ทัวร์อิตาลีใต้ เจาะลึกอันซีน 12 วัน
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์อิตาลีใต้ เจาะลึกอันซีน 12 วัน

กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 24 มี.ค. 66 - 4 เม.ย. 66 | 179,900 บาท |
2 | 29 มี.ค. 66 - 9 เม.ย. 66 | 189,900 บาท |
3 | 4 เม.ย. 66 - 15 เม.ย. 66 | 189,900 บาท |
4 | 3 พ.ค. 66 - 14 พ.ค. 66 | 185,900 บาท |
5 | 31 พ.ค. 66 - 10 มิ.ย. 66 | 185,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1หมู่บ้านหิน Matera ชุมชนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในอิตาลี (Unesco) (Unseen)
- 2หมู่บ้าน Alberobello รูปทรงประหลาดสวยงดงาม สวยระดับโลก (Unesco) (Unseen)
- 3หมู่บ้านริมหน้าผา Amalfi, Ravello, Positano เส้นทางสวยระดับโลก (Unesco)
- 4เมือง Castelmezzano เมืองโบราณ บนหุบเขา (Unseen)
- 5ชมเมือง Pacentro เมืองบนภูเขาสุดสวย (Unseen)
- 6ชมเมือง Polignano a Mare เมืองชายหาดรายล้อมด้วยหน้าผา (Unseen)
- 7เมืองเก่าโบราณ Pompeii ใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟ (Unesco)
- 8พักเกาะ Capri เกาะสีสันสดใสสุดโรแมนติค
- 9ชมถ้ำเรืองแสงสีฟ้า Blue Grotto
- 10นครวาติกันเข้าชม Vatican Museum, Sistine Chapel
- 11เข้าชมด้านในสนาม Colosseum
- 12ชมเมือง Lecce เมืองทางตอนใต้สุดของอิตาลี (Unseen)
- 13ชมหอสวดมนต์ Cappella Sansevero ชมผลงานแกะสลักหินอ่อน หน้ากากคริสต์ (Unseen)
- 14ชมเมืองหลวง Rome
- 15ชมเมือง Naples
- 16พิเศษ รับประทานอาหารร้าน Grotta Palazzese ร้านอาหารที่อยู่ในถ้ำตั้งยื่นออกไปในทะเล
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์อิตาลี ใต้ เจาะลึกอันซีน
12 วัน 9 คืน
โดยสายการบินการ์ต้า (QR)
สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ - โดฮา
- 16.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ Q ประตู 8 สายการบินการ์ตาร์ แอร์เวย์ พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
- 19.45 น. ออกเดินทางสู่โดฮา โดยสายการบินการ์ตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 837
- 23.10 น เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติโดฮา (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
โดฮา - กรุงโรม (อิตาลี) – ปาเซนโตร - เปสการา
- 02.00 น.เดินทางสู่กรุงโรมโดยสายการบินการ์ตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 115
- 06.15 น.เดินทางถึงทางอากาศนานาชาติฟูมิชิโน่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว
- นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านปาเซนโตร (Pacentro) (ระยะทาง 200 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นหมู่บ้านของจังหวัด L’Aquila ใน Abruzzo เป็นหมู่บ้านยุคกลางอันเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีตั้งอยู่ทางตอนกลางของอิตาลี ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในอิตาลี (one of Italy’s most beautiful villages) ตั้งอยู่ในเทือกเขา Apennine บนที่ราบสูงประกอบด้วยเนินเขาเล็กๆ 650 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นที่ตั้งของปราสาท Colle Castello ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านหนึ่งของเมือง มีชื่อเสียงในด้านน้ำพุและน้ำจืดจากการละลายหิมะส่วนบนยอดเขาMajella
- นำท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเปสการา (Peskara) (ระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดเปสการา ในเขตอาบรุซโซของอิตาลี ตั้งอยู่บนชายฝั่งเอเดรียติกที่ปากแม่น้ำ Aterno-Pescara
- นำท่านถ่ายรูปกับ Ponte del Mare เป็นทางเดินจักรยานที่เชื่อมชายฝั่งทางใต้ กับชายฝั่งทางเหนือ ของแม่น้ำ Pescara
- จากนั้นอิสระท่านเดินเล่น ณ ย่าน Piazza della Repubblica ถนนสายหลักของเมืองและยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของเปสการาอีกด้วย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
CARLTON HOTEL PESCARA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เปสการา - วีเอสเต – บารี
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองวีเอสเต (Vieste) (ระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิตาลีมีชื่อเสียงเรื่องความบริสุทธิ์ของน้ำและชายหาดจากมูลนิธิด้านสิ่งแวดล้อมของอิตาลี
- นำท่านถ่ายรูปกับ Pizzomunno เป็นเสาหินปูนสูงตระหง่านสูง 25 เมตร ตั้งอยู่ที่จุดเริ่มต้นของชายหาดทางตอนใต้ของเมืองที่เรียกว่า “เดล คาสเตลโล”) หรือ “เซียลารา” หรือ “เดล ปิซโซมุนโน” เนื่องจากความยิ่งใหญ่ และด้วยเสน่ห์ของมัน มันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง จากนั้นนำท่านชมย่านเมืองเก่า ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาวงกตมีบันไดและและตรอกซอกซอยเต็มไปด้วยบ้านเรือนสีขาวเรียบง่าย ชมความงดงามของโบสถ์โรมาเนสก์และปราสาท ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ที่สร้างโดยชาวสวาเบียน อิสระเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมืองบารี (bari) (ระยะทาง 190 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง)เป็นเมืองหลักของแคว้นปุลยา บนชายฝั่งทะเลเอเดรียติก ประเทศอิตาลี เป็นเมืองสำคัญอันดับ 2 ในด้านเมืองเศรษฐกิจบนแผ่นดินใหญ่ทางใต้ของอิตาลี
- ชมชมโบสถ์เซนต์นิโคลัส (BASILICA ST.NICHOLAS) ซึ่งเดิมเคยใช้เป็นที่พำนักของผู้ปกครองเมืองชาวไบแซนไทน์เมื่อราวปี ค.ศ.1000 ต่อมาในปี ค.ศ.1087 ชาวบารีได้นำกระดูกของเซนต์นิโคลัสมาจากโบสถ์แห่งเมืองไมร่า (MYRA) ในประเทศตุรกี จึงได้ดัดแปลงอาคารแห่งนี้เป็นโบสถ์ และประดิษฐานกระดูกของเซนต์นิโคลัสไว้ภายใน ซึ่งเชื่อกันว่า เซนต์นิโคลัส ก็คือที่มาของซานตาคลอสนั่นเอง อิสระท่านชมความงดงามภายในโบสถ์
- ชม จัตุรัสเฟอร์เรรา (Piazza del Ferrarese) จัตุรัสเก่าแก่ที่เป็นทางเข้าไปสู่ย่านเมืองเก่า ทางด้านซ้ายเป็นที่ตั้งของซาลามูรัต (Sala Murat) แกลเลอรีศิลปะและทางด้านขวาเป็นตลาดปลา ทางตอนเหนือมีส่วนเชื่อมกับจัตุรัสการค้า (Piazza Mercantile) ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับอาคารที่มีสถาปัตยกรรมแปลกตามีเสน่ห์น่ารัก มีบานประตูและหน้าต่างเป็นสีต่างๆ รวมถึงพุ่มไม้ เรียงรายบนหลังคาอาคารบ้านเรือน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MERCURE VILLA ROMANAZZI CARDUCCI BARI HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
บารี - อัลเบอโรเบลโร – โปลีญาโนอามาเร - เลชเช่
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง อัลเบอโรเบลโร (Alberobello) (ระยะทาง 55 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง) ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดบารี (Bari) แคว้นปูลยา (Puglia)
- นำท่านชมหมู่บ้านสวยแปลกตา The Trulli of Alberobello หมู่บ้านเก่าแก่ที่มีประวัติเกือบพันปี ด้วยความโดดเด่นของบ้านเรือนที่มีเอกลักษณ์เป็นรูปหลังคากรวยมียอดแหลมกลมส่งผลให้หมู่บ้านนี้มีความสวยแปลกตาอย่างมาก ไม่เหมือนใครที่สร้างกันลดหลั่นตามระดับสูงต่ำของพื้นที่ ด้วยความสวยงาม ความมีเอกลักษณ์และปรวัติที่เก่าแก่ของหมู่บ้านแห่งนี้ ทำให้ในปี 1996 ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO)
- นำท่านเดินทางสู่เมือง Polignano a Mare (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิตาลีในจังหวัดบารีและบนชายฝั่ง เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่า ที่ยังคงเสน่ห์แบบกะลาสีเรือไว้ในทุกมุม เป็นเมืองที่สามารถมองเห็นได้ง่ายในวันเดียวและมีเมืองเก่าที่สวยงาม มีความโดดเด่นในบางสิ่งเช่นบ้านที่ดู เหมือนแขวนอยู่บนหน้าผา เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากการแข่งขัน ‘Red Bull Cliff Diving World Series’ ที่จัดขึ้นบนหน้าผา เป็นการแข่งขันกระโดดสูงที่ตระการตา
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ณ ร้าน Grotta Palazzese ร้านอาหารที่อยู่ในถ้ำ ตั้งยื่นออกไปในทะเล เป็นหนึ่งในร้านที่ท่านมาเยือนอิตาลีตอนใต้ไม่ควรที่จะพลาด
- นำท่านเดินชมเมือง Polignano a Mare
- นำท่านชมหาด Lama Monachile ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้เลยก็ว่า ด้วยความเป็นหาดทรายเล็กๆ โอบล้อมไปด้วยหน้าผ้าสูงที่ยื่นออกไปยังทะเลและยังมีบ้านสีขาวตั้งโดดเด่นเหน้าหน้าผา ทำให้เป็นชายหาดที่แปลกตาและสวยงามอย่างมาก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเลชเช่ (Lecce) (ระยะทาง 115 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง 30 นาที) หนึ่งในเมืองสำคัญของแคว้น Puglia
- ชมเมืองเก่าสไตล์บาโรก เลชเช่เป็นเมืองที่ค่อนข้างมีความเจริญ มีร้านค้า และคาเฟ่ที่เปิดรอให้นักท่องเที่ยวมาใช้บริการอยู่หลายร้าน อาคารสูงใหญ่หรูหราที่สร้างจากหินปูนเรียงรายกันอยู่
- ชม “The Celestini Palace” หรือ Palazzo dei Celestini ปราสาทราชวังเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ภายใต้สถาปัตยกรรมแบบบาโรก ปัจจุบันที่นี่ได้รับการอนุรักษ์จากรัฐบาลทำให้ทั้งโครงสร้างด้านใน และด้านนอกยังคงแข็งแรง ทั้งยังถูกใช้เป็นที่ว่าการของเมืองเลชเช่อีกด้วย ถัดมาใกล้ ๆ กันคือ “Basilica di Santa Croce” หรือมหาวิหารซานตาโคร มหาวิหารแห่งนี้เริ่มสร้างตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1549 – ค.ศ. 1582 มีความสวยงามโดดเด่นด้วยการแกะสลักหินที่สวยงาม ตกแต่งซุ้มด้านหน้าด้วยรูปปั้นสัตว์หน้าตาแปลกประหลาด จุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจจะเป็นหน้าต่างบานใหญ่ตรงกลางที่แกะสลักเป็นรูปกุหลาบซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแบบกรีกโรมัน อลังการจนใครไปใครมาก็ต้องหยุดมอง อิสระท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
HILTON GARDEN INN LECCE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เลชเช่ - มาเตรา
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง มาเตรา (Matera) หรือ Sassi di Matera เมืองลึกลับที่งดงามในหุบเขา ที่น้อยคนนักจะรู้จักและได้ไปเยือน เป็นเมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในประเทศอิตาลี (ระยะทาง 190 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที) เมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอัญมณีแห่งการท่องเที่ยว เมืองมาเตราเป็นเมืองที่มีอายุมากกกว่า 2,000 ปี บ้านเรือนถูกสร้างขึ้นจากการขุดเจาะภูเขาเป็นอุโมงค์เข้าไปเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) ในปี 1993 และยังได้รับการรับเลือกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรปประจำปี 2019 อีกด้วย และยังได้รับการยอมว่าคือชุมชนที่เก่าแก่ที่สุดในอิตาลีอีกด้วย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินชมเมืองจากนั้นนำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านมาเตรา ท่านจะได้สัมผัสหมู่บ้านที่ถูกทำร้านค้า ร้านขายของ ร้านอาหาร ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสตัวบ้านอย่างใกล้ชิด อิสระให้ท่านเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HOTEL ALBERGO MATERA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมในตัวเมือง Matera มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไปพักเมืองข้างเคียง
มาเตรา – คาสเทลเมสซาโน (Unseen) - ซาเลอโน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน คาสเทลเมสซาโน (Castelmezzano) (ระยะทาง 83 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งบนยอดเขาในจังหวัดโพเทนซ่า (Potenza) ในแคว้น Basilicata ด้วยความสวยงามหมู่บ้านแห่งนี้นอกจากสร้างอยู่บนยอดเขา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แรกเริ่มเป็นถิ่นฐานของชาวกรีกราวศตวรรษที่ 5-6 ปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 1000 คนเท่านั้น เนื่องจากความสวยงามของที่ตั้งแต่ วิวทิวทัศน์ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่สวยที่สุดของอิตาลีอีกด้วย
- นำท่านเดินชมเมือง และให้ท่านถ่ายรูปเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมือง ซาเลอโน (SALERNO) เมืองท่าสำคัญอีกแห่งของประเทศอิตาลี ให้อิสระทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย (ระยะทาง 140 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
GRAND HOTEL SALERNO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
** เพื่อความสะดวก กรุณาจัดกระเป๋าใบเล็กเพื่อพรุ่งนี้ใช้ค้างคืนบนเกาะคาปรี 1 คืน **
เส้นทางอมาลฟีโคสท์ - อมาลฟี - ราเวลโล่ - โพสิตาโน่ - ซอเรนโต้ - เกาะคาปรี
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ถนนเลียบชายฝั่ง อมาลฟีโคสท์ หมู่บ้านริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เส้นทางเลียบชายฝั่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก
- (เปลี่ยนเป็นรถ Mini Bus การเที่ยวแบบเจาะลึก Amalfi Coast ) ที่ติดอันดับความสวยงามระดับโลก ทั้ง 3 เมือง และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) คือ ราเวลโล่( Ravello),อมาลฟีโคสท์ (Amalfi Coast), โพสิตาโน่ (Positano) หมู่บ้านสีสันสวยงามที่สร้างตามความลาดชันของหน้าผาเรียงรายสวยงามยิ่งนัก
- นำท่านชมเมือง ราเวลโล่ เมืองตากอากาศบนเขาสูง ด้านหน้าเป็นวิว ทะเลสวยมากถึงมากที่สุด ด้านหลังเป็นวิวภูเขาสูงเมืองนี้สวยสุดยอด จริงๆ ตัวเมืองเป็นบ้านเก่าๆ เล็กๆ อยู่ข้างๆ จตุรัสมีร้านกาแฟน่ารักอยู่ รอบๆ
- นำท่านเดินชมตัวเมืองเริ่มจากจตุรัสกลางเมืองเวสโควาโด (PIAZZA VESCOVADO) โบสถ์ประจำเมืองที่มีอายุกว่า 800 ปี
- ชม ประตูสัมฤทธิ์(THE BRONZE DOOR) ที่มีภาพสลักเรื่องราวของพระคริสต์ถึง 54 ช่อง
- ชมวิวสวยรอบจตุรัส และวิลล่า รูโฟโล (VILLA RUFOLO) คฤหาสน์บนหน้าผาริมทะเลที่สวยงาม ภายในมีสวนดอกไม้ริมหน้าผาที่ งดงามยิ่ง จุดชมวิวตรงนี้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองราเวลโล่
- นำท่านเดินทางผ่านเมือง โพสิตาโน่ เมืองชาวประมงเล็กๆ ที่มีประวัติย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษ 16-17 เมืองนี้มีชายหาดที่สวยงามบ้านเรือนสีสันสดใส หากท่านได้ไปเยือนเหมือนว่าหลุดเข้าในหนังสักเรืองหนึ่ง (** เมืองโพสิตาโน่ เข้าได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น รถมินิบัสวิ่งผ่านบนเขาหลังตัวเมืองเท่านั้น )
- จากนั้นนำท่านชมเมือง อมาลฟี เมืองนี้เคยเป็นเมืองที่มีอํานาจทาง ทะเล ต่อมาคาดว่าเกิดแผ่นดินถล่มจมหายไปในทะเล เมืองนี้จึงกลายเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ มีประชากรราว 3 พันคน มีมหาวิหารใหญ่ ที่สวยงาม นำท่านชมตัวเมืองอมาลฟี
- นำท่านเข้าชมมหาวิหารใหญ่ที่สวยงามคือ มหาวิหารเซ็นท์แอนเดรีย “Duomo di Sant’Andre” ใจกลางเมือง มีอายุเก่าแก่กว่า 900 ปี
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามไปสู่ เกาะ คาปรี (Capri) เกาะที่มีเสน่ห์เป็นของตัวเองมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟวิซูสเวียส
- นำท่านนั่งรถรางขึ้นสู่ยอดเขาคาปรี (คาปรีเซนเตอร์)
- นำท่านเดินชมเขตตัว เมืองที่มีบรรยากาศน่ารัก และแวะพักที่สวนออกุสต้า พร้อมบันทึกภาพกับโขดหิน FARAGLIONI สัญลักษณ์ของเกาะคาปรี
- จากนั้นอิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
BEST WESTERN HOTEL SYRENE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เกาะคาปรี – ถ้ำบลูกร๊อตโต้ - ปอมเปอี - นาโปลี
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านชมล่องเรือเพื่อไปชม ถ้ำบลูกร๊อตโต้ ( Blue Grotto ) ถ้ำที่อยู่ในทะเลมีแสงสะท้อนสีฟ้าจากน้ำทะเลขั้นมากระทบถ้ำสวยงามยิ่งนัก
หมายเหตุ : การชมถ้ำบลูกร๊อตโต้ ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเอื้ออำนวยด้วย เช็ควันต่อวัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านนั่งเรือเฟอร์รี่กลับสู่เมืองซอเรนโต้
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมือง ปอมเปอี (Pompei) (ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) เมื่อเดินทางมาถึงท่านจะ เห็นภูเขาไฟวิสุเวียส“Vesuvius Volcano” ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่พ่นลาวามาทับถมสองเมืองคือ เมืองปอมเปอี(Pompei)กับ เมืองเฮอร์คิวลานุม (Herculaneum) และได้กลืนกินเมืองทั้งเมืองอยู่ใต้เถ้า ถ่านที่ประทุออกมา เวลาผ่านไปพันปีเมืองนี้ก็กลายเป็นตํานานที่ลางเลือน จนกระทั่งมีคนที่ขุดพบโดยบังเอิญเมื่อประมาณ สองร้อยปีก่อน จึงทําการขุด เมืองทั้งเมืองขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่าเมืองใหญ่โตขนาดนั้นจะถูกกลบมิดเป็นเวลา เกือบสองพันปีมีสนามกีฬา โรงละครศาสนสถาน ร้านค้า บ้านเรือนตั้งเรียงราย เป็นจํานวนมาก
- นำท่านเข้าชมโบราณสถาน ปอมเปอี“Archeological – Site Pompei” ชมสภาพของเมืองที่ขุดคนขึ้นมาได้ภายในกําแพงที่โอบล้อม ตัวเมืองชมเขตใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหาร, สํานักงานราชการตลาด,ร้านค้า, โรงละคร, สนามกีฬา, บ้านเรือน และโรงอาบน้ำสาธารณะของโรมัน
- เดินทางสู่ เมืองเนเปิลส์ หรือ นาโปลี (Naples, Napoli) (ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) เมืองที่มีชีวิตชีวา มีสีสัน คึกคัก เป็นเมือง ที่มีการผสมผสานศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความทันสมัยจนเป็นเนื้อเดียวกัน โบสถ์เก่าๆ กับบ้านเรือนสมัยใหม่ อยู่ปะปนกันไป ไม่สามารถแยกเป็นเขตเมืองเก่ากับเมืองใหม่ได้ แวะบันทึกภาพปราสาทคาสเซิลนูโวที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RENAISSANCE NAPLES HOTEL MEDITERRANEO หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
นาโปลี - โบสถ์ Cappella Sansevero - Designer Outlet Castelromano McArthurGlen - กรุงโรม
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเข้าชมหอสวดมนต์ Cappella Sansevero เป็นโรงสวดในเนเปิลส์ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 เป็นที่รวบรวมผลงานศิลปะเชิงศาสนาของอิตาลีจากแหล่งต่างๆ ไว้ด้วยกัน หอสวดมนต์นี้สร้างขึ้นโดยท่านดยุคในท้องถิ่นนามว่า Giovan Francesco di Sangro เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณต่อพระแม่มารีย์ที่ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วย สังเกตประติมากรรมหินอ่อนที่มีความประณีตและละเอียด เช่น Veiled Christ นอกจากนี้ยังมีภาพวาดบนฝาผนัง ชั้นหินอ่อนอันหรูหราน่าทึ่งและผลงานกราฟฟิคที่แสดงให้เห็นถึงลักษณะทางกายภาพของมนุษย์อย่างชัดเจน
- นำท่านชมผลงานที่ชื่อว่า หน้ากากพระคริสต์ โดย จูเซปเปซานมาร์ติโน ที่เป็นการแกะสลักหินอ่อนพระเยซูโดยมีผ้าคลุมไว้ ถือเป็นผลงานระดับ Masterpiece ที่ท่านมาเมืองนาโปลีแล้วไม่ควนพลาดชม
** หมายเหตุ หากทางโบสถ์มีพิธีกรรมสำคัญ ไม่เปิดให้ชมทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดเข้าชม **
- นำท่านเดินทางสู่ Designer Outlet Castelromano McArthurGlen (ระยะทาง 230 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 30 นาที)
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
- อิสระให้ท่านช้อปปิ้งเอ๊าท์เล็ทที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงโรมและเป็นแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ มีร้านค้ามากกว่า 120 ร้าน สินค้าแบรนด์ชื่อดังต่างๆ จากทุกมุมโลก มีสินค้าแบรนด์เนมและพบกับโปรโมชั่นส่วนลดให้เลือกมากมายอาทิ เช่น รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน พบกับแบรนด์ชั้นน าต่างๆ มากมาย อาทิ Adidas, Burberry, Calvin Klein, Coach, Diesel, Fossil, Gap, Guess, Lacoste, Levi’s, Moschino, Michael Kors, New Balance, Nike, Samsonite, Sisley, Superdry, Swatch, Tommy Hilfiger, The North Face, Swarovski, Versace, Valentino เป็นต้น
- จากนั้นเดินทางสู่กรุงโรม (Rome) เมืองหลวงของประเทศอิตาลี เมืองที่เป็นต้นกำเนิดของ โรมัน (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
CROWN PLAZA HOTEL ROME หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
กรุงโรม - สนามกีฬาโคลอสเซียม – จัตุรัสนาโวนา – มหาวิหารแพนธีออน – น้ำพุเทรวี่ – บันไดสเปน - ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านชมกรุงโรม เมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี เป็นศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวที่ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก และสถาปัตยกรรมที่สวยงามอลังการมากมาย นำท่านผ่านชมกลุ่มโรมันฟอรัม (ROMAN FORUM) อดีตศูนย์กลางทางด้านการเมือง ศาสนา และเศรษฐกิจของอาณาจักรโรมัน ที่สะท้อนให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของอารยะธรรมโรมันในช่วง 2,000 ปีที่ผ่าน
- จากนั้นคณะเข้าชมภายใน สนามกีฬาโคลอสเซียม (Colosseum )โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน การออกแบบอย่างชาญฉลาดสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้เข้าชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาในปัจจุบัน
- จากนั้นให้ท่านถ่ายภายคู่กับประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ “ ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม
- รถโค้ชนำท่านวิ่งผ่านชมสถานที่ต่างๆรอบกรุงโรม
- นำเดินเล่นชมเมืองบริเวณจัตุรัสนาโวนา (PIAZZA NAVONA) เป็นศูนย์รวมของสารพัดสิ่ง ทั้งร้านอาหาร นักดนตรี นักมายากลข้างถนน ศิลปินวาดรูปเหมือน และที่สำคัญคือเดิมทีที่ตรงนี้เป็นสนามกีฬาแข่งม้าของชาวโรมัน ถนนที่อยู่บริเวณโดยรอบ คือ ลู่วิ่งของม้า บริเวณนี้มีน้ำพุที่สำคัญ3 แห่ง เป็นผลงานของศิลปินนักแกะสลักชื่อดัง Gian Lorenzo Bernini ตรงกลางลานจะเห็นเสาโอบิลิสก์ (Obelisk) รอบๆ เสาจะเป็น น้ำพุแห่งสี่มหานที (Fountain of the Four Rivers) ซึ่งแต่ละมุมจะมีรูปปั้น ซึ่งแทนแม่น้ำใหญ่จาก 4 ทวีป ได้แก่ คงคา ดานูป ไนล์ และพลาต้า (ในอเมริกาใต้)
- นำท่านเข้าชม มหาวิหารแพนธีออน (PANTHEON) วิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเหล่าทวยเทพของกรีกโบราณ ออกแบบโดยมาร์คัส วิพซานิอัส อกริพพา เดิมสร้างขึ้นตั้งแต่ 27 ปีก่อนคริสตศักราช ต่อมาถูกไฟไหม้และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 118 และเป็นวิหารยุคโรมันที่เก่าแก่ที่สุดและคงสภาพสมบูรณ์เกือบทั้งหมดมาจนถึงทุกวันนี้ ความน่าทึ่งของวิหารนี้คือการออกแบบด้านหน้าของวิหารที่เป็นเสากับหน้าจั่ว แต่หลังคาถูกออกแบบเป็นโดมครอบอาคารทรงกลม รวมทั้งความสูงจากพื้นถึงช่องตา (Oculus) บนเพดาน และเส้นผ่าศูนย์กลางของโดมด้านในเท่ากัน 43.3 เมตรเอกลักษณ์ที่หลายคนรู้จักคือ ช่องโหว่กลางหลังคาโดมที่ใช้เปิดรับแสง แต่ก็มีการเจาะรูเล็กๆบนพื้นเพื่อเป็นการระบายน้ำฝนที่ตกเข้ามาในวิหารด้วย วิหารแพนธีออนยังเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์วิคเตอร์ เอมมานูเอลที่ 2 และราฟาเอล ศิลปินชื่อก้องโลกอีกด้วย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านชม น้ำพุเทรวี่ ( Trevi fountain ) เป็นน้ำพุที่สวยงามและมีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ชื่อ “เทรวี่” ออกแบบและก่อสร้างโดย นิโคลา ซาลวี่ ซึ่งองค์สมเด็จสันตะปาปา ครีเมนต์ที่ 12ได้มอบหมายให้สร้างขึ้นในปี 1732 รูปปั้นแกะสลักที่เลิศหรูอลังการที่อวดโฉมให้ผู้ไปเยือนได้ยลนั้น ได้แนวคิดจากความยิ่งใหญ่ของเทพเจ้าเนปจูน“เทพแห่งท้องทะเล” ว่ากันว่า หากใครที่ได้โยนเหรียญลงไปในน้ำ เขาหรือเธอผู้นั้นจะได้กลับมาเยือนอีกในสักวัน
- จากนั้นให้คณะได้ถ่ายรูปภาพคู่ “บันไดสเปน” เป็นบันไดในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาลี ชื่อ Francesco de Sanctis เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna และ Piazza Trinità dei Monti เป็นบันไดที่กว้างที่สุดและยาวที่สุดในทวีปยุโรป มีขั้นบันไดทั้งหมด 138 ขั้น ใช้สำหรับเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ที่ย่าน บันไดสเปน นับว่าเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีและ นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ
- อิสระให้ทุกท่านเดินเล่นหรือเลือกช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึก และสินค้าแบรนด์เนมตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
CROWN PLAZA HOTEL ROME หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
กรุงโรม – นครวาติกัน - พิพิธภัณฑ์วาติกัน - หอสวดมนต์ซิสติน - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านชมนครรัฐอิสระวาติกัน (VATICAN ) ศูนย์กลางศาสนาคริสต์นิกายโรมันแคธอลิกวาติกันเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลกตั้งอยู่ภายในกรุงโรมของประเทศอิตาลี แต่ในพื้นที่เล็กๆนี้กลับเต็มไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่มีคุณค่ามากมาย นครวาติกันถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพราะเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตะปาปา ประมุขสูงสุดของศาสนาคริสต์ แถมยังเป็นศูนย์รวมแห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมอันงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
- นำท่านชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s Basilica) มหาวิหารเอกของกรุงโรมที่ตั้งอยู่ใน เขตรัฐวาติกัน เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในรัฐวาติกัน และเป็นสถานที่ที่ได้ชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของคริสตจักรโรมันคาทอลิกอีกด้วย เดิมนั้นเป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 4 เป็นรูปแบบบาซิลิกา จนมาถึงในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาโบสถ์นั้นได้มีสภาพทรุดโทรมเป็นอย่างมากแล้วจึงได้มีการตัดสินใจสร้างมหาวิหารขึ้นมาใหม่ในแบบเรเนซองซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหม่และมีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก โดยมหาวิหารที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้นจัดได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐวาติกันเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วมหาวิหารนักบุญเปโตรแห่งนี้นั้นยังเป็นหนึ่งในสี่ของมหาวิหารเอกของกรุงโรมร่วมกับอีกสามวิหารอันได้แก่ มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร, มหานักบุญเปาโลนอกกำแพง และมหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน อีกด้วย
- นำท่านชม จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (St.Peter’s square) ลานกว้างด้านหน้า ที่ตรงกลางลานจะมีเสาโอเบลิสก์ของอียิปต์ เสาสูงที่ยอดด้านบนสุดเป็นรูปทรงปิรามิดตั้งตระหง่านอยู่ รอบลานจัตุรัสมีแนวเสาระเบียงของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่ยาวโค้ง มีน้ำพุสองด้านซ้ายขวา
- นำท่านเข้าด้านในชม พิพิธภัณฑ์วาติกัน (VATICAN MUSEUM) ที่เก็บรวบรวมบรรดาศิลปวัตถุ ภาพเขียน ภาพวาดต่างๆ รวมทั้งภาพเขียน THE CREATION ภาพการสร้างโลก ฝีมือไมเคิล แองเจลโล
- ด้านในมี หอสวดมนต์ซิสติน (SISTINE CHAPEL) ก่อนชมความงดงามภายใน โบสถ์เซนต์ปีเตอร์(ST.PETER BASILICA) ศาสน-สถานประจำสำนักวาติกันที่โด่งดังด้วยความงดงามและขนาดที่ ใหญ่โต รวมทั้งรูปแกะสลักปิเอต้าที่โด่งดังของไมเคิล แองเจลโล
- อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
- ได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำการเช็คอินและทำ TAX REFUND
- 16.35 น. ออกเดินทางสู่โดฮา โดยสายการบินการ์ตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 132
- 23.45 น เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติโดฮา (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
โดฮา - สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ
- 02.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินการ์ตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ QR 836
- 12.40 น.เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ…..