ทัวร์ไอซ์แลนด์ (วงใหญ่รอบเกาะ + ล่าแสงเหนือ)
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ไอซ์แลนด์ (วงใหญ่รอบเกาะ + ล่าแสงเหนือ)
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 20 มี.ค. 63 - 30 มี.ค. 63 | 169,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1สนุกสนานกับการขับ SNOW MOBILE ตะลุยหิมะ
- 2สนุกสนานกับกิจกรรม WHALE WATCHING ล่องเรือชมปลาวาฬกลางทะเล
- 3แช่บ่อน้ำแร่ BLUE LAGOON บ่อน้ำแร่ชื่อดังของโลก
- 4ชมภูเขา KIRKJUFELL ภูเขารูปหมวกอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของไอซ์แลนด์
- 5ชมน้ำตก SKOGAFOSS , SELJALANDSFOSS หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของไอซ์แลนด์
- 6ชมน้ำตก GODAFOSS เป็น 1 ใน 3 ที่ใหญ่และงดงามที่สุดในไอซ์แลนด์
- 7ชมน้ำตก DETTIFOSS น้ำตกที่ใหญ่และไหลแรงที่สุดในยุโรป
- 8ชมทะเลสาบธารน้ำแข็ง JOKULSARLON ที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์และยุโรป
- 9ชมชายหาดสีดำ VIK หนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในโลก
- 10ชมอุทยาน PINGVELLIR อุทยานแห่งชาติได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก
- 11ชมถ้ำ ICE CAVE ถ้ากราเซียสุดมหัศจรรย์
- 12ชมชายหาด DIAMOND BEACH ชายหาดน้ำแข็ง
- 13ชม DEILDARTUNGUHVER HOT SPRING บ่อน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์
- 14ชม MYVATN LAKE ทะเลสาบสีฟ้าที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟรอบๆ
- 15ชมหมู่บ้านประมง ARNARSTAPI หมู่บ้านเล็กๆ น่ารัก
- 16ชมเมือง REYKJAVIK เมืองหลวงแสนสวยของประเทศไอซ์แลนด์
- 17สนุกสนานกับการขี่ม้าไอซ์แลนด์
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพมหานคร
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ G สายการบินฟินแอร์ (AY) พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
- 23.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 144
เฮลซิงกิ - เรคยาวิก (ไอซ์แลนด์) - เรย์คอลท์ - น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ - บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ - อาร์นาร์สตาปิ - ภูเขาคีร์กจูเฟล - สไตคิซอมอร์
- 05.55 น. เดินทางถึงทางอากาศนานาชาติเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
- 07.45 น. ออกเดินทางสู่ เรคยาวิก (Reykjavik) ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 991
- 08.35 น. ถึงสนามบินเคฟลาวิก (Keflavik International Airport) กรุงเรคยาวิก เมืองที่ได้รับสมญานามว่า อ่าวแห่งควัน เนื่องจากควันไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน
- นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ (Hraunfossar) เป็นน้ำตกที่อยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านเรย์คอลท์ (Reykholt) เมืองบอร์การ์ดิก (Borgarbyggd) ทางตะวันตกของไอซ์แลนด์ และอยู่ถัดจากบ่อน้ำพุร้อน Deildartunguhver ไปประมาณ 20 กิโลเมตร ความพิเศษของน้ำตกแห่งนี้คือเป็นน้ำตกที่ไม่ได้ไหลลงมาจากหน้าผาตรงๆ เหมือนน้ำตกแห่งอื่นๆ แต่เป็นน้ำตกที่ประกอบด้วยสายน้ำเล็กๆ ซึ่งเกิดจากแหล่งน้ำผิวดิน รวมกับน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็ง ไหลผ่านชั้นหินต่างๆ ของทุ่งหินลาวาที่ชื่อ Hallmundarhraun ลงไปสู่แม่น้ำควิทอา (Hvítá) ตามสายธารของแม่น้ำ น้ำตกฮรวนฟอสซาร์ จึงมีชื่อเรียกเป็นภาษาอังกฤษอีกชื่อหนึ่งว่า Lava waterfalls หรือน้ำตกลาวา โดยน้ำที่มีปริมาณมากของน้ำตกแห่งนี้ส่วนหนึ่งเป็นน้ำที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง Langjokull ซึ่งเป็นต้นน้ำด้วย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ บ่อน้ำพุร้อนเดลดาร์ตุงกูเวอร์ (Deildartunguhver) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านเรย์คอลท์ เป็นบ่อน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในประเทศ และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ไหลเร็วที่สุดในยุโรป อุณหภูมิน้ำสูงสุด 97 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ ปริมาณน้ำที่ไหลออกมาจากใต้ดินยังมีมากถึง 180 ลิตรต่อวินาที
- นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านชาวประมงอาร์นาร์สตาปิ (Arnarstapi) หมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ หน้าตาน่ารักในเขต West Iceland บนคาบสมุทร Snæfellsnes peninsula เดิมเคยเป็นสถานีการค้าที่สำคัญในอดีต เพราะมีอ่าวที่เป็นท่าเรือธรรมชาติ และเคยมีผู้คนอาศัยอยู่เป็นจำนวนที่มากกว่าในปัจจุบัน หมู่บ้านแห่งนี้มีทัศนียภาพแปลกตาของธารลาวาที่ถูกบีบอัดเป็นหินบะซอลต์ที่ถูกกัดกร่อนด้วยน้ำทะเล เกิดเป็นหินโค้งมีชื่อเรียกว่า แกทเคล็ตเตอร์ (Gatklettur – Arch Rock) ซึ่งแตกออกเป็นสามส่วนรียกว่า คันดักย่า (Hundagja) มิดย่า (Midgia) และมูซากย่า (Mussagia) ซึ่งทั้งหมดนี้ก่อตัวขึ้นจากพลังของธรรมชาติ
- นำท่านเดินทางสู่เมืองกรุนดาร์ฟยอรด์เดอร์ (Grundarfjordur) ตั้งอยู่บริเวณ แหลมสเนลเฟลเนส (Snaefellsnes) และตั้งอยู่ระหว่างภูเขาเรียบมหาสมุทร มีทัศนียภาพและธรรมชาติที่สวยงามยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญที่ตากล้อง มืออาชีพมักมาเก็บภาพความสวยงามของธรรมชาติ และยังเป็นเมืองที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Little Lift of Walter Mitty อีกด้วย
- นำท่านเข้าชมความงดงาม Landmark ของเกาะ Iceland นั่นคือ ภูเขาคีร์กจูเฟล (Kirkjufell) ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร เป็นภูเขาที่มีทรงสวยงามและถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย ภูเขายังมีนํ้าตกขนาดเล็กที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วยชื่อว่า นํ้าตก Kirkjufellsfoss ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี
- นำท่านเดินทางสู่ที่พัก เมืองสไตคิซอมอร์ (STYKKISHÓLMUR) เมืองในแคว้น Vesturland ด้านเหนือของคาบสมุทร Snæfellsnes ทางตะวันตกของประเทศไอซ์แลนด์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
FOSSHOTEL STYKKISHÓLMUR หรือระดับเทียบเท่า
สไตคิซอมอร์ – เลาการ์บากกิ - Horse Riding – GLAUMBAER MUSEUM - อาคูเรย์รี่ - พิเศษนำท่าน ออกล่าแสงเหนือ !!!
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองเลาการ์บากกิ (LAUGARBAKKI)
- นำท่านสนุกสนานกับกิจกรรมการขี่ม้า (Horse Riding) ม้าไอซ์แลนด์ เรียกว่า Icelandic horse เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่สุดในโลก เพราะไม่มีการผสมข้ามสายพันธ์จากที่อื่น (ใช้เวลาประมาณ 45 นาที)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน Glaumbaer Folk Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดง งานศิลปะหัตกรรมพื้นบ้านของชาวไอซ์แลนด์ รวมถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศไอซ์แลนด์อีกด้วย
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) เมืองใหญ่อันดับสองของไอซ์แลนด์ และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์อีกด้วย บ้านเรือนถูกปลูกสร้างจากไม้ทาสีสันสดใสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ บ้างก็ปลูกบนเนินลาดชันซึ่งมีภูมิศาสตร์อยู่ติดภูเขาแต่จัดตั้งเป็นระเบียบอย่างลงตัว ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของไอซ์แลนด์ ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าไม่มีต้นไม้สูง มีผืนหญ้าและต้นมอสหลากสีสุดสายตา สวยงามมาก เมืองอาคูเรย์รี่มีแม่น้ำโครสซาเนสบอร์เกียร์ (Krossanesborgir) เป็นแม่น้ำสายสำคัญของเมืองไหลผ่าน นำท่านชมบ้านเรือนที่จัดแผนผังเมืองเมืองอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม นำท่านชม โบสถ์อาคูเรย์รี่ เป็นสัญลักษณ์ของเมือง เป็นโบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน ออกแบบโดยสถาปนิก Gudjon Samuelsson สร้างปี 1940 หน้าต่างกระจกสีกลางเหนือแท่นบูชาสวยงามมาก ภาพแกะสลักนูนบนระเบียงโดยประติมากรแสดงการบัพติสมา
- นำท่านสู่ถนนคนเดินเกเรอโตรกาตา (Gerartogata) อิสระให้ท่านช้อปปิ้งบนถนนสายช้อปปิ้งของเมืองอาคูเรย์รี่
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
KEA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
**** นำท่านออกล่าแสงเหนือ โดยปรากฏการณ์แสงเหนือ NORTHERN LIGHT (AURORA BOREALIS) เป็นปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเขตบริเวณขั้วโลกเหนือในกลุ่มประเทศที่อยู่ในเขตอาร์กติก เซอร์เคิล โดยมีประเทศ ไอซ์แลนด์ รวมอยู่ ด้วย และถือเป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้ยาก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ, ค่า KP , สถานที่เกิด , มักจะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากเป็นแสงที่มาจากช่วงชั้นบรรยากาศ โดยจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาฟ้าเปิด และอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน – กลางเมษายน ของทุกปี – หากไม่สามารถ ออกล่าได้ ทางบริษัทคืนเงินท่านละ 30 ยูโร ****
อาคูเรย์รี่ – ฮูซาวิค - ล่องเรือชมปลาวาฬ - น้ำตกโกดาฟอสส์ – ดิมมูโบร์กีร์ - ทะเลสาบมายด์วัทท์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองฮูซาวิค (HUSAVIK)
- นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ (Husavik Whale Watching) ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการชมสัตว์ทางท้องทะเล ซึ่ง ท่านจะได้พบกับนกทะเลชนิดต่าง ๆ มากมาย รวมไปถึงปลาวาฬ นานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ Killer Whale (Orca) , Minke Whale Humpback Whale นอกจากนั้น ท่านจะมีโอกาสได้พบ กับความน่ารักของ ปลาโลมา (Dolphin) ซึ่งจะมาว่ายน้ำหยอกล้อ ท่านอยู่ข้างเรืออย่างมากมาย ถือเป็นความน่ารักและความงดงาม ทางธรรมชาติซึ่งมีเฉพาะในดินแดนแถบนี้เท่านั้น นำท่านสนุกสนานกับกิจกรรมการล่องเรือชมปลาวาฬกลางทะเล ซึ่งท่านมีโอกาสเห็นวาฬมิงค์ สูงถึง 90 % (ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกโกดาฟอสส์ (Godafoss) หรือที่รู้จักในนามน้ำตกของพระเจ้า เป็นน้ำตกที่มีความงดงามและใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 3 ของประเทศ โดยมีความสูง 12 เมตร กว้าง 30 เมตร ตั้งอยู่ในเขตทะเลสาบมีวัทน์ (Myvatn Lake) ซึ่งไม่ไกลจากภูเขาไฟคลาฟฟา (Krafla volcano) นัก น้ำตกแห่งนี้ถูกค้นพบเมื่อ 1,000 ปีก่อนคริสตกาลโดยนักบุญชาวคริสต์ เล่ากันว่า ในอดีตเมื่อรัฐสภาไอซ์แลนด์ได้ยอมรับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติ ผู้ประกาศตรากฎหมายเดินทางกลับบ้านผ่านบริเวณน้ำตกและได้ทิ้งรูปสลักพระเจ้าต่างๆ ของชาวนอร์ส (Norse) ลงไปในแม่น้ำ จึงทำให้น้ำตกนี้ได้ชื่อว่า “น้ำตกของพระเจ้า” โดย Goda มาจากคำว่า God ส่วน Foss หมายถึงน้ำตกในภาษาไอซ์แลนด์ สายน้ำตกของโกดาฟอสส์มีลักษณะโค้งเป็นครึ่งวงกลม และไหลตกลงมายังแอ่งตรงกลาง ในแต่ละฤดูกาลน้ำตกแห่งนี้จะมีความงามแตกต่างกัน น้ำตกแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยงามที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์
- นำท่านชม ดิมมูโบร์กีร์ (Dimmuborgir) หรือที่แปลว่า ปราสาทดำ พื้นที่ซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟครั้งใหญ่ในอดีตกาลราว 2,000 ปีก่อน ธารลาวาที่ไหลปกคลุมพื้นที่เมื่อโดนอากาศและน้ำที่เย็นจัด จึงทำให้พื้นที่โดยรอบกลายเป็นดินภูเขาไฟ และหินภูเขาไฟรูปทรงประหลาดต่างๆ ชาวพื้นเมืองเชื่อว่าดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่เชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์และดินแดนใต้พิภพ
- นำท่านชมทะเลสาบมายด์วัทท์ (Myvatn Lake) ทะเลสาบสีฟ้ากินพื้นที่ราว 37 ตารางกิโลเมตร นับเป็นทะเลสาบที่ใหญ่อันดับที่ 4 ของไอซ์แลนด์ เป็นแอ่งเกิดจากรอยแยกคราฟล่าฟอล์ทที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟรอบๆในอดีตกาล อยู่ในหมู่บ้านเรย์คยาห์โล และยังเป็นแหล่งอุทยานนกน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก จนรัฐบาลประกาศให้เป็นเขตสงวนอนุรักษ์นกเลยทีเดียว
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
FOSSHOTEL MYVATN หรือระดับเทียบเท่า
มายด์วัทท์ - น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ – เอกิลสตาดีร์ - เบรียดดัลซาวิก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ (Dettifoss) เป็นน้ำตกที่ใหญ่และไหลแรงมากที่สุดของยุโรป เป็นอีกจุดที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกเมื่อไปเยือนไอซ์แลนด์ และน้ำตกแห่งนี้ยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพยนตร์อันโด่งดังเรื่อง Prometeus อีกด้วย น้ำตกเดตตี้ฟอสส์ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) อุทยานแห่งนี้เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยเป็นพื้นที่ที่ได้รวมเอาอุทยานแห่งชาติสกาฟทาเฟล (Skaftafell National Park) และอุทยานแห่งชาติ Jokulsargljufur เข้าด้วยกัน ความน่าตื่นตาตื่นใจของน้ำตกที่ทรงพลังแห่งนี้คือภาพของน้ำตกที่กำลังไหลลงมาจากชั้นน้ำตกที่ไหลลงมาจากขอบหน้าผาอันกว้างใหญ่และแสนอลังการ โดยน้ำตกมีความกว้างราว 100 เมตร สายน้ำที่ไหลจากน้ำตกจะไหลลดหลั่นลงไปในหุบเหว Jokulsargljufur ที่อยู่ลึกลงไปอีกราวๆ 45 เมตร นับเป็นภาพที่สวยงามตระการอย่างยิ่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวยังจะสามารถมองเห็นละอองน้ำที่สาดกระเซ็นขึ้นสู่ท้องฟ้าจากระยะไกลหลายกิโลเมตรอีกด้วย
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอกิลสตาดีร์ (Egilsstaðir) ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในฟยอร์ดทางตะวันออก และเมืองนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับป่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ที่ชื่อว่า ฮาลอร์มสตาร์ดาสโกการ์ (Hallormsstaðaskógar) และทะเลสาบลาการ์ฟโลย์ท (Lagafljót) ที่เป็นถูกกล่าวขานถึงในตำนานว่าเป็นที่อยู่ของสัตว์ประหลาดในน้ำ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเบรียดดัลซาวิก (Breiddalsvik) ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลโดยระหว่างทางเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามไม่ว่าจะเป็นลาวาของภูเขาไฟ น้ำตกหลากหลายสาย และสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ระหว่างสองข้างทาง เชิญท่านอิสระเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
BLAFELL HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
เบรียดดัลซาวิก – อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล – โจกุลซาลอน - ICE CAVE - Ice Beach - คีร์กจูแบจาร์เคลาส์ตูร์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติวัทนาโจกุล (Vatnajökull National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไอซ์แลนด์ (Iceland) รวมความสวยงามทางธรรมชาติหลายๆ อย่างไว้ด้วยกันทั้งน้ำตก ชายหาดสีดำและธารน้ำแข็งสีขาว ธารน้ำแข็งวัทนาโจกุล Vatnajökull ธารน้ำแข็งหิมะที่มีอายุมากกว่า 1,000 ปี เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ และเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยธารน้ำแข็งมีพื้นที่กว่า 8,100 ตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีถ้ำน้ำแข็งที่สวยสุดๆ หาชมได้ยาก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชม ถ้ำน้ำแข็ง (ICE CAVE) ซึ่งท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับน้ำแข็งหลากหลายชั้นในสีสันที่แตกต่างกันจนแทบจะเป็นลายทางเลยทีเดียว คุณจะได้พบกับธารน้ำแข็ง Kötlujökull ด้านนอก ซึ่งมีโดมน้ำแข็งที่เกิดขึ้นจากภูเขาไฟคาทลาและเป็นความมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ด้วยรู้ขนาดใหญ่บนหลังคาที่ทำให้แสงอาทิตย์สามารถส่องเข้ามาด้านในได้ จนเกิดเป็นบรรยากาศที่งดงามเกินบรรยาย
- นำท่านเดินเล่นชายหาดน้ำแข็ง Ice Beach หรือที่เรียกกันว่า Diamond Beach ชายหาดใกล้กับธารน้ำแข็งโจกุลซาร์ลอน โดยจะมีก้อนธารน้ำแข็งที่อยู่ในทะเลมีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างๆ มาเกยอยู่ชายหาด อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่ที่พักเมืองคีร์กจูแบจาร์เคลาส์ตูร์ (Kirkjubaejarklaustur)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
FOSSHOTEL NUPAR หรือระดับเทียบเท่า
คีร์กจูแบจาร์เคลาส์ตูร์ - ไมดาลโจกุล – ขับรถสโนว์โมบิล – วิก - หาดทรายดำ - น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ - น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ - เซลฟอสส์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ ไมดาลโจกุล (Myrdaljokull) ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ที่ถูกเปลี่ยนเป็นลานกว้างเพื่อกิจกรรมผจญภัยในช่วงฤดูหนาว นำท่านเปิดประสบการณ์ตะลุยหิมะพาท่านตะลุยไปในธารน้ำแข็งและ
- นำท่านเปิดประสบการณ์ด้วยการ ขับรถสโนว์โมบิล (SNOW MOBILE) ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็ง ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง ( คันละ 2 ท่าน พร้อมชุดกันความ หนาว,หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้าบู๊ท มีให้ทุกท่าน ผู้ขับขี่ SNOW MOBILE จะต้องมีใบอนุญาติขับขี่)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมือง วิก (VIK) (หมู่บ้านทางตอนใต้ของประเทศ มีชายหาดสวยสีดำ ซึ่งเคยได้รับการโหวตว่าเป็นชายหาดที่สวยที่สุดในโลกปี 1991
- นําท่านชม หาดทรายสีดํา (Black Beach) หรือ Reynisdrangar ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวา และแนวหินบะซอลต์ เป็นหินอัคนีที่พบได้โดยทั่วไป เกิดจากการเย็นตัวของลาวาอย่างรวดเร็วบนพื้นผิวโลก
- นำท่านแวะถ่ายรูปกับน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skogarfoss) มีความสูง 62 เมตร ประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกที่เป็น ธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวา, โตรกผา และหุบเหวแล้ว อิสระให้ท่านเก็บภาพของน้ำตกตามอัธยาศัย
- นำท่านชม น้ำตกเซลจาลันด์ฟอสส์ (Seljalandfoss) น้ำตกที่มีชื่อเสียงและถูกขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไอซ์แลนด์ น้ำตกแห่งนี้แม้จะค่อนข้างแคบแต่สูง โดยมีความสูงราว 60 เมตร และเป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเซลย่าลันด์ซ่า (Seljalandsá) โดยแม่น้ำสายนี้มีต้นกำเนิดอยู่ใต้ธารน้ำแข็งเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajökull Glacier) ซึ่งภูเขาไฟใต้ธารน้ำแข็งแห่งนี้ได้ปะทุขึ้นและก่อให้เกิดความเสียหายสนามบินทั่วยุโรปมาแล้ว ท่านจะตื่นตาตื่นใจกลับกับสายน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาสู่พื้นราบ ให้ท่านได้ถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเซลฟอสส์
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
SELFOSS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า
เซลฟอสส์ – น้ำตกกูลล์ฟอสส์ – เกย์เซอร์ – ซิงเควลลีร์ – เรคยาวิก - พิเศษ นำท่านออกล่าแสงเหนือ
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านชมน้ำตกกูลล์ฟอสส์ (Gullfoss) หรือไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศและยังจัดว่าเป็น 1 ใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ในเส้นทาง “วงกลมทองคำ” ที่เมื่อผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยว ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่า ทองคำ และ Foss ที่แปลว่า น้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึง น้ำตกทองคำ ถือเป็นหนึ่งในความม+หัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างที่ความสูงกว่า 30 เมตร
- นำท่านชมน้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อน หรือ เกย์เซอร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีย์เซอร์ Geyser ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7–10 นาที ไอซ์แลนด์เหมือนพระเจ้าบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างประณีต พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ Golden Circle ทัศนียภาพของทุ่งหญ้าตัดกับทุ่งลาวา มีฝูงแกะ, วัวและม้าไอซ์แลนด์หากินอยู่ตามธรรมชาติ
- ชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติคือ อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) มรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เป็นรอยเชื่อมระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือ สถานที่แห่งนี้มีความสำคัญในฐานะเป็นสภาแห่งแรกของไอซ์แลนด์ โดยรัฐสภาได้ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 930 และต่อเนื่องมาจนถึงปี ค.ศ. 1789 ซิงเควลลีร์ (Þingvellir) ตั้งอยู่ตรงรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ (Hengill) เป็นจุดกำเนิดด้านประวัติศาสตร์และด้านธรณีวิทยาเพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร
- นำท่านเดินทางสู่ กรุงเรคยาวิก ได้รับสมญานามว่า (อ่าวแห่งควัน) เนื่องจากควันไอน้ำที่พวยพุ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน นอกจากนี้ยังมีตำนานไวกิ้งโบราณที่มีหลักฐานแสดงถึงการปกครองดินแดนแถบนี้มาก่อน
- นำท่านอิสระช้อปปิ้ง ณ ถนน Laugavegur ถนนช้อปปิ้งสายหลักของกรุงเรคยาวิก เชิญท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
GRAND HOTEL REYKJAVIK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
**** นำท่านออกล่าแสงเหนือ โดยปรากฏการณ์แสงเหนือ NORTHERN LIGHT (AURORA BOREALIS) เป็นปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเขตบริเวณขั้วโลกเหนือในกลุ่มประเทศที่อยู่ในเขตอาร์กติก เซอร์เคิล โดยมีประเทศ ไอซ์แลนด์ รวมอยู่ ด้วย และถือเป็นปรากฎการณ์ที่เห็นได้ยาก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ, ค่า KP , สถานที่เกิด , มักจะพบเห็นได้ทั่วไปเนื่องจากเป็นแสงที่มาจากช่วงชั้นบรรยากาศ โดยจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงเวลาฟ้าเปิด และอยู่ในระหว่างเดือนกันยายน – กลางเมษายน ของทุกปี – หากไม่สามารถ ออกล่าได้ ทางบริษัทคืนเงินท่านละ 30 ยูโร ****
เรคยาวิก - ชมเมือง – บ่อน้ำแร่บลูลากูน - เรคยาวิก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านชมโบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมืองที่เมื่อขึ้นไปด้านบนจะมองเห็นทัศนียภาพของกรุงเรกยาวิกโดยรอบ โบสถ์นี้มีความสำคัญในฐานะที่เป็น ศาสนสถาน เป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ สถาปนิกกุดโยน (Guðjón Samúelsson) เป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์ รวมเวลาการก่อสร้าง 38 ปีคือตั้งแต่ปีเริ่มสร้างปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986
- นำท่านไปชมสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งคือ Hofdi House บ้านที่มีเรื่องราวในประวัติศาสตร์ชาติอันน่าสนใจ เคยใช้เป็นที่รับรองและจัดเลี้ยง ผู้นำ 2 ประเทศมหาอำนาจผู้ยิ่งใหญ่ในการยุติสงครามเย็น ชมรัฐสภาของชาวไอซ์แลนด์, ศาลาเทศบาลเมือง
- นำท่านไปชม เพอร์ลัน (Perlan) เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไว้คอยต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง โดยสถาปนิก อิงกิมูนดูร์ เป็นผู้ออกแบบอาคารรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวง ตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำมองเห็นได้ในระยะไกล โดดเด่น แบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ร้านไอศกรีม, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง, สวนน้ำ และร้านขายของที่ระลึก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านชมเมืองเรคยาวิค นำท่านถ่ายรูปกับ Solfar หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ The Sun Voyager เป็นงานประติมากรรมรูปเรือที่ตั้งอยู่ในกรุง Reykyavik สร้างขึ้นโดยช่างสลักชื่อ Jon Gunnar Arnason โดยคนส่วนมากมักจะเข้าใจผิดว่ามันคือสัญลักษณ์เรือไวกิ้ง แต่จริงๆแล้ว The Sun Voyager มีความหมายโดยนัยเดิมว่า “เรือแห่งความฝัน” และเป็นบทสรรเสริญพระอาทิตย์ด้วย เป็นอีกหนึ่งงานประติมากรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรที่จะพลาดถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
- นำท่านชมและแช่ บ่อน้ำแร่บลูลากูน (Blue lagoon Hot Springs) บ่อน้ำพุร้อนที่เกิดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ในเขตลาวาทางตะวันตกเฉียงใต้ในประเทศอุณหภูมิเฉลี่ยของน้ำที่ 40 องศาเซลเซียส โดยน้ำในบ่อน้ำแร่อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิดมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับ โรคผิวหนัง อิสระให้ทุกท่านผ่อนคลายและพักผ่อนตามอัธยาศัย จากนั้นได้เวลาเดินกลับสู่กรุงเรคยาวิค
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAND HOTEL REYKJAVIK หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เรคยาวิก - เฮลซิงกิ - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านออกเดินทางสู่ สนามบินเคฟลาวิก
- 09.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 992
- 15.50 น. เดินทางถึงทางอากาศนานาชาติเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ (แวะพักเปลี่ยนเครื่อง)
- 17.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY 141
กรุงเทพฯ – สนามบินสุวรรณภูมิ
- 07.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ