวน์ เพราะเป็นแหล่งรวบรวมประวัติความเป็นมาของการผลิตไวน์ในเมืองรูเดสไฮม์ จากนั้นนำท่านชมอาคารไม้ ที่มีลวดลายสวยงาม และเป็นอาคารไม้เก่าแก่ของเมืองที่สร้าง ขึ้นตั้งแต่สมันศตวรรษที่ 16 ที่เรียกว่า Klun- khardshof
  • ถ่ายภาพกับหอพญาอินทรีย์ (EAGLE TOWER) หอคอยสูงประมาณ 20 เมตรอันเคยเป็นสถานที่ที่เกอเธ่ กวีเอกของเยอรมันมาพักอาศัยช่วงที่เดินทางมาเมืองแห่งนี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง บาคาราค (Bacharach am Rhein) (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) เมืองเล็กๆริมฝั่งแม่น้ำไรน์ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดและยังได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งที่ผลิตไวน์ที่ดีที่สุดในเขตลุ่มแม่น้ำไรน์และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) เมืองบาคาราคนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุคกลาง คำว่า Bacharach  มาจากคำว่า แท่นบูชาของ Bacchus ก็คือ เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นของชาวโรมัน เดิมทีเมืองบาคาราค เป็นเมืองที่มีกำแพงล้อมรอบและมีหอคอยรอบเมืองถึง 16 หอคอยด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันลงเหลือเพียง 5 หอเท่านั้น
  • นำท่านเดินเล่นชมเมืองบาคาราค ที่ยังคงมีโบสถ์ ปราสาท บ้านเรือน สมัยยุคกลางหลงเหลือให้ชม เช่น โบสถ์ St.Werner , หอคอย Markt Tower หรือปราสาท Burg Stahleck ที่อยู่บนเนินเขา ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการเป็น Youth hotel  ให้ท่านอิสระเดินเล่นชมเมืองหรือเลือกซื้อไวน์ของเมือง Bacharach หรือสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย  จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
  • . น. นำ ท่านลงเรือล่องแม่น้ำไรน์ ชมความงามของไร่องุ่น และปราสาทเก่าแก่อายุหลายร้อยปี ซึ่งตั้งอยู่สองฟากฝั่ง  แม่น้ำสู่ท่าเทียบเรือเมืองบ๊อบพาร์ด
  • …. น. เดินทางถึงท่าเรือเมืองบ๊อบพาร์ด (BOPPARD) เมืองริมแม่น้ำไรน์ ล่องเรือทัศนาจรชมความงดงามของแม่น้ำไรน์ เพลิดเพลินกับเรื่องราวของปราสาทในยุคโรมัน และชาวเยอรมันเผ่าต่างๆ ที่ยังคงมีมนต์เสน่ห์อย่างไม่เสื่อม คลาย แม่น้ำสายนี้ยังก่อให้เกิดเรื่องราว, ตำนาน และบทเพลงต่างๆ ที่ทำให้ผู้คนหลงใหล

 ** รอบเรือ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า **

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญจน์ (Cologne) เมืองต้นตำรับน้ำหอมโอเดอโคโลญจน์ 4711 นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารโคโลญจน์ ในศิลปะสไตล์โกธิค ชมโดมที่สูงที่สุดในโลก ภายในเป็นที่เก็บรักษาหีบทองคำ บรรจุอัฐิของกษัตริย์ ที่เดินทางตามดวงดาว มาคารวะพระเยซูในคืนประสูติ ด้วยความสวยงามและความยิ่งใหญ่ทำให้มหาวิหารโคโลญจน์ ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ปี ค.ศ.1996 จากนั้นอิสระกับการเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

MARITIM HOTEL COLOGNE หรือระดับเทีบเท่า 4 ดาว

DAY3

โคโลญจน์ - มอนเชาว์ – อาเค่น - โคเบลนซ์

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน มอนเชาว์ (Monschau) (เมือง Unseen คนไทยไปน้อยมาก) เมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในเขตอาเคิน (Aachen District) ของรัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน เมืองมอนเชาว์นั้นตั้งอยู่ในหุบเขาไอเฟล (Eifel mountain range) เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา โดยตัวเมืองทอดยาวไปตามถนนแคบๆ ซึ่งเรียงรายไปด้วยบ้านครึ่งไม้ (Half -Timbered) โดยบ้านเหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพราะรอดพ้นจากสงครามต่างๆมาได้ โดยหมู่บ้านมีแม่น้ำรูร์ (Rur River) ไหลผ่านด้านหลัง โดยเมืองมอนเชาว์ ถือเป็นเมืองเก่าแก่อีกเมืองของเยอรมันและได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน15 เมืองสวยของประเทศเยอรมันอีกด้วย
  • นำท่านเดินชมเมือง เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง อาเค่น (Aachen) เมืองพรมแดนตะวันตกสุดของเยอรมัน ติดพรมแดนประเทศเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ มีชื่อเสียงจากเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเข้าชม มหาวิหารอาเค่น (Aachener Dom) อันเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน นับเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของเมือง มหาวิหารแห่งอาเค่น นี้ถูกจัดเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ในปี ค.ศ 1987 ( ได้รับ Unesco แห่งแรกของประเทศเยอรมัน ) มหาวิหารนี้เป็นโบสถ์แบบกอธิคผสมกับกาโล-โรมัน ซึ่งได้รับอนุญาตจากพระสันตปาปาแห่งกรุงโรมให้สร้างโบสถ์นี้ในปี ค.ศ. 786 และสร้างเสร็จเมื่อ ค.ศ. 805 โดมนี้ถูกใช้เป็นสถานที่แต่งตั้งกษัตริย์ของเยอรมนีในสมัยก่อนมาแล้วหลายพระองค์ อีกทั้งยังมีหีบศพทองคำของพระเจ้าชาร์เลอมาญ อยู่ด้วย ที่ลานกว้างหน้าโดมนี้ จะถูกใช้เป็นที่รับรางวัลคาร์ล ในทุก ๆ ปี รางวัลคาร์ลนี้จะมอบให้กับผู้ที่ส่งเสริมสันติภาพในยุโรป ตัวอย่างของบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ได้รับรางวัลคาร์ลได้แก่ บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ โทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคเบลนซ์ (Koblenz) เป็นเมืองโบราณที่ถูกสร้างขึ้น 8 ปีก่อนคริสตกาล โดยจักรพรรดินีโร หรือที่รู้จักในชื่อ นีโรจอมโหด ซึ่ง มีชื่อเต็มใหม่ ว่า นีโร คลอดิอุส ซีซาร์ ดรุสซุส (Nero Claudius Caesar Drusus) สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำซึ่งเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำ 2 สาย คือแม่โมเซล (Moselle River) และแม่น้ำไรน์ (Rhine River) ซึ่งต่อมาในปี 1992 เมืองโคเบลนซ์ได้ฉลองครบรอบอายุ 2000 ปีของเมืองอีกด้วยเมืองโคเบลนซ์ยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ค่อนข้างโดดเด่น ภายในเมืองนั้นรายล้อมไปด้วยป้อมปราการที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงอาคารที่มีความเก่าแก่
  • นำท่านนั่งกระเช้าสู่ป้อมเอียเรียนบรายทชไตน์ (Ehrenbreitstein Fortress) ป้อมปราการรูปสามเหลี่ยมที่มีผนังหนากว่า 20 ฟุตถูกสร้างขึ้นโดยปรัสเซียในต้นศตวรรษที่ 19 ป้อมเอียเรียนบรายทชไตน์ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเมืองโคเบลนซ์ ในช่วงระหว่างปี 1817 – 1832 ป้อมปราการถูกใช้รักษาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์และแม่โมเซล ปัจจุบันถือว่าเป็นอีกหนึ่งป้อมปราการที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากแห่งหนึ่งของประเทศ
  • นำท่านชม มุมแห่งเยอรมนี (Deutsches Eck) ชมพระบรมรูปทรงม้าสง่างามของจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 ประดิษฐานเมื่อปี ค.ศ. 1897 แต่ถูกทำลายในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วสร้างขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1993

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

 MERCURE HOTEL KOBLENZ หรือระดับเทีบเท่า 4 ดาว

หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโคเบลนซ์มีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง

DAY4

โคเบลนซ์ – ปราสาทเอลทส์ - โคกเฮม - เทียร์

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่ที่ตั้งของ ปราสาทเอลทส์ (Eltz Castle)  (ปราสาทนี้สวยมาก ท่านจะได้พบกับปราสาทในยุคกลางที่คงความสมบูรณ์ที่สุดในยุโรป ( เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดในเยอรมัน)  ปราสาทที่ถูกสร้างขึ้นในยุคกลาง มีอายุเกือบ 1,000ปี โดยสร้างครั้งแรกปี ค.ศ.1157 และไม่เคยถูกทำลายจากภัยของสงครามเลย และถือเป็นปราสาทที่เก่าแก่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศเยอรมัน เดิมปราสาทแห่งนี้เป็นคฤหาสน์ของท่าน Rudolf zu Eltz จากนั้นมีการต่อเติมเสริมเป็นป้อมปราการ จนกลายมาเป็นที่พำนักของตระกูลเอลทส์ถึง 33 รุ่น โดยตัวปราสาทตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 70 เมตรเหนือแม่น้ำโมแซล
  • นำท่านเข้าชมภายในปราสาทซึ่งมีการตกแต่งและเก็บรักษาดูแลข้าวของเครื่องใช้ อาวุธสมัยยุคกลางไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด

(หมายเหตุ : ปราสาท Eltz Castle เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปลาย มี.ค. – ปลายตุลาคม ของทุกปี)  

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองโคกเฮม (Cochem)เป็นเมืองเล็กๆ ที่แสนโรแมนติกแห่งหนึ่งในหุบเขาในมลรัฐไรน์แลนด์ ฟาลซ์ (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน )

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินเล่นชมเมือง โคกเฮม ที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองแห่งนี้เป็นแม่น้ำและเทือกเขาน้อยใหญ่สลับสับเปลี่ยนกัน การปลูกบ้านเรือนและอาคารต่างๆ ตามแนวสันเขา โดยจุดเด่นของเมืองคือบนยอดเขาเป็นที่ตั้งของปราสาท Reichsburg Castle ปราสาทที่มีอายุเกือบ 1,000ปี เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่รายล้อมไปด้วยไรองุ่นที่มีพื้นที่มากถึง 80,000 ไร่ และมีแม่น้ำโมแซล (Mosselle river) ไหลผ่านใจกลางเมือง ให้ท่านอิสระเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศหรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง เทียร์ (Trier) หรือเมืองทิเออร์เมืองที่มีชื่อเสียงมากๆอีกเมืองของเยอรมัน และถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมันด้วย ถูกตั้งขึ้น 16 ปีก่อนคริสตกาล และในช่วงต้นศตวรรษที่3 ยังได้รับการสถาปนาเป็นโรมที่สองอีกด้วย และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) อีกด้วย
  • นำท่านถ่ายรูปกับประตูโรมัน พอร์ทา นีกา (Porta Nigra)  ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 ถือเป็นประตูโรมันมี่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของเทือกเขาเอล์ป จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านอกกับ มหาวิหารเทียร์(Trier Cathedral) เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุด และมีความเก่าที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมัน  ถูกสร้างตั้งแต่ช่วงสมัยโรมัน ปัจจุบันถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียร์อีกด้วย จากนั้นอิสระทุกท่านเดินเล่นชมเมืองเทียร์ตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ภัตตาคารอาหารจีน
MERCURE HOTEL TRIER PORTA NIGRA หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY5

เทียร์ - ซาร์บวร์ก - สตราสบูร์ก

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาร์บวร์ก (Saarburg) เมืองเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำซาร์ ในรัฐ Rhineland-Palatinate ทางตะวันตกของประเทศ ใกล้กับชายแดนประเทศลักซ์เซมเบิร์ก สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 964 ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีระดับสูงต่ำไม่เท่ากัน โดยมีแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่านกลางเมือง ทำให้บางช่วงของแม่น้ำซาร์มีลักษณะเป็นน้ำตกในเมืองซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ของเมืองไปโดยปริยาย ภายในเมืองดังกล่าวเป็นสถานที่ตั้งของโรงงานทำระฆังเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศที่เปิดมาตั้งแต่ทศวรรษ 1770 และที่สำคัญคือเป็นโรงงานทำระฆังแห่งเดียวในเยอรมนีที่ผลิตระฆังด้วยทองแดง
  • นำท่านถ่ายรูปกับ คูโน ทาวเวอร์ (Kuno Tower) หอคอยโบราณที่ถือ ว่าเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของกำแพงเมืองเก่า จากนั้นชม อาคารศาลากลาง อาคารหินที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1906
  • ถ่ายรูปกับป้อมซาร์บวร์ก (Saarburg Fortress) ปราสาทป้อมปราการที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 964 ซึ่งปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามมากที่สุดในส่วนตะวันตกของประเทศเยอรมนีอีกด้วย ชมความงดงามของน้ำตกที่อยู่บริเวณใจกลางเมือง เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลลดหลั่นลงมาโขดหินที่มีความสูงกว่า 20 เมตร เหนือน้ำตกขึ้นไปยังเนที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติที่ชื่อว่า “Amüseum” ซึ่งภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับธุรกิจการค้าและวิชาชีพหัตถกรรมโบราณ อันได้แก่ การฟอกหนัง การผลิตรองเท้า และอื่นๆ สุดท้ายคุณต้องไม่พลาดไปชม กังหันที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงสามารถใช้งานได้มาจนถึงปัจจุบัน
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส (Alsace)ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม La Petite France (ปารีสน้อย)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมเขต  La Petite France ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins
  • นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก  อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนู หอยเอสคาโก้
 HILTON STRASBOURG  HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY6

สตราสบูร์ก - ริคเวีย - เอกิซไฮม์ - กอลมาร์ - ทิทิเซ่

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr)เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส
  • นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน  เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจ
  • นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Equisheim) Les Plus Beaux Village de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส  และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Villageมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึงปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่ ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาส  และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบ Half – Timber และบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง  ด้วยบรรยากาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลกเดินทางมาฮันนีมูนที่นี่

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินชมเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • นําท่านเดินทางสู่ เมือง ทิทิเซ่ (TITISEE) เขตป่าดําตอนใต้ (SOUTH BLACK FOREST) เมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางป่าสนอันอุดมสมบูรณ์และทะเลสาบสุดสวย ในประเทศเยอรมัน เดินทางถึง ทะเลสาบทิทิเซ่ ท่านจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติที่ห้อมล้อมทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยติดอันดับในทวีปยุโรปอีกด้วย นําท่านชมทิวทัศน์ความงดงามของป่าดํา และทะเลสาบ มนต์เสน่ห์ที่ท่านจะต้องหลงใหลไม่มีวันลืม  ให้ท่านได้เลือกซื้อหรือชม นาฬิกากุ๊กกู เป็นของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MARITIM HOTEL TITISEE  หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY7

ทิทิเซ่ – ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น - ชตุทท์การ์ท

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นําท่านชมทะเลสาบที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ทะเลสาบทิทิเซ่ (TITISEE LAKE) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในป่าดํามีความยาว 2 กิโลเมตร และมีความกว้าง 700 เมตร ผ่านบริเวณนี้ ท่านจะได้พบกับยอดเขาที่สูงที่สุดในป่าดํานั่นคือ ยอดเขา FELDBERG ซึ่งความสูงถึง 1500 เมตร
  • นำท่านเดินทางสู่ที่ตั้งของ ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ( Hohenzollen Castle) รัฐ บาเดิน-เวิอร์ทเทมแบร์ก (Baden – Wurttemberg) จากนั้นนำท่าน เข้าชมด้านในของปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ปราสาทแห่งนี้เป็น 1 ใน 8 ปราสาทเทพนิยายของประเทศเยอรมัน ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ตั้งตระหง่านอยู่เหนือชนบทของ Zollemalb ที่ความสูง 855 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ปราสาทแห่งนี้เป็นบ้านของราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างในศตวรรษที่ 11 ต่อมาได้ถูกทำลายลงในปี ค.ศ.1423 และสร้างขึ้นใหม่ถึงสองครั้ง โดยรูปแบบปัจจุบันเป็นผลงานจากสมัยศตวรรษที่ 19 ตอนปลาย ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักประจำของราชวงศ์ปรัสเซีย และเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์น ในปัจจุบันมีการปรับใช้ปราสาทให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยเป็นทั้งโรงละครแบบเปิด สถานที่จัดคอนเสิร์ต ปัจจุบัน แต่ละปีมีมีผู้คนมาเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าปีละ 300,000 คน จึงเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีคนมาเยี่ยมชมอันดับต้นๆ ของประเทศเยอรมัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองชตุทท์การ์ท (STUTTGART) เมืองหลวงของรัฐ Baden-Württembergทางตอนใต้ของเยอรมนีตั้งอยู่ในอ่างที่ล้อมรอบด้วยสวนผลไม้และภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่า ในหุบเขาด้านล่างคุณจะพบกับแม่น้ำ Neckar และส่วนที่เก่ากว่าของเมืองที่มีอาคารเก่าแก่ที่สวยงามและบ้านเรือนที่ค่อยๆไต่ขึ้นไปตามแนวลาดเขาโดยรอบ นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งกำเนิดของอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนีและเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของเมอร์เซเดส – เบนซ์และพอร์ช
  • นำท่านชม พิพิธภัณฑ์รถพอร์ช (Porche Museum) พอร์ชก่อตั้งโดย Ferdinand Porsche ในปี 1931ก่อนหน้านั้น วิศวกรยานยนต์ผู้นี้ได้ออกแบบรถไฮบริดที่ใช้น้ำมันและไฟฟ้าคันแรกของโลก และมีส่วนร่วมในการพัฒนารถเต่าของโฟล์กสวาเกน ชมคุณสมบัติทางสมรรถนะ เทคโนโลยี และรูปลักษณ์ของรถแข่งและรถสปอร์ตอันโด่งดังของพอร์ช ซึ่งมีรถจัดแสดงกว่า 80 คัน ท่านจะได้ศึกษาประวัติศาสตร์ที่สมบูรณ์ของผู้ผลิตรถยนต์หรูรายนี้ ชมพัฒนาการของรถยนต์พอร์ช เรียนรู้เทคโนโลยีรถสปอร์ต และดูการทำงานจริงของช่างเครื่องในบริษัท
  • นำท่าน ชลอสส์พลาทซ์ (Schlossplatz) จัตุรัสใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชตุทท์การ์ท ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1746 – 1807 และมีการปรับปรุงใหม่อีกครั้งในปี 1977 เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆมากมายไม่ว่าจะเป็น ปราสาทใหม่ (New Castle) , พิพิธภัณฑ์ศิลปะ , ลานน้ำพุ , สถานีรถไฟหลัก และอื่นๆ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
PARK INN BY RADISSON STUTTGART HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY8

ชตุทท์การ์ท – เบอซิกไฮม์ – บาด วิมเฟน - ดิลเกลส์บูล - โรเธนบวร์ก

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองเบอซิกไฮม์ ( Besigheim) เมืองเล็กๆ ตั้งแต่ยุคกลาง ที่ยังถุกรักษาไว้อย่างดี จนได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองไวน์ที่สวยที่สุดของเยอรมัน นำท่านเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนสไตล์ครึ่งไม้ หรือ Half -timber ที่มีความเก่าแก่ นำท่านถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมืองที่มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี จากนั้นอิสระให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึกและชมเมืองตามอัธยาศัย จนได้เวลานัดหมาย
  • นำท่านเดินทางสู่เมืองบาด วิมเฟน (Bad Wimpfen) ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเนคคาร์( River Neckar) ปัจจุบันเมืองบาด วิมเฟนได้กลายเป็นศูนย์รวมของสถาบันสปาต่างๆ รวมไปถึงเหล่าอาคารบ้านเรือนที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็น อาคารศาลาว่าการเมือง โบสถ์ หอคอย โรงแรม พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงเหล่าอาคารบ้านเรือนที่สร้างในแบบโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี นำท่านเดินชมเมืองบาด วิมเฟน ที่มีความสวยงามแห่งนี้ ด้วยความสวยงามของเมืองยังได้รับการโหวตว่าเป็น 1 ใน 15 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน อีกด้วย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิงเกลส์บูล ( Dinkelsbühl ) เมืองท่องเที่ยวที่เก่าแก่แห่งแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ของประเทศเยอรมนี (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน ) ส่วนใหญ่มักถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและอาคารเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ด้วยสีสันและศิลปะในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จึงส่งผลให้ดิงเกลส์บูลเป็นเมืองที่น่ามาเยือนมากที่สุด
  • นำท่านชมโบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George’s Cathedral) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 โดยตัวโบสถ์นั้นออกแบบโดย Nikolaus Esele ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์ในแบบสไตล์โกธิคที่สวยงามอีกแห่งของเมือง  ชมภาพเขียนรูปพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนฝีมือ มิคาเอล โวลเกอมุท (Michael Wolgemut) ที่อยู่เหนือแท่นบูชาที่สร้างในปี ค.ศ.1892
  • นำท่านชมย่าน  ไวน์มาร์ค (Weinmarkt) หรือไวน์ มาร์เก็ต (Wine Market) ซึ่งเป็นตึกเก่าเรียงตัวกันอยู่ 5 หลัง มีสีสันตัดกันตั้งแต่สีส้ม สีเขียว สีแดง สีเหลือง ซึ่งการทาสีบ้านในเมืองนี้เน้นการทาสีเดียว (single color) และเขียนชื่อธุรกิจไว้หน้าบ้านด้วยตัวหนังสือแบบลายมือ (calligraphy letter) ในสีเอิร์ธโทน (earth tone) นอกจากตามหน้าต่างจะมีการประดับด้วยกระถางไม้ดอกสีสดใสแข่งขันชูช่อออกดอกบานสะพรั่งแล้ว อีกเอกลักษณ์สำคัญของอาคารเก่าก็คือ หลังคาสีแดงสดที่เหมือนกันไปหมดทั้งเมือง ในส่วนของจุดเด่นของอาคารแถบนี้คงเป็นที่หน้าจั่วแบบขั้นบันได โดยตึกสีส้มที่อยู่ตรงหัวมุมจะมีลักษณะพิเศษเพิ่มนอกจากหน้าจั่วแล้วยังมีโดมเล็กๆ อยู่ด้านบนอีก ปัจจุบันเป็นโรงแรมที่ชื่อว่า อัลเดอร์เมน อินน์ (Aldermen’s Inn) ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นที่ประทับของบุคคลสำคัญๆ เช่น จักพรรดิ์คาร์ลที่ 5 (Emperor Karl V) เมื่อปี ค.ศ.1546 และกษัตริย์กุสตาฟ อดอล์ฟ แห่งสวีเดน เมื่อปี ค.ศ.1632 จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
  • นำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber)  หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
  • นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274 นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค
  • นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากหลายสีสันจตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า

รับประทานอาหารค่ำ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL  หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY9

โรเธนเบิร์ก – มิลเท่นเบิร์ก - แฟรงก์เฟิร์ต – จตุรัสโรเมอร์ – ช้อปปิ้ง - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง มิลเท่นเบิร์ก (Miltenberg) ฉายาเมืองไข่มุกแห่งแม่น้ำไมนซ์ “Mainz River” เมืองที่เป็นหนึ่งในเส้นทางการค้าสำคัญของประเทศเยอรมัน มาตั้งแต่อดีต โดยเมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบแคบๆ ระหว่างเชิงเขา Odenwald กับแม่น้ำชื่อเดียวกับเมือง ภายในเขตเมืองขึ้นชื่อเรื่องบ้านเรือนยุคกลางที่ยังคงรักษาไว้อย่างสมบูรณ์เรียงรายไปด้วยบ้านครึ่งไม้ Half – Timbered แต่ละหลังตกแต่งสวยงามสีสันสวยสดใส ที่ถูกรักษาไว้อย่างดีและรอดพ้นจากสงครามต่างๆมาได้ อิสระให้ท่านได้ เดินเล่น ชมเมือง หรือ เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
  • นำเดินทางเข้าสู่เมือง แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ  ภัตตาคารอาหารไทย

  • นำชมย่าน โรเมอร์ จตุรัสเมืองที่เก่าแก่ของแฟรงค์เฟิร์ต ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและศิลปกรรมไว้อย่างดีอิสระให้ท่านเดินเล่น ชมเมืองเมืองช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ เช่น กระเป๋าเดินทาง Rimowa,Samsonite, นาฬิกาหรือ สินค้าแบรนด์เนมหรือของที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
  • 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย  เที่ยวบินที่ TG 923

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ณ โรงแรมที่พัก
HOTEL SPLENDID HOTEL โรงแรมระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

DAY10

สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ)

  • 12.30 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน