ทัวร์เยอรมันเหนือ เส้นทางอันซีน
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์เยอรมันเหนือ เส้นทางอันซีน
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 6 เม.ย. 68 - 16 เม.ย. 68 | 189,900 บาท |
2 | 10 เม.ย. 68 - 20 เม.ย. 68 | 189,900 บาท |
3 | 23 เม.ย. 68 - 3 พ.ค. 68 | 189,900 บาท |
4 | 15 พ.ค. 68 - 25 พ.ค. 68 | 189,900 บาท |
5 | 11 มิ.ย. 68 - 21 มิ.ย. 68 | 189,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมสะพาน Rakotzbrucke สะพานสุดประหลาด สมญานามสะพานปีศาจ Unseen
- 2ชมสะพาน Bastei Bridge สถานที่สำคัญใน Saxon Switzerland National Park Unseen
- 3ชมเมือง Rothenburg ob der Tauber หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของเยอรมัน
- 4ชมเมือง Dresden เมืองสุดสวยอันดับต้นๆของยุโรป
- 5ชมกรุง Berlin เมืองหลวงของเยอรมัน (UNESCO)
- 6ชมเมือง Bamberg เมืองสวยมรกดโลกของเยอรมัน (UNESCO) Unseen
- 7ชมเมือง Humburg เมืองท่าที่สำคัญที่สุดของเยอรมัน (UNESCO)
- 8ชมหมู่บ้าน Quendlingburg 1 ใน 3 เมืองที่สวยที่สุดในเยอรมัน (UNESCO) Unseen
- 9ชมหมู่บ้าน Wernigerode 1 ใน 10 หมู่บ้านครึ่งไม้ที่สวยที่สุดในเยอรมัน Unseen
- 10ชมเมือง Lubeck เมืองสวยมรกดโลกของเยอรมัน (UNESCO) Unseen
- 11ชมหมู่บ้าน Goslar หมู่บ้านต้นกำเนิดแม่มด (UNESCO) Unseen
- 12ชมพระราชวัง Sans Souci Palace พระราชวังสุดสวยของเยอรมัน (UNESCO)
- 13ชมปราสาท Schwerin Castle ปราสาทสุดสวยตอนเหนือ สมญานามปราสาทร้อยยอด
- 14ชมสวน Bergpark Wilhelmshöhe สวนสวยแห่งเมือง Kassel (UNESCO) Unseen
- 15ชมเมือง Meissen เมืองต้นกำเนิดกระเบื้องเคลือบดินเผา Porcelain Unseen
- 16ชม กำแพงเบอร์ลิน, ประตูชัยบราเดนเบิร์ก
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์เยอรมัน เส้นทางพิเศษ อันซีนเยอรมันเหนือ
Unseen North Germany 11 วัน 8 คืน
โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
- 23.45 น. ออกเดินทางบินตรงสู่แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 920
แฟรงค์เฟิร์ต - โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ - แบมเบิร์ก
- 06.15 น. เดินทางถึง เมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี
- จากนั้นนำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก (ระยะทาง 180 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274
- นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค
- นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönleinจัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองซื้อของฝากและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมืองแบมเบิร์ก (Bamberg) (ระยะทาง 95 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 20 นาที) หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี เป็นเมืองศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม และมีมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเมืองมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1993 เราจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายเมืองเก่าของยุโรปได้ที่แบมเบิร์ก
- นำท่านชมศาลาว่าการเมืองเก่า (Altes Rathaus) ที่ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ Sammlung Ludwig Collection Bamberg, มหาวิหารบัมแบร์กเซนต์ปีเตอร์และเซนต์จอร์จ (Bamberger Dom St. Peter und St.Georg) เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อมากที่สุดของเมือง มีสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ตอนปลายและศิลปะแบบโกธิค
- อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
WELCOME HOTEL RESIDENZSCHLOSS BAMBERG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
***หมายเหตุ โรงแรมที่พักมีจำกัด หากเต็มขอสงวนสิทธิ์ไปพักเมืองใกล้เคียง***
แบมเบิร์ก - ไมเซน - เดรสเดน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองไมเซน (Meissen) (ระยะทาง 275 กิโลเมตร 3 ชม. 30 นาที) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำ Elbe เป็นเมืองที่เด่นทางด้านการทำเครื่องเคลือบดินเผา (Porcelain) เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิต porcelain
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชม ปราสาทอัลเบรชท์สบูร์ก (Albrechtsburg castle) ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างในสมัยคิง Henry ที่ 1 ของเยอรมันในปี 929 ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นโรงงานผลิตเครื่องเคลือบดินเผาในปี 1710 จนกระทั่งในปี 1863 โรงงานผลิต porcelain ในปราสาทแห่งนี้ก็ได้ย้ายไปยังสถานที่ตั้งในปัจจุบัน ส่วนตัวปราสาทในปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์
- นำท่านชมวิหารไมเซนหรือ Church of St John and St Donatus เป็นโบสถ์สไตล์โกธิค เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1260 บนเนินเขาเดียวกันกับปราสาทอัลเบรชท์สบูร์ก และด้วยข้อจำกัดเรื่องสถานที่ ทำให้วิหารไมเซน เป็นหนึ่งในวิหารที่เล็กที่สุดในยุโรป
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ย่านเมืองเก่า (Old Town)
- นำท่านถ่ายรูปกับ Frauenkirche ซึ่ง เป็นโบสถ์แห่งแรกในโลกที่มีระฆังทำด้วย porcelain
- จากนั้นอิสระเดินเล่นชมเมืองหรือเลือกช้อปปิ้ง ร้านขายเครื่องเคลือบดินเผา ซึ่งมีอยู่มากมายเรียงรายกัน หลากหลายรูปแบบตามอัธยาศัย
- จากนั้นออกเดินทางสู่เมือง เดรสเดน (DRESDEN) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 30 นาที) นครหลวงแห่งแคว้นแซกโซนี่ เป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองและร่ำรวยมากที่สุดแห่งหนึ่ง รวมทั้งศิลปะวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และ ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์จนได้รับฉายาว่านครฟลอเร้นซ์แห่งลุ่มแม่น้ำเอลเบ้
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
BILDERBERG BELLEVUE HOTEL DRESDEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2คืน)
เดรสเดน - ราเท่น - ยอดเขาบาสไต - เดรสเดน - GREEN VAULT พระราชวังสวิงเกอร์
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองราเท่น (Rathen) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขาหินทรายเอลเบ้ (Elbe Sandstone Mountains) เมืองราเท่น เป็นเมืองที่ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 13 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอลเบ้ (Elbe River) ปัจจุบันเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมนี
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติแซกซอนสวิตเซอร์แลนด์ (Saxon Switzerland National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยว
- นำท่านชมสะพานบาสไต (Bastei Bridge) สะพานหินสูงกว่า 194 เมตร เหนือแม่น้ำเอลเบ้ (Elbe River) ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยไม้ ในปีค.ศ. 1824 แต่ในปีค.ศ. 1851 ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ด้วยหินทรายดังเช่นที่เห็นในปัจจุบัน ท่านจะได้ชมความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบและภูเขาหินน้อยใหญ่ที่ดูแปลกตา ทำให้สะพานบาสไตเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวยอดนิยมกว่า 200 ปี ของอุทยานแห่งชาติแห่งนี้ ท่านสามารถชม ยอดเขาบาสไต (Bastei Rock) ยอดเขาสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเอลเบ้ ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล ประมาณ 305 เมตร ท่านจะตื่นตาไปกับทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขาหินขรุขระ อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง PANORAMA RESTAURANT
- จากนั้นออกเดินทางสู่เมือง เดรสเดน (DRESDEN) (ระยะทาง 35 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) จากนั้นนำท่านเข้าชม GREEN VAULT ห้องที่จัดแสดงเครื่องอัญมนีและทรัพย์สมบัติของพระเจ้าออกุสตุสที่ 2 ที่ได้รับการยกยกให้เป็นหนึ่งใน BEST GOLDSMITH’S WORK AND JEWELLEY IN THE WORLD
- นำท่านชมเมืองเดรสเดน นำท่านชมความงามภายในสวนของพระราชวังสวิงเกอร์ อาคารรูปทรงศิลปะแบบบาร็อคที่ งดงามและรอดพ้นจาการทำลายของฝ่ายสัมพันธมิตร ผ่านชมโรงละครโอเปร่า SAMPER’S OPERA HOUSE ที่เก่าแก่และสวยงาม
- นำท่านชมกำแพงกระเบื้องเคลือบไมเซ่น PROCESSION OF DUKES ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบไมเซ่น ถึง 25,000 แผ่น ความยาว 102 เมตร ที่รอดพ้นจากการถูก โจมตีทางอากาศเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่สองได้อย่างเหลือเชื่อ
- จากนั้นนำท่านบันทึกภาพโบสถ์ แห่งเดรสเดน DRESDEN FRAUENKIRCHE ที่ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่เกือบ 100% ตั้งแต่ปี 1994 และเพิ่งเสร็จสมบูรณ์ลงเมื่อปี 2006 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 800 ปีของเมืองเดรสเดน จากนั้นมีเวลาให้ท่านเดินเล่นบนลาน BALCONY OF EUROPE เพื่อบันทึกภาพตัวเมืองเดรสเดน จากมุมที่สวยที่สุดริมฝั่งแม่น้ำเอลเบ้
- จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์ Frauenkirche เป็นผลงานระดับ Masterpiece ในสไตล์บารอค ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเดรสเดน เดิมถูกสร้างในปี ค.ศ.1726 -1743 แต่ได้ถูกทำลายลงในสมัยสงครามโลก ในปีค.ศ.1945 โดยได้มีการสร้างขึ้นใหม่ มีการจัดคอนเสิร์ตรวบรวมเงินจากทั่วโลก ระหว่างปี 1996-2005 แล้วเสร็จทันงานฉลอง 800 ปี ของเมืองเดรสเดน ภายในตกแต่งเรียบง่าย มีชั้นใต้ดินแสดงความเป็นมาของโบสถ์ และการสร้างขึ้นใหม่ เก็บรวบรวมชิ้นส่วนที่ถูกทำลายแสดงไว้
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
BILDERBERG BELLEVUE HOTEL DRESDEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เดรสเดน - สะพาน Rakotzbrücke - พอตสดัม - พระราชวังซองส์ซูซี - เบอร์ลิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ Kromlauer Park (ระยะทาง 103 กิโลเมตร 1 ชม.30 นาที) ในเขตเทศบาลเมืองกาเบลนซ์ (Gablenz) เป็นสวนภูมิทัศน์ขนาด 200 เอเคอร์มีสระน้ำขนาดเล็กและทะเลสาบหลายแห่ง
- นำท่านชม Rakotzbrücke (เรียกอีกอย่างว่า Devil’s Bridge) ซึ่งสร้างขึ้นเป็นพิเศษในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 เพื่อสร้างวงกลมเมื่อมีการสะท้อนในน่านน้ำใต้มัน เสาหินบะซอลต์ที่สร้างขึ้นจากเสาถูกส่งมาจากเหมืองที่ห่างไกล เมื่อเราย้อนกลับไปในอดีตช่วงปีประมาณ 1860 สิ่งก่อสร้างแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยช่างฝีมือชั้นยอดโดยวิธีการสร้างนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับเทคโนโลยีและเครื่องมือในสมัยดังกล่าว ในการสร้างสะพานที่มีความเฉพาะตัวมากๆ โดยเมื่อสะพานแห่งนี้นั้นมองผ่านน้ำแล้วจะกลายเป็นวงกลมที่สมบูรณ์ หรือที่เรียกว่า Perfect circle และด้วยเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างโดยใช้วิธีที่ยากและเฉพาะตัวมากๆ จึงมีความเชื่อว่าคนที่สร้างสะพานแห่งนี้ขึ้นมานั้นจะต้องไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ หากแต่ว่าเป็นฝีมือของปีศาจเสียมากกว่า จึงมีชื่อเรียกว่า Devil’s Bridge
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองพอตสดัม (POTSDAM) (ระยะทาง 180 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) อีกหนึ่งเมืองสวยของอดีตเยอรมันตะวันออก ซึ่งถูกซ่อนเก็บไว้หลัง กำแพงความแตกแยกมากว่า 40 ปี
- นำท่านเดินชมด้านใน พระราชวังซองส์ ซูซี (SANS SOUCI) พระราชวังฤดูร้อนของปรัสเซีย (ชื่อเดิมของเยอรมนี) ตั้งแต่ ปีค.ศ. 1660 เป็นต้นมา โดยตั้งชื่อไว้ว่า พระราชวังซองส์ ซูซี (SANS SOUCI) ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศสในความหมายว่า“ไร้กังวลหรือไกลกังวล ”
- นำท่านเข้าชมภายในวังซึ่งมีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ ชมอาคารสวยๆ มากมาย อาทิ ไชนีส ที เฮ้าส์ ซุ้มศาลาต่างๆ ที่โดดเด่นโดยศิลปะแบบ ร็อกโกโกรวมทั้งอุทยานในแบบสวนฝรั่งเศส
**หมายเหตุ การเข้าชมพระราชวังซองส์ ซูซี มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนผู้เข้าชมต่อวัน หากเต็ม บริษัทฯ จะจัดให้ชมพระราชวัง New Palace หรืออาจมีการปรับเปลี่ยนโปรแกรมในเบอร์ลิน**
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เบอร์ลิน (BERLIN) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) นครหลวงปัจจุบันของเยอรมันหลังจากการรวมตัวของเยอรมันตะวันตกในค่ายโลกเสรีและเยอรมันตะวันออกในฝ่ายคอมมิวนิสต์ที่แบ่งแยกกันมานานร่วม 50 ปีภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
MARITIM PROARTE HOTEL BERLIN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2คืน)
เบอร์ลิน - ชมเมือง - กำแพงเบอร์ลิน - ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารเบอร์ลิน (Berlin Cathedral) และ เบอร์ลินโดม (Berlin Dom) เป็นที่ตั้งของโบสถ์โปรเตสแตนต์ที่สำคัญที่สุดของเมือง มีอายุมากกว่าศตวรรษ ตัวอาคารโบสถ์ตกแต่งอย่างประณีตด้วยสไตล์แบบบาโรกและเรอเนสซองซ์ เบอร์ลินโดม (Berlin Dom) ศิลปกรรมที่โดดเด่น ประดับตกแต่งด้วยภาพโมเสกที่มีสีสันประกอบขึ้นจากแผ่นกระเบื้องมากกว่าหลายแสนชิ้น ตัวโดมนั้นมีสีฟ้าสดใสและปลายยอดสีเหลืองทองอร่ามดึงดูดตายิ่งนัก
- นำท่านชมเมืองเบอร์ลินที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมให้สวยงาม และดูยิ่งใหญ่ดังเดิม นำชม2ฝั่งนครเบอร์ลิน ทั้งตะวันตกและตะวันออก เก็บภาพ กำแพงเบอร์ลิน (BERLINWALL, EASTSIDE GALLERY) อดีตแห่งการ แบ่งแยกที่ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่กิโลเมตร เพื่อเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ให้กับคนรุ่นหลัง
- ถ่ายรูปคู่กับประตูชัย บราเดนเบิร์ก ที่เป็นสัญลักษณ์ของเยอรมันฝั่งตะวันออก, ถนนอุนเท่อร์ลินเด้นที่เปรียบได้กับชองป์ เอลิเซ่แห่ง ปารีส, ย่านเขตเมืองเก่าที่ประกอบไปด้วยโบสถ์สำคัญ และอาคารทรงคลาสสิคมากมายอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะมีความสูง 67 เมตร ตั้งอยู่บนถนน 17 มิ.ย. เป็นสัญลักษณ์ของสงครามต่อต้านฝรั่งเศส สร้างในปีค.ศ.1873 ความเจริญได้เข้ามาพัฒนาเมืองทั้ง 2ฝั่งจนยากที่จะแยกแยะว่าตรงไหนคือเขตตะวันออก หรือตะวันตก
- ผ่านชม พระราชวังชาล็อตเทนเบิร์กอันสวยงาม เดิมเป็นที่ประทับฤดูร้อนในสมเด็จพระราชินีโซเฟียชาล็อต
- ผ่านชมชาร์ลี เช็คพ้อยส์ (CHARLIE CHECKPOINT) จุดตรวจคนเข้า-ออกของ 2 ฝั่งเบอร์ลินซึ่งท่านจะได้เห็นภาพของความพยายาม ในการหลบหนีของคนจากฝั่งตะวันออกสู่ฝั่งตะวันตก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านช้อปปิ้ง ณ KURFÜRSTENDAMM หรือ KU’DAMM เป็นถนนช้อปปิ้งยอดนิยมของกรุงเบอร์ลิน โดยตลอดความยาวถนนกว่า 3 กิโลเมตร ล้วนเต็มไปด้วยร้านค้าระหว่างประเทศมากมาย ทั้ง Zara, H&M, Mango, Esprit ฯลฯ โรงแรม ร้านอาหารและโรงภาพยนตร์เก่าแก่ของเมือง ซึ่งห้างสรรพสินค้าของที่นี่จะมีอยู่ด้วยกันหลายระดับ นับตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า KaDeWe ที่ได้ชื่อว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ไปจนถึงร้านค้าแบบแบกะดิน นอกจากนั้นภายในถนนเส้นนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้พบกับทาวน์เฮาส์ที่สวยงาม คาเฟ่ในบรรยากาศแบบสบายๆ หอศิลป์และร้านค้าของเก่าอีกมากมาย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MARITIM PROARTE HOTEL BERLIN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เบอร์ลิน - ชเวริน - ปราสาทชเวริน - ลือเบค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองชเวริน (Schwerin) (ระยะทาง 210 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน เป็นเมืองที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทะเลสาบที่งดงามมาก โดยทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดคือ ชเวรินเนอร์ ซี หรือ ทะเลสาบชเวริน (Schweriner See) ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร
- นำท่านเข้าชมปราสาทชเวริน (Schwerin Castle) หรือ ปราสาทร้อยยอด เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภา (State parliament) โดยปราสาทนั้นตั้งอยู่บนเกาะในทะเลสาบชเวริน ซึ่งในศตวรรษที่ 19 ปราสาทได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้งหนึ่ง
- จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ วิหารชเวริน (Schwerin Cathedral) วิหารเก่าแก่ที่มีความเกี่ยวข้องกับสงครามครูเสด ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1260 – 1416 ในสไตล์บริค – โกธิค (Brick Gothic style) ปัจจุบันเป็นหนึ่งวิหารที่มีผู้จาริกแสวงบุญมาเยือนเป็นจำนวนมาก สิ่งที่โดดเด่นที่สุด คือ หอคอยสูง 117.5 เมตร ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี 1889 – 1893
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชม ตึกรามบ้านช่องออกแนวไปทางสแกนดิเนเวียนเนื่องจากอยู่ใกล้เดนมาร์ก เลยได้รับอิทธิพลมา แต่ก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบด้วยหลังคาสีออกแดงอิฐและตัวบ้านที่ต่างสีกันเหมือนบ้านตุ๊กตา ชม Swedish head ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้
- นำท่านเดินทางสู่เมืองลือเบค (LUBECK) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร 1 ชม.) เป็นอีกเมืองท่าที่ตั้งอยู่ใน รัฐชเลสวิก-โฮลชไตน์ของเยอรมนี อยู่บนฝั่งแม่น้ำทราเวอ เป็นเมืองท่าอันเก่าแก่แห่งนี้ยังคงมากไปด้วยกลิ่นอายของเมืองยุคกลาง อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ล้วนถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคอิฐ เนื่องจากอาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ล้วนนิยมก่อสร้างโดยการใช้อิฐเสียเป็นส่วนมาก นั่นจึงเป็นเหตุที่ช่วยให้เมืองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1987
- นำท่านถ่ายรูปกับประตู HOLSTENTOR ซึ่งถือว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ของเมืองลือเบค
- จากนั้นชม LÜBECKER RATHAUS ซึ่งเป็นศาลากลางของเมือง รูปแบบของการก่อสร้างก็ยังคงเป็นแบบโกธิคเหมือนเช่นอาคารอื่นๆ แต่ที่ดูโดดเด่นก็คงจะเป็นหอคอยทรงกรวยเหนือหลังคานั่นเอง ให้ท่านได้มีเวลาเดินชมอาคารเก่าแก่รอบๆ Lübecker Rathaus ที่มีความงดงามไม่แพ้ที่อื่นๆ นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ยังมีร้านค้า ร้านกาแฟ เอาไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
RADISSON BLU SENATOR LUBECK HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ลือเบค - ฮัมบูร์ก - เควดลินบวร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองฮัมบูร์ก (Hamburg) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร 1 ชม.) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศเยอรมนี รองลงมาจากกรุงเบอร์ลิน เมืองฮัมบูร์กหรือมีชื่ออย่างเป็นทางการ คือ นครอิสระและฮันเซียติกแห่งฮัมบูร์ก เป็นที่ตั้งของท่าเรือฮัมบูร์กท่าเรือสำคัญและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของสหภาพยุโรป โดยสิ่งที่พิเศษมากๆของท่าเรือฮัมบูร์ก คือ พื้นที่ท่าเรือส่วนใหญ่ของท่าเรือฮัมบูร์กเป็นบริเวณปลอดภาษีนั่นเอง
- นำท่านชม อาคารศาลากลางฮัมบูร์ก (Hamburg Rathaus) อีกหนึ่งอาคารที่มีชื่อเสียงและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมือง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตใจกลางเมืองใกล้ๆกับทะเลสาบ Binnenalster โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1886-1897 ในสไตล์นีโอ-เรอเนสซอง (Neo-Renaissance Style) เป็นหนึ่งในอาคารที่เก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์มากที่สุดของเมืองฮัมบูร์ก มีหอคอยสูง 112 เมตร ด้านในมี 647 ห้อง บริเวณลานศาลาว่าการนครฮัมบูร์ก เป็นลานกว้างๆ โล่งๆ ปัจจุบันเป็นที่ทำงานของรัฐบาล รัฐสภา คณะมนตรี และวุฒิสภานครฮัมบูร์ก รวมทั้งเป็นสถานที่ที่รับแขกของฮัมบูร์กด้วย ภายนอกอาคารตกแต่งแบบเรอเนสซองส์พร้อมกับรูปปั้นที่แสดงถึงจักรพรรดิเยอรมัน
- จากนั้นอิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งย่านช้อปปิ้งชื่อดังอัลสเตอร์อาร์คาเดน (Alsterarkaden) และถนนมองเคเบิร์ก (Monckebergstrasse) ตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินสู่เมือง เควดลินบวร์ก (Quedlinburg) (เมืองที่ไม่ควรพลาด) เป็น 1 ใน 3 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน (ระยะทาง 270 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. 30 นาที) เมืองเล็กๆที่มีชื่อเสียงอย่างมากเรื่องความสวยงามและความเก่าแก่ของเมืองเพราะเมืองนี้เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของชนชาติเยอรมัน ตั้งขึ้นตั้งแต่ปีคศ. 919
- นำท่านชมเมือง เควดลินบวร์ก เมืองที่มีความโดดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรมแบบโรมัน มีอาคารลักษณะกรอบไม้ซุง (Timber – Framed) ที่มีความสวยงามมากกว่า 1,300 หลัง ลวดลายของตัวอาคารที่ประดับตัวอาคารสามารถแบ่งเป็นยุคได้ถึง 5 สมัย ด้วยความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมเหล่านี้ ทำให้เมืองนี้ได้การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO ในปี ค.ศ. 1994
รับประทานอาหารคํ่า ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
WYNDHAM GARDEN QUEDLINBURG STADTSCHLOSS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (NO PORTER)
หมายเหตุ : เมือง Quedlinburg เป็นเมืองเล็กๆ โรงแรมมีจำนวนจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
เควดลินบวร์ก - แวร์นิเกโรเด - กอสลาร์ - คาสเซล (เส้นทางสาย Fairy Tale) สวน BERGPARK WILHELMSHÖHE
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเข้าสู่ตัวจตุรัสกลางเมืองเก่าบริเวณ Markplatz ซึ่งเป็นที่ตั้งศาลาว่าการเมืองเก่า บ้านเรือนร้านค้า และใกล้ๆกันก็เป็นที่ตั้งปราสาท โบสถ์ St. Servatius โบสถ์ที่เป็นที่ฝังศพของกษัตริย์ Heinrich I แลพระชายา และข้างๆกันยังมีโบสถ์ St.Nicholas Church โบสถ์ที่มีเรื่องเล่าว่ามีคนเลี้ยงแกะไปพบสมบัติจำนวนมาก ต่อมาได้มาสร้างโบสถ์แห่งนี้ จึงเป็นที่รู้จักกันในนามคริสตจักรคนเลี้ยงแกะ
- อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัยหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง แวร์นิเกโรเด (Wernigerode) เป็น 1 ในหมู่บ้านไม้โบราณที่สวยที่สุดในเยอรมัน (ระยะทาง ประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในตอนเหนือของเทือกเขาฮาร์ช (Harz Mountains) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนถนนเครื่องไม้แบบโบราณของเยอรมัน (German Timber – Frame Road) และถือว่าเป็นแหล่งกสิกรรมอันอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมัน
- นำท่านเข้าสู่ย่านจตุรัสเก่ากลางเมือง Markts ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองเก่า และร้านค้าต่างๆมากมาย ทั้งยังสามารถมองเห็นปราสาทแวร์นิเกโรเด ที่ตั้งโดดเด่นเหนือเมืองแวร์นิเกโรเด
- จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับบ้านที่เล็กที่สุดในเมือง (Wernigerode’s Smallest House) ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 ในสไตล์บารอค โดยมีความสูงจากพื้นถึงหลังคาเพียง 4.20 เมตร มีความกว้าง 2.95 เมตร และมีประตูสูงเพียง 1.70 เมตร โดยด้านในมีเพียง 1 ห้องเท่านั้น มีพื้นที่ใช้สอยเพียง 10 ตารางเมตร เท่านั้น
- จากนั้นให้ทุกท่านอิสระเดินเล่นถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมืองกอสลาร์ (Goslar) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมืองเล็กๆของเยอรมันซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก (Unesco World Heritage) ตัวเมืองตั้งอยู่ในแคว้นโลวเวอร์แซคโซนี ซึ่งเมืองนี้ร่ำรวยจากการทำการค้าเหมืองแร่ตั้งแต่ปีค.ศ.968 ที่ได้มีการค้นพบแร่เงินเป็นครั้งแรก เมื่อจักรพรรดิออตโต้มหาราชได้มาล่าสัตว์ในบริเวณนี้และได้พบแหล่งแร่โดยไม่ตั้งใจ จึงได้ดำเนินงานเหมืองแร่มาจนถึงปีค.ศ.1988 โดยตัวเมืองเก่าตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาฮาร์ซ มีแนวป่าไม้ล้อมรอบบ้านเรือนท่านจะได้พบอาคารแบบ Half-timbered house สไตล์เยอรมัน ราว 1,500 หลัง มีอายุตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15-19
- จากนั้นนำท่านเดินชมย่านเมืองเก่า หรือ marktpkatz ซึ่งจะมีน้ำพุอยู่กึ่งกลางจตุรัส ล้อมรอบด้วย ร้านกาเเฟ ร้านขายของที่ระลึก ให้ท่านอิสระเดินเล่นตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมือง คาสเซล (Kassel) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นเฮสเซ่น (Hessen) อยู่บนแม่น้ำ Fulda เป็นเมืองหลวงของแคว้นคาสเซล
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
PENTA HOTEL KASSEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : เมืองคาสเซล เป็นเมืองเล็กๆ โรงแรมมีจำนวนจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
คาสเซล - แฟรงค์เฟิร์ต - จัตุรัสโรเมอร์ - ช้อปปิ้ง - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านชม Bergpark Wilhelmshöhe ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนน้ำบนเนินเขาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและยังได้ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (Unesco) โดยสวนนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 150 ปี เริ่มต้นก่อสร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1689 และแล้วเสร็จในต้นศตวรรษที่ 19 จุดที่เด่นที่สุดของสถานที่แห่งนี้ ก็คือรูปปั้นเฮอคิวลิสขนาดใหญ่ ที่อยู่ด้านบนสุด ขณะที่ส่วนที่ลดหลั่นกันลงมาเหมือนกับขั้นบันไดนี้ ก็คือทางระบายน้ำไปยังจุดต่างๆของเมือง ซึ่งโดยรอบเต็มไปด้วยน้ำพุขนาดใหญ่ และอ่างเก็บน้ำ รวมถึงสวนดอกไม้ที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม จนได้รับการขนานนามให้เป็นสถานที่ที่โรแมนติกที่สุดในเยอรมนีเลยก็ว่าได้
- จากนั้นนำเดินทางเข้าสู่เมือง แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) (ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 30 นาที) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER) ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียด
- นำท่าน ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม (GERECHTIGKEITSBRUNNEN) ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน
- ผ่านชมโบสถ์เซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมือง
- อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยูมากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
กรุงเทพฯ - สุวรรณภูมิ
- 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ