ทัวร์สวีเดน-นอร์เวย์ 10 วัน 7 คืน
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์สวีเดน-นอร์เวย์ 10 วัน 7 คืน
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 13 ก.พ. 68 - 22 ก.พ. 68 | 239,900 บาท |
2 | 13 มี.ค. 68 - 22 มี.ค. 68 | 239,900 บาท |
3 | 11 เม.ย. 68 - 20 เม.ย. 68 | 239,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมหมู่เกาะ LOFOTEN หมู่เกาะธรรมชาติสุดมหัศจรรย์ ประเทศนอร์เวย์
- 2หมู่บ้าน HAMNOY หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน
- 3หมู่บ้าน REINE หนึ่งในหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในหมู่เกาะโลโฟเทน
- 4หมู่บ้าน Å เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่แหลมปลายสุดของหมู่เกาะโลโฟเ
- 5ชมเมือง TROMSO สมญานามเมืองหลวงแห่งเหนือ
- 6อุทยานแห่งชาติ ABISKO เขตแลปแลนด์ของสวีเดน หนึ่งในสถานที่ชมแสงเหนือสวยอันดับต้นๆของโลก
- 7ชมโรงแรม ICE HOTEL แห่งแรกของโลก
- 8การล่าแสงเหนือขับ SNOW MOBILE AURORA HUNTING
- 9สนุกสนานกับเคลื่อนสุนัขลากเลื่อน DOG SLEDGE
- 10ชมหมู่บ้าน GAMMELSTAD CHURCH TOWN หมู่บ้านทางศาสนา มรดกโลก
- 11ชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง ที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะโลโฟเทน
- 12ชมกรุง STOCKHOLM เมืองหลวงของประเทศสวีเดน
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 21.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
ออสโล - ทรอมโซ่ - ชมเมือง
- 00.05 น. ออกเดินทางบินสู่ สนามบินออสโล ประเทศนอร์เวย์ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 954
- 07.35 น. เดินทางถึงสนามบินออสโล (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
- 09.30 น. ออกเดินสู่สนามบินทรอมโซ่ โดยสายการบินสแกนดิเนเวียน แอรไลน์ เที่ยวบินที่ SK4414
**หมายเหตุไฟล์ทบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขอสงวนสิทธิ์แปลงแปลงตามความเหมาะสม**
- 11.35 น. เดินทางถึงสนามบินทรอมโซ่
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านชมเมืองทรอมโซ่ (TROMSO) เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ดินแดนอาร์กติก โดยมันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของนอร์เวย์ ถือว่าเป็นอีกเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงดงามของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญทั้ง แสงเหนือ และพระอาทิตย์เที่ยงคืนในดินแดนแถบนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวอย่างมากเลยทีเดียว
- จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารอาร์คติก (ARCTIC CATHEDRAL) มหาวิหารที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สร้างขึ้นในปี 1965 อีกทั้งยังมีโครงสร้างโดดเด่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในการ สร้างมากจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์ มหาวิหารอาร์คติกยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเมืองทรอมโซ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของพระอาทิตย์เที่ยงคืน ได้อย่างชัดเจน
- จากนั้นเชิญท่านอิสระเดินเล่นตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านนั่งเคเบิ้ลคาร์สู่ยอดเขาสโตรสไตเนิน (STORSTEINEN MOUNTAIN) เป็นยอดเขาสูงที่มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองทรอมโซและบริเวณใกล้เคียงที่มีลักษณะเป็นเกาะใหญ่แยกจากกันโดยมีร่องน้ำซึ่งเกิดจากการกัดเซาะตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง กลายเป็นฟยอร์ดอยู่โดยรอบ
- อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความประทับใจของเมืองทรอมโซจากมุมสูง
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารของโรงแรมที่พัก
SCANDIC GRAND HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ทรอมโซ่ - ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ Camp Tamok - เซนญ่า
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่าน เดินทางสู่ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ Camp Tamok (ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลา 2 ชม.) ฮัสกี้เป็นสุนัขที่มีมายาว นานกว่า 3,000 ปีมาแล้ว เพื่อใช้ในการลากเลื่อนบรรทุกสิ่งของ หรือเป็นพาหนะในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ฮัสกี้จึงได้กลายมาเป็นสุนัขลากเลื่อนพันธุ์แท้ ที่มีประสิทธิภาพในการลากเลื่อนสูงสุดในบรรดาสุนัขลากเลื่อนทั้งหมด นอกจากนี้สุนัขลากเลื่อนยังเป็นกีฬายอดนิยม โดยมี มัชเชอร์ (Musher) เป็นผู้บังคับเลื่อนในการแข่งขันแต่ละครั้งจนแพร่หลายไปยังหลายประเทศแถบขั้วโลก ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์สุนัขลากเลื่อน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เกาะเซนญ่า (Senja Island) (ระยะทาง 130 กม. ใช้เวลา 2 ชม.) ซึ่งเป็นเกาะทีมีขนาดใหญ่ เป็นอันดับสองของประเทศนอร์เวย์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก
HAMN I SENJA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (ห้องพักเป็นแบบ 2 – 3 ห้องนอน/เคบิน)
**ท่านสามารถชมแสงเหนือบริเวณโรงแรมในย่านเมืองนี้ เนื่องจากยามค่ำคืนปลอดแสงไฟ ท่านจึงสามารถชมปรากฎการณ์แสงเหนือได้**
เซนญ่า - ฮาร์สตัด - คาเบลวัก - สโววาร์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองฮาร์สตัด (Harstad) (ระยะทาง 180 กม. ใช้เวลา 3 ชม. 30 นาที) โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองในเทศมณฑลทรุมส์ โดยมีใจกลางเมืองทีเล็กกะทัดรัดทีหันหน้าออกไปรับกับทะเลนอร์เวย์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ คาเบลวัก (Kabelvag) (ระยะทาง 160 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม. 30 นาที) เป็นหมู่บ้านชุมชนชาวประมงเก่าแก่แห่งแรกๆในหมู่เกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสโววาร์
- นำท่านชมหมู่บ้านน่ารักตามสไตล์นอร์เวย์แท้ๆ แวะชม โบสถ์วาแกน (Vagan Church) โบสถ์ไม้ ที่ใหญ่ที่สุดบนหมู่เกาะโลโฟเทน จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- นำท่านเดินทางสู่เมืองสโววาร์ (SVOLVAER) หมู่เกาะโลโฟเทน (LOFOTEN ISLANDS) ตั้งอยู่ที่เมือง NORDLAND ประเทศนอร์เวย์ เป็นหมู่บ้านของชาวประมงที่ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพาการหาปลาในช่วงฤดูหนาว และทำปลาตากแห้งส่งออกที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เอกลักษณ์ที่สำคัญของหมู่เกาะแห่งนี้ก็คือ กระท่อมสีแดงแบบดั้งเดิม (RORBUER) ของชาวประมงที่กลายเป็นสีสันริมชายฝั่ง ที่ไม่ว่าใครได้มาเยือนก็ต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับการดูแสงเหนือที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ เนื่องจากความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ถูกเสกสร้างมาอย่างพิถีพิถัน มีผืนน้ำสีฟ้าคราม ท้องฟ้าสีใส ภูเขาสูงตระหง่าน แทรกแซมด้วยบ้านชาวประมงทรงสวยแปลกตา นับว่าเป็นเมืองสวยท่ามกลางธรรมชาติที่ดูคล้ายเมืองในจินตนาการมากกว่าความจริง
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
THON HOTEL LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า
**นำท่านล่าแสงเหนือโดยรถโค้ช (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) ทั้งนี้การตามล่าหาแสงเหนือ ไม่อาจยืนยันได้แน่นอน ว่าท่านจะพบเห็นแสงเหนือทุกครั้งที่ออกเดินทาง เนื่องจากการเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การเกิดแสงเหนือ ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆ สภาพท้องฟ้า ก้อนเมฆ และค่าชี้วัดการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก (KP INDEX) ซึ่งค่า KP จะมีความแน่นอนต่อเมื่อเช็คค่าชี้วัด 2-3 ชั่วโมงล่วงหน้าเท่านั้น**
สโววาร์ - หมู่บ้าน Å - รีนน์ - แฮมนอยด์ - นัสฟยอร์ด - สโววาร์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้าน Å (ระยะทาง 130 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 45 นาที) เป็นหมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าอยู่ปลายสุดสุดของหมู่เกาะ LOFOTEN อันเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวอีกหมู่บ้านหนึ่ง
- นำท่านเดินเล่นกับภาพความประทับใจ
- นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (NORWEGIAN FISHING VILLAGE MUSEUM) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะโลโฟเทน ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 250 ปี ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีสถานที่ต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม อาทิโรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอด (COD LIVER OIL FACTORY) ร้านขายเบเกอรี่ และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ
(หมายเหตุ : ร้านค้าและโรงงานต่างๆ อาจปิดทำการเนื่องจากวันหยุด เทศกาลโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
- ให้ท่านได้เดินเล่นชมหมู่บ้าน และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย จนกระทั่งได้เวลาอันสมควร
- จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง เมืองรีนน์ (REINE) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 นาที) หนึ่งในหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อว่าสวยอันดับต้นๆของหมู่เกาะโลโฟเทน ระหว่างสองข้างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา ไปตามถนนสาย E10 ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักสายเดียวของหมู่เกาะโลโฟเทน
- นำท่านเดินทางผ่านถนนเส้นเล็กๆเชื่อมต่อระหว่างเกาะเล็กเกาะน้อย ข้ามสะพานต่างๆ จนกระทั่งเดินทางถึง เมือง REINE ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง และถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเที่ยวชมหมู่บ้านแฮมนอยด์ (Hamnoy) หมู่บ้านชาวประมงที่ปรากฏอยู่ในโปสการ์ดโลโฟเทน ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดบนเกาะที่นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็นได้บ่อยตามร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ภาพหมู่บ้านชาวประมงหลากสี พร้อมวิวของเทือกเขาสูงเป็นฉากหลังนับเป็นอีกหนึ่งทัศนียภาพที่สวยงามยิ่ง
- อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้านแฮมนอยด์ตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ นัสฟยอร์ด (Nusfjord) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที) อีกหนึ่ง เมืองเล็กๆน่ารักๆแห่งหมู่เกาะโลโฟเทน ให้ท่านได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันแปลกตา ภูเขาสลับแม่น้ำ และทะเลสาบที่ สะท้อนภาพเทือกเขาบนผืนน้ำ
- นำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านชาวประมงนัสฟยอร์ด (Nusfjord Fisherman Village) ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดียิ่งอีกแห่งของ นอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้มีการรังสรรค์หมู่บ้านหลากสีสัน ทั้งแดง เหลือง เขียว และยังคงอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้ อย่างดียิ่ง
- อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย หรือจะนั่งเล่น จิบกาแฟ ชื่นชมกับธรรมชาติของเมืองนี้ นอกจากนี้ เมืองนัสฟยอร์ดยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย
- จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองสโววาร์ (SVOLVAER)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
THON HOTEL LOFOTEN หรือระดับเทียบเท่า
หมายเหตุ ที่พักมีจำกัดของสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงในกรณีที่ห้องพักเต็ม
สโววาร์ - เลกเนส - เฮนนิ่งสวาร์ - นาร์วิค
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองเลกเนส (LEKNES) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง) อีกหนึ่งเมืองสวยอันขึ้นชื่อของหมู่เกาะ LOFOTEN
- นำท่านเดินเล่นชมเมือง และเก็บภาพความประทับใจระหว่างทางท่านจะได้พบทัศนียภาพของเกาะโลโฟเทนสวยงามตลอดทาง
- นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (LOFOTR VIKING MUSEUM) เนื่องจากบริเวณหมู่เกาะลอฟโฟเทน มีการค้นพบว่าเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งในอดีต บนเกาะจึงมีพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งที่แสดงเรื่องราวและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของชาวไวกิ้งไว้มากมาย ซึ่งรูปแบบพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบโดยใช้โครงเรือไวกิ้งโบราณและภายในได้จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้และเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวไวกิ้ง
- ให้ท่านชมพิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง และพายเรือไวกิ้งโบราณ ซึ่งเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ เมื่อไปเยือนพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งแห่งนี้
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองเฮนนิ่งสวาร์ (HENNINGSVAER) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่าและหมู่บ้านชาวประมงที่ปัจจุบันชาวบ้านยังคงประมงกันอยากคึกคัก เป็นอีกเมืองยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวต่างพากัน มาแวะเวียน ซึ่งจุดเด่นของเมืองนี้คือบ้านชาวประมงสีแดง (RORBUER) ตั้งอยู่ริมทะเล มีอ่าวจอดเรือประมงเรียงรายอยู่มากมาย เป็นภาพที่สวยงามตัดกับวิวภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ถือเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย
- ให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
- นำท่านออกเดินทางสู่เมือง นาร์วิค (Narvik) (ระยะทาง 250 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาที) เมืองทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่แวดล้อมด้วยภูเขาและทะเลอันกว้างใหญ่ มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นที่การเล่นสกีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการดูแสงเหนือ พร้อมกับแนวชายฝั่งฟยอร์ดและวิวภูเขาที่รายล้อมเมืองอย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จประพาสอีกด้วย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองที่ FJELLHEISRESTAURANTEN พร้อมชมวิวบรรยากาศมุมสูงของเมืองนาร์วิค
SCANDIC HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
นาร์วิค - อุทยานแห่งชาติอบิสโก - SNOW MOBILE - คิรูน่า - ล่าแสงเหนือ
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทาง อุทยานแห่งชาติอบิสโก (ABISKO NATIONAL PARK) (ระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 10 นาที) ระหว่างทางท่านจะได้เห็นทัศนียภาพอันสวยงามทั้งสองข้างทาง ทั้งลานสกี ป่าไม้ และชายฝั่งทะเล อีกทั้งยังมีโอกาสได้เห็นทัศนียภาพธรรมชาติต่างๆในขณะที่เดินทาง จนกระทั่งถึง อุทยานแห่งชาติอบิสโก (ABISKO NATIONAL PARK) ที่รายล้อมไปด้วยหุบเขาลัปปูร์แตน (Lapporten) ที่งดงาม
- นำท่านสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าประทับใจในการ ขับขี่รถ SNOW MOBILE พาหนะที่คล่องตัวที่สุดในการเดินทางบนหิมะหรือทุ่งน้ำแข็ง โดยท่านจะได้รับคำแนะนำในการขับขี่ที่ถูกต้อง สนุกสนานและปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ และชำนาญเส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวแบบสโนว์โมบิลซาฟารี โดยทางบริษัทฯ จะมีการจัดเตรียมเครื่องกันหนาวให้ท่านอย่างครบถ้วนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองคิรูน่า (Kiruna) (ระยะทาง 95 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 10 นาที) เมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ ประชากรส่วนใหญ่ทำงานในเหมืองแร่ เนื่องจากมีการค้นพบแหล่งแร่เหล็กในภูเขาแถบนั้น ต่อมาจึงมีการสร้างเหมืองแร่ และสร้างเมืองในเวลาต่อมา ปัจจุบันเหมืองแห่งนี้กลายเป็นเหมืองแร่เหล็กใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- นำท่านเดินทางสู่ โรงแรมน้ำแข็ง (ICEHOTEL) เป็นโรงแรมน้ำแข็งแห่งแรกของโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1994 ตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Jukkasjärvi ทางภาคเหนือของประเทศสวีเดน ครอบคลุมพื้นที่ 59,200 ตารางฟุต สร้างขึ้นจากเสาน้ำแข็ง 2,000 และก้อนน้ำแข็งอีก 3,000 ตัน โดยใช้วัตถุดิบน้ำแข็งใกล้ๆบริเวณแม่น้ำ Torne ทุกปีจะศิลปินจากทั่วโลกพากันไปโรงแรมน้ำแข็ง ทุกฤดูหนาวเพื่อสัมผัสบรรยากาศไม่ซ้ำซาก รวมถึงช่วยสร้างห้องหรือประติมากรรมน้ำแข็งเพิ่มสภาพแวดล้อมใหม่ๆให้กับโรงแรม
- อิสระให้ทุกท่านเดินชมและเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก
SCANDIC HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
หมายเหตุ ที่พักมีจำกัด หากเต็มขอสงวนสิทธิ์ไปพักเมืองใกล้เคียง
**นำท่านล่าแสงเหนือโดยรถโค้ช (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง) ทั้งนี้การตามล่าหาแสงเหนือ ไม่อาจยืนยันได้แน่นอน ว่าท่านจะพบเห็นแสงเหนือทุกครั้งที่ออกเดินทาง เนื่องจากการเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย การเกิดแสงเหนือ ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันนั้นๆ สภาพท้องฟ้า ก้อนเมฆ และค่าชี้วัดการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก (KP INDEX) ซึ่งค่า KP จะมีความแน่นอนต่อเมื่อเช็คค่าชี้วัด 2-3 ชั่วโมงล่วงหน้าเท่านั้น
คิรูน่า - สต๊อคโฮล์ม - ชมเมือง - ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่สนามบินคิรูน่า
- 10.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสต๊อคโฮล์ม โดยสายการบินสแกนดิเนเวียน เที่ยวบินที่ SK1041
**หมายเหตุไฟล์ทบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์แปลงแปลงตามความเหมาะสม**
- 12.05 น. เดินทางถึงสนามบินสต๊อคโฮล์ม ประเทศสวีเดน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองสต็อกโฮล์ม เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน
- ท่านชม ศาลาว่าการเมืองสต็อกโฮล์ม (Stockholm City Hall) พิพิธภัณฑ์เมืองสต็อกโฮล์ม มีการก่อสร้างมานานนับแต่ ปี ค.ศ.1923 มีการตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาราวกับพระราชวัง โดยใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ตัวอาคารที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะที่ยิ่งใหญ่ (King Island) ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะดูเรียบ แต่การตกแต่งภายในไม่ธรรมดาเลย กับศิลปะสมัยใหม่ในแบบอาร์ตนูโว หลังคาฝ้าเพดานของห้องประชุมออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับท้องเรือไวกิ้ง เสมือนกำลังแล่นไปบนผืนน้ำทะเลสีฟ้า มีการจัดแสดงงานศิลปะและโบราณวัตถุหลากหลายประเภท
- นำท่านถ่ายรูปกับ พระราชวังหลวง (Stockholms Slott หรือ The Stockholm Palace) เป็นที่ประทับของพระราชวงศ์สวีเดน ทั้งยังเป็นสถานที่รับรองแขกบ้านแขกเมืองในโอกาสสำคัญ ที่นี่คือพระราชวังที่งดงามที่สุดในบรรดาพระราชวังทั้งหมดของทวีปยุโรป มีลักษณะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมบาโรค สร้างเมื่อ ปีค.ศ. 1754 ภายในมีถึง 608 ห้อง ในบรรดาห้องต่างๆ ที่นับเป็นไฮไลต์ ได้แก่ ห้องพระคลัง วิหารหลวง ห้องโถงว่าการของรัฐ (Hall of State) ห้องพักของขุนนางลำดับต่างๆ และพิพิธภัณฑ์โบราณสถานกุสตาฟที่ 3
- นำท่านเดินเล่นชมสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนมีความสวยงามในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบสวีเดน อาคารบ้านเรือนสมัยโบราณราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาสภาพอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่ได้อย่างดีเยี่ยม
- อิสระท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ย่านแกมล่าสแตน (Gamla Stan) ในภาษาสวีเดน แปลว่า เมืองเก่า ที่นี่มีมาตั้งแต่สมัยเริ่มก่อตั้งเมืองสตอกโฮล์ม เป็นส่วนที่เก่าแก่และล้ำค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในเมืองเลยทีเดียว เป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังหลวง และยังคงกลิ่นอายย้อนยุคของศตวรรษที่ 17 ผสมผสานกับความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
CLARION HOTEL SIGN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
สต๊อคโฮล์ม - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่สนามบินสต๊อคโฮล์ม
- 13.00 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 961
ออสโล - โคเปนเฮเก้น - ชมเมือง
- 05.45 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ