ทัวร์สเปน เส้นทางเจาะลึก สเปน โปรตุเกส



รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์สเปน เส้นทางเจาะลึก สเปน โปรตุเกส

รหัสทัวร์ : GRAND SPAIN - PORTUGAL 11 DAY (EK)
ระยะเวลา 11 วัน 8 คืน
สายการบิน :

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 16 ต.ค. 62 - 26 ต.ค. 62 129,900 บาท
2 23 ต.ค. 62 - 2 พ.ย. 62 129,900 บาท
3 6 พ.ย. 62 - 16 พ.ย. 62 125,900 บาท
4 4 ธ.ค. 62 - 14 ธ.ค. 62 125,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชมเมือง PORTO เมืองที่ได้รับการโหวตว่าน่าท่องเที่ยวที่สุดของยุโรปปี 2017
  • 2
    ชมกรุง MADRID เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวสำคัญของสเปน
  • 3
    ชมเมือง BARCELONA เมืองท่องเที่ยวสำคัญของสเปน
  • 4
    ชมเมือง LISBON เมืองท่องเที่ยวสำคัญของโปรตุเกส
  • 5
    ชมมหาวิหาร SAGRADA FAMILIA มหาวิหารสุดอลังการ ผลงานของศิลปินเกาดี้
  • 6
    ชมมหาวิหาร PENA NATIONAL PALACE @ SINTRA มหาวิหารสุดสวยแห่งเมืองซินทรา (UNESCO)
  • 7
    ชมเมือง TOLEDO อดีตเมืองหลวงเก่าของสเปนสุดสวย (UNESCO)
  • 8
    ชมป้อมปราการ ALCAZAR แห่งเมือง SEVILLE ท่องเที่ยวสำคัญของแคว้น Andalucia
  • 9
    ชม MEZQUITA สุเหร่าสุดสวย แห่งเมือง CORDOBA แห่งแคว้น Andalucia
  • 10
    ชม สะพานส่งน้ำโรมัน แห่งเมือง SEGOVIA (UNESCO)
  • 11
    ชม JERONIMOS MONASTRY มหาวิหารแห่งเมือง Lisbon
  • 12
    ชม GUELL PARK สวนสาธารณะผลงานศิลปินเกาดี้
  • 13
    ชมเมือง EVORA หนึ่งในเมืองสวยของโปรตุเกส
  • 14
    ชม CAPO DA ROCA จุดตะวันตกสุดของทวีปยุโรป
  • 15
    เข้าชม ROYAL PALACE พระราชวังหลวงสุดสวยเมืองมาดริด
  • 16
    ชมโชว์ระบำ FARMINGO

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์เจาะลึก สเปน โปรตุเกส
แกรนด์สเปน โปรตุเกส 11 วัน 8 คืน
โดยสายการบินเอมิเรสต์ (EK)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T ประตู 9-10 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส (EK)
DAY2

ปอร์โต (โปรตุเกส) - ชมเมือง - ล่องเรือ

  • 02.25 น. ออกเดินทางสู่ เมืองปอร์โต ประเทศโปรตุเกส (แวะเปลี่ยนเครื่องนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยเที่ยวบิน EK 371 /EK191  เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินฯมีบริการอาหารค่ำ
  • 14.30 น. เดินทางถึง สนามบินเมืองปอร์โต ประเทศโปรตุเกส
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง ปอร์โต (Porto) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดูว์โรทางเหนือของโปรตุเกส หนึ่งในเมืองศูนย์กลางเก่าแก่ของยุโรป  อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศโปรตุเกส และเมืองท่าที่สําคัญ และมีชื่อเสียงอย่างมาก จนองค์การยูเนสโกจึงได้ขึ้นทะเบียนเมืองปอร์โต้เป็นเมืองมรดกโลก (Unesco) ในปีค.ศ. 1996 และในปี 2014 และ2017 ยังได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกว่าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดอีกด้วย
  • นำท่านไปยังจุดชมวิว Miradouro da Serra do Pilar  ของเมืองปอร์โต้  เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวต่างมาชมความสวยงามของเมืองปอร์โต้  โดยมีสะพาน Ponte Luis I ที่สร้างขึ้นโดย Gustave Eiffel สถาปนิคชื่อดังที่ทำการออกแบบและสร้างหอไอเฟลขึ้นมาที่กรุงปารีส อยู่เบื้อหน้า
  • นำท่านเดินลงเก็บภาพบริเวณจุดชมวิวอีกแห่ง JARDIM DO MORRO ซึ่งเป็นสวนสาธารณะข้างๆ สะพานให้ท่านเดินเล่นบนสะพาน ให้ท่านเก็บภาพเมืองปอร์โต้ตามอัธยาศัย
  • นําท่านสัมผัสบรรยากาศการ ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ในแม่น้ำโดรู่(Douro) ผ่านหมู่บ้านชาวประมงอาชีพเก่าแก่ โรงไวน์ที่มีมากถึง 70 แห่ง สะพานข้ามแม่น้ำ Ponte de D.Luis I สะพานเหล็ก 2 ชั้นทีมีชือเสียงสร้างและออกแบบโดยกุสตาฟ ไอเฟล
  • อิสระให้ท่านเดินชมเมืองริมแม่น้ำโดรู่ตามอัธยาศัย  ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึก ของฝาก หรือ นั่งจิบกาแฟ ชมเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง  พร้อมชิมไวน์ Port Wine ไวน์ขึ้นชื่อของเมืองปอร์โต้
CROWN PLAZA HOTEL PORTO   หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY3

ปอร์โต -ชมเมือง - ลิสบอน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นําท่านชม เมืองปอร์โต้ ที่มาของชื่อประเทศ โดยมาจากคําว่า Portus & Cale ซึงใช้เรียกเมืองสองฝั่งแม่น้ำ Douro แล้วกลายมาเป็น Portugal (ปอร์ตูกัล) ในปัจจุบัน
  • นําท่านชม ย่านเขตท่าเรือเก่า Caise de Ribira บ้านเรือสุดคลาสสิกที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ Douro ที่ครั้งหนึงเคยรุ่งเรืองมากในอดีต ปัจจุบันได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก  นำท่านเข้าชมโบสถ์ Igreja do Carmo ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 นั้น ก็มีกำแพงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกระเบื้องวาดต่อกันเป็นรูปภาพสวยงามบอกเล่าเรื่องราวในอดีต โบสถ์ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมืองเก่าของปอร์โต้ ความสวยงามของโบสถ์แห่งนี้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปผ่านมาต้องหยุดชื่นชมความสวยงาม
  • นำท่านถ่ายรูปกับร้านหนังสือ Livaria lello ร้านหนังสือที่ติดอันดับความสวยงามระดับโลก และเป็นร้านหนังสือที่ เจ เค โรรว์ริ่ง ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบโรงเรียนพ่อมดฮอกวอร์ตในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์
  • นําท่านเข้าชม โบสถ์แซ่ (Se Cathedral หรือ Se de Porto) โบสถ์เก่าแก่ที่สุดของเมืองมีอายุกว่าพันปี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณปราสาทโบลซ่า
  • นำท่านชม Porto São Bento  สถานีรถไฟเก่าแก่ที่สวยงามแห่งหนึ่งของยุโรป จากนั้นนำท่านสู่ถนน Santa Catarina ถนนสายช้อปปิ้งสำคัญของเมืองปอร์โต้ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าทั้งแบรนด์เนมของที่ระลึกตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านเดินทางสู่กรุง ลิสบอน (Lisbon) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส เมืองลิสบอนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทิศตะวันตก ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคของคาบสมุทรไอบีเรีย
  • นําท่านบันทึกภาพกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ (Monument to the Discoveries) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสนพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์
  • แวะถ่ายรูปกับ หอคอยเบเล็ง (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำาเพือเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก เป็นจุดเริ่มต้นของ การเดินเรือออกไปสํารวจ และค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
DOUBLE TREE BY HOTEL LISBON หรือระดับเทียบเท่า   4  ดาว  (พัก 2 คืนสบายๆ )

DAY4

กรุงลิสบอน - แหลมโรก้า - ซินทรา – พระราชวังพีน่า - ลิสบอน -มหาวิหารเจอโรนิโม - MIRADOURO DAS PORTAS DO SOL

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่ แหลมโรก้า (Capo Da Rocca) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุดแผ่นดินทางตะวันตกของยุโรป โดยมีหน้าผาและประภาคารริมมหาสมุทรแอตแลนติคเป็นแลนด์มาร์ค ให้ท่านได้เก็ยภาพความประทำใจหรือท่านใดสนใจสามารถเลือกซื้อใบประกาศนียบัตร ว่าได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้แล้ว
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง ซินทรา (Sintra) เมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงามที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก (UNESCO)  ความร่มรื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมืองเป็นอีกเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นของแคว้นแกรนด์ลิสบัว ประเทศโปรตุเกส
  • นำท่านเข้าชม พีน่า พาเลซ (Pena National Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้า โดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส ส่วนใกล้ๆกับพระราชวังจะเป็นพีน่าพาร์ค (Pena Park) สวนป่าขนาดใหญ่ ที่มีการจัดแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด
  • จากนั้นให้ท่านชมความเก่าแก่และสวยงามของเมืองซินตร้า ถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญเช่น พระราชวังซินทรา อิสระเดินเล่นชมเมืองตามอัยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านเดินทางกลับสู่กรุงลิสบอน
  • นำท่านเข้าชม มหาวิหารเจอโรนิโม (Jeronimos Monastry) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโกดา กามา ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสําเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงาน สถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วจึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก (UNESCO)
  • นำท่านสู่ย่าน AUGUST STREET  ถนนย่านช้อปปิ้งสำคัญของกรุงลิสบอน อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
  • นำท่านเก็บภาพความประทับใจของเมืองจากจุดชมวิว Miradouro das Portas do Sol  หนึ่งในจุดชมวิวที่สวยงามท่านจะมองเห็นตัวมืองลิสบอน โดยด้านหน้ามีทะเล และ สะพาน Ponte 25 de April  สะพานที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1966 รูปร่างหน้าตาคล้ายกับสะพานโกเด้นเกทที่เมืองซานฟรานฯ  สหรัฐอเมริกา  ให้ท่านเก็บภาพความประทับตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
DOUBLE TREE BY HOTEL LISBON หรือระดับเทียบเท่า   4  ดาว

DAY5

ลิสบอน - เอโวร่า - เซวิลญ่า - ชมโชว์

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองเอโวร่า (EVORA )เป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม (Unesco) เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ขอโปรตุเกส เป็นเมืองที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมตั้งแต่สมัยโรมันจนกระทั้งถึงยุคกลางไว้ได้อย่างดี
  • นำท่านชมเมือง เอโวร่า ให้ท่านถ่ายรูปกับ วัดแห่งโรมันเอโวร่า (Roman temple)  ถ่ายรูปกับโบสถ์เซนต์ฟรานซิส (St.Francis Church) โบสถ์เก่าแก่ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 15
  • นำท่านเข้าสู่จตุรัสกิรัลโด (Giraldo Square) ศูนย์กลางที่สำคัญของเมืองและเป็นที่ตั้งของลานน้ำพุที่สร้างแบบศิลปะยุคเรอเนสซอง ในศตวรรษที่ 16 อิสระให้ท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมือง เซวิลญ่า (Seville) ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นอันดาลูเซีย เป็นเมืองที่มีมรดกทางวัฒนธรรม เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีพื้นที่โล่งสวนสาธารณะและสวนดอกไม้ งานเทศกาลที่จัดขึ้นในเมืองเซบีญ่าได้รับการกล่าวขานมากที่สุด เนื่องจากเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวามากที่สุดในแคว้นอัลดาลูซีย เมืองนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของแขกมัวร์มานานกว่า 800 ปี จึงได้รับอิทธิพลศิลปะแบบแขกมัวร์ค่อนข้างมาก ระหว่างให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง
  • นำท่านเข้าสู่แลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่ง Plaza De Espana  จตุรัสอันใหญ่โตและงดงามประจำเมืองและติดอันดับจตุรัสที่สวยที่สุดในยุโรป สร้างขึ้นในปี 1928 ปัจจุบันเป็นที่นับพบปะของชาวเมือง เดินเล่น ช้อปปิ้ง และจตุรัสแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง Starwars อีกด้วย  อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง พร้อมชมโชว์ระบำฟลามิงโก FRAMINGO อันเลื่องชื่อ

MELIA HOTEL SEVILLE  หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว 

DAY6

เซวิลญ่า -มหาวิหารเซวิลญ่า - หอคอยกิร์ลด้า - ป้อมอัลคาซาร์ - คอร์โดบา - มัสยิดเมซกีต้า

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเข้าชม มหาวิหารแห่งเมืองเซวิลญ่า (Catherdral) ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสาม รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม และเซนต์ปอลที่ลอนดอน และใหญ่ที่สุดในสเปน สร้างด้วยศิลปะแบบโกธิค ภายในตกแต่งได้อย่างวิจิตรตระการตา สร้างขึ้นแทนที่ตั้งของสุเหร่าเดิม โดยต้องการให้ยิ่งใหญ่แบบไม่มีใครเทียบเทียมได้ ในห้องเก็บทรัพย์สมบัติล้ำค่า มีทั้งภาพเขียน เครื่องใช้ในศาสนพิธี ที่ทำมาจากทองคำและเงินล้วนแต่ประเมินค่ามิได้ ตอนกลางโบสถ์เป็นที่ตั้งของสุสาน คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งสร้างอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติยศ
  • นำท่านถ่ายรูปกับ หอคอย กิร์ลด้า (Giralda Tower) หอศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นโดยชาวมุสลิม เป็นตึกทรงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง 93 เมตร ติดกันกับมหาวิหารเป็นลานส้มและน้ำพุ เพื่อใช้ในพิธีชำระร่างกายของชาวมุสลิม

( ท่านไหนมีความประสงค์จะขึ้นหอคอยชมวิว กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์ ไม่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุ)

  • นำท่านเข้าชม ป้อมอัลคาซาร์ (Alcazar) หรือพระราชวังที่ประทับของสุลต่านที่มีการตกแต่งด้วย สถาปัตยกรรมแบบมัวริช ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ได้อย่างวิจิตรบรรจงสวยงามยิ่งนัก ปัจจุบันยังเป็นที่ประทับของราชวงศ์แห่งสเปน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง คอร์โดบา (Cordoba) ครั้งหนึ่งเคยถูกครอบครองโดยชาวโรมันและชาวมัวร์จากอาหรับ เมืองคอร์โดบาตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดัลกีเบีย เป็นเมืองศูนย์กลางของวัฒนธรรมมุสลิมในประเทศสเปน องค์การยูเนสโกได้ประกาศให้เมืองคอร์โดบาเป็นเมืองมรดกโลก ของประเทศสเปน เมืองนี้เป็นเมืองในระบบกาหลิบที่มีความเจริญรุ่งเรืองที่สุดของยุโรปในสมัยศตวรรษที่ 10 มีการสร้างมหาวิทยาลัยเน้นการเรียนรู้ด้านวรรณกรรมวิทยาศาสตร์ ปรัชญาและการแพทย์
  • นำท่านเข้าชม มัสยิด (สุเหร่า) เมซกีต้า (Mezquita)ที่มีขนาดใหญ่โตและออกแบบอย่างวิจิตร ด้วยการใช้เสาหินจำนวนมากถึง 850 ต้น ต่อยอดเสาด้วยโครงสร้างคานโค้งแบบศิลปะโรมัน ผสมกับลวดลายแบบมัวริช ประดับด้วยเครื่องกระเบื้องเคลือบ อิฐ และหินฉลุลาย ทั่วทั้งอาคาร ด้านในสุดของมัสยิดจะสร้าง “มีหรับ” อันเป็นครื่องหมายแสดงทิศทางของเมืองเมกกะ ต่อมาเมื่อชาวคริสต์เข้ามายึดครองเมืองคอร์โดบา จึงได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นบริเวณกึ่งกลางของมัสยิด และสร้างหอระฆังสูง 93 เมตร ขึ้นในบริเวณสวนส้มและลานน้ำพุ
  • แวะถ่ายรูปกับสะพานโรมันโบราณPuento romano อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
  NH HOTEL CORDOBA หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY7

คอร์โดบา - โทเลโด - มหาวิหารโทเลโด - กรุงมาดริด

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง โทเลโด (Toledo) อดีตเมืองหลวงเก่าของสเปนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลามและฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโค (Tajo) ซึ่งเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก ให้ท่านชื่นชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเที่ยวชมเมือง ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการ ขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง
  • นำท่านสู่เขตเมืองเก่า ผ่านประตูเมือง ปูเอร์ตาเดบิซากรา 1 ในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด นำท่านชมการผสมผสานของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดฆาร์โกธิค และเรอเนสซองส์
  • นำท่านเข้าชม มหาวิหารโทเลโด (Toledo Cathedral) สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนานแต่เดิมชาวมุสลิมใช้เป็นสุเหร่า ต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา ภายในมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน มุมด้านในเป็นอัลคาซาร์ ผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน หมายเหตุ : หากทางโบสถ์มีพิธีสำคัญ จะงดให้เข้าชมภายในจะให้ชมเพียงด้านนอกเท่านั้น
  • นำท่านแวะถ่ายรูปบริเวณจุดชมวิวเพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโทเลโด ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปน เอล เกรโก (Ei Greco) ได้เคยจำลองลงบนแผ่นภาพอย่างสวยงาม
  • นำท่านเดินทางสู่ กรุงมาดริด (MADRID) เมืองหลวงของประเทศสเปนเป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ มาดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
PUERTA  AMERICA  MADRID หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว (พัก 2 คืนสบายๆ )

DAY8

เซอโกเบีย – มาดริด - ชมเมือง

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นําท่านเดินทางสู่เมือง เซอโกเบีย (Segovia) เมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งของสเปน และยังได้รับการขึ้นทะเบียน (UNESCO) ยังได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1985
  • ชมรางส่งน้ำโรมัน (Acueducto de Segovia) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 โดยไม่มีการใช้กาวหรือวัสดุเชื่อมหิน แต่ละก้อนแต่อย่างใด จึงได้ รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมโดยชาวโรมันที่สำคัญที่สุดของสเปน และยังมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย รางส่งน้ำาประกอบขึ้นจากหินแกรนิตกว่า 25,000 ก้อน มีความยาว 818 เมตร มีโค้ง 170 โค้ง จุดที่สูงที่สุดสูงถึง 29 เมตร จุดเริ่มต้นของราง ส่งน้ำตั้งแต่นอกเมือง แล้วลําเลียงส่งน้าเข้ามาในเมือง รางส่งน้ำแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซอโกเบีย และเป็นไฮไลท์หลักของเมือง
  • นําท่านเดินเล่นในเขตเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิดตลอดสองข้างทาง อิสระให้ท่านเดินตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง พิเศษ เมนูหันสเปน

  • นำท่านเดินทางสู่ กรุงมาดริด (MADRID)เมืองหลวงของประเทศสเปนเป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ มาดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
  • นำท่านแวะถ่ายรูปด้านนอกกับสนาม Santiago Bernabeu สนามเหย้าของ Real Madrid สร้างเสร็จเเละเปิดใช้ครั้งเเรกเมื่อปี ค.ศ. 1944 ซึ่งเเต่เดิมนั้นมีชื่อว่า เอสตาดีโอชามาร์ติน ตามชื่อของสโมสรเรอัล มาดริด เดิม เเละเริ่มใช้ทำการเเข่งขันอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1947 ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อของสนามเป็น ซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว ในปี ค.ศ.1955 เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานสโมสร คือ ซานดิเอโก้ เบอร์นาบิว เยสเต โดยสนามเเห่งนี้นั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นสนามฟุตบอลที่สามารถจุเเฟนบอลได้ถึง 120,000 คนเลยทีเดียว หลังจากมีการปรับปรุงใหม่ในปี ค.ศ.1953 ก่อนที่ความจุของสนามจะลดลงเนื่องจากการยกเลิกตั๋วยืนเชียร์จากเหตุการณ์เเฟนบอลเหยียบกันตายที่สนามฮิลโปโร่ จนในปัจจุบันหลังจากที่มีการปรับปรุงสนามใหม่ให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นเเล้วก็มีจำนวนที่นั่งอย่างเป็นทางการที่ 80,400 ที่นั่ง โดยสนามเเห่งนี้ได้รับเลือกให้ใช้ในเเมทช์การเเข่งขันสำคัญๆ ทั้ง ยูโรเปียนคัพรอบชิงชนะเลิศถึง 3 ครั้งด้วยกันคือๆในปี ค.ศ. 1957, ค.ศ. 1969 และ ค.ศ. 1980 ส่วนในรายการยูโรเปียนแชมเปียนชิพรอบชิงชนะเลิศในปี ค.ศ. 1964 เเละที่สำคัญที่สุดคือใช้ในเเมทช์ชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1982 ที่สเปนเป็นเจ้าภาพอีกด้วย อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก
  • นำท่านผ่านชมน้ำพุไซเบเลส (Cibeles Fountain) ที่สร้างอุทิศให้แก่เทพธิดาไซเบลีน ใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆของเมือง และอาคารสวยงามใกล้ๆกันคือที่ทำการไปรษณีย์
  • ผ่านชมประตูชัยอาคาล่า (Puerta De Alcala) ที่สร้างถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3
  • นำท่านเข้าสู่ พลาซ่า มายอร์ (Plaza Mayor) ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือประตูพระอาทิตย์ซึ่งเป็น จัตุรัสใจกลางเมือง จุดนับกิโลเมตรแรกของสเปน (กิโลเมตรที่ศูนย์) ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดินและรถเมล์ทุกสาย และยังเป็นจุดตัดของถนนสายสำคัญของเมือง ที่หนาแน่นด้วยร้านค้าและห้างสรรพสินค้าใหญ่อีกด้วย
  • แวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
PUERTA AMERICA HOTEL MADRID หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว   

DAY9

มาดริด –พระราชวังหลวง - นั่งรถไฟความเร็งสูง AVE - บาร์เซโลน่า - นั่งกระเช้า - มองต์จูอิค

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวง (Royal Palace) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นคลังเก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆอาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ
  • นำท่านชม อุทยานหลวง ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี
  • ชม อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ ในสวนสาธารณะ

หมายเหตุ : หากพระราชวังหลวงปิด ซึ่งทางพระราชวังจะไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า บริษัทจะจัดให้ท่านได้เข้าชม พระราชวัง ฤดูร้อน อรานคูเอซ (Placio Real De Aranjuez) แทน ซึ่งพระราชวังดังกล่าว เป็นอดีตพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์สเปน สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แทน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • บ่าย นำท่านนั่งรถไฟความเร็วสูง AVE จากมาดริด – บาเซโลน่า   ใช้เวลาเดินทางประมาณ   3  ชม.

** ระยะทางจาก มาดริด – บาเซโลน่า ระยะทาง 650 กิโลเมตร  หากเดินทางด้วยรถบัสท่านจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 วัน (ต้องแวะข้างคืนที่เมือง ซาราโกซ่า 1 คืน) การนั่งรถไฟจึงประหยัดเวลาและสะดวกสบายมาก

  • เดินทางถึงสถานีรถไฟเมืองบาเซโลน่า  ** หมายเหตุ :  รอบรถไฟอาจมีการเปลี่ยนแปลง**
  • นำท่านชม  กรุงบาร์เซโลน่า (Barcelona) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน และเป็นท่าเรือสำคัญที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมหลากยุคสมัย มีสวนสาธารณะสิ่งแวดล้อมและการวางผังเมืองที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ชมผลงานก่อสร้างในศิลปะแบบอาร์ตนูโว ที่แสดงความงดงามอย่างมีชีวิตชีวา โดยฝีมือของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่นาม อันโตนีโอ เกาดี้ (Antonio Gaudi) ผู้ที่ทำให้เมืองบาร์เซโลนาได้รับฉายาว่า “City of Gaudi”
  • นำท่านนั่งกระเช้าเพื่อ ชมทิวทัศน์บนเนินเขา มองต์จูอิค ( Mont Juic ) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของเมืองบาร์เซโลน่า เป็นเนินเขาในบาร์เซโลน่าที่มีทัศนียภาพอันงดงาม ทางด้านตะวันออกของเนินเขายังมีหน้าผาสูงชันซึ่งทำหน้าที่เป็นดั่งกำแพงเมือง ส่วนด้านบนนั้นเป็นที่ตั้งของป้อมปราการหลายแห่ง ซึ่งในปัจจุบันที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ได้แก่ Palau Nacional ที่มีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอบาโรก ซึ่งแต่เดิมนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดนิทรรศการต่าง ๆ และปัจจุบันมันได้กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของบาร์เซโลน่าที่ทุกคนจะต้องแวะมาแชะภาพคู่กับมันด้วย และด้านหน้ายังมีน้ำพุ Font Magica de Montjuic ที่นักท่องเที่ยวต่างถ่ายรูป นอกจากนี้ Montjuïc ยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี ค.ศ. 1992 ด้วยอิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

 HILTON BARCELONA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว   

DAY10

บาร์เซโลน่า – สวนสาธารณะกูเอล - มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย – ช้อปปิ้ง - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเข้าชมสวนสาธารณะกูเอล” (Guell Park) ณ เชิงเขาคาร์เมล อันเป็นผลงานในปี ค.ศ. 1900 ของ “เกาดี้” ซึ่งใช้เวลาออกแบบตกแต่ง และเนรมิตร ความยิ่งใหญ่ของจินตนาการ ที่นำมาประยุกต์กับธรรมชาติ อย่างยาวนานถึง 14 ปี เพลิดเพลินกับจุดชมวิวบน ระเบียงนั่งเล่น (Serpentine Bench) ที่ประดับตกแต่งลวดลายด้วยกระเบื้องโมเสกนับล้านชิ้น สวนลอยฟ้าที่มี “เสาโดริก” รองรับอย่างสวยงาม ชมประติมากรรม “มังกรโมเสก” Mosaic Dragon ไต่คลานบนบันไดน้ำพุ เป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
  • นำท่านเข้าชม มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงาน ชิ้นอื่นของเกาดี้ ตรงสีสันอันเรียบนิ่งแบบโทนสีธรรมชาติ ให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลายและเยือกเย็น เพราะความที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และยังคงรายละเอียดไว้อย่างดี ดูจากลวดลายสลักเสลาที่ด้านนอกตัวโบสถ์และภายใน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาในศาสนาอย่างท่วมท้น สมกับเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาอุทิศตนให้กับศาสนจักร ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ยังคงดำเนินการก่อสร้าง และ คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ใน ปี ค.ศ. 2026
  • อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารที่ยังไม่แล้วเสร็จแห่งนี้

หมายเหตุ : หากตรงกับพิธีหรืองานสำคัญ ทางวิหารจะให้ถ่ายรูปเฉพาะด้านนอกวิหารเท่านั้น

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • นำท่านแวะถ่ายรูปกับ Place de Catalunya ซึ่งเป็นจุดนัดพบของบาร์เซโลน่าที่เชื่อมเมืองเก่ากับเมืองใหม่ไว้ด้วยกัน จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับอาคาร Casa Milà ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1906 เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของอันตอนี เกาดี
  • นำท่านสู่ถนน Passeig de Gracia  ถนนสายช้อปปิ้งที่สำคัญและดีที่สุดในเมืองบาเซโลน่าโดยสองข้างทางจะเต็มไปด้วย shop สินค้าทั้งแบรนด์ไฮเอน และแบรนด์ท้องถิ่น เช่น Chanel ,Louis Vuitton, Gucci ,Burberry, Zara , H&M  เป็นต้น และถนนนี้ยังเชื่อมต่อกับ ถนนลารัมบลา(La Rambla)  ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตร แต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน
  • อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

 ****อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัยเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง****

  • ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน  เพื่อมีเวลาให้ท่านทำ Tax Refund
  • 22.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ  โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK188 / EK372 (แวะเปลี่ยนเครื่องนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) 
DAY11

สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ

  • 19.15 น. เดินทางถึงสานามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน