ทัวร์ฟินแลนด์ นอร์เวย์ HILIGHT FINLAND & NORWAY & LOFOTEN
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ฟินแลนด์ นอร์เวย์ HILIGHT FINLAND & NORWAY & LOFOTEN
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 13 ก.พ. 62 - 24 ก.พ. 62 | 259,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1สัมผัสความสวยงาม หมู่เกาะลอฟโฟเทน (LOFOTEN ISLANDS)
- 2หมู่บ้าน Å เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดบนหมู่เกาะ LOFOTEN
- 3ชม ปราสาทหิมะ (Snow Castle) ปราสาทที่สร้างอย่างอลังการจากหิมะและน้ำแข็ง
- 4ล่องเรือตัดน้ำแข็ง (Sampo Icebreaker) หรือไอซ์เบรกเกอร์ ที่โด่งดังที่สุดในโลก
- 5เข้าชม หมู่บ้านซานตาคลอส (SANTA CLAUS VILLAGE) ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล
- 6หมู่บ้าน อิกลูแคสลอตทาเน่น (IGLOO VILLAGE KAKSLAUTTANEN) หมู่บ้านเรือนกระจกแห่งแลปแลนด์
- 7ขับขี่รถ SNOW MOBILE พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะหรือทุ่งน้ำแข็ง
- 8นำท่านล่าแสงเหนือโดยการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์
- 9สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ กิจกรรมการจับปูยักษ์ (KING CRAB SAFARI) ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก
- 10นั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN)
- 11สัมผัสประสบการณ์ด้วยการขับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน Husky Safari ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีมายาวนานกว่า 3,000 ปี
- 12
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพมหานคร
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ G สายการบินฟินแอร์ (AY)
- 23.35 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 144
เฮลซิงกิ - เคมิ – โบสถ์แห่งเคมิ - ปราสาทหิมะ
- 05.20 น. เดินทางถึงทางอากาศนานาชาติเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
- 10.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินเคมิ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 632
- 12.20 น. เดินทางถึง สนามบินเคมิ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชมเมืองเคมิ (Kemi) เมืองท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ริมอ่าวน้ำลึกบอธเนีย (Gulf of Bothnia) อีกหนึ่งเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่ต้องการมาสัมผัสความเย็นยะเยือกของน้ำแข็ง
- นำท่านถ่ายรูปกับ โบสถ์แห่งเคมิ (Kemi Church) โบสถ์ในศาสนาคริสต์นิกายลูเธอรันที่ออกแบบสร้างอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิกและตั้งอยู่กลางเมืองเกมิ สถาปนิกชื่อดังผู้ออกแบบและควบคุมการสร้างโบสถ์หลังนี้เป็นชาวฟินแลนด์ชื่อว่า “โจเซฟ สเตนแบค” (Josef Stenback) สร้างเสร็จและเปิดให้ชาวคริสต์เข้าทำพิธีได้ตั้งแต่ปี 1902 ภายในสามารถจุได้ประมาณ 1,000 คน ในปี 2003
- นำท่านชม ปราสาทหิมะ (Snow Castle) ปราสาทที่สร้างอย่างอลังการจากหิมะและน้ำแข็งบนพื้นที่รวมกว่า 2 หมื่นตารางเมตร ปราสาทแห่งนี้มีขนาดเท่าเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งเลยทีเดียว โดยสร้างขึ้นจากการเจาะและแกะสลักน้ำแข็งอย่างประณีตงดงาม ถือเป็นงานประติมากรรมน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ภายในเมืองน้ำแข็งแห่งนี้ ประกอบด้วยสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งตกแต่งอย่างแปลกตามากมาย อาทิเช่น สโนว์เรสเตอรอง (Snow Restaurant) ภัตตาคารอาหารซึ่งเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ล้วนทำขึ้นจากน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรือเก้าอี้สโนว์โฮเทล (Snow Hotel) ห้องพักสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีเตียงที่ทำขึ้นจากน้ำแข็ง และตามผนังก็มีการแกะสลักลายน้ำแข็งไว้อย่างสวยงาม รวมถึงสโนว์แชปเพล (Snow Chapel) หรือโบสถ์น้ำแข็ง ซึ่งมีไว้รองรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการจัดงานแต่งงานแบบไม่เหมือนใคร
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
SCANDIC KEMI HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เคมิ – เรือตัดน้ำแข็ง - โรวาเนียมี – หมู่บ้านซานตาคลอส
- 06.30 น. นำท่าน ล่องเรือตัดน้ำแข็ง (Sampo Icebreaker) หรือไอซ์เบรกเกอร์ ที่โด่งดังที่สุดในโลก หลังจากปลดประจำการแล้วนำมาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความหฤหรรษ์ ประสบการณ์ใหม่ๆ จากเรือทลายน้ำแข็งที่บดทลายมากว่า 30 ปีในเขตอาร์กติก ในอดีตเป็นเรือตัดน้ำแข็งของรัฐบาลฟินแลนด์ ซึ่งใช้ล่องในอ่าวบอทเนีย มีน้ำหนักถึง 3,500 ตัน สร้างขึ้นในปี 1961 การล่องเรือแซมโป้ จะให้ความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นที่สุดในช่วงเวลาที่น่าจดจำของธรรมชาติในอาร์กติก ในขณะที่เรือขนาดใหญ่แบ่งน้ำแข็งออกเป็นสองฝั่ง พร้อมกับชื่นชมความงามของทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ ประกอบกับท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ที่สะท้อนกระทบปุยหิมะที่ปกคลุมเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เรือตัดน้ำแข็งนี้จะเจาะน้ำแข็งที่หนากว่า 1 เมตร เพื่อสร้างอ่างอาบน้ำที่หนาวจับขั้วหัวใจให้นักท่องเที่ยวลองท้าทายลงไปนอนลอยคอในน้ำแข็งแบบเย็นสุดขั้ว สัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่น่าตื่นตาตื่นใจกับการลอยตัวในทะเลน้ำแข็ง ด้วยชุดความร้อนพิเศษ (Warm Impermeable Survival Suits)
รับประทานอาหารเช้าบนเรือตัดน้ำแข็งแบบบุฟเฟ่ต์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมืองโรวาเนียมี (ROVANIEMI) ดินแดนตอนเหนือของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่บนเส้นอาร์คติคและได้ชื่อว่าเป็น The Official Hometown of Santa Claus ระหว่างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพทุ่งหิมะแห่งแลปแลนด์ ตลอดเส้นทางท่านจะได้เห็นภูมิประเทศอันแปลกตา หิมะ สลับกับทิวสน และผืนน้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็ง นับเป็นทัศนียภาพอันแปลกตาและสวยงามมาก ซึ่งสามารถเห็นได้เพียง ช่วงฤดูหนาวแห่งแลปแลนด์นี้เท่านั้น
- นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านซานตาคลอส (SANTA CLAUS VILLAGE) ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นอาร์คติกเซอร์เคิล
- นำท่านถ่ายรูปกับ เส้นอาร์คติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) เส้นแบ่งเขตแดนตามเส้นรุ้งและเส้นแวงเพื่อกำหนดขอบเขตของบริเวณซีกโลกเหนือ
- นำท่านแวะชม ซานตาคลอสออฟฟิศ (Santa Claus Office) หรือที่ทำการของซานตาคลอส ภายในตกแต่งด้วยสีสันสดใสมากมาย
- แวะชม ที่ทำการไปรษณีย์ซานตาคลอส (Santa Claus Main post office) ท่านสามารถเลือกซื้อไปรษณียบัตรหลากหลายสีสันเพื่อเขียนอวยพรครอบครัวและมิตรสหาย พร้อมทั้งฝากซานต้าคลอสส่งกลับมายังประเทศไทยได้ ณ ที่ทำการไปรษณีย์นี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปในบริเวณหมู่บ้านซานตาคลอสที่ประดับประดาด้วยธีมคริสต์มาสอันสวยงามตามอัธยาศัย หรือจะเลือกซื้อของฝาก ของที่ระลึก ภายในหมู่บ้านซานตาครอสแห่งนี้
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
ARCTIC TREEHOUSE HOTEL
โรวาเนียมี - ซาลิเซลก้า - อิกลูแคสลอตทาเน่น – SNOWMOBILE - นั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ล่าแสงเหนือ
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- ท่านชมเมืองโรวาเนียมี ให้ท่านได้ชมโบสถ์ประจำเมืองโรวาเนียมิ (Rovaniemi Church) นำท่านสู่จัตุรัสลอร์ดิ (Lordi square) ซึ่งเป็นจัตุรัสใจกลางเมือง เดิมเรียกจัตุรัสนี้ว่า แซมโป สแควร์ ใกล้จัตุรัสเป็นแหล่งช้อปปิ้งของเมืองโรวาเนียมิ อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งซื้อของฝากตามอัธยาศัยจนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- นำท่านเดินทางสู่เมือง ซาลิเซลก้า (Saariselka) เมืองท่องเที่ยวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของฟินแลนด์มีชื่อเสียง อย่างมากทางด้านที่พักและรีสอร์ท
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้าน อิกลูแคสลอตทาเน่น (IGLOO VILLAGE KAKSLAUTTANEN) ตั้งอยู่เหนือเส้นเขตขั้วโลกเหนือ เขตแลปแลนด์ (LAPLAND) ของประเทศฟินแลนด์ โดยสถานที่แห่งนี้อยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บของอากาศที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ และยังมีวิวทิวทัศน์ให้ชื่นชมความสวยงามของป่าเขา ท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่ท่านจะต้องประทับใจไม่มีวันลืม สำหรับหมู่บ้านเรือนกระจกแห่งนี้สร้างด้วยกระจกนำความร้อนแบบพิเศษ ซึ่งจะทำให้ระดับอุณหภูมิภายในห้องอบอุ่นตลอด อีกทั้งยังป้องกันกระจกไม่ให้ถูกน้ำแข็งเกาะเพื่อให้ท่านได้ชมวิวภายนอกอย่างชัดเจน แม้ว่าอุณหภูมิภายนอกจะลดตำลงมากกว่า -30 องศาเซลเซียสก็ตามอีกทั้งห้องพักแสนสบายนี้ยังมีห้องน้ำห้องอาบน้ำ พื้นที่นั่งเล่นพร้อมเตาผิงและซาวน่าส่วนตัวไว้คอยบริการ นอกจากนี้ยังมีโบสถ์เล็ก ๆ และบาร์น้ำแข็ง ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้จะถูกสร้างขึ้นในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น
- นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าประทับใจในการขับขี่รถ SNOW MOBILE พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะหรือทุ่งน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนานและปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวแบบสโนว์โมบิลซาฟารี โดยทางบริษัทฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารของโรงแรมที่พัก
NORTHERN LIGHTS VILLAGE (IGLOOS) หรือเทียบเท่า
- นำท่านล่าแสงเหนือโดยการนั่งเลื่อนกวางเรนเดียร์ ให้ท่านได้สัมผัสกับพาหนะสำคัญของคุณลุงซานต้าที่ใช้เทียมเลื่อนหิมะ มีโอกาสให้ท่านทดลองนั่งเลื่อนหิมะ (Reindeer Sleigh) ที่จะทำให้ท่านได้รู้สึกตื่นเต้นกับความเร็วในรูปแบบใหม่
**ทั้งนี้การตามล่าหาแสงเหนือ ไม่อาจยืนยันได้แน่นอน ว่าท่านจะพบเห็นแสงเหนือทุกครั้งที่ออกเดินทาง เนื่องจากการเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การเกิดแสงเหนือ ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆ สภาพท้องฟ้า ก้อนเมฆ และค่าชี้วัดการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก (KP INDEX) ซึ่งค่า KP จะมีความแน่นอนต่อเมื่อเช็คค่าชี้วัด 2-3 ชั่วโมงล่วงหน้าเท่านั้น**
อิกลู - คิร์เคเนส – KING CRAB SAFARI - โรงแรมหิมะ
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองคิร์เคเนส (KIRKENES) (ระยะทาง 280 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม. 40 นาที) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ในเขตอาร์คติดเซอร์เคิล (ATCTIC CIRCLE) ซึ่งมีเขตติดกับประเทศรัสเซีย และยังเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคบาเรนส์ (BARENTS) เป็นอีกเมืองหนึ่งของนอร์เวย์ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากมีกิจกรรมมากมายสำหรับนักท่องเที่ยว อาทิ สุนัขลากเลื่อน, กวางลากเลื่อน, SNOW MOBILE, กิจกรรมจับปูยักษ์ (KING CRAB SAFARI), การตกปลาในน้ำแข็ง, การนอนใน SNOW HOTEL และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย ให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้เลือกทำกัน
- นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ กิจกรรมการจับปูยักษ์ (KING CRAB SAFARI) ที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก โดยจะนำท่านนั่งรถลากเลื่อนโดย SNOWMOBILE ไปยังบริเวณทะเลสาบน้ำแข็งและเจาะช่องว่างเพื่อนำ ปูยักษ์ (RED KING CRAB) ขึ้นมา ปูยักษ์มีขนาดความโดยวัดจากก้ามปูยาวถึง 2 เมตร และมีน้ำหนักถึง 10 กก. โดยประมาณ เจ้าหน้าที่จะโชว์วิธีการจับปูยักษ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์และปรุงอาหารมื้อ พิเศษให้ท่านได้ลิ้มรส เนื้อปูยักษ์ แบบสดๆ และรับประทานกันอย่างเต็มอิ่ม
พิเศษ!! ให้ท่านได้ลิ้มรส เนื้อปูยักษ์ แบบสดๆ และรับประทานกันอย่างเต็มอิ่ม
- นำท่านชม โรงแรมหิมะ (SNOW HOTEL) ซึ่งทำมาจากน้ำแข็งและหิมะ เปิดทำการในปี 2006 ซึ่งจะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวในเดือนธันวาคม – เดือนเมษายนเท่านั้น ภายในโรงแรมและห้องพักถูกตกแต่งด้วยปะติมากรรมน้ำแข็งและหิมะเป็นรูปแบบต่างๆ บาร์ เตียงโต๊ะและเก้าอี้เป็นน้ำแข็ง โดยจะมีการรักษาอุณหภูมิไว้ที่ -4 องศาเซลเซียส ซึ่งภายนอกอาจติดลบได้ถึง -30 องศาเซลเซียส อิสระให้ท่านชมโรงแรมหิมะตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
THON HOTEL KIRKENES หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
คิร์เคเนส – ทรอมโซ – พิพิธภัณฑ์ขั้วโลก - นั่งกระเช้ายอดเขาสโตรสไตเนิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- 08.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินคิร์เคเนส
- 11.40 น. ออกเดินทางสู่เมืองทรอมโซ โดยสายการบิน WIDERØE เที่ยวบินที่ WF 915
- 12.55 น. เดินทางถึงสนามบินทรอมโซ นำท่านตรวจรับสัมภาระ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านชมเมืองทรอมโซ เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติก โดยมันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ถือว่าเป็นอีกเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงดงามของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญทั้ง แสงเหนือ และพระอาทิตย์เที่ยงคืนในดินแดนแถบนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวอย่างมากเลยทีเดียว
- นำท่าน เข้าชม พิพิธภัณฑ์ขั้วโลก (Polar Museum) อีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในอาคารไม้สีแดง มีลักษณะคล้ายๆกับโกดังเก็บของ ตั้งอยู่บนท่าเทียบเรือ เป็นอีกหนึ่งอาคารแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1830 ภายในมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาค การสำรวจขั้วโลก รวมไปถึงพื้นที่ในแถบอาร์กติก นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในเขตอาร์กติก ซึ่งได้แก่ ปลาวาฬ หมีขั้วโลก และสิงโตทะเล
- นำท่านนั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN) เป็นยอดเขาสูงที่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกันโดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก CLARION HOTEL THE EDGE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
****กรุณาเตรียม OVERNIGHT BAG สำหรับพักค้างคืนที่เมืองฮาร์สตัด 1 คืน รถโค้ชจะนำกระเป๋าใหญ่ไปพบกับท่าน ณ โรงแรมที่พัก****
ทรอมโซ – สุนัขลากเลื่อน – EXPRESS BOAT - ฮาร์สตัด
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้วยการขับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน Husky Safari ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีมายาว นานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ฮัสกี้จึงได้กลายมาเป็นสุนัขลากเลื่อนพันธุ์แท้ ที่มีประสิทธิภาพในการลากเลื่อนสูงสุดในบรรดาสุนัขลากเลื่อนทั้งหมด นอกจากนี้สุนัขลากเลื่อนยังเป็นกีฬายอดนิยม โดยมี มัชเชอร์ (Musher) เป็นผู้บังคับเลื่อนในการแข่งขันแต่ละครั้งจนแพร่หลายไปยังหลายประเทศแถบขั้วโลก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเข้าชม มหาวิหารอาร์คติก (ARCTIC CATHEDRAL) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 อีกทั้งยังมีโครงสร้างโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการ สร้างมากจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ มหาวิหารอาร์คติกยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่ง หนึ่งของเมืองทรอมโซ
- นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือเมืองทรอมโซ เพื่อเดินทางสู่ ท่าเรือเมืองฮาร์สตัด (HARSTAD)
- 16.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองฮาร์สตัด (HARSTAD) โดยเรือด่วน EXPRESS BOAT
- 19.15 น. เดินทางถึง ท่าเรือเมืองฮาร์สตัด (HARSTAD)
- นำท่านชมเมืองฮาร์สตัด โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเทศมณฑลทรุมส์ โดยมีใจกลางเมืองที่เล็กกะทัดรัดที่หันหน้าออกไปรับกับทะเลนอร์เวย์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
CLARION COLLECTION HOTEL ARCTICUS หรือเทียบเท่า 4 ดาว
ฮาร์สตัด – เฮนนิ่งสวาร์ - สโววาร์ - พิพิธภัณฑ์สงคราม
รับประทานอาหารเช้าบนเรือ พร้อมชื่นชมบรรยากาศ
- นำท่านชม โบสถ์ Trondenes (Trondenes Kirke) เป็นโบสถ์แพริชอันงดงามที่ตั้งอยู่เหนือผืนน้ำอันสงบนิ่งรอบๆ แหลม Trondenes ชื่นชมสถาปัตยกรรมยุคกลางอันโดดเด่นของโบสถ์สีขาวอันเรียบง่ายที่มีหลังคาสีแดงลาดชัน ภายในของโบสถ์ประดับตกแต่งในแบบกอทิกและบาโรกอันน่าตื่นตา เชื่อกันว่าโครงสร้างปัจจุบันนั้นมีอายุตั้งแต่ระหว่างปี 1250 ถึง 1400 แต่สถานที่นี้ก็มีความสำคัญทางศาสนามาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 โดยโครงสร้างสถาปัตยกรรมของโบสถ์แห่งนี้มีองค์ประกอบเพื่อการป้องกันภัยคุกคามจากการปล้นสะดม
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองเฮนนิ่งสวาร์ (HENNINGSVAER)เป็นเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงประมงกันอยากคึกคัก เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากัน มาแวะเวียน ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือบ้านชาวประมงสีแดง (RORBUER) ตั้งอยู่ริมทะเล มีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย เป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย ให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองสโววาร์ (SVOLVAER) หมู่เกาะลอฟโฟเทน (LOFOTEN ISLANDS) ตั้งอยู่ที่เมือง NORDLAND ประเทศนอร์เวย์ เป็นหมู่บ้านของชาวประมงที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการหาปลาในช่วงฤดูหนาว และทำปลาตากแห้งส่งออกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เอกลักษณ์ที่สำคัญของหมู่เกาะแห่งนี้ก็คือ กระท่อมสีแดงแบบดั้งเดิม (RORBUER) ของชาวประมงที่กลายเป็นสีสันริมชายฝั่ง ที่ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับการดูแสงเหนือที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ เนื่องจากความมหัศจรรย์ ทางธรรมชาติที่ถูกเสกสร้างมาอย่างพิถีพิถัน มีผืนน้ำสีฟ้าคราม ท้องฟ้าสีใส ภูเขาสูงตระหง่าน แทรกแซมด้วยบ้านชาวประมงทรงสวยแปลกตา นับว่าเป็นเมืองสวยท่ามกลางธรรมชาติที่ดูคล้ายเมืองในจินตนาการมากกว่าความจริง
- นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์สงคราม (War Museum) ซึ่งภายในจัดแสดงเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายและ อุปกรณ์ทางการทหารในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในมีการจัดแสดงประวัติและข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และผลพวงที่ตามมา ให้ท่านได้มีโอกาสย้อนประวัติศาสตร์การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ผ่านทางข้าของเครื่องใช้ต่างๆที่มีการจัดเก็บและจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
THON HOTEL LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
สโววาร์ - หมู่บ้าน Å – พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง – รีนน์ - แฮมนอยด์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางไปยัง หมู่บ้าน Å เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดบนหมู่เกาะ LOFOTEN อันเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว
- นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (NORWEGIAN FISHING VILLAGE MUSEUM) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะลอฟโฟเทน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสถานที่ต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม อาทิโรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอด (COD LIVER OIL FACTORY), ร้านขายเบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางไปยัง เมืองรีนน์ (REINE) ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ระหว่างสองข้างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา ไปตามถนนสาย E10 ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักสายเดียวของหมู่เกาะลอฟโฟเทน
- นำท่านเดินทางผ่านถนนเส้นเล็กๆเชื่อต่อระหว่างเกาะเล็กเกาะน้อย ข้ามสะพานต่างๆ จนกระทั่งเดินทางถึง เมือง REINE ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง และถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
- นำท่านเที่ยวชมหมู่บ้านแฮมนอยด์ (Hamnoy) หมู่บ้านชาวประมงที่ปรากฏอยู่ในโปสการ์ดโลโฟเตน ที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้บ่อยตามร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ภาพหมู่บ้านชาวประมงหลากสี พร้อมวิวของเทือกเขาสูงเป็นฉากหลังนับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้านแฮมนอยด์ตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองเลกเนส (LEKNES) อีกหนึ่งเมืองสวยอันขึ้นชื่อของหมู่เกาะ LOFOTEN นำท่านเดินเล่นชมเมือง และเก็บภาพความประทับใจ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
SCANDIC LEKNES LOFOTEN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
เลกเนส -พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง - สนามบิน - ออสโล - ท่าเรือ Aker Brygge
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (LOFOTR VIKING MUSEUM) เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะลอฟโฟเทน มีการค้นพบว่าเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งที่แสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งไว้มากมาย ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้ง ให้ ท่านชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง และพายเรือไวกิ้งโบราณ ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ เมื่อไปเยือนพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งแห่งนี้
- 11.00 น. นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินเลกเนส
เพื่อความสะดวกสำหรับทุกท่าน ทางบริษัทคืนเงินให้ท่านละ 30 ยูโร เชิญอิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
- 13.40 น. ออกเดินสู่กรุงออสโล โดยสายการบิน WIDERØE เที่ยวบินที่ WF 801
- 15.55 น. เดินทางถึงสนามบินออสโล นำท่านตรวจรับสัมภาระ
- นำท่านเที่ยวชมเมืองออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ
- นำท่านชมท่าเรือ Aker Brygge เคยเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ ปัจจุบันถูกปลุกให้ฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังมีการปรับปรุงเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ทันสมัย มีบ้านเรือน และร้านค้ามากมาย เป็นแหล่งรวมผับบาร์ ร้านอาหาร คาเฟ่ นอกจากนี้ยังมีทั้งผับ โรงหนัง โรงละครและห้างสรรพสินค้า เป็นแหล่งรวมความบันเทิงยอดนิยมของออสโล เชิญท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
THON OPERA HOTEL OSLO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ออสโล - พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง – อุทยานฟรอกเนอร์ – ช้อปปิ้ง – สนามบิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง (The Viking Ship Museum) สถานที่จัดแสดงประวัติความเป็นมาของหนึ่งในพาหนะชิ้นสำคัญที่สุดของโลกอย่างเรือไวกิ้ง และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะไม่ยิ่งใหญ่ระดับโลกเลยหากไม่มีการจัดแสดงเรือไวกิ้งโบราณ 3 ลำอายุพันกว่าปีที่เคยจมอยู่ใต้ดินรอบๆ ออสโลฟยอร์ดและมีการขุดพบในปี 1867 หรือเมื่อ 150 ปีก่อน สันนิษฐานว่าเรือไวกิ้งที่ขุดค้นพบนี้สร้างขึ้นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยยังอยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ มีเพียงบางลำเท่านั้นที่แตกหักไปบ้างจากเรี่ยวแรงของรถแทรกเตอร์ที่เข้าไปบุกเบิกพื้นที่บริเวณที่เรือถูกฝังอยู่และพบเรือเข้าโดยบังเอิญก่อนจะมีการเริ่มต้นขุดค้นกันอย่างเป็นทางการ
- นำท่านชม สวนสาธารณะวิกเกอร์แลนด์ (Vigeland Sculpture Park) เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานศิลปะประติมากรรม การแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ ผลงานของ ‘กุสตาฟ วิคเกอร์แลนด์ ‘ ปฏิมากรชื่อดัง โดยได้รับอนุญาตให้นำผลงานมาจัดแสดงอย่างถาวรในอุทยานฟรอกเนอร์ บาวท่านอาจเคยเห็นรูปของเสาโมโนลิท ที่เป็นรูปคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสา ที่ใช้เวลาสร้างรวม22ปี กลางสวนที่สูงถึง 17 เมตร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เชิญชมผลงานน้ำพุวงจรชีวิตที่มีความหมายสอนใจ โดยผลงานชิ้นเอกสูงถึง5.5ฟุต ชื่อ Monolitten และรูปหล่อสำริด ชื่อ Angry Littleboy อันถือว่าสัญลักษณ์ของกรุงออสโล
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านช้อปปิ้ง ณ ย่านถนนคนเดินคาร์ลโจฮันเกท (KARL JOHANGEN GATE) แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดของนอร์เวย์ เป็นแหล่งทั้งย่านช้อปปิ้งและแหล่งพบปะของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนนอร์เวย์ ตั้งอยู่กลางกรุงออสโล มีสินค้าทุกสิ่งอย่างให้ได้เลือกช้อป
- จนได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินออสโล เพื่อทำการเช็คอินและทำ TAX REFUND
- 20.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 918
- 22.50 น. เดินทางถึงทางอากาศนานาชาติเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
เฮลซิงกิ - สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ
- 00.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 143
- 15.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ…..