ทัวร์ไอซ์แลนด์ ล่าแสงเหนือ 11 วัน
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ไอซ์แลนด์ ล่าแสงเหนือ 11 วัน
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 8 ก.พ. 67 - 18 ก.พ. 67 | 259,900 บาท |
2 | 13 มี.ค. 67 - 23 มี.ค. 67 | 259,900 บาท |
3 | 5 เม.ย. 67 - 15 เม.ย. 67 | 259,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมถ้ำ CRYSTAL ICE CAVE ถ้ำกราเซียสุดมหัศจรรย์ (ห้ามพลาดมีเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น)
- 2ชมภูเขา KIRKJUFELL ภูเขารูปหมวกอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของไอซ์แลนด์ (ห้ามพลาด)
- 3ชมทะเลสาบธารน้ำแข็ง JOKULSARLON ที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์และยุโรป
- 4ชมชายหาด DIAMOND BEACH ชายหาดน้ำแข็ง
- 5ชมน้ำตก SKOGAFOSS , SELJALANDSFOSS หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของไอซ์แลนด์
- 6ชมน้ำตก Brúarfoss น้ำตกที่มีสีฟ้าที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์
- 7ชมอุทยาน PINGVELLIR / GOLDEN CIRCLE ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก
- 8ชมกลุ่ม แท่งหินบะซอลต์ สุดมหัศจรรย์
- 9ชมซากเครื่องบิน Solheimasandur Plane Wreck
- 10ชมปากปล่องภูเขาไฟเคริด Kerid Crater
- 11กิจกรรมพาท่านออกล่าแสงเหนือ AURORA HUNTING
- 12กิจกรรมแช่บ่อน้ำแร่ BLUE LAGOON บ่อน้ำแร่ชื่อดังของโลก
- 13กิจกรรมขับ SNOW MOBILE ตะลุยกราเซีย
- 14กิจกรรมล่องเรือชมปลาวาฬ WHALE WACHING
- 15กิจกรรมขี่ม้า HORSEBACK RIDING ไอซ์แลนด์ชมทุ่งลาวา
- 16ชมชายหาดสีดำ VIK หนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในโลก
- 17ชมเมือง REYKJAVIK เมืองหลวงแสนสวยของประเทศไอซ์แลนด์
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 22.00 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทย พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) - เรคยาวิก (ไอซ์แลนด์) - ชมเมือง
- 01.20 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมา์ก โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG950
- 07.40 น. เดินทางถึงทางอากาศยานโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
- 14.10 น. ออกเดินทางสู่ เรคยาวิก (Reykjavik) ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI205
- 15.25 น. ถึงสนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) กรุงเรคยาวิค หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงเรคยาวิก (ระยะทาง 47 กม. ใช้เวลา 50 นาที) ได้รับสมญานามว่า (อ่าวแห่งควัน) เนื่องจากควันไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน นอกจากนี้ยังมีตำนานไวกิ้งโบราณที่มีหลักฐานแสดงถึงการปกครองดินแดนแถบนี้มาก่อน
- จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Hofdi Houseบ้านที่มีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ชาติอันน่าสนใจ เคยใช้เป็นที่รับรองและจัดเลี้ยง ผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ในการยุติสงครามเย็น
- นำท่านถ่ายรูปกับ Solfar หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ The Sun Voyager เป็นงานประติมากรรมรูปเรือที่ตั้งอยู่ในกรุง Reykyavik สร้างขึ้นโดยช่างสลักชื่อ Jon Gunnar Arnason โดยคนส่วนมากมักจะเข้าใจผิดว่ามันคือสัญลักษณ์เรือไวกิ้ง แต่จริงๆแล้ว The Sun Voyager มีความหมายโดยนัยเดิมว่า “เรือแห่งความฝัน” และเป็นบทสรรเสริญพระอาทิตย์ด้วย เป็นอีกหนึ่งงานประติมากรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรที่จะพลาดถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
GRAND HOTEL REYKJAVIK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เรคยาวิค - ชายฝั่งตอนใต้ SOUTH COAST - น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ - น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ - ขับรถสโนว์โมบิล - หาดทรายดำเรย์นิสฟายาร่า - วิก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านท่องเที่ยวเส้นทางแสนสวย South Shore ประเทศไอซ์แลนด์มีชื่อเสียงในเรื่อง ของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนํามาใช้ทดแทน เชื้อเพลิง ทําให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ นอกจากนี้ พลังงานดังกล่าวยังถูกนํามาใช้ในด้านสาธารณูปโภคอีกด้วย ทัศนียภาพสองข้างทาง เว้นระยะไปด้วย ฟาร์มปศุสัตว์ ฉากหลังเป็นภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) ที่มีความสูงถึง 1,491 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ผ่านการ ระเบิดมาแล้วถึง 19 ครั้ง ล่าสุดในปี 2012 นำท่านชม น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ (Seljalandfoss) (ระยะทาง 130 กม. ใช้เวลา 2 ชม.) น้ำตกที่มีชื่อเสียงและถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ น้ำตกแห่งนี้แม้จะค่อนข้างแคบแต่สูง โดยมีความสูงราว 60 เมตร และเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเซลย่าลันด์ซ่า (Seljalandsá) โดยแม่น้ำสายนี้มีต้นกำเนิดอยู่ใต้ธารน้ำแข็งเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajökull Glacier) ซึ่งภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้ได้ปะทุขึ้นและก่อให้เกิดความเสียหายสนามบินทั่วยุโรปมาแล้ว ท่านจะตื่นตาตื่นใจกลับกับสายน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาสู่พื้นราบ ให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านชม น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skogarfoss) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลา 30 นาที) เป็นน้ำตกที่ยิ่งใหญ่อยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ น้ำตกอยู่ใกล้กับหมู่บ้านสโกการ์ (Skogar) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อน้ำตก โดยน้ำตกแห่งนี้มีความกว้างมากถึง 25 เมตร และสูง 60 เมตร ถือว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่น่าทึ่งที่สุดของไอซ์แลนด์ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านสู่ธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull Glacier บนดินแดนที่อยู่สูงที่สุดของโลก มี ความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 ของธารน้ำแข็งทั้งหมดในไอซ์แลนด์ พื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร นำท่านเปิดประสบการณ์ตะลุยหิมะพาท่านตะลุยไปในธารน้ำแข็งและนำท่านเปิดประสบการณ์ด้วยการขับรถสโนว์โมบิล (SNOW MOBILE) ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็ง ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1-2 ชั่วโมง ( คันละ 2 ท่าน พร้อมชุดกันความ หนาว,หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้าบู๊ท มีให้ทุกท่าน )
** หมายเหตุ : ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกรายการหากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ทางบริษัทคืนเงิน**
- จากนั้นนําท่านเดินทางสู่หาดทรายดำเรย์นิสฟายาร่า (Reynisfjara) หรือ Black Beach (ระยะทาง 35 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) คือชื่อของหาดทรายดำที่มีชื่อเสียงที่สุดของไอซ์แลนด์ และเป็นหนึ่งในหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Vik เมืองท่าขนาดไม่ใหญ่แต่เป็นเมืองที่มีความเจริญเกือบจะที่สุดทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ทรายสีดำที่ชายหาดแห่งนี้เป็นตะกอนเม็ดทรายสีดำที่เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ ที่ถูกพัดพาไปสะสมตัวบริเวณชายหาด โดยเม็ดทรายนี้มีความหนาแน่นและทนทานต่อการแตกสลายผุพัง บริเวณนี้เป็นบริเวณที่คลื่นพัดแรง จะพัดเอาวัตถุที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าออกไป วัตถุที่มีความหนาแน่นมากกว่าจะถูกพัดพาออกไปได้ช้าหรือยังคงสะสมรวมตัวกันอยู่ จนกลายเป็นชายหาดที่มีทรายสีดำ
- นำท่านชมแท่งหินบะซอลต์ทรงกระบอกหกเหลี่ยมรูปทรงเหมือนแท่งออร์แกนในโบสถ์ ที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟที่แข็งตัวอย่างรวดเร็วเรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ อยู่เป็นจำนวนมาก นับเป็นประติมากรรมที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาอย่างงดงามและน่าอัศจรรย์
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง วิก (VIK) (ระยะทาง 2 กม. ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) หมู่บ้านทางตอนใต้ของประเทศ มีชายหาดสวยสีดำ ซึ่งเคยได้รับการโหวตว่าเป็นชายหาดที่สวยที่สุดในโลกปี 1991 นำท่านถ่ายรูปกับโบสถ์วิก และให้ท่านเลือกซื้อสินค้าของฝากตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
HOTEL VIK I MYRDAL หรือระดับเทียบเท่า (พัก 2 คืน)
** โรงแรมในเมืองมีมีจำกัด หากเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ไปพักเมืองใกล้เคียงแทน **
**** หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย และมีการพยากรณ์ว่ามีโอกาสเห็นแสงเหนือ ท่านสามารถออกมาเดินชมบริเวณที่พักได้ ***
วัทนาโจกุล - ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน - Diamond Beach - ชมถ้ำ Crystal Ice Cave - วิก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park)(ระยะทาง 190 กม. ใช้เวลา 2.30 ชม.) เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ (Iceland) รวมความสวยงามทางธรรมชาติหลายๆ อย่างไว้ด้วยกันทั้งน้ำตก ชายหาดสีดำและธารน้ำแข็งสีขาว ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล Vatnajökull ธารน้ำแข็งหิมะที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยธารน้ำแข็งมีพื้นที่กว่า 8,100 ตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีถ้ำน้ำแข็งที่สวยสุดๆ หาชมได้ยาก
- นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacier Lake) ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในช่วง ค.ศ. 1934-1935 และค่อยๆ ขยายตัวเพิ่มพื้นที่ขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆปี ในปัจจุบันกินพื้นที่กว้างถึง18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำถึง 200 ม. ทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนจึงได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบมีลึกเป็นอันดับสองของประเทศไอซ์แลนด์ ชมความงดงามของทุ่งน้ำแข็งก้อนใหญ่ที่ละลายลงมาจากภูเขาน้ำแข็งด้านบนและไหลลงมาสู่ทะเล ท่านอาจได้พบกับนกทะเลสีดำที่ริมฝั่งทะเลตอนปลายที่เชื่อมระหว่างทะเลกับโจกุลซาลอน ที่มีชื่อเรียกว่า Skúas และสีขาวตระกูลนกนางนวล ที่เรียกว่า big seagull หรือหากโชคดีท่านอาจจะได้เห็นสิงโตทะเลที่ดำผุดดำว่าย หรือหาอาหารอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นสถานที่นี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง JAMES BOND และ BATMAN อีกด้วย
- จากนั้นนำท่านเดินเล่นชายหาดน้ำแข็ง Ice Beach หรือที่เรียกกันว่า Diamond Beach ชายหาดใกล้กับธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน โดยจะมีก้อนธารน้ำแข็งที่อยู่ในทะเลมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างๆ มาเกยอยู่ชายหาด อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย นำท่านเปิดประสบการณ์ตะลุยหิมะพาท่านตะลุยไปในธารน้ำแข็ง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านชมถ้ำคริสตัล (Crystal Ice Cave) เป็นถ้ำในทะเลสาบแช่แข็งที่เกิดจากธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svinafellsjokull Glacier) ในอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajokull National Park) โดยถ้ำแห่งนี้มีปากถ้ำที่เป็นปล่องน้ำแข็งสูงประมาณ 22 ฟุต แต่เนื่องจากสภาพอุณหภูมิที่ค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย รูปแบบของถ้ำน้ำแข็งจึงไม่ค่อยแน่นอน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเข้าไปชมความงดงามของถ้ำน้ำแข็ง จึงสามารถทำได้แค่ในช่วงฤดูหนาว ความความโดดเด่นของถ้ำแห่งนี้ก็คือ ผนังน้ำแข็งคือก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนเหมือนกับก้อนคริสตัล ที่สามารถมองเห็นได้ภายใต้ผนังถ้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนเราท่องไปในดินแดนพิศวง
(ขอสงวนสิทธิ์เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ในการเข้าชมถ้ำคริสตัล เนื่องจากเป็นข้อกำหนดในการเข้าชมของถ้ำ หรือผู้ที่มีสุขภาพไม่แข็งแรงและหากเกิดเหตุสุดวิสัยต่างๆไม่สามารถเข้าชมถ้ำได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ (เนื่องจากถ้ำ Crystal Ice Cave จะขึ้นอยู่กับปัจจัยของสภาพอากาศเป็นสำคัญต้องเช็คกันวัน/วัน และเพื่อความปลอดภัยเป็นสำคัญ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกรายการ ทางบริษัทจะเปลี่ยนให้ท่านไปเข้าชมถ้ำ ICE CAVE หรือ Blue Tunnel แทน)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
HOTEL VIK I MYRDAL หรือระดับเทียบเท่า
**** หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย และมีการพยากรณ์ว่ามีโอกาสเห็นแสงเหนือ ท่านสามารถออกมาเดินชมบริเวณที่พักได้ ***
วิก - แหลมดีร์โฮเลย์ - ขี่ม้าไอซ์แลนด์ - ซากเครื่องบิน Solheimasandur Plane Wreck - เซลฟอส
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่าสู่แหลมดีร์โฮเลย์ (DYRHOLAEY) เป็นแหลมที่ยื่นออก มาทางชายฝั่งตอนใต้ของไอซ์แลนด์ และตั้งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านวิค (Vik) เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติมาตั้งแต่ปีค.ศ.1978 เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “เกาะเนินประตู (Door hill island)” คำว่าประตูมาจากลักษณะที่มีซุ้มลาวาโค้งขนาดมหึมายื่นรับอยู่ทางด้านหน้าของแหลม ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลและลมที่พัดผ่าน เมื่อทะเลสงบเรือขนาดใหญ่สามารถที่จะแล่นผ่านโค้งหินนี้ได้ ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวดีร์โฮเลย์คือ นกพัฟฟิน (Puffins) ที่หน้าตาน่ารัก โดยจะสามารถพบได้บริเวณนี้ตั้งแต่เดือนเมษายนไปจนถึงราวๆ ปลายเดือนสิงหาคม หรืออาจเลยไปจนถึงกลางเดือนกันยายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี
- จากนั้นนำท่านสนุกสนานกับกิจกรรมขี่ม้า (HORSEBACK RIDING) ให้ท่านเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมเที่ยวชมบรรยากาศชนบทของไอซ์แลนด์บนหลังม้าไอซ์แลนดิกพันธุ์แท้ โดยม้าไอซ์แลนด์นั้นได้รับการคุ้มครองจากชาวไอซ์แลนด์เป็นอย่างดีเพราะว่าเจ้าม้าผมยาวเหล่านี้สืบเชื้อสายมาจากม้าของผู้ที่เข้ามาตั้งรกรากรุ่นแรกๆ ในช่วงศตวรรษที่ 9 จนถึงปัจจุบันม้าไอซ์แลนดิกก็ได้รับความคุ้มครองมายาวนานมากกว่า 1,000 ปีแล้ว อิสระให้ท่านทำกิจกรรมหรือถ่ายรูปกับม้า (ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.
** หากอากาศไม่เอื้ออำนวย ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์งดให้บริการ **
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านชม Solheimasandur Plane Wreck เป็นซากเครื่องบินรบของทหารเรือสหรัฐรุ่น Douglas Super DC-3 ที่เข้ามาสำรวจภูมิประเทศแถบนี้ เมื่อประมาณ 40 ปีก่อน แล้วเครื่องยนต์เกิดขัดข้อง จึงตกลงบนชายหาดทรายดำที่โซลเฮมาซานตุร์ (Solheimasandur) ทางตอนใต้สุดของไอซแลนด์ แต่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต และรัฐบาลก็ไม่ได้มีการเก็บกู้ซาก กลับปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น จนกลายมาเป็นจุดปักหมุดอันแสนโด่งดัง ตั้งอยู่ระหว่างเมืองฮวาอลส์เวิลลุร์ (Hvolsvollur) และ เมืองวิค (Vík) ซึ่งปัจจุบันก็ยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่ได้ แต่ก็กลายเป็นจุดถ่ายภาพสุดเท่ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางไปตามชายฝั่งทางใต้ของไอซ์แลนด์ ให้ท่านถ่ายรูปกับเครื่องบินนี้ตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเซลฟอส (Selfoss) เมืองประตูสู่ชายฝั่งใต้ของประเทศ (ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลา 1.20 ชม.)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
HOTEL SOUTH COAST SELFOSS หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
**** หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย และมีการพยากรณ์ว่ามีโอกาสเห็นแสงเหนือ นำท่านออกล่าแสงเหนือโดยรถโค้ช โดยปรากฏการณ์แสงเหนือ NORTHERN LIGHT (AURORA BOREALIS) เป็นปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเขตบริเวณขั้วโลกเหนือในกลุ่มประเทศที่อยู่ในเขตอาร์กติก เซอร์เคิล โดยมีประเทศ ไอซ์แลนด์ รวมอยู่ ด้วย และถือเป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้ยาก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ, ค่า KP , สถานที่เกิด , มักจะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากเป็นแสงที่มาจากช่วงชั้นบรรยากาศ โดยจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาฟ้าเปิด และอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน – กลางเมษายน ของทุกปี ****
GOLDEN CIRCLE - ซิงเควลลีร์ - น้ำตกบรัวส์ฟอสส์ - น้ำพุร้อนเกย์เซอร์ - น้ำตกกูลล์ฟอสส์ - ปากปล่องภูเขาไฟเคริด - เรคยาวิก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ, วัวและม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) (ระยะทาง 45 กม. ใช้เวลา 45 นาที) มรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึงปี ค.ศ. 1789 ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดด้านประวัติศาสตร์และด้านธรณีวิทยาเพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร
- จากนั้นนำท่านชม น้ำตกบรัวส์ฟอสส์ (Brúarfoss) น้ำตกที่มีสีฟ้าที่สุดของไอซ์แลนด์ (ระยะทาง 45 กม. ใช้เวลา 45 นาที) น้ำตกบรัวส์ฟอสส์เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งสีฟ้าสดใส “Langjökull glacier”ก่อให้เกิดเป็นแม่น้ำ Brúará และไหลมาตามร่องหินจนกลายเป็น Brúarfoss ในที่สุด อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่น้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อน หรือ เกย์เซอร์ (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาประมาณ 15 นาที)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชมน้ำพุร้อน หรือ เกย์เซอร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีย์เซอร์ Geyser ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7–10 นาที ไอซ์แลนด์เหมือนพระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างประณีต พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
- จากนั้นนำท่านชมน้ำตกกูลล์ฟอสส์ (Gullfoss) (ระยะทาง 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศและยังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่เมื่อผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยว ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่า ทองคำ และ Foss ที่แปลว่า น้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึง น้ำตกทองคำ ถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างที่ความสูงกว่า 30 เมตร
- นำท่านชมปากปล่องภูเขาไฟเคริด (Kerid Crater ) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาประมาณ 45 นาที)ในสมัยโบราณเป็นร่องรอยปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีน้ำขังตัวอยู่ใต้ดิน เป็นลักษณะภูมิประเทศที่หาชมได้ยาก ปล่องภูเขาไฟ เคริด (The Crater Kerid) มีความกว้าง 270 เมตร และความลึกถึง 55 เมตร ที่นี่มีอายุมากกว่า 3,000 ปี จะสังเกตเห็นได้ชัดว่าน้ำในทะเลสาบจะมีสีฟ้าชัดมากตัดกับสี ดิน สีแดง-ส้มของลาวา อิสระให้ท่านสามารถเดินชมรอบปล่อง
- จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเรคยาวิก (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
GRAND HOTEL REYKJAVIK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
**** หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย และมีการพยากรณ์ว่ามีโอกาสเห็นแสงเหนือ นำท่านออกล่าแสงเหนือโดยรถโค้ช โดยปรากฏการณ์แสงเหนือ NORTHERN LIGHT (AURORA BOREALIS) เป็นปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเขตบริเวณขั้วโลกเหนือในกลุ่มประเทศที่อยู่ในเขตอาร์กติก เซอร์เคิล โดยมีประเทศ ไอซ์แลนด์ รวมอยู่ ด้วย และถือเป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้ยาก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ, ค่า KP , สถานที่เกิด , มักจะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากเป็นแสงที่มาจากช่วงชั้นบรรยากาศ โดยจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาฟ้าเปิด และอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน – กลางเมษายน ของทุกปี ****
เรคยาวิก - กรุนดาร์ฟยอรด์เดอร์ - ภูเขาคีร์กจูเฟล - เรคยาวิก - โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองกรุนดาร์ฟยอรด์เดอร์ (Grundarfjordur) (ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม. ) ตั้งอยู่บริเวณ แหลมสเนลเฟลเนส (Snaefellsnes) และตั้งอยู่ระหว่างภูเขาเรียบมหาสมุทร มีทัศนียภาพและธรรมชาติที่สวยงามยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญที่ตากล้อง มืออาชีพมักมาเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติ และยังเป็นเมืองที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Little Lift of Walter Mitty อีกด้วย
- นำท่านชมความงดงาม Landmark ของเกาะ Iceland นั่นคือ ภูเขาคีร์กจูเฟล (Kirkjufell) ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร เป็นภูเขาที่มีทรงสวยงามและถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย ภูเขายังมีนํ้าตกขนาดเล็กที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วยชื่อว่า นํ้าตก Kirkjufellsfoss ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็ มีความงดงามตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงเรคยาวิค (ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลา 2.30 ชม. )นำท่านชมโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมืองที่เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นทัศนียภาพของกรุงเรกยาวิกโดยรอบ โบสถ์นี้มีความสำคัญในฐานะที่เป็น ศาสนสถาน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ สถาปนิกกุดโยน (Guðjón Samúelsson) เป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์ รวมเวลาการก่อสร้าง 38 ปีคือตั้งแต่ปีเริ่มสร้างปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986
- นำท่านอิสระช้อปปิ้ง ณ ถนนLaugavegur ถนนช้อปปิ้งสายหลักของกรุงเรคยาวิก เชิญท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
GRAND HOTEL REYKJAVIK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
**** หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย และมีการพยากรณ์ว่ามีโอกาสเห็นแสงเหนือ นำท่านออกล่าแสงเหนือโดยรถโค้ช โดยปรากฏการณ์แสงเหนือ NORTHERN LIGHT (AURORA BOREALIS) เป็นปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเขตบริเวณขั้วโลกเหนือในกลุ่มประเทศที่อยู่ในเขตอาร์กติก เซอร์เคิล โดยมีประเทศ ไอซ์แลนด์ รวมอยู่ ด้วย และถือเป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้ยาก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ, ค่า KP , สถานที่เกิด , มักจะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากเป็นแสงที่มาจากช่วงชั้นบรรยากาศ โดยจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาฟ้าเปิด และอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน – กลางเมษายน ของทุกปี ****
เรคยาวิก- ล่องเรือชมปลาวาฬ - เพอร์ลัน - แช่น้ำแร่บลูลากูน - เคฟลาวิค
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ (Husavik Whale Watching) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการชมสัตว์ทางท้องทะเล ซึ่งท่านจะได้พบกับนกทะเลชนิดต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงปลาวาฬ นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Killer Whale (Orca) , Minke Whale Humpback Whale นอกจากนั้น ท่านจะมีโอกาสได้พบ กับความน่ารักของ ปลาโลมา (Dolphin) ซึ่งจะมาว่ายน้ำหยอกล้อ ท่านอยู่ข้างเรืออย่างมากมาย ถือเป็นความน่ารักและความงดงาม ทางธรรมชาติซึ่งมีเฉพาะในดินแดนแถบนี้เท่านั้น
*** ทั้งนี้การล่องเรือชมปลาวาฬนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวันเป็นหลัก ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ยกเลิกหรือ เปลี่ยนแปลงในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ***
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านไปชม เพอร์ลัน (Perlan) เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไว้คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง โดยสถาปนิก อิงกิมูนดูร์ เป็นผู้ออกแบบอาคารรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวง ตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำมองเห็นได้ในระยะไกล โดดเด่น แบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ร้านไอศกรีม, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง, สวนน้ำ และร้านขายของที่ระลึก
- จากนั้นนำท่านชมและแช่ บ่อน้ำแร่บลูลากูน (Blue lagoon Hot Springs) บ่อน้ำพุร้อนที่เกิดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ในเขตลาวาทางตะวันตกเฉียงใต้ในประเทศอุณหภูมิเฉลี่ยของน้ำที่ 40 องศาเซลเซียส โดยน้ำในบ่อน้ำแร่อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิดมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับ โรคผิวหนัง อิสระให้ทุกท่านผ่อนคลายและพักผ่อนตามอัธยาศัย
- อิสระให้ทุกท่านผ่อนคลายและพักผ่อนตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร LAVA RESTAURANT ภายใน BLUE LAGOON
PARK INN BY RADISSON KEFLAVIK HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
เรคยาวิก - โคเปนเฮเก้น - ชมเมือง - ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้า แบบ SET BOX
- นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินเคฟลาวิก
- 07.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ค โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI204
- 12.00 น. เดินทางถึงทางอากาศนานาชาติกรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ค
รับประทานอาหารกลาง ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านชมเขตย่านท่าเรือ (Nyhavn Harbor) ที่มีอาคารบ้านเรือนตั้ง แต่ยุคคริสต์ ศตวรรษที่ 17เรียงราย ใจกลางเมืองมีสวนสนุกทิโวลี สวนสนุกที่เก่าแก่ตั้งแต่ปี 1843 ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งบันเทิงที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
- จากนั้นชม จัตุรัสกลางเมือง ภาษาเดนมาร์กเรียกว่ารอฮุดซ์แพลดเซ่น ที่จุดนี้นอกจากเป็นที่ตั้ง ศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน และยังเป็นศูนย์กลางของเส้นทางเดินรถทั่วโคเปนเฮเกนอีกด้วยมี รูปปั้นฮันส์คริสเตียน แอนเดอร์สัน กวีเอกของเดนมาร์กก็ตั้งอยู่บนจัตุรัสแห่งนี้ ทางด้านซ้ายของศาลาว่าการเมือง นำท่านช้อปปิ้งสินค้าย่านวอล์คกิ้งสตรีทหรือถนนสตรอยก์เก็ต ถนนช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดในโลกเริ่มจากศาลาว่าการเมืองไปสิ้นสุดที่ KongensNytorv ที่มีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง ร้านนาฬิกาหรูแบรนด์ดังจากสวิส,พอร์ซเลน เป็นต้นรวมทั้งห้าง ELUM ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพิเศษ เมนู SEAFOOD PLATTER
AC HOTEL BY MARRIOTT BELLA SKY COPENHAGEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
โคเปนเฮเก้น - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินโคเปนเฮเก้น
- 14.25 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951
กรุงเทพฯ - สนามบินสุวรรณภูมิ
- 06.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ