ทัวร์อิตาลี เส้นทางพิเศษ อิตาลี อุทยานโดโลไมต์ – ทัสคานี – ชิงแกว์ เตเร่



รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์อิตาลี เส้นทางพิเศษ อิตาลี อุทยานโดโลไมต์ – ทัสคานี – ชิงแกว์ เตเร่

รหัสทัวร์ : INCREDIBLE ITALY 11 DAY (TG)
ระยะเวลา 11 วัน 8 คืน
สายการบิน :

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 13 เม.ย. 62 - 23 เม.ย. 62 119,900 บาท
2 25 เม.ย. 62 - 5 พ.ค. 62 119,900 บาท
3 2 พ.ค. 62 - 12 พ.ค. 62 116,900 บาท
4 16 พ.ค. 62 - 26 พ.ค. 62 116,900 บาท
5 23 พ.ค. 62 - 2 มิ.ย. 62 116,900 บาท
6 6 มิ.ย. 62 - 16 มิ.ย. 62 116,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    อุทยานแห่งชาติ Dolomite สวยสุดๆ และได้รับ (Unesco) สวยมากห้ามพลาด !!
  • 2
    นั่งกระเช้าสู่ Alpe di Siusi ที่ราบบนยอดเขาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป (Unesco)
  • 3
    ชมหมู่บ้าน Val di Funes หมู่บ้านมรดกโลกสุดสวยของอุทยานโดโลไมต์
  • 4
    ชมหมู่บ้านโบราณ Civita di Bagnregio อายุเก่าแก่กว่า 2,000ปี !(Unseen)
  • 5
    เส้นทาง Val d’ Orcia เส้นทางที่สวยที่สุดในทัสคานี (Unesco)
  • 6
    หมู่บ้าน Pienza หมู่บ้านท้องทุ่งสุดสวย (Unesco)
  • 7
    เกาะ Burano เกาะสีสันลูกกวาด
  • 8
    ชมหมู่บ้าน Cinque Terre หมู่บ้านริมหน้าผา ที่สวยที่สุดในโลก
  • 9
    หมู่บ้าน San Gimignano หมู่บ้านที่ได้รับการยอมรับว่าสวยที่สุดในทัสคานี (Unesco)
  • 10
    ชมหมู่บ้าน Lucca หมู่บ้านในยุคกลาง สุดคลาสิค (Unseen)
  • 11
    เมืองเก่าโบราณแห่งแคว้นทัสคานี Siena สไตล์อิตาลี ได้รับ (Unesco)
  • 12
    ชมเมือง Sirmione ริมทะเลสาบกราด้า
  • 13
    ชมเมือง Venice มหานครลอยน้ำสุดโรแมนติค
  • 14
    ชมเมือง Milan เมืองแห่งแฟชั่นของโลก
  • 15
    ช้อปปิ้ง The Mall Outlet Luxury

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์อิตาลี
เส้นทางพิเศษ อิตาลี
อุทยานโดโลไมต์ - ทัสคานี – ชิงแกว์ เตเร่
11 วัน 8 คืน
โดยสายการบินไทย(TG)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 21.30 น.  คณะผู้เดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ D สายการบิน THAI AIRWAYS (TG)
DAY2

กรุงโรม (อิตาลี) - Civita di Bagnoregio - Val d’Orcia - ปีเอนซา - เซียน่า

  • 00.20 น. ออกเดินทางสู่กรุงโรม (Rome)โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 944
  • 06.50 น. เดินทางถึงทางอากาศนานาชาติฟูมิชิโน่ กรุงโรม ประเทศอิตาลี
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน ซิวิตา ดิ แบนอริจิโอ ( Civita di Bagnoregio) (Unseen)  (ระยะทาง 125 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 45 นาที) หมู่บ้านเล็กๆ บนเนินเขาในแคว้นลาซิโอ ใกล้ๆกรุงโรม มีการตั้งถิ่นฐานมาตั้งแต่ 2,500 ปี ภายในมีบ้านเรือนที่ทำจากหินอายุหลายร้อยปี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ได้รับการยอมรับว่าคือ เพชรเม็ดงามแห่งแคว้นลาซิโอ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 100 คนเท่านั้น ยิ่งในฤดูหนาวจะมีประชากรอาศัยอยู่ไม่ถึง 20 คน นำท่านเดินชมเมือง เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่แคว้นทัสคานี (Tuscany)
  • นำท่านเดินทางเข้าสู่เส้นทางหุบเขา วาดอร์เซีย (Val D’Orcia) เส้นทางที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในแคว้นทัสคานีระหว่างทางท่านจะได้เห็นวิวท้องทุ่ง ที่มีบ้านชาวนา และต้นไซเปรซ ที่ยืนเด่นตามแนวท้องทุ่ง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Unesco)  ให้เป็น World Cultural Landscape  ซึ่งหลายๆทิวทัศน์แห่งนี้ถูกเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ของ Hollywood ให้ท่านได้เพลิดเพลินวิวระหว่างทาง
  • นำท่านสู่หมู่บ้าน ปีเอนซ่า (Pienza) หรือเพียนซา (ระยะทาง 85 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 15 นาที) เมืองเล็กที่สวยงามยุคเรอเนสซองซ์ เป็นหมู่ที่นักท่องเที่ยวต่างหลงไหล เดิมมีชื่อเรียกว่า Corsignano และเป็นบ้านเกิดของ Pope Pius II ซึ่งได้รับคัดเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาในปี ค.ศ.1458 หลังจากได้รับตำแหน่งเมืองนี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมดและเปลี่ยนมาเป็นชื่อปีเอนซา หรือเพียนซา เพื่อเป็นเกียรติศักดิ์แก่ตนเอง นำท่านเดินเล่นถ่ายรูปกับพระราชวังองค์สันตะปาปา บ้านเรือนที่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี ซึ่งเมืองปีเอนซา ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) จากนั้นให้ท่านได้ชมวิวจากตัวเมืองมองลงไปเห็นท้องทุ่งแห่งแคว้นทัสคานี และ เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
  • จากนั้นเดินทางผ่านหมู่บ้าน San Quirico d’Orcia ท่านจะได้พบกับวิวของทัสคานีที่ว่ากันกว่าสวยที่สุด จนกระทั่งถึงเมือง เซียน่า (SIENA) หรือเมืองซีเอนา (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลา 50 นาที ) เมืองใหญ่อันดับ 2 ในแคว้นทัสคานี

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
NH SIENA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY3

เซียน่า - ซาน จิมิยาโน่ - ลา สเปเซีย

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านชมเมือง เซียน่า (SIENA) หรือเมืองซีเอนา เมืองใหญ่อันดับ 2 ในแคว้นทัสคานี ถือเป็นเมืองในยุคกลางที่ถือว่าเป็นเมืองคู่แข่งของเมืองฟลอเรนซ์ เมืองเซียน่ายังได้รับการยอมการประกาศเป็นเมืองมรดกโลก (Unesco) อีกด้วย เนื่องจากความเก่าแก่และความสวยงามและการอนุรักษ์ไว้อย่างดีของชาวเมืองเซียน่า
  • นำท่านเดินเข้าสู่จตุรัส เดล คัมโป (Piazza del Campo) เป็นจตุรัสใจกลางเมืองที่บ่งบอกประวัติศาสตร์ของเมืองเซียน่าได้เป็นอย่างดี และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในจตุรัสที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆ จำนวนมาก
  • เข้าชมมหาวิหารเมืองเซียน่า (Duomo di Siena) มหาวิหารประจำเมืองเซียน่า ที่ถุกสร้างขึ้นในปี 1200 ด้วยสไตล์กอธิคและเรเนซองส์ ที่ประดับประดาตกแต่งอย่างวิจิตรอลังการและสวยงามมาก โดยเฉพาะด้านในของตัววิหารที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆเกี่ยวบกับเมืองเซียน่าไว้ได้อย่างสวยงามและเป็นโบสถ์ 1 ใน 5 โบสถ์ที่สวยที่สุดในประเทศอิตาลี อีกด้วย
  • ชมเมืองเก่าเซียน่า (SIENA OLD TOWN) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี 1995 (UNESCO) ชมความเป็นเมืองเก่าสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการหรือยุคเรอเนสซองส์ เต็มไปด้วยอาคารต่างๆ โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ และสัมผัสบรรยากาศของประวัติศาสตร์และร้านค้ามากมาย เซียน่าเป็นเมืองคู่แข่งของฟลอเรนซ์ในเรื่องของศิลปะและสถาปัตยกรรม
  • นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ ปาลาซโซ พับบลิโค (Palazzo Pubblico) เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1297 เพื่อใช้เป็นที่ทำงานของรัฐบาลเมืองเซียน่า โดยด้านข้างมีหอระฆังมานเจีย หรือ ทอร์เร เดล มานเกีย (Torre del Mangia) หอระฆังที่เก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1338 ซึ่งสมัยนั้นถือว่าเป็นสิ่งก็สร้างสูงที่สุดในอิตาลี จากนั้นให้ท่านอิสระเดินถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองของที่ระลึกตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองซาน จิมิยาโน (SAN GIMIGNANO) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลา 45 นาที ) เมืองเล็กๆ ที่มี ทิวทัศน์งดงามที่สุดในแคว้นทัสคานี ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองโบราณ เป็นเมืองแห่งสุดยอดสถาปัตยกรรมของยุคกลาง โดยเฉพาะหอคอยสูงตระหง่าน 14 หอ ที่สามารถมองเห็นได้แม้อยู่ห่างจากตัวเมืองหลายกิโลเมตร เป็นเมืองเดียวในอิตาลี่ที่สามารถอนุรักษ์สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมยุคกลางไว้ได้อย่างครบถ้วนจนได้รับการประกาศเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์กร (UNESCO)
  • ถ่ายรูปกับโบสถ์ประจำเมือง (SAN GIMIGNANO DUOMO) โบสถ์หลักประจำเมืองตั้งอยู่ในจัตุรัสดูโอโม (PIAZZA DEL DUOMO) ภายในมีการตกแต่งแบบโรมาเนสก์ และมีภาพเฟรสโกตกแต่งกำแพงภายในโบสถ์ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนา ชมภายนอกพระราชวังโปโปโล (POPOLO PALACE) อดีตเป็นที่ตั้งของศาสนา คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
  • จากนั้นเดินทางสู่เมือง ลา สเปเซีย (La Spezia ) (ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลา 2 ชม. 30 นาที) เมืองท่าที่เป็นประตูสู่ 5 หมู่บ้านริมทะเลที่สวยที่สุดในโลก

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ณ โรงแรมที่พัก
NH HOTEL LA SPEZIA หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว (พัก 2 คืน)

DAY4

ลา สเปเซีย – นั่งรถไฟชมหมู่บ้าน ชิงเกว่ แตร์เร – ลา สเปเซีย

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านนั่งรถไฟ สู่ เมืองชิงเกว่ แตร์เร (CINQUE TERRE) หมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่บน ชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี CINQUE TERRE มีความหมายว่า ห้าดินแดน(FIVE LANDS) ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่งได้แก่ VERNAZZA,MANAROL, RIOMAGGIORE , CORNIGLIA. MONTEROSSO AL MARE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้มีหุบเขาล้อมรอบประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ด้วย (UNESCO)
  • นำท่านชมหมู่บ้าน RIOMAGGIORE , VERNAZZA ,MANAROL คือ 3 หมู่บ้านที่สวยที่สุดใน 5 หมู่บ้าน (ส่วนอีก 2 หมู่บ้าน MONTEROSSO AL MARE ขึ้นอยู่กับเวลา สภาพอากาศ และสภาพร่างกายของคนในคณะทัวร์)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง  

  • ** หมายเหตุ : การเดินเที่ยวชมหมู่บ้านชิงเกว่ แตร์เร จะครบทั้ง 5 หมู่บ้านหรือไม่นั้นขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น เวลา สภาพอากาศ จราจร การปิดหรือเปิดเส้นทางของแต่ละหมู่บาน หรือสภาพร่างกายของคณะทัวร์ เป็นสำคัญ แต่เราจะนำท่านเที่ยวหมู่บ้านที่สวยอยู่แล้วเช่น Riomaggiore , Manarola, Vernazza  **
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารเอเชีย
NH HOTEL LA SPEZIA หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY5

ลา สเปเซีย - ลุคกา - The Mall Outlet Luxury – เมสเตร้

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง ลุคกา (Lucca) (ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลา 1 ชม.)  เมืองโบราณเล็กๆที่มีประวัติศาสตร์กว่า 1,000ปี โดยมีกำแพงเมืองโอบรอบที่สร้างขึ้นอายุกว่า 400 ปี เพื่อป้องกันข้าศึกเข้ามาลุกลาน ท่านจะได้สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งเมืองลุคกาเมืองเล็กๆ ที่แสนอบอุ่นแต่ยังคงความสมบูรณ์ของยุคกลางไว้อย่างสมบูรณ์
  • นำท่านชม โบสถ์ ซาน มิเคเล่ (San Michele in Foro) โบสถ์เก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ที่สร้างด้วยหินสีเทา เขีย ชมพู ผสมผสานกันอย่างลงตัว รังสรรค์ผลงานโดยศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามของ ปุชชินี่ (Giacomo Puccini) ให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางสู่ THE MALL OUTLET LUXURY (ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 15 นาที) เอาท์เลตจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมราคาถูก ถือเป็น outlet ดีอันดับต้นๆ ของยุโรป มีแบรนด์เนมหลากหลายยี่ห้อให้ท่านได้เลือก อาทิ เช่น GUCCI , PRADA ,BOTTEGA VENETA , BURBERRY, VALENTINO, VERSACE , TOD’S  เป็นต้น

ทางบริษัทคืนท่าน 20 Eur  ให้ท่านเลือกรับประทานอาหารตามอัธยาศัย  

  • อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย  จนได้เวลานัดหมาย จากนั้นได้เวลาเดินทางสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แคว้นเวเนโต้ สู่เมืองเมสเตร้ (Mestre) (ระยะทาง 240 กม. ใช้เวลา 3 ชม. )

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HOLIDAY INN HOTEL MESTRE  หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY6

เมสเตร้ - เกาะบูราโน่ - เกาะเวนิส - เมสเตร้

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่ท่าเรือนำท่านสู่หมู่เกาะ บูราโน่ (Burano) (คนไทยไปน้อยมาก เรารับประกันว่าสวยมาก)หมู่เกาะเล็กๆสีลูกกวาดหลากสีสัน อยู่ห่างจากเกาะเวนิสประมาณ 10 กิโลเมตร ท่านจะตื่นตาตื่นใจกับบ้านเรือนที่มีสีสันฉูดฉาด น่ารักๆ นำท่านเดินเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัย นำท่านนั่งเรือกลับมาสู่ เกาะเวนิส
  • เมืองที่ได้รับการยอมรับว่าติดอันดับความโรมแมนติคของโลก ใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที เกาะซานมาร์โค ศูนย์กลางของนครเวนิสระหว่างทางท่านจะได้ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลี่ยน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • ให้ท่านได้ถ่ายภาพคู่กับสะพานถอนหายใจหรือสะพานสะอื้น ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิซในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้นอีกด้วย ชม จัตุรัสเซนต์มาร์โค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิซตามอัธยาศัย อาทิ เครื่องแก้วมูราโน่ ต้นตำรับของการเป่าแก้วของชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกจากนั้นได้เวลานำท่านกลับสู่เมสเตร้

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
HOLIDAY INN HOTEL MESTRE  หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY7

เมสเตร้ - อุทยานโดโลไมท์ - ทะเลสาบมิซูลิน่า –ทะเลสาบเบรียส - คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติในเขตเทือกเขา โดโลไมท์ ( Dolomite) (ระยะทาง 160 กม.ใช้เวลา 2 ชม. ) สถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยรู้จักน้อยมาก แต่ความสวยงามของโดโลโมท์เป็นที่เลื่องลื่อซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวของอิตาลี ที่องค์กรยูเนสโกรับรองให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ (Unesco) โดโลไมท์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ ที่พาดผ่านตอนเหนือของของประเทศอิตาลี หรืออิตาเลี่ยนแอลป์ เทือกเขาโดโลไมท์มียอดเขาที่มีลักษณะประหลาดเป็นกรวยสูงตระหง่าน ยอดแหลมชันราวซี่ฟันเลื่อยหรือฟันปลาไม่เหมือนยอดเขาอื่นใด ภูมิประเทศน่ามหัศจรรย์แห่งนี้เมื่อกว่า 500 ล้านปี เคยเป็นแนวปะการังใต้ท้องทะเลมาก่อน สถาปนิกนักปีนเขารุ่นแรกๆ ชาวสวิสบรรยายสิ่งที่เขาเห็นว่า เป็นประดุจปราสาทหิน โบสถ์กอธิก และหอคอยที่ทรงอานุภาพ เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดในโลก แนวทิวเขาเหมือนฉากในเทพนิยาย ดั่งดินแดนมิดเดิ้ลเอิร์ทใน เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยตำนานว่าด้วย เจ้าหญิง แม่มด คนแคระ ยักษ์กินคน และมังกร ตามที่ราบเนินเขา
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่ตั้งทะเลสาบ มิซูลิน่า (MISURINA LAKE) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขา ที่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งในโดโลไมท์ นำท่านเดินเล่นชมวิวทะเลสาบเก็บภาพสุดความประทับใจ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบเบรียส ( Lake Braies ) หรือ (Pragser Wildsee) ทะเลสาบที่ได้ขึ้นชื่อว่าไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ และยังได้เป็นส่วนหนึ่งใน มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย ด้วยความโดดเด่นของสีน้ำเขียวมรกตและมีความใสมาก บวกกับธรรมชาติรอบๆ ทั้งทิวต้นสนและทิวภูเขาของเทือกเขาโดโลไมต์  ทำให้ทะเลสาบแห่งนี้งดงามยิ่งนัก ให้ท่านอิสระถ่ายรูปตามอัธยาศัย
  • เดินทางสู่เมือง คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ (CORTINA D’AMPEZZO) (ระยะทาง 40 กม.ใช้เวลา 40 น. ) เมืองสกีรีสอร์ทที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทือกเขาโดโลไมท์ (DOLOMITE) คอร์ติน่า ดอมปาสโซ่ สกีรีสอร์ท BEST OF THE ALPS เพียงแห่งเดียวของอิตาลีที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สกีรีสอร์ทที่ดีที่สุดในโลก เคยใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 1956 และเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ เจมส์ บอนด์ 007 ตอน FOR YOUR EYE ONLY

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
BOUTIQUE VILLA BLU CORTINA D’AMPEZZO หรือเทียบเท่า 4 ดาว

DAY8

วาลด์ เด ฟุเน่ - ขึ้นกระเช้า Alpe Di Siusi - ออร์ติเซ่

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ชุมชน Val di funes หรือ Villnöß (ระยะทาง 110 กม.ใช้เวลา 2 ชม. ) ชุมชนเล็กๆทางภาคตะวันตกของอุทยานโดโลไมต์ ประกอบไปด้วยหมู่บ้านเล็กๆ 6 หมู่บ้าน โดยมีชื่อเสียงจากการมีวิวทิวทัศน์ที่สวยที่ในเขต South Tyrol อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ (การเดินขึ้นไปเก็บภาพความประทับใจนี้ ท่านจะต้องเดินประมาณ 1 กิโลเมตร)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางเข้าสู่เมือง ออร์ติเซ่ (Ortisei) เมืองแห่งศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานโดโลไมท์ (ระยะทาง 30 กม.ใช้เวลา 40 นาที ) ที่อยู่ในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบสวยงามยิ่งนัก จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้า ขึ้นสู่บนเนินเขาที่เราเรียกว่า “ALPE DI SIUSI” นำท่านชมวิวทิวทศน์บนทุ่งหญ้า ราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป
  • นำท่านขึ้นกระเช้า Funivie Ortisei ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมต์ จากมุมสูงรอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE ที่มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่น
  • อิสระให้ทุกท่านเพลินดเพลินกับอากาศอันบริสุทธิ์ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตา จากนั้นนำท่านกลับลงสู่ด้านล่างให้ท่านอิสระเดินเล่นชมเมือง ออร์ติเซ่ (Ortisei) ตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารเมือง
GENZIANA ORTISEI HOTEL หรือรrะดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY9

ออร์ติเซ่ - ซิร์มิโอเน่ - มิลาน - ดูโอโม่ - ช้อปปิ้ง

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ซิร์มิโอเน่ (Sirmione) (ระยะทาง 190  กม.ใช้เวลา 2 ชม. 30 นาที ) เป็นเมือง Unseen  ของอิตาลี เป็นเมืองเก่าแก่ มีอายุมากกว่า 2,000 ปี เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นแหลมยื่นเข้าไปในทะเลสาบการ์ด้า (Garda Lake
  • จากนั้นนำท่านล่องเรือทะเลสาบการ์ด้า ชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ ของทะเลสาบ ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืด ที่เกิดจากน้ำแข็งละลายจากเทือกเขาแอลป์ ดังนั้นซีร์มิโอเน่จึงถูกล้อมรอบด้วยทะเลสาบทั้งสองด้าน และถึงแม้ซีร์มิโอเน่จะเป็นแค่เมืองเล็กๆ แต่ก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี นอกจากซีร์มิโอเน่ จะมีชื่อเสียงเรื่องซากปรักหักพังตั้งแต่สมัยยุคโรมัน สิ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันคือน้ำพุร้อนธรรมชาติที่ผุดขึ้นมาจากใต้ทะเลสาบ ถูกค้นพบโดยชาวโรมันตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีที่ผ่านมา เชื่อกันว่าเป็นน้ำพุร้อนที่มีอุณหูมิถึง 69 องศาเซลเซียสและอุดมไปด้วยแร่ธาตุกำมะถัน ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการใช้รักษาโรคของชาวโรมันในสมัยนั้น

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง มิลาน (MILAN) (ระยะทาง 150  กม.ใช้เวลา 2 ชม. )  เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดีเป็น เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรมเดินทางเข้าสู่ลานจตุรัสบริเวณ มหาวิหารแห่งมิลานหรือมิลานดูโอโม (DUOMO) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วย หินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิคใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปีปัจจุบันเป็นโบสถ์แคธอล์ลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นมหาวิหารใหญ่อันดับ 4 ของโลก
  • อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมือง หรือว่าเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม สินค้าพื้นเมือง หรือของที่ระลึกต่างๆ ตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
RADISSON BLU MILAN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY10

มิลาน - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • ให้ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยจนได้เวลาอันสมควรนำท่านออกเดินทางสู่สนามบินเมืองมิลาน เพื่อทำการเช็คอินและทำ TAX REFUND
  • 14.05 น. ออกเดินสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG941
DAY11

สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ

  • 05.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ…..


แชร์ให้เพื่อน