ทัวร์โปรตุเกส


Tour by HappyLongway

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์โปรตุเกส

รหัสทัวร์ : GRAND PORTUGAL 12 DAY (EK)
ระยะเวลา 12 วัน 9 คืน
สายการบิน : EMIRATES (EK)

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 12 ก.พ. 68 - 23 ก.พ. 68 190,900 บาท
2 12 มี.ค. 68 - 23 มี.ค. 68 190,900 บาท
3 9 เม.ย. 68 - 20 เม.ย. 68 195,900 บาท
4 23 เม.ย. 68 - 4 พ.ค. 68 195,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชมกรุง LISBON เมืองหลวงของโปรตุเกส
  • 2
    ชมเมือง PORTO เมืองท่องเที่ยวสำคัญของโปรตุเกส
  • 3
    ล่องเรือชมถ้ำ Benagil Cave สถานที่สุดมหัศจรรย์
  • 4
    ชม Pena National Palace พระราชวังสุดสวยของเมืองซินทรา
  • 5
    ชมปราสาท Quinta da Regaleira หนึ่งในปราสาทสุดสวยของประเทศ
  • 6
    ชมเมือง OBIDOS เมืองสีขาวบนเนินเขาสุดสวย
  • 7
    ชมเมือง EVORA เมืองมรดกโลก อดีตเมืองสำคัญในสมัยโรมัน
  • 8
    ชมโบสถ์โครงกระดูก Chapel of Bones แห่งเมือง EVORA
  • 9
    ล่องเรือชมเมือง Aveiro สมญานาม เวนิส แห่งโปรตุเกส
  • 10
    ชมเมือง Guimaraes เมืองมรดกโลก ต้นกำเนิดประวัติศาสตร์ของโปรตุเกส
  • 11
    ชมวิหาร Sanctuary of Bom Jesus do Monte มรดกโลกแห่งเมือง Braga
  • 12
    ชมมหาวิทยาลัย Coimbra หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
  • 13
    ชมเมือง Fatima หนึ่งในเมืองสำคัญของคาทอลิค

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์เจาะลึก โปรตุเกส
โปรตุเกส 12 วัน 9 คืน
โดยสายการบินเอมิเรสต์ (EK)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T ประตู 9-10 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส (EK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก ด้านสัมภาระ และบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
DAY2

ดูไบ - กรุงลิสบอน (โปรตุเกส) - เอโวรา (Unesco) - โบสถ์โครงกระดูก - วิหารโรมัน - ชมเมือง

  • 01.05 น. ออกเดินทางสู่ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยเที่ยวบิน EK 385

***หมายเหตุไฟล์ทบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง***

  • 04.55 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 07.20 น. ออกเดินทางสู่ลิสบอน โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 191
  • 12.00 น. เดินทางถึง สนามบินกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง เอโวรา (EVORA) (ระยะทาง 115 กม. ใช้เวลา 1.20 ชม.) เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม (Unesco) เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ขอโปรตุเกส เป็นเมืองที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยโรมันจนกระทั้งถึงยุคกลางไว้ได้อย่างดี
  • จากนั้นนำท่านเข้าชมวิหารโครงกระดูกแห่งเอโวรา (Chapel of Bones) เป็นโบสถ์ขนาดเล็กตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าของโบสถ์เซนต์ฟรานซิส ภายในโบสถ์มีความกว้าง 11 เมตร และยาว 18.7 เมตรโบสถ์ที่ถูกตกแต่งด้วยหัวกะโหลกและโครงกระดูกมากมาย ถูกสร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 16 ซึ่งกระดูกมาจากมนุษย์ที่ถูกฝังในสุสานยุคกลางของเอโวรา                                                                                    Chapel of the Bones, inside Church of St. Francis, Evora, … | Flickr
  • ชมวิหารโรมันแห่งเอโวรา (Roman Temple) วัดซึ่งมีเอกลักษณ์ของโรมันแสดงถึงศักยานุภาพของอาณาจักรโรมันในอดีตที่ได้แผ่ขยายมาถึงโปรตุเกส                                                                          File:The Roman Temple of Évora, Ebora, Lusitania, Portugal (12798100864).jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านเข้าสู่จตุรัสกิรัลโด (Giraldo Square) ศุนย์กลางที่สำคัญของเมืองและเป็นที่ตั้งของลานน้ำพุที่สร้างแบบศิลปะยุคเรอเนสซองส์ ในศตวรรษที่ 16 อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HILTON GARDEN INN EVORA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY3

เอโวรา - ภูมิภาคอัลการ์ฟ - ฟาโร - อัลบูฟีเดอ

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฟาโร (Faro) (ระยะทาง 220 กม. ใช้เวลา 3 ชม.) เมืองริมทะเลน่ารักๆ เป็นเมืองศูนย์กลางการบริการจัดการของเขตอัลการ์ฟ ซึ่งเป็นเขตทางตอนใต้ของโปรตุเกส เมืองนี้เป็นอีกเมืองท่าของชาวมัวร์ ซึ่งต่อมาได้ถูกกษัตริย์ อฟองโซ ที่ 3 ครอบครองในปี ค.ศ. 1249 จนถึง ค.ศ. 1596 ในช่วงสงครามครูเสด เอิร์ลแห่งซัสเซ็กซ์ ของอังกฤษได้เข้ามาครอบครองเมืองนี้

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านชมวิหารฟาโร (Cathedral of Faro) เป็นมหาวิหารโรมันคาธอลิกในเมืองฟาโร ประเทศโปรตุเกส โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ในนามของพระแม่มารีผู้ศักดิ์สิทธิ์ในปลายศตวรรษที่ 13 โดยอัครสังฆราชแห่งบรากา
  • ชมซุ้มประตูอาโคดาวิล่า (Arco da Vila) สร้างขึ้นในช่วงยุคกลางของเมืองซุ้มประตูอนุสาวรีย์นี้ได้รับการว่าจ้างจาก Bishop Francisco Gomes de Avelar ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยสถาปนิกชาวอิตาลีฟรานซิสโกซาเวียร์ฟาบรี การตกแต่งซุ้มประตูเป็นรูปปั้นของนักบุญโทมัสอาควินัส ซึ่งถือว่าเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของฟาโร                                                                      File:Arco da vila 2016 2.jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง อัลบูฟีเดอ (Albufeira) (ระยะทาง 35 กม. ใช้เวลา 40 นาที) เป็นเมืองที่ชายหาดสวยงามที่สุดของโปรตุเกส โดยตั้งอยู่ในแคว้นอังกราฟ เเละห่างจากเมืองฟารูซึ่งเป็นเมืองหลวงเป็นระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร ถือเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมอย่างมากในฤดูร้อน เเละเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของบรรดานักท่องเที่ยวเมื่อมาเที่ยวโปรตุเกส โดยอัลบูฟีเดอ เป็นเมืองที่สร้างมาตั้งเเต่สมัยของโรมันเรืองอำนาจ คุณจะจะได้พบกับซากปรักหักพังของอาคารสไตล์โรมันมากมายในเมืองเเห่งนี้ เพราะเหตุการณ์เเผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี ค.ศ.1755 ทำให้อาคารล่มสลายอย่างมากมายก่อนที่จะมีการบุรณะขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โดยมีจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ของเมืองเเห่งนี้ก็คือชายหาด Praia dos Pescadores ที่มีความสวยงามเป็นอย่างมากเเละมีนักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาเล่นน้ำกันอย่างมากมายPraia dos Pescadores / Algarve / Portugal // World Beach Guide
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมือง อัลบูฟีเดอ โดยบ้านเรือนส่วนใหญ่ทาสีขาวสวยงาม ลดลั่นตามพื้นที่สวยงามยิ่งนัก

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
GRANDE REAL SANTA EULALIA RESORT & HOTEL SPA หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว (พัก 2 คืน)

DAY4

ลากัว - ล่องเรือชมถ้ำเบนากิล - ลากอส

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่ ลากัว (Lagoa) เมืองชายหาดในแคว้นแอลการ์ฟ (Algarve) (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลา 45 นาที)
  • นำท่านล่องเรือชมถ้ำเบนากิล (Benagil Cave) ถ้ำริมทะเลแห่งนี้มีความสวยงามเฉพาะตัวเกิดขึ้นโดยฝีมือธรรมชาติ                                                                                                                              Benagil Cave - Algarve Portugal Free Stock Photo - Public Domain Pictures
  • เมื่อมองจากภายนอกจะเห็นเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่มีภูเขาหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่ แต่เมื่อไปสำรวจภาพในจะพบกับช่องหลาย ๆ ช่อง ทำหน้าที่เปรียบดั่งเป็นประตูไปสู่ถ้ำทะเล และยังมีความพิเศษตรงที่หลังคาของถ้ำไม่มีความทึบแต่มีรูอยู่ด้านบนจนทำให้แสงสว่างกระทบมาถึงด้านล่างถ้ำที่เป็นชายหาดได้ ทำให้บริเวณนี้ไม่มืดและเป็นดั่งโถงธรรมชาติอันสวยงาม

** หมายเหตุ ล่องเรือชม ถ้ำเบนากิล ท่านจะได้ชมอยู่บนเรือเท่านั้น **

  • จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่แผ่นดินใหญ่ เดินทางสู่ ลากอส (Lagos) เป็นเมืองชายหาดที่มีความสวยงามที่สุดในภูมิภาคแอลการ์ฟและเป็นเมืองที่มีชายหาดที่แสนจะสวยงามเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีความเก่าแก่มาอย่างนาน จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายจุดที่มีความสวยงามและเก่าแก่เหมาะแก่การมาเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมป้อม Forte da Ponta da Bandeira สร้างขึ้นเมื่อปลายศตวรรษที่ 17 ทางเข้าคือสะพานชักเหนือคูเมืองเป็นป้อมปราการป้องกันหลังหนึ่งที่ดีที่สุดในเมืองลากอส
  • เดินทางสู่จุดชมวิว กลุ่มแท่งหินในทะเล (Ponta da Piedade) ที่สวยงามแปลกตา ให้ท่านได้ชมวิว และถ่ายรูปตามอัธยาศัย                                                                                                                    Ponta da Piedade | Jerome Bon | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง อัลบูฟีเดอ อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRANDE REAL SANTA EULALIA RESORT & HOTEL SPA หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว

DAY5

ลิสบอน - หอคอยเบเลม - อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ - มหาวิหารเจอโร นิโม - ชมเมือง

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านออกเดินทางสู่กรุงลิสบอน เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส (ระยะทาง 250 กม. ใช้เวลา 3 ชม.) เมืองลิสบอนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทิศตะวันตก ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคของคาบสมุทรไอบีเรีย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • จากนั้นแวะถ่ายรูปกับ หอคอยเบเลม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก เป็นจุดเริ่มต้นของ การเดินเรือออกไปสํารวจ และค้นพบโลกของ วาสโกดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม หอคอยเบเลมและมหาวิหารเจอโรนิโมได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1983 และเป็นสองในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส                                                            THE TOWER OF BELEM - LA TORRE DE BELEM | The Belem tower is … | Flickr
  • จากนั้นนําท่านบันทึกภาพกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ (Monument to the Discoveries) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสนพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์    Padrão dos Descobrimentos (Monument to the Discoveries) - … | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารเจอโร นิโม (Jeronimos Monastry) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโกดา กามา ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสําเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงาน สถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วจึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก (UNESCO)        Jeronimos Monastery - Belem | Churches | Portugal Travel Guide
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นบริเวณจัตุรัส Praca de Comercio จัตุรัสสำคัญของเมืองลิสบอน โดยจะมีสิ่งปลูกสร้างเป็นสีเหลืองล้อมรอบทั้งหมด โดยตัวจัตุรัสตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tagus โดยในอดีตเรือสินค้าต่างๆจะมาขึ้นท่าเทียบเรือที่นี้ ให้ท่านเดินเล่นชมความสวยงามหรือเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัยLisbon - Praça do Comércio (Terreiro do Paço) | iconic plaza… | Flickr
  • นำท่านเดินเล่นแวะถ่ายรูปกับ Elevador de Santa Justa เป็นลิฟท์ที่สร้างขึ้นกลางเมืองตั้งแต่ปี ค.ศ.1902 โดยตัวลิฟท์สูง 45 เมตร ปัจจุบันยังเปิดใช้เพื่อให้ผู้คนได้ขึ้นไปชมวิว                                    Elevador de Santa Justa | Just Booked A Trip | Flickr

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
DOUBLE TREE BY HOTEL LISBON หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)

DAY6

ลิสบอน - ซินทรา - แหลมโรก้า - พระราชวังพีน่า - ปราสาท Quinta da Regaleira - ลิสบอน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ แหลมโรก้า (Capo Da Rocca) (ระยะทาง 20 กม. ใช้เวลา 30 นาที) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุดแผ่นดินทางตะวันตกของยุโรป โดยมีหน้าผาและประภาคารริมมหาสมุทรแอตแลนติคเป็นแลนด์มาร์ค ให้ท่านได้เก็บภาพความประทำใจหรือท่านใดสนใจสามารถเลือกซื้อใบประกาศนียบัตร ว่าได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้แล้ว                                                                                            File:Cabo Da Roca (199223741).jpeg - Wikimedia Commons
  • นำท่านเข้าชม พีน่า พาเลซ (Pena National Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินทรา โดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส ส่วนใกล้ๆกับพระราชวังจะเป็นพีน่าพาร์ค (Pena Park) สวนป่าขนาดใหญ่ ที่มีการจัดแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดView of Palácio Nacional da Pena-1453029 - PICRYL - Public Domain Media Search Engine Public Domain Search
  • อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านชมปราสาท Quinta da Regaleira ปราสาทสุดอลังการ มรดกโลกอีกแห่งหนึ่งใน ซิงตรา ที่มีการถ่ายทอดแนวคิด ความเชื่อ และจินตนาการอันล้ำลึกของ Carvalho Monteiro เศรษฐีชาวบราซิลที่นำบ้านหลังนี้มาปรับปรุงใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 19 จนกลายมาเป็นปราสาทที่มีแผนผังและโครงสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร                                                                                      Rehabilitación Quinta da Regaleira en Portugal • Isaval
  • ซึ่งนอกจากตัวปราสาทแล้ว พื้นที่โดยส่วนใหญ่ของที่นี่จะแบ่งให้กับ สวนป่า ทะเลสาบจำลอง บ่อน้ำลึกลับ (Initiation Well) โบสถ์ และอื่นๆ อีกมากมาย แค่เดินเข้าไปก็รู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้าไปในอีกมิติหนึ่งที่แฝงไปด้วยความพิศวงและความอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก
  • จากนั้นนำท่านกลับสู่เมืองลิสบอน
  • นำท่านช้อปปิ้งย่านถนน Avenida da Liberdade ถนนสายช้อปปิ้งที่สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากถนนChamps-Élysées ของปารีสซึ่งเชื่อมระหว่างจัตุรัสสองแห่ง (Praça dos Restauradores และ Praça Marquês de Pombal) และเป็นที่รู้จักจากร้านค้าหรูหรา เป็นถนนที่เชื่อมจากเขตเมืองเก่าผ่าใจกลางเมืองไปสุดทางที่จัตุรัสมาร์เกส เดอ ปอมบาล ที่มีอนุสาวรีย์ของมาร์เกส เดอ ปอมบาล ยืนโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเสาสูง อิสระกับการช้อปปิ้งสินค้าชื่อดังมากมาย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
DOUBLE TREE BY HOTEL LISBON หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY7

ลิสบอน - โอบิดอส - นาซาเร่ - อาเวโร่ - ปอร์โต้

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง โอบิดอส (OBIDOS) (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลา 1 ชม.) เมืองป้อมปราการโบราณ ซึ่งมีประชากรอยู่เพียงหมื่นกว่าคนในปัจจุบัน ชื่อเมืองตั้งมาจากภาษาละตินโบราณซึ่งแปลว่าป้อมปราการอันแข็งแกร่ง ก่อตั้งขึ้นโดยอาณาจักรโรมัน และยึดครองโดยแขกมัวร์เมื่อช่วงศตวรรษที่ 7 และอีก 400 ปี ถัดมาได้ถูกยึดครองโดย อฟองโซ่ เฮนริค กษัตริย์องค์แรกแห่งโปรตุเกส
  • นำท่านเดินชมเมืองเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี บ้านเรือนจะถูกทาสีขาวสวยงาม โดยมีป้อมปราการและปราสาทถูกขนานนามเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส โดยป้อมปราการนี้เป็นของขวัญวันอภิเษกสมรสแม่นางอิซาเบลแห่งอาณาจักรอารากอนเมื่อค.ศ. 1282
  • นำท่านเดินชมเมืองอิสระท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง นาซาเร่ (Nazaré) (ระยะทาง 40 กม. ใช้เวลา 45 นาที) เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ มีหาดทรายที่สวยงาม และบรรยากาศที่สบายเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันเป็นเมืองท่าตากอากาศที่สำคัญของโปรตุเกส                                                                                                                      Nazaré - Live in Center of Portugal

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านขึ้นรถราง เพื่อชมเมืองเก่าด้านบนภูเขา พร้อมชมวิวทั่ว ทั้งเมืองนาซาเร่และทะเลจากมุมสูงแบบพาโนรามา
  • จากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมือง อาเวโร่ (Aveiro) เมืองศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญแหล่งหนึ่งของโปรตุเกสซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองท่าที่เจริญมากๆ เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น “เวนิสแห่งโปรตุเกส” เนื่องจากความสวยงามของคลองที่ตัดผ่านในตัวเมือง โดยมีสะพานเชื่อมแต่ละฝั่งเข้าด้วยกัน และมีเรือกอนโดลาและเรือเร็วหลากสีสันล่องไปตามลำคลองเหล่านั้น
  • นำท่านชมความงามของเมืองอาเวโร่ ซึ่งท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของอาคาร บ้านเรือนสีสันสดใสและสถานที่สำคัญๆ ของเมือง
  • จากนั้นนำท่าน ล่องเรือ Rua dos Combatientes da grande ชมความงามของเมืองอาเวโร่ซึ่งตลอดสองฟากฝั่ง ท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสและสถานที่สำคัญๆ ของเมือง                                                                                                                                      File:Ria de Aveiro edited.jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมืองอาเวโร่หรือท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
  • นำท่านสู่เมือง ปอร์โต (Porto) (ระยะทาง 75  กม. ใช้เวลา 1 ชม.) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดูว์โรทางเหนือของโปรตุเกส หนึ่งในเมืองศูนย์กลางเก่าแก่ของยุโรป อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศโปรตุเกส และเมืองท่าที่สําคัญ และมีชื่อเสียงอย่างมาก จนองค์การยูเนสโกจึงได้ขึ้นทะเบียนเมืองปอร์โต้เป็นเมืองมรดกโลก (Unesco) ในปีค.ศ. 1996 และในปี 2014 และ2017 ยังได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกว่าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดอีกด้วย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
EUROSTARS PORTO DOURO HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 3 คืน)

DAY8

ปอร์โต้ - ชมเมือง

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเข้าชมโบสถ์ GREJA DO CARMO & IGREJA DOS CARMELITAS โบสถ์ที่ตั้งอยู่บนจัตุรัสที่ Rua do Carmo โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 ตามสไตล์ศิลปะโรโกโก (Rococo) หรือบางครั้งก็เรียกกันว่าศิลปะแบบหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV Style) ศิลปะโรโกโกเริ่มพัฒนามาจากศิลปะฝรั่งเศส โบสถ์แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็น World Heritage Site โดย UNESCOIgreja do Carmo Church & Igreja das Carmelitas Church, Porto
  • จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับร้านหนังสือ Livaria lello ร้านหนังสือที่ติดอันดับความสวยงามระดับโลกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 ปัจจุบันมีอายุ 137 ปี ตั้งอยู่ในเมืองโปร์ตู (Porto) ประเทศโปรตุเกส เมืองที่ยูเนสโก (UNESCO) คัดเลือกและขึ้นทะเบียนเป็นให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1996 และเป็นร้านหนังสือที่ เจ เค โรว์ริ่ง ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบโรงเรียนพ่อมดฮอกวอร์ตในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ File:Entrada da Livraria Lello.jpg - Wikimedia Commons

**หากตั๋วเข้าชมแบบจองออนไลน์เต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ พาท่านเข้าคิวแทน **

  • จากนั้นนําท่านเข้าชม โบสถ์แซ่ (Se Cathedral หรือ Se de Porto) โบสถ์เก่าแก่ที่สุดของเมืองมีอายุกว่าพันปี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณปราสาทโบลซ่า สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 แต่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยมาหลายครั้งจนกระทั่งศตวรรษที่ 18 Sé do Porto เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานโรมันท้องถิ่นที่สำคัญที่สุด ได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 1910

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านสู่ถนน Santa Catarina ถนนสายช้อปปิ้งสำคัญของเมืองปอร์โต้ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าทั้งแบรนด์เนมของที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • นําท่านชม ย่านเขตท่าเรือเก่า Caise de Ribira บ้านเรือสุดคลาสสิกที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ Douro ที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมากในอดีต ปัจจุบันได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • นําท่านสัมผัสบรรยากาศการ ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ในแม่น้ำโดรู่ (Douro) ผ่านหมู่บ้านชาวประมงอาชีพเก่าแก่ โรงไวน์ที่มีมากถึง 70 แห่ง สะพานข้ามแม่น้ำ Ponte de D.Luis I สะพานเหล็ก 2 ชั้นทีมีชือเสียงสร้างและออกแบบโดยกุสตาฟ ไอเฟล  จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมืองริมแม่น้ำโดรู่ตามอัธยาศัย ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึก ของฝาก หรือ นั่งจิบกาแฟ ชมเมืองตามอัธยาศัย                  File:Cais da Ribeira, Oporto, Portugal, 2012-05-09, DD 11.JPG - Wikimedia Commons

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
EUROSTARS PORTO DOURO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY9

ปอร์โต้ - กีมาไรซ์ (UNESCO) - บรากา (UNESCO) - ปอร์โต้

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองกีมาไรซ์ Guimaraes (ระยะทางประมาณ 55 ก.ม. ใช้เวลา 45 นาที) หนึ่งในเมืองที่สำคัญด้านประวัติศาสตร์ ซึ่งบริเวณศูนย์กลางของเมืองได้รับขึ้น ทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO) จากองค์การยูเนสโก เมืองกีมาไรซ์ ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เนื่องจากเมืองนี้เป็นที่ประสูติของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 กษัตริย์พระองค์แรกของโปรตุเกส โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ในหุบเขาที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงตระหง่าน
  • นำท่านชม ปราสาทกิมาไรซ์ (Guimaraes Castle) ปราสาทยุคกลางที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 10 ตามคำสั่งของ Mumadona Dias เคาน์เตสแห่งโปรตุเกส เพื่อปกป้องเมืองจากการโจมตีของชาวมัวร์และชาวนอร์แมน ซึ่งปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส                                                                          Tickets & Tours - Guimarães Castle (Castelo de Guimarães), Northern Portugal - Viator
  • จากนั้นนำท่านชม Largo da Oliveira หรือ จัตุรัส Oliveira ศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองกิมาไรส์ และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในเมือง ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือนรวมไปถึงสิ่งปลูกสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมไปถึงร้านอาหารและร้านกาแฟ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านสู่เมือง บรากา (Braga) (ระยะทางประมาณ 25 ก.ม. ใช้เวลา 30 นาที) นับว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สามของโปรตุเกสโดยตั้งอยู่ในหุบเขาที่เเสนจะสวยงามท่ามกลางเนินเขาเล็กๆ และภูเขาที่มีความเขียวชอุ่มมากมาย พร้อมกับบรรยากาศในแบบเมดิเตอร์เรเนีย เมืองเเห่งนี้จะเต็มไปด้วยอาคารสำคัญๆ ทางศาสนามากมาย เเละพิพิธภัณฑ์ที่มีความสวยงามหลายต่อหลายเเห่ง
  • จากนั้นนำท่านชม Sanctuary of Bom Jesus do Monte ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความเชื่อกันมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างมาก โดยมันอยู่ทางตอนเหนือของเมือง เเละมีโบสถ์อยู่ด้านบน โดยคุณต้องขึ้นบันไดผ่านเเนวกำเเพงที่ทอดยาว โดยตัวโบสถ์นั้นมีความเก่าเเก่มาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 18 ซึ่งสร้างบนฐานเดิม ตั้งเเต่ศตวรรษที่ 13                                                                                                                        UNESCO recommendations to the Bom Jesus Sanctuary were approved by the World Heritage Committee – Confraria do Bom Jesus do Monte
  • สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถานที่แสวงบุญของชาวคริสต์ที่มีบันไดแบบบาโรกขนาดใหญ่ที่มีความสูงถึง 116 เมตร โดยโบสถ์แห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) จากองค์การยูเนสโกอีกด้วย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเข้าสู่เมืองเก่าของบรากา นำท่านเดินชมเมืองบราก้าอันเก่าแก่อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองปอร์โต

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
EUROSTARS PORTO DOURO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว  

DAY10

ปอร์โต้ - โกอิมบรา - ฟาติมา

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านไปยังจุดชมวิว Miradouro da Serra do Pilar ของเมืองปอร์โต้ เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวต่างมาชมความสวยงามของเมืองปอร์โต้ โดยมีสะพาน Ponte Luis I ที่สร้างขึ้นโดย Gustave Eiffel สถาปนิคชื่อดังที่ทำการออกแบบและสร้างหอไอเฟลขึ้นมาที่กรุงปารีส อยู่เบื้องหน้าFile:Ponte Luís I - Porto - Portugal (27714410152).jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้นนำท่านเดินลงเก็บภาพบริเวณจุดชมวิวอีกแห่ง JARDIM DO MORRO ซึ่งเป็นสวนสาธารณะข้างๆ สะพานให้ท่านเดินเล่นบนสะพาน ให้ท่านเก็บภาพเมืองปอร์โต้ตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง โกอิมบรา (Coimbra) (ระยะทาง 125  กม. ใช้เวลา 1.30 ชม.) เป็นอีกเมืองสําคัญของโปรตุเกส เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโปรตุเกสและถือเป็นมหาลัยที่เก่าแก่อันดับต้นๆของยุโรปอีกด้วย ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ํามอนเดโก (Mondego) สมัยโรมันปกครองเมืองนี้ได้รับการ เรียกขานว่า เอมีเนียม แต่ในปีค.ศ. 711 เมืองนี้ถูกปกครองโดยชาวแขกมัวร์และเป็นเมืองที่เชื่อมการค้าระหว่าง ชาวคริสต์ทางตอนเหนือและชาวมุสลิมทางตอนใต้และในปีค.ศ. 1064 กษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งลีออน ได้รบชนะชาวแขกมัวร์และปลดปล่อยเมืองโกอิมบราจากการปกครองของชาวมัวร์
  • จากนั้นนําท่านเข้าชมมหาวิทยาลัย โกอิมบรา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งในปีค.ศ. 1290 โดยกษัตริย์ Kind Dinis I และ ในปีค.ศ. 1338 กษัตริย์ Afonso IV ได้ทำการย้ายมหาวิทยาลัยและสร้างมหาวิทยาลัยใหม่ที่กรุงลิสบอน และในปี ค.ศ. 1537 กษัตริย์ King John ที่ 3 ได้เปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวง (Coimbra Royal Palace)
  • นําท่านชมและถ่ายรูป กับสถานที่สำคัญภายในมหาวิทยาลัย ที่ยังคงศิลปะสไตล์3บารอค

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าของโกอิมบรา ถนนคนเดินเฟอร์เรยรา บอร์เกส (Rua Ferreira Borges) เราสามารถเดินชมเมืองเก่าไปตลอดทาง พร้อมทั้งช้อปปิ้งได้แบบเพลินๆ ให้ท่านอิสระเดินเล่นเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองฟาติมา (Fatima) (ระยะทางประมาณ 20 ก.ม. ใช้เวลา 30 นาที) เมืองซึ่งเป็นที่รู้จักของผู้แสวงบุญผู้ซึ่งเดินทางมาสักกการะบูชาพระแม่มารีที่มหาวิหารขนาดใหญ่ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่พระแม่มารีตามตำนานเล่าว่า เด็กเลี้ยงแกะ 3 คน นามลูเซีย, ฟรานซิสโก, และจาซินต้า ได้พบกับพระแม่มารีอาหรือพระแม่พระประจักษ์ที่ทรงเสด็จมามอบข่าวสารจากสวรรค์ให้กับมนุษย์
  • จากนั้นนำท่านชม มหาวิหารฟาติมา (Sanctuary of Our Lady of Fátima) มหาวิหารที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1928 โดยในทุกๆปี จะมีชาวคาทอลิคผู้แสวงบุญเดินทางมาสักการะบูชาพระแม่มารีย์นับล้านคนในวันที่ 13 พฤษภาคม – 13 ตุลาคม                                                                                      File:Santuário de Fátima (3) - Jul 2008.jpg - Wikimedia Commons

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE HOTEL FATIMA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY11

ฟาติมา - บาตาลยา - ลิสบอน - ช้อปปิ้ง Freeport Fashion Outlet - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านสู่ Batalha (บาตาลยา) (ระยะทาง 25 ก.ม. ใช้เวลา 30 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในเขตเลเรีย บาตาลยากลายเป็นเมืองสำคัญที่มีสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญและได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
  • นำท่านเข้าชม โบสถ์บาตาลยา Batalha Monastery หรือ Mosteiro De Santa Maria Da Vitoria โบสถ์แห่งสร้างเพื่อถวายพระแม่มารี ตั้งอยู่ใกล้กับสนามรบที่พระเจ้าฌูเอาว์ที่ 1 (João I) แห่งโปรตุเกส นำทหารโปรตุเกสรบกับพระเจ้าจอห์นที่ 1 กษัตริย์แคว้นคาสตีล (John I of Castile) ซึ่งมาอ้างสิทธิการครอบครองราชย์บัลลังก์และแผ่นดินโปรตุเกส ผ่านราชินีของตน จนมีชัยชนะ ในปีค.ศ.1385monumento da Batalha | katedra : gothic monument and beautif… | Flickr
  • โบสถ์นี้สร้างโดยพระเจ้าฌูเอาว์ที่ 1 (João I) เพื่อถวายพระแม่มารี ตามคำอธิษฐานขอพรให้ก่อนออกรบ ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO) จากองค์การยูเนสโก
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Freeport Fashion Outlet เอาท์เลตแบรนด์เนมขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองลิสบอน จุใจกับสินค้าแบรนด์เนมมากมาย อาทิ เช่น Camper, Coach,  Guess, G-Star, Lacoste, Loewe, MAxMara, Ray Ban, Samsonite, Tag Heuer, Timberland, Versace, Nike etc.
  • อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

** อิสระอาหารกลางวัน และ อาหารค่ำ ตามอัธยาศัย คืนเงินท่านละ 50 EURO **

  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อมีเวลาให้ท่านทำ Tax Refund
  • 20.45 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK194

***หมายเหตุไฟล์ทบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง***

DAY12

ดูไบ - สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

  • 08.15 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 09.30 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 372
  • 18.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน