ทัวร์เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ 11 วัน


Tour Recommend, Tour by HappyLongway

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ 11 วัน

รหัสทัวร์ : UNSEEN BELGIUM & NETHERLANDS (TULIP) 11 DAYS (TG)
ระยะเวลา 11 วัน 8 คืน
สายการบิน : Thai Airways (TG)

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 9 เม.ย. 69 - 19 เม.ย. 69 199,900 บาท
2 22 เม.ย. 69 - 2 พ.ค. 69 199,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    หมู่บ้านไร้ถนน Giethoorn หมู่บ้านสุดสวยของเนเธอร์แลนด์
  • 2
    ชมเมือง Bruges เมืองที่สวยที่สุดของเบลเยี่ยม Unesco
  • 3
    ชมเมือง Ghent สวยระดับโลก ของประเทศเบลเยี่ยม Unesco
  • 4
    ชมเมือง Dinant เมืองเล็กๆ (Unseen)
  • 5
    ชมเมือง Durbuy เมืองเล็กๆน่ารัก ในหุบเขา
  • 6
    ชมเมือง Liege เมืองแห่งศุนย์กลางวัฒนธรรมของเบลเยี่ยม
  • 7
    ชมเมือง Nijmegen เมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์
  • 8
    ชมเมือง Kasteel de Haar ปราสาทที่สวยที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์
  • 9
    ชมเมือง Delft เมืองสวยอันดับต้นๆของประเทศเนเธอร์แลนด์
  • 10
    ชม Kinderdijk กลุ่มกังหันที่เก่าแก่ที่สุดอายุกว่า 250 ปี (UNESCO)
  • 11
    ชมเมือง Antwerp หนึ่งในเมืองสวยของเบลเยี่ยม
  • 12
    ชมเมือง Tournai เมืองสวยในยุคกลางของเบลเยี่ยม
  • 13
    ชมเมือง Waterloo สมรภูมิวอเตอร์ลู ซึ่งนโปเลียนพ่ายแพ้ครั้งสุดท้าย
  • 14
    ชมกรุง Amsterdam เมืองสำคัญของเนเธอร์แลนด์
  • 15
    ชมกรุง Brussels เมืองหลวงของเบลเยี่ยม
  • 16
    ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์นชมวิวบ้านเรือนสุดสวย
  • 17
    ล่องเรือ ชมวิวเมืองบรูจน์

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์
(เทศกาลสวนทิวลิป Keukenhop 2026)
11 วัน 8 คืน โดยสายการบินไทย (TG)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

  • 21.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
DAY2

บรัสเซลส์ - ดินองท์ - ดูร์บุย - ลีแยฌ

  • 00.30 น. ออกเดินทางสู่สนามบินบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG934
  • 07.40 น. เดินทางถึงสนามบินบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ดินองท์ (Dinant) ประเทศเบลเยี่ยม (Unseen) (ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที) เมือง เล็กๆแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดนามูร์ (Namur) ทางตอนใต้ของประเทศเบลเยี่ยม โดยตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิวส์ (Meuse River) ที่ขนาบข้างไปกับแม่น้ำและแนวผาสูงชัน                                                                                                                      File:Dinant (DSC 0165).jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านนั่ง CABLE CAR ขึ้นชมวิวเมืองดินองท์ บนป้อมปราการ Dinant Citadel ป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1530 แต่ถูกทำลายในช่วงสงครามฝรั่งเศส และมีการซ่อมแซมในปี ค.ศ.1821 จากนั้นนำท่านกลับลงสู่ด้านล่าง

** หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัยหรือว่า cable car ปิดไม่ให้บริการทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้บริการ**

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูร์บุย (Durbuy) (ระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที) ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เมืองที่เล็กที่สุดในโลก” และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุดในวัลโลเนีย ซึ่งเป็นเขตการปกครองตามรัฐธรรมนูญของประเทศเบลเยียม ภายในเมืองจะเป็นถนนที่ปูด้วยหินกรวดที่เหมาะกับการเดินเท้า ปราสาท บ้านหลังคาหินชนวนจากศตวรรษที่ 17 และ 18                Durbuy, Belgique | Durbuy, la plus petite ville du monde (th… | Flickr
  • นำท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
  • นำท่านเดินทางสู่เมืองลีแยฌ (Liege) (ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศิลปะแห่งหนึ่งของเบลเยียม  ตั้งอยู่ในหุบเขาริมแม่น้ำเมิส ใกล้กับพรมแดนทางตะวันออกของเบลเยียมซึ่งติดต่อกับประเทศเนเธอร์แลนด์และเยอรมนี

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RADISSON LIÈGE CITY CENTRE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

** หมายเหตุ: โรงแรมในเมืองมีจำกัด หากเต็มทางบริษัทของสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง **

DAY3

ลีแยฌ - ชมเมือง - ไนเมเคิน - ชมเมือง

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเดินทางสู่ Montagne de Bueren บันได 374 ขั้น ที่มีความชัน 30% บันไดเหล่านี้ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่สุดของลีแยฌ และเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมือง บันไดนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2424 เพื่อให้ทหารในป้อมปราการสามารถเข้าถึงใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายในกรณีที่ต้องป้องกันเมือง                                                                                                                                Liège - Montagne de Bueren | Centre | Montagne de Bueren The… | Flickr
  • จากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์ Grand Curtius เป็นพิพิธภัณฑ์ โบราณคดี และ ศิลปะการตกแต่ง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมิซ โดยคฤหาสน์หลังนี้เคยเป็นคฤหาสน์ของฌอง เคอร์ติอุส (ค.ศ. 1551-1628) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเสบียงให้กับกองทัพสเปน ระหว่างปี ค.ศ. 1600 ถึง 1610 เขาได้สร้างบ้านอิฐแดงอันเป็นต้นแบบนี้ขึ้นริมฝั่งแม่น้ำในสไตล์เรอเนซองส์แบบโมซาน พิพิธภัณฑ์เคอร์ติอุส จัดแสดงนิทรรศการจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคโรมัน และยุคกลางแฟรงก์ พร้อมด้วยคอลเล็กชันเฟอร์นิเจอร์และงานศิลปะตกแต่งตั้งแต่ยุคกลางจนถึงการปฏิวัติฝรั่งเศส คอลเล็กชันแก้วประกอบด้วยผลงานแก้วกว่า 10,000 ชิ้น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลจนถึงปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงแก้วและแจกันอาร์ตนูโวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คอลเลกชั่น Arms เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่ามากมายที่เป็นอาวุธขนาดเล็ก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประเพณีการผลิตอาวุธในเมืองลีแยฌที่สืบทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14
  • จากนั้นนำท่านชม อาสนวิหารลีแยฌ หรืออาสนวิหารเซนต์ปอล (SAINT PAUL’S CATHEDRAL OF LIÈGE) เป็นอาสนวิหารนิกายโรมันคาธอลิกในเมืองลีแยฌ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 แต่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง และปัจจุบันส่วนใหญ่ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 13 และ 15 มีรูปปั้นเทวทูตลูซิเฟอร์ผู้ตกสวรรค์อันน่าทึ่ง ฝังอยู่ในช่องบันไดของแท่นเทศน์ รู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า “Lucifer of Liège” (ลูซิเฟอร์แห่งลีแยฌ) ชื่อจริงของรูปปั้นคือ ” Le génie du mal ” หรือ “อัจฉริยะแห่งความชั่วร้าย” รูปปั้นนี้แกะสลักโดย Guillaume Geefs ประติมากรชาวเบลเยียมในปี ค.ศ. 1848 เป็นภาพชายหนุ่มผู้ถูกทรมานแต่งดงาม
  • นำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสโอเปร่า (Place de l’Opéra) เป็นหนึ่งในพื้นที่สำคัญที่ผสานความงดงามของศูนย์กลางเมืองเข้ากับศิลปะการแสดงระดับนานาชาติ โรงละครโอเปร่าแห่งนี้สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ทั้งห้องแสดงคอนเสิร์ต เบื้องหลังเวทีที่จัดแสดงผลงาน และห้องซ้อมเดี่ยวที่อยู่ด้านบนสุด ซึ่งมอบทิวทัศน์มุมสูงที่น้อยคนนักจะได้เห็น จัตุรัสนี้ยังเป็นจุดตัดของเส้นทางรถรางที่โค้งงดงาม ช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้พื้นที่แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้รักศิลปะอย่างต่อเนื่อง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองไนเมเคิน (Nijmegen) เมืองเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ มีมาก่อนประเทศเนเธอร์แลนด์จะเกิดขึ้น ตั้งแต่สมัยการปกครองของจักรวรรดิโรมัน เป็นอีกหนึ่งเมืองสวยงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน (ระยะทาง 180 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 15 นาที)
  • นำท่านชม หอคอยดินปืน (Kruittoren) หอคอยเก่าแก่เป็นซากกำแพงเมืองเก่าของไนเมเคิน มีความสูงประมาณ 30 เมตร หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1426 ในอดีตการเข้ามาของปืนใหญ่ในช่วงศตวรรษที่ 15 ส่งผลให้คอหอยกำแพงสูงในช่วงนั้นถูกรื้อถอน อย่างไรก็ตามหลังพระราชบัญญัติป้อมปราการมีผลบังคับใช้ในปี ค.ศ. 1874 ทำให้หอคอยแห่ง นี้ไม่ถูกทำลายและหลงเหลืออยู่มาจนถึงทุกวันนี้File:'Kruittoren' Kronenburgerpark Nijmegen (5730451153).jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านถ่ายรูปกับ อดีตโรงชั่งน้ำหนักในเมืองไนเมเคิน (The Waaggebouw) เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมงดงามตั้งอยู่บนตลาดกลาง สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1612-1613 เพื่อทำหน้าที่เป็นโรงชั่งน้ำหนักในเมืองไนเมเคิน ตามประวัติแบบย่อในสมัยก่อนนั้นการค้าขาย ในเมืองในเมเคินเฟื่องฟูมาก แน่นอนว่าการขายสินค้าไม่ได้ขายทีละชิ้น แต่ขายตามจำนวนน้ำหนัก บางครั้งก็มีการการโกงน้ำหนักเกิดขึ้น รัฐบาลจึงมีการสร้างโรงชั่งน้ำหนักขึ้นเพื่อกำหนดน้ำหนักที่ การค้าขาย ปัจจุบันโรงชั่งน้ำหนักไม่ได้ใช้งานแล้วและถูกเปลี่ยน ถ่ายมาเป็นร้านอาหารกลางเมือง ด้านนอกอาคารมีการประดับหินธรรมชาติที่หรูหรา มีหน้าต่าง กระจกสี และบานประตูหน้าต่างสีดำและสีแดงแบบดั้งเดิมทำให้อาคารดูโดดเด่นมาแต่ไกล
  • จากนั้นนำท่านชม Saint Stephen’s Church โบสถ์ที่เก่าแก่ และใหญ่ที่สุดในเมืองไนเมเคิน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1254 โบสถ์แห่งนี้สร้างในสไตล์กอทิกตอนปลาย ภายในมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและยังโดดเด่นด้วยแสงที่ ลอดผ่านหน้าต่างกระจกสีได้อย่างลงตัว
  • อิสระท่าน ณ The Lange Hezelstraat ซึ่งเป็นถนนชอปปิ้งที่เก่าแก่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ รวมถึงเป็นที่ตั้งของร้านค้า ร้านคาเฟ่ และร้าน อาหารมากมาย ภายในมีบ้านเรือนและอาคารเก่าที่ยังคงหลงเหลือและถูกดัดแปลงเป็นร้านขายของ ต่าง ๆ นับเป็นอีกย่านหนึ่งที่มีสีสันและเหมาะกับการเดินชม

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
THE REBYL, NIJMEGEN, A TRIBUTE PORTFOLIO HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

** หมายเหตุ: โรงแรมในเมืองมีจำกัด หากเต็มทางบริษัทของสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง **

DAY4

ไนเมเคิน - หมู่บ้านกีธูร์น - อัมสเตอร์ดัม

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านไร้ถนนหมู่บ้านกีธูร์น(Giethoorn) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที) อยู่ในจังหวัดโอเวอร์เอเซิล (Overijssel) หมู่บ้านกีธูร์น เป็นหมู่บ้านที่สวยงาม โดยความแปลกของหมู่บ้านอยู่ที่ไม่มีถนนแม้แต่สายเดียว แต่จะมีลำคลองล้อมรอบเมืองโดยการคมนาคมทั้งหมดยังใช้ทางน้ำ โดยยานพาหนะหลักที่ใช้คือ เรือ จนได้รับฉายาว่า เวนิส แห่งเนเธอร์แลนด์10 Best Things to Do in Giethoorn (Plus Tips! 2022)
  • นำท่านล่องเรือชมความสวยงามของหมู่บ้านกีธูร์น ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
  • นำท่านเดินเล่นถ่ายรูปตามบ้านเรือนของหมู่บ้านกีธูร์น ตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนูปลาเทราซ์

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงอัมสเตอร์ดัม (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที) เมืองเศรษฐกิจสำคัญของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเทล (Amstel) เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์4 nights, Amsterdam – November 2022 – Cunard
  • นำท่านเข้าสู่ จตุรัสดัมสแควร์ ย่านใจกลางเมืองช้อปปิ้งสำคัญ อิสระให้ท่านเดินเล่นหรือช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
NHOW AMSTERDAM RAI HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 1 คืน)

** หมายเหตุ : ช่วงเทศกาลทิวลิป โรงแรมในตัวเมืองอัมสเตอร์ดัมถูกจองข้ามปี หากโรงแรมเต็มทางบริษัทของสงวนสิทธิ์พักด้านนอก**

DAY5

อัมสเตอร์ดัม - ลิซเซ่ - สวนเคอเค่นฮอฟ 2026 - Kasteel de Haar - เฮก

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองลิซเซ่ (LISSE) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที)
  • นำท่านเข้าชม สวนเคอเค่นฮอฟ 2026 (Keukenhof) ซึ่งภายในจะมีดอกไม้นานาชนิดโดยเฉพาะดอกทิวลิป                                                                                                                          Keukenhof Gardens Fast Track Entry Ticket with Round Trip Bus Transfers from Amsterdam - Klook United Kingdom
  • ให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บความสวยงามตามอัธยาศัย เพราะที่นี่ 1 ปีจะเปิดให้เข้าชมเพียง 1 ครั้ง

(เทศกาลทิวลิปเปิดให้ชมตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม – 10 พฤษภาคม 2026)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่ Kasteel de Haar (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) เป็นปราสาทที่ใหญ่และหรูหราที่สุดในเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใกล้เมือง Utrecht สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ตั้งอยู่บนริมแนวเขื่อนที่ทอดยาวริมแม่น้ำ Rhine “Haar “เป็นภาษาดัตช์ในยุคสมัยกลางแรกๆ ที่ใช้เรียกผืนแผ่นดินที่ยืดแผ่ขยายเป็นเนินสูงๆ ดังนั้นจึงเป็นชื่อของปราสาทและตระกูลที่อาศัยอยู่ที่นั่นFile:Kasteel de Haar Utrecht by Yustina M P.jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านเดินทางสู่เมืองเฮก (Den Haag) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) เมืองหลวงของจังหวัดเซาท์ฮอลแลนด์ เป็นที่ตั้งของศาลโลกและรัฐสภาเนเธอร์แลนด์ รวมถึงศูนย์กลางการปกครองและองค์กรสำคัญของประเทศและสถานทูตต่างๆ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MÖVENPICK HOTEL THE HAGUE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY6

เฮก - เดลฟต์ - รอตเตอร์ดัม - หมู่บ้านกังหันคินเดอร์ไดค์ - แอนต์เวิร์ป

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเดลฟต์ (Delft) (ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เมืองที่สวยที่เป็นอันดับ 2 ของประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นเมืองยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม, คลอง, จักรยานและเซรามิกส์สีน้ำเงินและสีขาวมีชื่อเสียงระดับโลก                                                          Delft - Stadhuis | The City Hall in Delft is a Renaissance s… | Flickr
  • นำท่านชม พิพิธภัณฑ์รอยัล เดลฟท์ (Royal Delft) เป็นพิพิธภัณฑ์โรงงานเครื่องปั้นดินเผาเซรามิกสีน้ำเงินที่มีชื่อเสียงในเมืองเดลฟท์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมโรงงานเพื่อชมกระบวนการผลิตเครื่องปั้นดินเผา เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเดลฟท์ รวมถึงการชมงานศิลปะเครื่องกระเบื้องสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์งานฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1653
  • นำท่าน ชมเขตเดลฟต์เก่า (De Oude Delft) ที่มีอายุกว่า 750 ปี ที่เกิดจากการเจาะหรือขุด คลองเก่าแก่ที่สุดของเดลฟต์จนก่อเกิดเป็นชุมชนโดยรอบ ต่อมาให้กลายเป็นต้นแบบในหลายคลองของเมืองอื่น ๆ ใช้เป็นเสมือนเส้นเลือดหล่อเลียงชีวิตชาวเมือง เหล่านี้ยังคงความภาคภูมิใจของเดลฟต์
  • ชมศาลาว่าการเมือง โบสถ์ประจำเมือง พร้อมอิสระเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองรอตเตอร์ดัม (ROTTERDAM) เมืองที่ทันสมัยที่สุด ของประเทศเนเธอร์แลนด์ (ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลา 25 นาที)
  • ถ่ายรูปกับ CUBE HOUSES เป็นบ้านทรงลูกบาศก์เอียง 45 องศา ถูกสร้างไว้บนเสาหกเหลี่ยม เป็นรูปร่างที่แปลกตา จุดประสงค์หลักที่สร้างบ้านลักษณะนี้คือเพื่อประหยัดพื้นที่การใช้สอยนั่นเอง      Cube Houses, Rotterdam, Netherlands. | The Cube Houses ('Kub… | Flickr

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านกังหันคินเดอร์ไดค์ (Kinderdijk) (ระยะทาง 28 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที) ที่นี่เป็นหมู่บ้านกังหันลมเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในเนเธอร์แลนด์ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งมีโรงสีลมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีถึง 19 แห่ง โดยในศตวรรษที่ 13 คลองกั้นน้ำAlblasserwaard เกิดปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีการขุดคลอง weteringen เพื่อระบายน้ำในคลองกั้นน้ำทำให้ดินทรุดจนเป็นปัญหา จึงเริ่มสร้างกังหันลมมาวิดน้ำขึ้นในปี 1740 นำท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัยKINDERDIJK AND ENVIRONS 2007 (140) | KINDERDIJK | bertknot | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp) (ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเบลเยี่ยม และยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีท่าเรือใหญ่ที่สุดในยุโรป

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HILTON ANTWERP OLD TOWN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY7

แอนต์เวิร์ป - ชมเมือง - บรูจน์ - ล่องเรือ

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านชมเมืองแอนต์เวิร์ป โดยเริ่มจาก Grote Markt เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ของเมืองแอนต์เวิร์ปทรงสามเหลี่ยมปูด้วยหิน ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารสำคัญที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ในสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนซองส์ ที่ผสานไปกับวิธีคิดแบบเฟลมิชได้อย่างลงตัว และเป็นเอกลักษณ์ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 1998 โดยองค์การยูเนสโก
  • นำท่านถ่ายรูปกับ Brabo Fountain หรือ Brabo’s Monument เป็นน้ำพุที่มีรูปปั้นของผู้ชายคนหนึ่งกำลังขว้างมือไปที่ไหนสักแห่ง สร้างโดย Jef Lambeaux นักประติมากรชาวเบลเยี่ยม แต่รูปปั้นนี้ก็มีตำนานกล่าวไว้ว่าในอดีต Brabo ชายบนรูปปั้นได้ปลดปล่อยเมือง Antwerp จากความกลัว โดยการตัดมือของยักษ์ที่กีดกันเมือง (เชื่อกันว่ายักษ์เก็บค่าผ่านทาง ถ้าหากใครไม่มีให้ยักษ์ก็จะตัดมือคนนั้นทิ้งลงแม่น้ำ) และเมื่อตัดมือได้เขาก็ขว้างมือของยักษ์ลงไปที่แม่น้ำ Scheldt เช่นเดียวกับที่ยักษ์ทำกับชาวเมืองBrabo Fountain in Grote Markt, Antwerp, Belgium | Silvius Br… | Flickr
  • นำท่านถ่ายรูปกับ ศาลาว่าการเมืองแอนต์เวิร์ป (Antwerp City Hall) ศาลาว่าการเมืองเริ่มสร้างขึ้นมาในปี 1561 และเสร็จในปี 1564 เป็นอาคารยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ (Renaissance) ที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการดำเนินงานหลังจากแอนต์เวิร์ปก้าวขึ้นมาเป็นท่าเรือการค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในแถบยุโรปตอนเหนือช่วงศตวรรษที่ 16 โดยตัวอาคารจะมีลักษณะเป็นซุ้มโค้งอิฐแดงที่ขนาบด้วยปีกอาคารสูงใหญ่ซ้ายขวา มีเสาไอโอนิกสองต้นประดับอยู่ด้านบนอาคาร ซึ่งตรงกลางของชายคายังมีประติมากรรมรูปปั้นหญิงที่แสดงถึงความยุติธรรม ส่วนภายในอาคารก็ได้รับการออกแบบอย่างหรูหรา และประกอบไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่บันทึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองแอนต์เวิร์ปได้อย่างสมจริง นับเป็นศาลาว่าการเมืองที่สร้างอิทธิพลให้เกิดสถาปัตยกรรมสไตล์เดียวกันเกิดขึ้นอีกหลายแห่งทั่วยุโรปFile:0 Antwerp town hall (1).JPG - Wikimedia Commons
  • นำท่านชม Cathedral of Our Lady โบสถ์ที่มีขนาดใหญ่ และสูงที่สุดในประเทศเบลเยียมแห่งนี้ เป็นโบสถ์อายุกว่า 169 ปี ซึ่งสร้างขึ้นระหว่างปี 1325-1521 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตัวโบสถ์ก็ได้รับการบูรณะปรับปรุงหลายครั้ง ในรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันไปทั้ง กอธิค, ฟื้นฟูศิลปวิทยา, บาร็อค ฯลฯ ทำให้โครงสร้างของโบสถ์มีเอกลักษณ์ และแง่มุมน่าเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมในศาสนาคริสต์หลายจุด โดยผู้อุปถัมภ์ของโบสถ์จะเป็นพระแม่มารีย์ (Blessed Virgin Mary) ทำให้ผู้ชมจะพบว่าการออกแบบพื้นที่ภายใน ตลอดจนงานศิลป์ทางศาสนาที่ประดับอยู่ที่โบสถ์จะเน้นไปที่การเคารพพระแม่มารีย์เป็นหลัก โดยบริเวณทางเข้าด้านหน้าเป็นประตูไม้ขนาดใหญ่ที่ประดับไปด้วยประติมากรรมแกะสลักอันตระการตา หอคอยด้านทิศเหนือมีความสูงถึง 123 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นตัวโบสถ์ได้จากระยะไกล ส่วนพื้นที่ด้านในโบสถ์อันโอ่โถงก็ได้รับการรังสรรค์อย่างละเอียดลออ นับเป็นโบสถ์ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สุดหลังหนึ่งของประเทศเบลเยี่ยม                                       Cathedral of Our Lady | Antwerp | Isen Majennt | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง บรูจน์ (Bruges) เป็นเมืองที่สวยอันดับ 1 ของประเทศเบลเยี่ยม และยังติดอันดับต้นๆเมืองสวยที่สุดโลก) (ระยะทาง 105 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • นำท่านเยี่ยมชมเมือง บรูจน์ เมืองเล็กๆทางตะวันตกของเบลเยียม ที่ยังคงอนุรักษ์ เมืองในสมัยโบราณอายุกว่า 500ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก Unesco และเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นเฟลนเดอร์ เมืองที่คูคลองล้อมรอบเมือง
  • ชมศาลาว่าการกลางเมือง ในสไตล์แบบโกธิค หอระฆังแห่งบรูจน์ ที่มีบันไดกว่า 300 ขั้น ให้นักท่องเที่ยว ลองเดินขึ้นทดสอบความ แข็งแรงและสามรถชมทัศนียภาพของเมืองที่สวยงามได้อย่างรอบทิศทาง จตุรัสมาร์ก หรือตลาดประจำเมือง ที่รายล้อมด้วยอาคารอันสวยงามของศิลปกรรมในยุคต่างๆที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัวกัน                                                                                                Bruges Archives - Green Park Hotel Brugge
  • นำท่านนั่งเรือชมวิวเมืองบรูจน์  ท่านจะได้ชื่นชมความสวยงามของเมืองผ่านการนั่งเรือ ซึ่งเรือจะนำท่านลัดเลาะคลองต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที (หมายเหตุ : หากเรืองดให้บริการไม่ว่าด้วยกรณีใดๆ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์งดให้บริการโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า)

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
CROWNE PLAZA HOTEL BRUGE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

** หมายเหตุ : โรงแรมในเมืองบรูกค่อนข้างน้อย หากเต็มทางบริษัทของสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง **

DAY8

บรูจน์ - เกนต์ - ทัวร์เน - บรัสเซลส์

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง เกนต์ (Ghent) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) เป็นเมืองที่สวยอันดับ 3 ของเบลเยี่ยม เมืองเล็กที่น่ารักแห่งเบลเยี่ยม
  • นำท่านชม Castle of the Counts อดีตปราสาทของท่านเคาท์ผู้ปกครองเมืองที่สร้างด้วยหินซึ่งปัจจุบันได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ โดยปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 เคยใช้เป็นที่พำนักของเคานต์แห่งแฟลนเดอร์ส ปราสาทแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นศาลและเรือนจำจนถึงศตวรรษที่ 18 นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของโรงกษาปณ์เมืองเกนต์ในศตวรรษที่ 14 และ 15 อีกด้วย            Castle of the Counts in Ghent | Sergei Mutovkin | Flickr
  • นำท่านชมเขตเมืองเก่าแห่งเกนต์ย่านจตุรัสใจกลางเมือง
  • นำท่านชมโบสถ์ St Bavo’s Cathedral ตั้งชื่อตามนักบุญบาโว หรือซินท์ บาฟ ในภาษาดัตซ์ โดยพื้นที่เดิมตรงนี้นั้นเคยเป็น Chapel มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 942 และต่อมาก็ได้มีการสร้างอาคารที่ใหญ่ขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 14-16 โดยโดดเด่นด้วยหอระฆังเดี่ยวสูง89 เมตร โดยนอกจากตัวโบสถ์ที่สวยงามยังมีศิลปะระดับมาสเตอร์พีช อาทิภาพวาด,ฉากประดับแท่นบูชา ,ประติมากรรมต่างๆฯ จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์แบบโกธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก (Unesco) อีกด้วยให้ท่านอิสระถ่ายรูปหรืออาจจะเลือกเดินเล่นชมร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย หรือนั่งจิบกาแฟด้านหน้าร้านกาแฟเท่ห์ที่น่ารักมากมามาย                                                                                                  Willkommen im Museum St.-Bavo-Kathedrale (Gent) - (None - Belgien) - Entdecken Sie Gemälde von 46

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองทัวร์เน (Tournai) หรือในภาษาภาษาดัตช์ เรียกว่า Doornik เป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเบลเยี่ยม และมีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมาย (ระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.)
  • นำท่านชม มหาวิหารทัวร์เน หรือ อาสนวิหารแม่พระแห่งทัวร์เน (Cathédrale Notre-Dame de Tournai; Onze-Lieve-Vrouw van Doornik) ตั้งอยู่ที่เมืองทัวร์เน มณฑลแอโน เขตวัลลูน ในประเทศเบลเยียม เป็นอาสนวิหารโรมันคาทอลิกอันเป็นที่ตั้งของมุขนายกประจำมุขมณฑลทัวร์เน (Diocese of Tournai) สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระนางมารีย์พรหมจารี มหาวิหารแห่งนี้ถือเป็นมหาวิหารแห่งเดียวในประเทศเบลเยี่ยมซึ่งตั้งใจสร้างเพื่อมีฐานะเป็นอาสนวิหาร (Cathedral) จัดเป็นผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมกอทิกแบบทัวร์เน (Gothique tournaisien) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างโรมาเนสก์กับกอทิกที่พบได้มากในภูมิภาคแถบนี้ มหาวิหารทัวร์เนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญของภูมิภาควัลลูน (Patrimoine immobilier classé de la Région wallonne) เมื่อปี ค.ศ. 1936 และต่อมาได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปีค.ศ. 2000
  • จากนั้นชม หอระฆังเมืองทัวร์เน (Belfry of Tournai) เป็นหอระฆังสูง 72 เมตร ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเบลเยี่ยมและต่อมาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกร่วมกับมหาวิหารโนเทรอดามแห่งทัวร์เน หากท่านขึ้นไปด้านบนสุดของหอระฆังบันไดผ่านบันได 257 ขั้น ท่านจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของเมืองทัวร์เนได้อย่างชัดเจน ที่นี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของผู้ที่มาเที่ยวเมืองทัวร์เน อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย                    Tournai from above | We were (once again) pleasantly surpris… | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) (ระยะทาง 90 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 20 นาที) เป็นเมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เเละเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา นอกจากนี้ยังเป็นที่โด่งดังในเรื่องของช็อคโกแลตและเบียร์ที่ดีที่สุดในโลก

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RADISSON COLLECTION GRAND PLACE BRUSSELS หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY9

บรัสเซลส์ - วอเตอร์ลู - อะตอมเมี่ยม - จัตุรัสแกรนด์เพลซ - แมนาคินิส

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเดินทางสู่ วอเตอร์ลู (waterloo) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที) ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงบรัสเซลส์และอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเบรน-ลัลเลอด์ที่ใหญ่กว่า เป็นที่ตั้งของสมรภูมิวอเตอร์ลู ซึ่งนโปเลียนพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายในปี ค.ศ. 1815 ชื่อวอเตอร์ลูถูกกล่าวถึงครั้งแรกในปี ค.ศ. 1102 ซึ่งหมายถึงหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนถนนสูงซึ่งปัจจุบันเรียกว่าป่าโซเนียน ซึ่งเชื่อมระหว่างกรุงบรัสเซลส์ เมืองเกแนปเป้ และเหมืองถ่านหินทางใต้ วอเตอร์ลูตั้งอยู่ที่จุดตัดของถนนสายหลักในพื้นที่ Cense และถนนที่นำไปสู่นิคมเกษตรกรรมขนาดเล็ก ทางข้ามยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้โดยเป็นจุดตัดของ Chaussée de Bruxelles และ Boulevard de la Cense วอเตอร์ลูเป็นสถานที่ที่นักเดินทางและพ่อค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่นำถ่านหินมาจากทางใต้ของเหมือง สามารถพักผ่อนและได้รับการปกป้องจากโจร Waterloo เริ่มพัฒนาในศตวรรษที่ 17
  • นำท่านชม Lion’s Mound เป็นอนุสาวรีย์ของผู้เสียชีวิตในสมรภูมิวอเตอร์ลูในปี 1815 ซึ่งเป็นที่ตั้งของปืนคาบศิลาที่ไหล่ของเจ้าชายวิลเลี่ยมที่ 2 แห่งฮอลแลนด์ (เจ้าชายแห่งออเรนจ์) และทำให้เขาตกจากหลังม้าระหว่างการสู้รบ รูปปั้นสิงโตหันหน้าไปทางฝรั่งเศส ยืนอยู่บนแท่นหินก้อนหนึ่ง อยู่เหนือเนินเขา ผู้เข้าชมสามารถขึ้นบันได 226 ขั้นไปยังยอดเขาเพื่อชมทิวทัศน์มุมกว้างของสนามรบ              File:Braine-L'Alleud - Butte du Lion dite de Waterloo (1).jpg - Wikimedia Commons
  • ชมพิพิธภัณฑ์เวลลิงตัน (Wellington Museum) ที่จัดแสดงเรื่องราวของสงครามครั้งสุดท้ายของนโปเลียน นอกจากนี้ยังมี สำนักงานใหญ่แห่งสุดท้ายของนโปเลียน (Napoleon’s Last Headquarters) และ พิพิธภัณฑ์การรบ 1815 (Battle of 1815 Museum) ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมเช่นกัน
  • จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่บรัสเซลส์
  • นำท่านถ่ายรูปคู่ อะตอมเมี่ยม ประติมากรรมรูปอะตอมมหึมา สัญลักษณ์จากการรวมตัวครั้งแรกของกลุ่มประเทศยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 1959 ผ่านชมบริเวณพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์แห่งเบลเยี่ยมA morning at the Atomium | Sunny Days with Juliette

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านเดินทางสู่ ถนนอเวนิวหลุยส์ (Avenue Louise Street) ถนนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาครั้งแรกในปี 1847 แรกเริ่มเป็นเพียงทางสัญจรไปยังสวนสาธารณะในเมือง ก่อนจะพัฒนาจนกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญแห่งอื่นๆ ในบรัสเซลส์ ปัจจุบันถนนความยาว 2.7 กิโลเมตรแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน ร้านค้า และทางเชื่อมไปยังระบบขนส่งสาธารณะหลายสาย นับเป็นย่านเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ และยังมีส่วนแฟชั่นร่วมสมัย ที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวสายช้อปปิ้ง เพราะเต็มไปด้วยร้านหรูจากแบรนด์ระดับไอคอนตั้งอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดิออร์ (Dior), หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton, ชาแนล (Chanel) ฯลฯ อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย                                                           File:1981-10 Avenue Louise, Bruxelles (11607481643).jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้น ชมจัตุรัสแกรนด์เพลซ ใจกลางเมือง ให้ท่านประทับใจกับหมู่ตึกต่างๆอาทิ ศาลาว่าการเมือง หมู่ตึกกริลเฮาส์ ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นสถานที่ประทับของราชวงศ์กษัตริย์เบลเยี่ยม และเป็นตลาดนัดจุดรวมการแลกเปลี่ยนสินค้าในอดีต                                                                                                      จัตุรัสกรองด์ ปลาซ (Grong Plas) ใจกลางเมืองบรัซเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม - Grazie Travel
  • ชม แมนาคินพิส อนุสาวรีย์หนูน้อยยืนฉี่ สัญลักษณ์ของกรุงบรัสเซลส์ อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิ ช็อคโกแลต ผ้าลายลูกไม้ เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋า ฯลฯ หรือเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัยแมนเนเกน พิส (Manneken Pis) -

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RADISSON COLLECTION GRAND PLACE BRUSSELS หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY10

บรัสเซลส์ - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
  • 13.30 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 935
DAY11

สุวรรณภูมิ - กรุงเทพ ฯ

  • 05.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ



แชร์ให้เพื่อน