ทัวร์โปรตุเกส


Tour by HappyLongway

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์โปรตุเกส

รหัสทัวร์ : GRAND PORTUGAL 12 DAY (EK)
ระยะเวลา 12 วัน 9 คืน
สายการบิน : EMIRATES (EK)

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 18 ก.ย. 67 - 29 ก.ย. 67 199,900 บาท
2 12 ต.ค. 67 - 23 ต.ค. 67 199,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
  • 2
  • 3

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์เจาะลึก โปรตุเกส
โปรตุเกส 12 วัน 9 คืน
โดยสายการบินเอมิเรสต์ (EK)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T ประตู 9-10 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส (EK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก ด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
DAY2

ดูไบ - กรุงลิสบอน (โปรตุเกส) - ชมเมือง

  • 02.50 น. ออกเดินทางสู่ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินEK 377

***หมายเหตุ ไฟล์ทบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง***

  • 06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 07.25 น. ออกเดินทางสู่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินEK 191
  • 12.35 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรนำท่านออกเดินทางสู่กรุงลิสบอน เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส เมืองลิสบอนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทิศตะวันตก ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคของคาบสมุทรไอบีเรีย
  • จากนั้นแวะถ่ายรูปกับ หอคอยเบเลม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก เป็นจุดเริ่มต้นของ การเดินเรือออกไปสํารวจ และค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม  หอคอยเบเลมและมหาวิหารเจอโรนิโมได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 และเป็นสองในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส                                                            THE TOWER OF BELEM - LA TORRE DE BELEM | The Belem tower is … | Flickr
  • จากนั้นนําท่านถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ (Monument to the Discoveries) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสนพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิกเตอร์
  • จากนั้นแวะถ่ายรูปกับ สะพาน Ponte 25 de Abril สะพานที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1966 รูปร่างหน้าตาคล้ายกับสะพานโกเด้นเกทที่เมืองซานฟรานฯ สหรัฐอเมริกา                                                                    Ponte 25 de Abril - Portugal | A Ponte 25 de Abril, também c… | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณจัตุรัส Praca de Comercio จัตุรัสสำคัญของเมืองลิสบอน โดยจะมีสิ่งปลูกสร้างเป็นสีเหลืองล้อมรอบทั้งหมด โดยตัวจัตุรัสตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tagus โดยในอดีตเรือสินค้าต่างๆจะมาขึ้นท่าเทียบเรือที่นี้ ให้ท่านเดินเล่นชมความสวยงามหรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
DOUBLE TREE BY HOTEL LISBON หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY3

ลิสบอน - ภูมิภาคอัลการ์ฟ - แฟโร - อัลบูฟีเดอ

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฟาโร (Faro) (ระยะทาง 280 กม. ใช้เวลา 3.30 ชม.) เมืองริมทะเลน่ารักๆ เป็นเมืองศูนย์กลางการบริการจัดการของเขตอัลการ์ฟ ซึ่งเป็นเขตทางตอนใต้ของโปรตุเกส เมืองนี้เป็นอีกเมืองท่าของชาวมัวร์ ซึ่งต่อมาได้ถูกกษัตริย์ อฟองโซ ที่ 3 ครอบครองในปี ค.ศ. 1249 จนถึง ค.ศ. 1596 ในช่วงสงครามครูเสด เอิร์ลแห่งซัสเซ็กซ์ ของอังกฤษได้เข้ามาครอบครองเมืองนี้

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านชมวิหารฟาโร (Cathedral of Faro) เป็นมหาวิหารโรมันคาธอลิกในเมืองฟาโร ประเทศโปรตุเกส โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ในนามของพระแม่มารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ในปลายศตวรรษที่ 13 โดยอัครสังฆราชแห่งบรากา
  • ชมซุ้มประตูอาโคดาวิล่า (Arco da Vila) สร้างขึ้นในช่วงยุคกลางของเมืองซุ้มประตูอนุสาวรีย์นี้ได้รับการว่าจ้างจาก Bishop Francisco Gomes de Avelar ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยสถาปนิกชาวอิตาลีฟรานซิสโกซาเวียร์ฟาบรี การตกแต่งซุ้มประตูเป็นรูปปั้นของนักบุญโทมัสอาควินัส ซึ่งถือว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของฟาโร                                                                      File:Arco da vila 2016 2.jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านเดินเล่นชมเมือง ให้ท่านได้เลือกสินค้าตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง อัลบูฟีเดอ (Albufeira) เป็นเมืองที่ชายหาดสวยงามที่สุดของโปรตุเกส โดยตั้งอยู่ในแคว้นอังกราฟ เเละห่างจากเมืองฟารูซึ่งเป็นเมืองหลวงเป็นระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร ถือเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมอย่างมากในฤดูร้อน เเละเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของบรรดานักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวโปรตุเกส โดยอัลบูฟีเดอ เป็นเมืองที่สร้างมาตั้งเเต่สมัยของโรมันเรืองอำนาจ คุณจะจะได้พบกับซากปรักหักพังของอาคารสไตล์โรมันมากมายในเมืองเเห่งนี้ เพราะเหตุการณ์เเผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1755 ทำให้อาคารล่มสลายอย่างมากมายก่อนที่จะมีการบุรณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โดยมีจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ของเมืองเเห่งนี้ก็คือชายหาด Praia dos Pescadores ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากเเละมีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาเล่นน้ำกันอย่างมากมายPraia dos Pescadores / Algarve / Portugal // World Beach Guide
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมือง อัลบูฟีเดอ โดยบ้านเรือนส่วนใหญ่ทาสีขาวสวยงาม ลดลั่นตามพื้นที่สวยงามยิ่งนัก

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SÃO RAFAEL ATLÂNTICO หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว (พัก 2 คืน)

DAY4

อัลบูฟีเดอ - ลากัว - ล่องเรือชมถ้ำเบนากิล - ลากอส - อัลบูฟีเดอ

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่ ลากัว (Lagoa) เมืองชายหาดในแคว้นแอลการ์ฟ (Algarve)
  • นำท่านล่องเรือชม ถ้ำเบนากิล (Benagil Cave) ถ้ำริมทะเลแห่งนี้มีความสวยงามเฉพาะตัวเกิดขึ้นโดยฝีมือธรรมชาติ                                                                                                                                        Benagil Cave - Algarve Portugal Free Stock Photo - Public Domain Pictures
  • เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่มีภูเขาหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ แต่เมื่อไปสำรวจภาพในจะพบกับช่องหลาย ๆ ช่อง ทำหน้าที่เปรียบดั่งเป็นประตูไปสู่ถ้ำทะเล และยังมีความพิเศษตรงที่หลังคาของถ้ำไม่มีความทึบแต่มีรูอยู่ด้านบนจนทำให้แสงสว่างกระทบมาถึงด้านล่างถ้ำที่เป็นชายหาดได้ ทำให้บริเวณนี้ไม่มืดและเป็นดั่งโถงธรรมชาติอันสวยงาม

***หมายเหตุ การล่องเรือขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยขอสงวนสิทธิ์ในการงดล่องเรือ***

  • จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่แผ่นดินใหญ่ เดินทางสู่ ลากอส (Lagos) เป็นเมืองชายหาดที่มีความสวยงามที่สุดในภูมิภาคแอลการ์ฟและเป็นเมืองที่มีชายหาดที่แสนจะสวยงามเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีความเก่าแก่มาอย่างนาน จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดที่มีความสวยงามและเก่าแก่เหมาะแก่การมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมป้อม Forte da Ponta da Bandeira สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 17 ทางเข้าคือสะพานชักเหนือคูเมืองเป็นป้อมปราการป้องกันหลังหนึ่งที่ดีที่สุดในเมืองลากอส
  • เดินทางสู่จุดชมวิว กลุ่มแท่งหินในทะเล (Ponta da Piedade) ที่สวยงามแปลกตา ให้ท่านได้ชมวิว และถ่ายรูปตามอัธยาศัย                                                                                                                    Ponta da Piedade | Jerome Bon | Flickr

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
SÃO RAFAEL ATLÂNTICO หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว  

DAY5

อัลบูฟีเดอ - เอโวรา - ซินทรา

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองเอโวร่า (EVORA) (ระยะทาง 230 กม. ใช้เวลา 3 ชม.) เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม (Unesco) เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ขอโปรตุเกส เป็นเมืองที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยโรมันจนกระทั้งถึงยุคกลางไว้ได้อย่างดี

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นชมวัดโรมันแห่งเอโวรา (Roman Temple) วัดซึ่งมีเอกลักษณ์ของโรมันแสดงถึงศักยานุภาพของอาณาจักรโรมันในอดีตที่ได้แผ่ขยายมาถึงโปรตุเกส                                                                  File:The Roman Temple of Évora, Ebora, Lusitania, Portugal (12798100864).jpg - Wikimedia Commons
  • นำชมวิหารโครงกระดูกแห่งเอโวรา (Chapel of Bones) เป็นโบสถ์ขนาดเล็กตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าของโบสถ์เซนต์ฟรานซิส ภายในโบสถ์มีความกว้าง 11 เมตร และยาว 18.7 เมตรโบสถ์ที่ถูกตกแต่งด้วยหัวกะโหลกและโครงกระดูกมากมาย ถูกสร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งกระดูกมาจากมนุษย์ที่ถูกฝังในสุสานยุคกลางของเอโวรา                                                                                                                  Chapel of the Bones, inside Church of St. Francis, Evora, … | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเข้าสู่จตุรัสกิรัลโด (Giraldo Square) ศูนย์กลางที่สำคัญของเมืองและเป็นที่ตั้งของลานน้ำพุที่สร้างแบบศิลปะยุคเรอเนสซอง ในศตวรรษที่ 16 อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ซินทรา (Sintra) (ระยะทาง 155 กม. ใช้เวลา 1.45 ชม.) เมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงามที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก (UNESCO)
  • จากนั้นนำท่านชมย่านเก่าเมืองซินทรา (Old Centre of Sintra) จุดศูนย์รวมตึกอาคารที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเมือง รวมถึงพิพิธภัณฑ์สำคัญๆ ต่างๆ เช่น Museu Anjos Texeira และ Museu de História Natural เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีโบสถ์ ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง 

HOTEL NH SINTRA CENTRO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY6

ซินทรา - แหลมโรก้า - พระราชวังพีน่า - ปราสาท Quinta da Regaleira - ออบิดุส - นาซาเร่

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ แหลมโรก้า (Capo Da Rocca) (ระยะทาง 20 กม. ใช้เวลา 30 นาที) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุดแผ่นดินทางตะวันตกของยุโรป โดยมีหน้าผาและประภาคารริมมหาสมุทรแอตแลนติคเป็นแลนด์มาร์ค ให้ท่านได้เก็บภาพความประทำใจหรือท่านใดสนใจสามารถเลือกซื้อใบประกาศนียบัตร ว่าได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้แล้ว                                                                                            Cabo da Roca: conheça um dos lugares mais bonitos de Portugal
  • นำท่านเข้าชม พีน่า พาเลซ (Pena National Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้า โดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส ส่วนใกล้ๆกับพระราชวังจะเป็นพีน่าพาร์ค (Pena Park) สวนป่าขนาดใหญ่ ที่มีการจัดแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดView of Palácio Nacional da Pena-1453029 - PICRYL - Public Domain Media Search Engine Public Domain Search
  • อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านชมปราสาท Quinta da Regaleira ปราสาทสุดอลังการ มรดกโลกอีกแห่งหนึ่งใน ซิงตรา ที่มีการถ่ายทอดแนวคิด ความเชื่อ และจินตนาการอันล้ำลึกของ Carvalho Monteiro เศรษฐีชาวบราซิลที่นำบ้านหลังนี้มาปรับปรุงใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 19 จนกลายมาเป็นปราสาทที่มีแผนผังและโครงสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร                                                                                      Rehabilitación Quinta da Regaleira en Portugal • Isaval
  • ซึ่งนอกจากตัวปราสาทแล้ว พื้นที่โดยส่วนใหญ่ของที่นี่จะแบ่งให้กับ สวนป่า ทะเลสาบจำลอง บ่อน้ำลึกลับ (Initiation Well) โบสถ์ และอื่นๆ อีกมากมาย แค่เดินเข้าไปก็รู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้าไปในอีกมิติหนึ่งที่แฝงไปด้วยความพิศวงและความอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง โอบิดอส (OBIDOS) (ระยะทาง 95 กม. ใช้เวลา  1.15 ชม.) เมืองป้อมปราการโบราณ ซึ่งมีประชากรอยู่เพียงหมื่นกว่าคนในปัจจุบัน ชื่อเมืองตั้งมาจากภาษาละตินโบราณ ซึ่งแปลว่าป้อมปราการอันแข็งแกร่ง ก่อตั้งขึ้นโดยอาณาจักรโรมัน และยึดครองโดยแขกมัวร์เมื่อช่วงศตวรรษที่ 7 และอีก 400 ปี ถัดมาได้ถูกยึดครองโดย อฟองโซ่ เฮนริค กษัตริย์องค์แรกแห่งโปรตุเกส นำท่านเดินชมเมืองเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี บ้านเรือนจะถูกทาสีขาวสวยงาม โดยมีป้อมปราการและปราสาทถูกขนานนามเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส โดยป้อมปราการนี้เป็นของขวัญวันอภิเษกสมรสแม่นางอิซาเบลแห่งอาณาจักรอารากอนเมื่อค.ศ. 1282
  • นำท่านเดินชมเมืองอิสระท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
  • เดินทางสู่เมือง นาซาเร่ (Nazaré) (ระยะทาง 40 กม. ใช้เวลา 45 นาที) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ มีหาดทรายที่สวยงาม และบรรยากาศที่สบายเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันเป็นเมืองท่าตากอากาศที่สำคัญของโปรตุเกส                                                                                                                                    Nazaré - Live in Center of Portugal

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HOTEL MIRAMAR SUL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY7

นาซาเร่ - ขึ้นรถรางชมวิว - คอสตา โนวา - อาเวโร่ - ปอร์โต้

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านขึ้นรถราง เพื่อชมเมืองเก่าด้านบนภูเขา พร้อมชมวิวทั่ว ทั้งเมืองนาซาเร่และทะเลจากมุมสูงแบบพาโนรามา
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง คอสตา โนวา (Costa Nova) (ระยะทาง 150 กม. ใช้เวลา 1.45 ชม.) หมู่บ้านชาวประมงของชาวโปรตุเกสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความสะดุดตาเพราะสีสันแบบลูกกวาดดูแล้ว น่ารัก สดใส สบายตา หมู่บ้านคอสตา โนวา ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Aveiroก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1808 เป็นเมืองที่อยู่ติดกับชายฝั่งทะเล ทำให้อาชีพหลักของชาวบ้านคือการทำประมง และเหล่าชาวประมงก็ได้สร้างบ้านริมทะเลขึ้นโดยสร้างบ้านที่มีรูปทรงปกติทั่วไป แต่ได้เพิ่มสีสันของตัวบ้านด้วยการทาสีเป็นแนวตารางสลับขาว เช่นสีเหลืองขาว สีน้ำเงินขาว เป็นสีสดใสที่ตัดกันสร้างความสะดุดตาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็จะมีการทาสีเหมือนกันหมด กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำชุมชนไปโดยปริยาย ทั้งยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของประเทศ นำท่านท่านรูปกับบ้านเรือนสีสันสดใสสุดน่ารัก                                                                            File:Costa Nova (Ílhavo-Aveiro) (21442996449).jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมือง อาเวโร่ (Aveiro) เมืองศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญแหล่งหนึ่งของโปรตุเกสซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่เจริญมากๆ เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “เวนิสแห่งโปรตุเกส” เนื่องจากความสวยงามของคลองที่ตัดผ่านในตัวเมือง โดยมีสะพานเชื่อมแต่ละฝั่งเข้าด้วยกัน และมีเรือกอนโดลาและเรือเร็วหลากสีสันล่องไปตามลำคลองเหล่านั้น

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมความงามของเมืองอาเวโร่ ซึ่งท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของอาคาร บ้านเรือนสีสันสดใสและสถานที่สำคัญๆ ของเมือง
  • จากนั้นนำท่าน ล่องเรือ “ Rua dos Combatientes da grande ชมความงามของเมืองอาเวโร่ซึ่งตลอดสองฟากฝั่ง ท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของอาคาร บ้านเรือนสีสันสดใสและสถานที่สำคัญๆ ของเมือง                                                                                                                            File:Ria de Aveiro edited.jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านเดินเล่นชมเมืองอาเวโร่หรือท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
  • นำท่านสู่เมืองปอร์โต (Porto) (ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลา 1 ชม.) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดูว์โรทางเหนือของโปรตุเกส หนึ่งในเมืองศูนย์กลางเก่าแก่ของยุโรป อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศโปรตุเกส และเมืองท่าที่สําคัญ และมีชื่อเสียงอย่างมาก จนองค์การยูเนสโกจึงได้ขึ้นทะเบียนเมืองปอร์โต้เป็นเมืองมรดกโลก (Unesco) ในปีค.ศ. 1996 และในปี 2014 และ2017 ยังได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกว่าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดอีกด้วย
  • นำท่านไปยังจุดชมวิว Miradouro da Serra do Pilar  ของเมืองปอร์โต้ เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวต่างมาชมความสวยงามของเมืองปอร์โต้ โดยมีสะพาน Ponte Luis I ที่สร้างขึ้นโดย Gustave Eiffel สถาปนิคชื่อดังที่ทำการออกแบบและสร้างหอไอเฟลขึ้นมาที่กรุงปารีส อยู่เบื้องหน้าthings to see and do in Porto - Miradouro da Serra do Pilar - World Wanderista
  • จากนั้นนำท่านเดินลงเก็บภาพบริเวณจุดชมวิวอีกแห่ง JARDIM DO MORRO ซึ่งเป็นสวนสาธารณะข้างๆ สะพานให้ท่านเดินเล่นบนสะพาน ให้ท่านเก็บภาพเมืองปอร์โต้ตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
EUROSTARS PORTO DOURO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)

DAY8

ปอร์โต้ - กีมาไรซ์ - บรากา - ปอร์โต้ - ล่องเรือ

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองกีมาไรซ์ Guimaraes (ระยะทางประมาณ 55 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) หนึ่งในเมืองที่สำคัญด้านประวัติศาสตร์ ซึ่งบริเวณศูนย์กลางของเมืองได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO) จากองค์การยูเนสโก เมืองกีมาไรซ์ ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เนื่องจากเมืองนี้เป็นที่ประสูติของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 กษัตริย์พระองค์แรกของโปรตุเกสโดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงตระหง่าน
  • นำท่านชม ปราสาทกิมาไรซ์ (Guimaraes Castle) ปราสาทยุคกลางที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 ตามคำสั่งของ Mumadona Dias เคาน์เตสแห่งโปรตุเกส เพื่อปกป้องเมืองจากการโจมตีของชาวมัวร์และชาวนอร์แมน ซึ่งปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส                                                                          Tickets & Tours - Guimarães Castle (Castelo de Guimarães), Northern Portugal - Viator
  • จากนั้นนำท่านชม Largo da Oliveira หรือ จัตุรัส Oliveira ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองกิมาไรซ์ และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในเมือง ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือนรวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมไปถึงร้านอาหารและร้านกาแฟ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านสู่เมือง บรากา (Braga) (ระยะทางประมาณ 25 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) นับว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สามของโปรตุเกสโดยตั้งอยู่ในหุบเขาที่เเสนจะสวยงามท่ามกลางเนินเขาเล็กๆ และภูเขาที่มีความเขียวชอุ่มมากมาย พร้อมกับบรรยากาศในแบบเมดิเตอร์เรเนีย เมืองเเห่งนี้จะเต็มไปด้วยอาคารสำคัญๆ ทางศาสนามากมาย เเละพิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยงามหลายต่อหลายแห่ง
  • จากนั้นนำท่านชม Sanctuary of Bom Jesus do Monte ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความเชื่อกันมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก โดยมันอยู่ทางตอนเหนือของเมือง เเละมีโบสถ์อยู่ด้านบน โดยคุณต้องขึ้นบันไดผ่านเเนวกำเเพงที่ทอดยาว โดยตัวโบสถ์นั้นมีความเก่าเเก่มาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 18 ซึ่งสร้างบนฐานเดิม ตั้งเเต่ศตวรรษที่ 13                                                                                                                        UNESCO recommendations to the Bom Jesus Sanctuary were approved by the World Heritage Committee – Confraria do Bom Jesus do Monte
  • สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถานที่แสวงบุญของชาวคริสต์ที่มีบันไดแบบบาโรกขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 116 เมตร โดยโบสถ์แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นรดกโลก (Unesco) จากองค์การยูเนสโกอีกด้วย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเข้าสู่เมืองเก่าของบรากา นำท่านเดินชมเมืองบรากาอันเก่าแก่ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองปอร์โต นําท่านสัมผัสบรรยากาศการ ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ในแม่น้ำโดรู่(Douro) ผ่านหมู่บ้านชาวประมงอาชีพเก่าแก่ โรงไวน์ที่มีมากถึง 70 แห่ง สะพานข้ามแม่น้ำ Ponte de D.Luis I สะพานเหล็ก 2 ชั้นทีมีชื่อเสียงสร้างและออกแบบโดยกุสตาฟ ไอเฟล
  • อิสระให้ท่านเดินชมเมืองริมแม่น้ำโดรู่ตามอัธยาศัย ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึก ของฝาก หรือ นั่งจิบกาแฟ ชมเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
EUROSTARS PORTO DOURO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY9

ปอร์โต้ - โกอิมบรา

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเข้าชมโบสถ์ GREJA DO CARMO & IGREJA DOS CARMELITAS โบสถ์ที่ตั้งอยู่บนจัตุรัสที่ Rua do Carmo โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 ตามสไตล์ศิลปะโรโกโก (Rococo) หรือบางครั้งก็เรียกกันว่าศิลปะแบบหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV Style) ศิลปะโรโกโกเริ่มพัฒนามาจากศิลปะฝรั่งเศส โบสถ์แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็น World Heritage Site โดย UNESCOIgreja do Carmo Church & Igreja das Carmelitas Church, Porto
  • จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับร้านหนังสือ Livaria lello ร้านหนังสือที่ติดอันดับความสวยงามระดับโลก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 ปัจจุบันมีอายุ 137 ปี ตั้งอยู่ในเมืองโปร์ตู (Porto) ประเทศโปรตุเกส เมืองที่ยูเนสโก (UNESCO) คัดเลือกและขึ้นทะเบียนเป็นให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1996 และเป็นร้านหนังสือที่ เจ เค โรรว์ริ่ง ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบโรงเรียนพ่อมดฮอกวอร์ตในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์File:Entrada da Livraria Lello.jpg - Wikimedia Commons

**หากตั๋วเข้าชมแบบจองออนไลน์เต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ พาท่านเข้าคิวแทน**

  • จากนั้นนําท่านเข้าชม โบสถ์แซ่ (Se Cathedral หรือ Se de Porto) โบสถ์เก่าแก่ที่สุดของเมืองมีอายุกว่าพันปี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณปราสาทโบลซ่า สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 แต่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยมาหลายครั้งจนกระทั่งศตวรรษที่ 18 Sé do Porto เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานโรมันท้องถิ่นที่สำคัญที่สุด ได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 1910
  • นําท่านชม ย่านเขตท่าเรือเก่า Caise de Ribira บ้านเรือสุดคลาสสิกที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ Douro ที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมากในอดีต ปัจจุบันได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านสู่ถนน Santa Catarina ถนนสายช้อปปิ้งสำคัญของเมืองปอร์โต้ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าทั้งแบรนด์เนมของที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง โกอิมบรา (Coimbra) (ระยะทาง 125  กม. ใช้เวลา 1.30  ชม.) เป็นอีกเมืองสําคัญของโปรตุเกส เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโปรตุเกสและถือเป็นมหาลัยที่เก่าแก่อันดับต้นๆของยุโรปอีกด้วย ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ํามอนเดโก (Mondego) สมัยโรมันปกครองเมืองนี้ได้รับการ เรียกขานว่า เอมีเนียม แต่ในปีค.ศ. 711 เมืองนี้ถูกปกครองโดยชาวแขกมัวร์และเป็นเมืองที่เชื่อมการค้าระหว่าง ชาวคริสต์ทางตอนเหนือและชาวมุสลิมทางตอนใต้และในปีค.ศ. 1064 กษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งลีออน ได้รบชนะชาวแขกมัวร์และปลดปล่อยเมืองโกอิมบราจากการปกครองของชาวมัวร์
  • นำท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าของโกอิมบลา ถนนคนเดินเฟอร์เรยรา บอร์เกส (Rua Ferreira Borges) เราสามารถเดินชมเมืองเก่าไปตลอดทาง พร้อมทั้งช้อปปิ้งได้แบบเพลินๆ ให้ท่านอิสระเดินเล่นเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

TIVOLI COIMBRA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY10

โกอิมบรา - บาตาลยา - ฟาติมา - ลิสบอน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • นําท่านเข้าชมมหาวิทยาลัย โกอิมบรา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1290 โดยกษัตริย์ Kind Dinis I และ ในปีค.ศ. 1338 กษัตริย์ Afonso IV ได้ทำการย้ายมหาวิทยาลัยและสร้างมหาวิทยาลัยใหม่ที่กรุงลิสบอน และในปี ค.ศ. 1537 กษัตริย์ King John ที่ 3 ได้เปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวง (Coimbra Royal Palace) นําท่านชมและถ่ายรูป กับสถานที่สำคัญภายในมหาวิทยาลัย ที่ยังคงศิลปะสไตล์3บารอค
  • จากนั้นนำท่านสู่ Batalha (บาตาลยา) (ระยะทางประมาณ 90 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในเขตเลเรีย บาตาลยากลายเป็นเมืองสำคัญที่มีสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญและได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
  • นำท่านเข้าชม โบสถ์บาตาลยา Batalha Monastery หรือ Mosteiro De Santa Maria Da Vitoria โบสถ์แห่งสร้างเพื่อถวายพระแม่มารี ตั้งอยู่ใกล้กับสนามรบที่พระเจ้าฌูเอาว์ที่ 1 (João I) แห่งโปรตุเกส นำทหารโปรตุเกสรบกับพระเจ้าจอห์นที่ 1 กษัตริย์แคว้นคาสตีล (John I of Castile) ซึ่งมาอ้างสิทธิการครอบครองราชย์บัลลังก์และแผ่นดินโปรตุเกส ผ่านราชินีของตน จนมีชัยชนะ ในปีค.ศ. 1385monumento da Batalha | katedra : gothic monument and beautif… | Flickr
  • โบสถ์นี้สร้างโดยพระเจ้าฌูเอาว์ที่ 1 (João I) เพื่อถวายพระแม่มารี ตามคำอธิษฐานขอพรให้ก่อนออกรบ ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO) จากองค์การยูเนสโก

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองฟาติมา (Fatima) (ระยะทางประมาณ 20 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ  30 นาที) เมืองซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้แสวงบุญผู้ซึ่งเดินทางมาสักกการะบูชาพระแม่มารีที่มหาวิหารขนาดใหญ่ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่พระแม่มารีตามตำนานเล่าว่า เด็กเลี้ยงแกะ 3 คน นามลูเซีย, ฟรานซิสโก, และจาซินต้า ได้พบกับพระแม่มารีอาหรือพระแม่พระประจักษ์ที่ทรงเสด็จมามอบข่าวสารจากสวรรค์ให้กับมนุษย์
  • จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารฟาติมา (Sanctuary of Our Lady of Fátima) มหาวิหารที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1928 โดยในทุกๆปี จะมีชาวคาทอลิคผู้แสวงบุญเดินทางมาสักการะบูชาพระแม่มารีย์นับล้านคนในวันที่ 13 พฤษภาคม – 13 ตุลาคม                                                                                      File:Santuário de Fátima (3) - Jul 2008.jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงลิสบอน (ระยะทางประมาณ 130 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) นำท่านช้อปปิ้งย่านถนน Avenida da Liberdade ถนนสายช้อปปิ้งที่สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากถนนChamps-Élysées ของปารีสซึ่งเชื่อมระหว่างจัตุรัสสองแห่ง (Praça dos Restauradores และ Praça Marquês de Pombal) และเป็นที่รู้จักจากร้านค้าหรูหราเป็นถนนที่เชื่อมจากเขตเมืองเก่าผ่าใจกลางเมืองไปสุดทางที่จัตุรัสมาร์เกส เดอ ปอมบาล ที่มีอนุสาวรีย์ของมาร์เกส เดอ ปอมบาล ยืนโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเสาสูง อิสระกับการช้อปปิ้งสินค้าชื่อดังมากมาย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
DOUBLE TREE BY HILTON HOTEL LISBON หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY11

ลิสบอน - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเก็บภาพความประทับใจของเมืองจากจุดชมวิว Miradouro das Portas do Sol  หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยงามท่านจะมองเห็นตัวมืองลิสบอน โดยด้านหน้ามีทะเล และ สะพาน Ponte 25 de April  สะพานที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1966 รูปร่างหน้าตาคล้ายกับสะพานโกเด้นเกทที่เมืองซานฟรานฯ  สหรัฐอเมริกา ให้ท่านเก็บภาพความประทับตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารเจอโร นิโม (Jeronimos Monastry) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโกดา กามา ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสําเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงานสถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วจึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก (UNESCO)Jeronimos Monastery - Belem | Churches | Portugal Travel Guide

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • จากนั้นนำท่านสู่จัตุรัส Praca de Rossio  จัตุรัสสุดสวยกลางเมืองลิสบอน เป็นที่นัดพบของชาวเมือง2023 - Portugal - 13 - Lisbon - 13 of 125 - Fonte Sul do R… | Flickr
  • นำท่านเดินเล่นแวะถ่ายรูปกับ Elevador de Santa Justa เป็นลิฟท์ที่สร้างขึ้นกลางเมืองตั้งแต่ปี ค.ศ.1902 โดยตัวลิฟท์สูง 45 เมตร ปัจจุบันยังเปิดใช้เพื่อให้ผู้คนได้ขึ้นไปชมวิวElevador de Santa Justa | Just Booked A Trip | Flickr
  • จากนั้นนำท่านสู่ย่าน AUGUST STREET  ถนนย่านช้อปปิ้งสำคัญของกรุงลิสบอน อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

***อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย***

  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน  เพื่อมีเวลาให้ท่านทำ Tax Refund
  • 21.15 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ  โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK194

***หมายเหตุ ไฟล์ทบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง***

DAY1

ดูไบ - สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

  • 08.05 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 09.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 372
  • 19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน