ทัวร์ยุโรป เยอรมัน – ฝรั่งเศส 11 วัน


Tour by HappyLongway

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ยุโรป เยอรมัน – ฝรั่งเศส 11 วัน

รหัสทัวร์ : PRETTY VILLAGES IN GERMANY & FRANCE 11 DAYS (TG)
ระยะเวลา 11 วัน 8 คืน
สายการบิน : Thai Airways (TG)

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 8 เม.ย. 67 - 18 เม.ย. 67 189,900 บาท
2 24 เม.ย. 67 - 4 พ.ค. 67 189,900 บาท
3 16 พ.ค. 67 - 26 พ.ค. 67 189,900 บาท
4 6 มิ.ย. 67 - 16 มิ.ย. 67 189,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชมปราสาท Hohenzollen Castle เป็น เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดในเยอรมัน (UNSEEN)
  • 2
    ชมปราสาท Lichtenstein Castle เป็นหนึ่งปราสาท UNSEEN ของเยอรมัน
  • 3
    ชมหมู่บ้าน Rothenburg ob der Tauber หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของเยอรมัน เส้นทาง Romantic Road
  • 4
    ชมหมู่บ้าน Colmar / Riquewihr / Eguisheim / Strasbourg แคว้นอัลซาสของฝรั่งเศส
  • 5
    ชมหมู่บ้าน Gengenbach / Schwabisch hall / Rottweil / Tubingen เมืองเส้นทางบ้านเรือนทรงไม้ (UNSEEN)
  • 6
    ชมหมู่บ้าน Dinkelsbühl / Nordlingen หมู่บ้านสีลูกกวาดของเยอรมัน เส้นทางสาย Romantic Road (UNSEEN)
  • 7
    ชมหมู่บ้าน Essingen an Neckar เมืองน่ารักสุด (UNSEEN)
  • 8
    ชมเมือง Heppenheim เมืองเล็กๆน่ารัก อายุกว่า 1,000 ปี (UNSEEN)
  • 9
    ชมเมือง Ulm เมืองที่มีโบสถ์เคยสูงที่สุดในยุโรป (UNSEEN)
  • 10
    ชมเมือง Baden Baden ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสปาที่ดีทีสุดของยุโรป (UNSEEN)
  • 11
    ชมเมือง Stuttgart และ พิพิธภัณฑ์รถยนต์ Porche Museum
  • 12
    ชมเมือง Trier อดีตเมืองแห่งอาณาจักรโรมัน และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน
  • 13
    ชมเมือง Freiburg / Titisee เมืองแห่งต้นทางป่าดำแห่งเยอรมัน แหล่งผลิตนาฬิกากุ๊กกู ชื่อดัง
  • 14
    ชมเมือง Heidelberg และปราสาท Heidelberg Castle ขึ้นชื่อว่า ปราสาทซากปรักหักพังที่สวยที่สุดในโลก
  • 15
    ชมเมือง Frankfurt หนึ่งในเมืองธุรกิจของประเทศเยอรมัน

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
เยอรมัน – ฝรั่งเศส
เส้นทางโรแมนติก ป่าดำ – บาเดน – อัลซาส
11 วัน 8 คืน โดยสารการบินไทย (TG)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย เคาน์เตอร์ H พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกโปรดสังเกตป้าย HAPPYLONGWAY
  • 23.45 น. ออกเดินทางบินตรงสู่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 920
DAY2

แฟรงก์เฟิร์ต - เฮพเพนไฮม์ - ไฮเดลเบิร์ก - ชเวบิชฮาล - โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์

  • 06.00 น. เดินทางถึง สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
  • นำท่านเดินทางออกสู่เมือง เฮพเพนไฮม์ (Heppenheim) เมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของเยอรมัน เป็นเมืองเก่าแก่กว่า 1,000 ปี บ้านเรือนสไตล์ Half-Timbered house ที่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี (ระยะทาง 55 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที) เมืองเฮพเพนไฮม์ เป็นที่ตั้งของเขต Bergstraße ตั้งอยู่ริม Odenwald เป็นบ้านเกิดของ Sebastian Vettel แชมป์โลก Formula One สี่สมัย เป็นแหล่งปลูกองุ่นและผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียง                                                                                                                            Bensheim und Heppenheim. Hessen Tourismus
  • นำท่านชมจัตุรัสเมืองเก่าอันสวยงาม ให้ท่านเดินเล่นถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) (ระยะทาง 35 กิโลเมตรใช้เวลา 40 นาที) ตั้งอยู่ในรัฐ Baden-Wurttemburg ทางใต้ของแฟรงค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ (Neckar) โดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเชิงเขา                                                  พื้นหลังไฮเดลเบิร์ก เยอรมนี การท่องเที่ยว ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ฤดูใบไม้ร่วง รูปถ่าย และรูปภาพสำหรับดาวน์โหลดฟรี - Pngtree
  • นำท่านเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเขาแบร์กบาห์น ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความาเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม 30 ปี และมาถูกเผาทำลายถึง 2 ครึ่งในปี 1689 และ 1693 ในสงครามกับฝรั่งเศส จึงเหลือตาซากปรักหักพัง และได้การยอมรับว่านี้คือซากปรักหักพังของปราสามที่สวยงามที่สุดในโลก นำท่านชมวิวจากจุดชมวิวบนตัวปราสาท ท่านจะมองเห็นเมืองไฮเดลเบิร์กได้อย่างสวยงาม
  • นำท่านชมเก็บ ถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความจุราว 222,000 ลิตร
  • จากนั้นนำท่านลงสู่ตัวเมืองเก่าของไฮเดลเบิร์ก
  • นำท่านชมสะพานเก่าอัลเทอบรุค (Alte Brucke) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเดินข้ามสะพานไปแล้วมองหันกลับมาท่านจะเห็นปราสาทไฮเดลเบิร์กสีชมพูอมแดงตั้งโดดเด่นเหนือตัวเมืองไฮเดลเบิร์ก นำท่านชมรูปปั้นลิง บนตัวสะพานที่มีความเชื่อว่าหากได้มาสัมผัสรูปปั้นลิงนี้จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง                                                                                          Heidelberg | SUYTES Business Studios

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่ จตุรัสมาร์คพลัทซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถ์ไฮลิก ไกสท์เคียร์เค่อ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นศิลปะแบบโกธิค
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นถนนคนเดิน Hauptstrasse ถนนนี้เป็นถนนสายหลักของเมือง สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองส่วนใหญ่ก็ตั้งอยู่ตามสองข้างทางของเมืองให้ดูกันไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าเมื่อเป็นถนนสายหลัก สองข้างทางก็ต้องเต็มไปด้วยแหล่ง Shopping และของกิน                                                    Heidelberg: Hauptstraße | Heidelberg (Germany) | Jorge Franganillo | Flickr
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง ชเวบิชฮาล (Schwabisch hall) (ระยะทาง 112 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที) เมืองเล็กๆทางตอนใต้ของเยอรมัน โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ที่ราบระหว่างหุบเขา โดยชื่อเมืองที่มีคำว่า Hall ต่อท้ายนั้น มีที่มาจากวิธีการผลิตเกลือที่อยู่ใต้ดินด้วยการใช้ความร้อนซึ่งเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในช่วงยุคกลาง (คำว่า Hall ในภาษาเยอรมันแถบตะวันตกมีความหมายว่าการ
    ทำบางอย่างให้แห้งโดยใช้ความร้อน)
  • นำท่านชมบ้านเรือนยุคกลางศิลปะแบบ Half-Timbered ที่ตั้งเรียงกันตามแนวแม่น้ำ Kocher ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ อิสระท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก (ระยะทาง 65 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน                    One day in Rothenburg ob der Tauber: The Best Day Trip Itinerary

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

ALTES BRAUHAUS HOTEL  หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (NO PORTER)

หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง

DAY3

โรเธนเบิร์ก - ดิงเกลส์บูล - เนิร์ดลิงเง่น - อูล์ม

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274                                                                                                Rothenburg ob der Tauber, una ciudad de cuento en Alemania - Planeta Fascinante
  • นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค
  • นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆ ประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า
  • อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองซื้อของฝากและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ดิงเกลส์บูล (Dinkelsbühl) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมืองท่องเที่ยวที่เก่าแก่แห่งแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ของประเทศเยอรมนี (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) ส่วนใหญ่มักถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและอาคารเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ด้วยสีสันและศิลปะในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จึงส่งผลให้ดิงเกลส์บูลเป็นเมืองที่น่ามาเยือนมากที่สุดDinkelsbühl - Wikipedia

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมย่าน ไวน์มาร์ค (Weinmarkt) หรือไวน์ มาร์เก็ต (Wine Market) ซึ่งเป็นตึกเก่าเรียงตัวกันอยู่ 5 หลัง มีสีสันตัดกันตั้งแต่สีส้ม สีเขียว สีแดง สีเหลือง ซึ่งการทาสีบ้านในเมืองนี้เน้นการทาสีเดียว (single color) และเขียนชื่อธุรกิจไว้หน้าบ้านด้วยตัวหนังสือแบบลายมือ (calligraphy letter) ในสีเอิร์ธโทน (earth tone) นอกจากตามหน้าต่างจะมีการประดับด้วยกระถางไม้ดอกสีสดใสแข่งขันชูช่อออกดอกบานสะพรั่งแล้ว อีกเอกลักษณ์สำคัญของอาคารเก่าก็คือ หลังคาสีแดงสดที่เหมือนกันไปหมดทั้งเมือง ในส่วนของจุดเด่นของอาคารแถบนี้คงเป็นที่หน้าจั่วแบบขั้นบันได โดยตึกสีส้มที่อยู่ตรงหัวมุมจะมีลักษณะพิเศษเพิ่มนอกจากหน้าจั่วแล้วยังมีโดมเล็กๆ อยู่ด้านบนอีก                    Weinmarkt in Dinkelsbühl • Ortschaft » outdooractive.com
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง เนิร์ดลิงเง่น(Nordlingen) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) ตั้งอยู่ในเขต Donau-Ries แคว้น Bavaria มีประชากรอาศัยอยูประมาณ 20,000 คน ผู้คนเหล่านี้อาศัยอยู่ในเมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยายแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นแอ่งตื้น เมืองก่อนยุคประวัติศาสตร์แห่งนี้แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในประเทศเยอรมนีก็คือ สถานที่ตั้งของเมืองซึ่งตั้งอยู่กลางหลุมอุกกาบาตขนาดมหึมาซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 กิโลเมตร อุกกาบาต Nördlinger Ries ลูกนี้พุ่งชนโลกเมื่อ 14.5 ล้านปีก่อน แต่เพิ่งมาถูกค้นพบต้นกำเนิดและประวัติของมันเมื่อประมาณ 50 ปีก่อนนี่เอง
  • นำท่านชมเมืองเก่าแก่มีอายุเกือบ 1 พันปี ตัวเมืองมีลักษณะเป็นวงกลมมีกำแพงเมือง สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1327 หอคอย 11 แห่งและประตูเมือง 5 ประตูที่ล้อมเมืองไว้ สวยงามราวภาพวาด
  • นำท่านเดินเล่นชมเมือง หรือท่านไหนสนใจขึ้นชมวิวเมืองจากมุมสูงสามารถขึ้นได้ ณ โบสถ์ใจกลางเมือง (ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์)
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง อูล์ม (Ulm) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำดานูบที่อยู่ทางใต้ของประเทศ เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวนิยมไปท่องเที่ยว เพราะนอกจากสวยงามแล้วเมืองแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.850 แล้ว ยังเป็นบ้านเกิดของนักฟิสิกส์ชื่อก้องโลก อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์อีกด้วย

[fod_icon] รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

MARITIM HOTEL ULM หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY4

อูล์ม - เอสลิงเก้น - ชตุตการ์ต

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านชม วิหารอูล์ม (Ulm Munster) ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของเมือง สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ขึ้นชื่อว่าเป็นโบสถ์ที่สูงที่สุดในโลกโดยมีความสูงที่ 161.53 เมตร เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ซึ่งสูงมาก ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนของเมืองก็จะเห็นยอดโบสถ์ตั้งเด่น สง่า อย่างชัดเจนIMG_1125 - Ulm Church | Ulm Minster (German: Ulmer Münster, … | Flickr
  • จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสเมืองเก่า Marktplatz คือศาลากลางโกธิคที่สวยงาม (Rathaus) ที่มีภาพเฟรสโกตั้งแต่ปีพศ. 1540 เคยเป็นห้างสรรพสินค้าในยุคกลางและซเป็นที่ตั้งของร้านค้าและช่างฝีมือต่างๆ ที่หลากหลายก่อนที่จะกลายเป็นศาลากลางจังหวัดซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆของอาคาร ได้แก่ การจำลองนาฬิกาดาราศาสตร์ในศตวรรษที่ 16 และน้ำพุที่สวยงามซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Fischkasten (ถังเก็บปลา) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปีค. ศ. 1482 ซึ่งตั้งอยู่ด้านนอกอาคาร
  • จากนั้นนำท่านชมย่านชุมชนเก่าแก่ ชาวประมง Tanners ‘Quarter ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำBlau ซึ่งไหลลงสู่แม่น้ำดานูบ โดยยังมีบ้านไม้ขนาดครึ่งหลังที่ได้รับการบูรณะอย่างยอดเยี่ยมอีกทั้งยังมีการเชิญชวนให้ตรอกซอกซอยที่แคบและสะพานจำนวนมาก
  • นำท่านเดินทางสู่เมือง เอสลิงเก้น อัม เน็คคาร์ (Essingen an Neckar) (ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ เมืองแห่งนี้มีการพัฒนามาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน ทำให้ขนาดเมืองนี้ค่อนข้างใหญ่ โดยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น สิ่งทอ อาหาร เหล็ก เอสลิงเก้น ได้รับความเสียหายบางส่วนจากเหตุสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในเขตเมืองเก่านั้นได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านชม St. Agnes Bridge สะพานข้ามคลอง Roßneckarkanal ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1893 ที่ด้านหลังเป็น Stadtkirche St. Dionys หรือ Church of St. Dionys โบสถ์คริสต์นิกายโปรเตสแตนท์ยุคโกธิคที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมืองEsslingen Images – Browse 3,920 Stock Photos, Vectors, and Video | Adobe Stock
  • จากนั้นนำท่านเข้าสู่จัตุรัสเก่ากลางเมือง Altes Rathaus ศาลาว่าการหลังเก่าที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15 ถึงจะเก่าแต่ก็ยังสมบูรณ์งดงามมีเอกลักษณ์ ที่หน้าปัดนาฬิกาสีทองคลาสสิกจะมีนกอินทรีออกมากระพือปีกทักทายทุกๆ ต้นชั่วโมง ดูไปดูมาแล้วก็คล้ายกับนาฬิกากุ๊กกูเรือนยักษ์
  • จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางสู่ ชตุตการ์ต (Stuttgart) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) คือเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ Baden-Württemberg ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Neckar เป็นต้นกำเนิดของรถยนต์ในยุคแรกๆ มีบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ,พอร์เช่ ,มายบัค รวมถึงรถต้นแบบคันแรกของโฟล์คสวาเกน เช่นกัน                                                                                                  Kulturbyen Stuttgart | FDM travel
  • นำท่านชม จตุรัสลอสส์พลาทซ์ (Schlossplatz) เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในสตุทท์การ์ท ปัจจุบันจัตุรัสกลางแห่งนี้มีอาคารประวัติศาสตร์ล้อมรอบ มีอนุสาวรีย์กระจายอยู่ทั่วไป มีการออกแบบที่สมมาตร โดยมีสนามหญ้าหลายแห่งตัดกับทางเดินกว้าง ตรงกลางมีอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะที่เป็นเสาสูง ซึ่งประดับด้านบนด้วยรูปปั้นคองคอร์เดียเคลือบทอง ด้านข้างอนุสาวรีย์มีน้ำพุประดับทั้งสองข้าง ซึ่งน้ำพุนี้เป็นจุดไฮไลท์ของจัตุรัสแห่งนี้ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยียมชมเป็นจำนวนมากSchlossplatz Stuttgart besuchen, Adresse, Öffnungszeiten, Jubiläumssäule
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นช้อปปิ้งถนน KoenigStrasse  เป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยร้านค้าทุกประเภท เป็นแหล่งย่านช้อปปิ้ง รวมทั้งบาร์ ร้านอาหาร คาเฟ่ ฯลฯ ที่สำคัญของเมือง อิสระท่านตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

MARITIM HOTEL STUTTGART หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)

DAY5

ชตุตการ์ต - ปราสาท ลิคเท่นสไตน์ - ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น - ชตุตการ์ต

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ปราสาทลิคเท่นสไตน์ Lichtenstein Castle หรือ Schloss Lichtenstein (ในภาษาเยอรมัน) (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ตั้งอยุ่ที่เมือง Reutlingen ในเขต Baden Württemberg ประเทศเยอรมัน ปราสาทแห่งนี้เคยถูกทำลาย จากสงคราม Reichskriegs ใน ค.ศ. 1311 จากทางการเมือง Reutlingen ทำให้เหลือแต่ซากปรักหักพัง จากนั้น Duke Wilhelm of Urach ซึ่งเป็นปกครองแคว้น Württemberg ขณะนั้น ได้สั่งให้สร้างขึ้นมาใหม่ และตั้งชื่อว่า Lichtenstein ตามแรงบันดาลใจจากนิยายเรื่อง Lichtenstein นี้นั่นเอง (ปราสาทได้ถูกออกแบบและก่อสร้างโดย Carl Alexander Heideloff) ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้ ก็ยังเป็นทรัพย์สินของ Duckes of UrachMan Made Lichtenstein Castle (Württemberg) HD Wallpaper
  • นำท่านเข้าปราสาทและให้ทุกท่านได้เก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ที่ตั้งของ ปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollen Castle) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) รัฐ บาเดิน-เวิอร์ทเทมแบร์ก (Baden – Wurttemberg)BURG HOHENZOLLERN (Bisingen) - All You Need to Know BEFORE You Go

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่าน เข้าชมด้านในของปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ปราสาทแห่งนี้เป็น 1 ใน 8 ปราสาทเทพนิยายของประเทศเยอรมัน และถือเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สวยที่สุดของเยอรมัน โดยปราสาทโฮเฮนโซลเลิร์น ตั้งตระหง่านอยู่เหนือชนบทของ Zollemalb ที่ความสูง 855 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ปราสาทแห่งนี้เป็นบ้านของราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างในศตวรรษที่ 11 ต่อมาได้ถูกทำลายลงในปี ค.ศ.1423 และสร้างขึ้นใหม่ถึงสองครั้ง โดยรูปแบบปัจจุบันเป็นผลงานจากสมัยศตวรรษที่ 19 ตอนปลาย ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักประจำของราชวงศ์ปรัสเซีย และเป็นอนุสรณ์สถานสำหรับราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์น ในปัจจุบันมีการปรับใช้ปราสาทให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น โดยเป็นทั้งโรงละครแบบเปิด สถานที่จัดคอนเสิร์ต ปัจจุบัน แต่ละปีมีมีผู้คนมาเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าปีละ 300,000 คน จึงเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีคนมาเยี่ยมชมอันดับต้นๆ ของประเทศเยอรมัน                                       Hohenzollern Castle: Home of a Dynasty | A Pakistani in the Bundesrepublik
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่จุดชมวิว Zellerhorn ซึ่งจะเป็นจุดชมวิวที่ท่านมองเห็นปราสาทโฮเฮนโซเลนแบบพาโนรามา

หมายเหตุ : โดยจุดชมวิว Zellerhorn ท่านจะต้องเดินเท้าระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร เพื่อไปยังจุดชมวิว แต่ทางเดินง่ายๆ  แนะนำว่าหากท่านใดสุขภาพไม่แข็งแรงแนะนำรอคณะอยู่บนรถโค้ช

  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่กลับสู่ ชตุตการ์ต

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
MARITIM HOTEL STUTTGART
หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว 

DAY6

ชตุตการ์ต - ทือบิงเงิน - ร๊อตไว - ทิทิเซ่

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ทือบิงเงิน (Tubingen) (ระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 50 นาที) เป็นเมืองมหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งทางตอนกลางของรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองหลวงของรัฐ ตั้งอยู่บนฝั่ง “แม่น้ำเนคคาร์” และ” แม่น้ำอัมเมอร์ “ เป็นเมืองมหาวิทยาลัย ที่มีผู้อยู่อาศัยประมาณ 88,000 คนและนักศึกษาประมาณ 28,000 คนผสมผสานกลิ่นอายของใจกลางเมืองยุคกลางที่ได้รับการบูรณะอย่างน่ารักเข้ากับความเร่งรีบและ สร้างความคึกคัก และสีสันของให้ชีวิตนักศึกษาเมืองเล็กๆแห่งนี้
  • นำท่านถ่ายรูปบนสะพาน Eberhardsbrucke สะพานข้ามแม่น้ำ Neckar สู่ตัวเมือง โดยมีบ้านเรือนสีสันสวยงามตั้งเรียงรายเป็นฉากหลัง                                                                                                เจาะลึก..เที่ยวเอง GERMANY ใต้ ตอนที่ 2 “Schloss Lichtenstein – Tübingen” เดินเขาขึ้นปราสาทริมหน้าผา พาชมเมืองวินเทจสีสันโดนใจ | Tieweng
  • จากนั้นนำท่านเข้าสู่จตุรัสกลางเมืองเก่า Marktplatz ที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง Rathaus ให้ท่านได้ชื่นชมความสวยงาม
  • จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินชมเมืองหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ร๊อตไว (Rottweil) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐ Baden-Wirttemberg ประเทศเยอรมนี เป็นรัฐอิสระกว่า 600ปี เมืองนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ในสมัยที่กองทัพโรมันเดินทางผ่านเส้นทางแถบนี้ เมื่อสงครามจบก็เริ่มก่อตั้งปักถิ่นฐานเป็นที่อยู่อาศัย และขยับขยาย จนเป็นเมืองในปัจจุบัน ร็อตไว (Rottweil) ได้รับการยอมรับเป็นเมืองแห่งแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐนี้                                                                                                                            38 ROTTWEIL ideas | germany, black forest germany, rottweiler love
  • นำท่านเดินเล่นชมเมือง ท่านได้ได้พบการบ้านเรือนสีสันลูกกวาดสุดน่ารัก และยังมีรูปปั้นสุนัขไปทั่วเมืองเพราะเมืองนี้เป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler) ที่เป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลกในด้านพละกำลังและความดุดัน ซึ่งตั้งแต่โบราณสุนัขพันธุ์นี้มีความสำคัญอย่างมากต่อชาวเมืองในการใช้ขนของหรือลากรถเพื่อนำสินค้าและเครื่องอุปโภคบริโภคขึ้นมาบนเมืองนี้ ที่นี่จึงมีพิพิธภัณฑ์บอกเล่าประวัติและข้อมูลสำคัญของสุนัขพันธุ์นี้ตั้งอยู่ด้วย
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิทิเซ่ (TITISEE) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เขตป่าดําตอนใต้อ (SOUTH BLACK FOREST) เมืองเล็กๆที่อยู่ท่ามกลางป่าสนอันอุดมสมบูรณ์และ ทะเลสาบสุดสวย
  • นําท่านชมทะเลสาบที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ทะเลสาบทิทิเซ่ (TITISEE LAKE) ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในป่าดํามีความยาว 2 กิโลเมตร และมีความกว้าง 700 เมตร ท่านจะได้พบกับความสวยงามของธรรมชาติที่ห้อมล้อมทะเลสาบแห่งนี้ซึ่งถือเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่สวยติดอันดับในทวีปยุโรปอีกด้วยTitisee lake • Lake » outdooractive.com
  • นำท่านเดินเล่นชมหมู่บ้านทิทิเซ่ หมู่บ้านเล็กๆน่ารักริมทะเลสาบแสนสวย ให้ท่านได้เลือกซื้อหรือชม นาฬิกากุ๊กกู เป็นของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

 MARITIM HOTEL TITISEE HOFGUT STERNEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง

DAY7

ทิทิเซ่ - ไฟรบวร์ก - เจนเก้นบาค - สตราสบูร์ก

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ไฟรบวร์ก อิมไบรส์เกา หรือ ไฟรบูร์ก อิม ไบรส์เกา (Freiburg im Breisgau) (ระยะทาง 35 กม. ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวมากเมืองหนึ่งของประเทศเยอรมนี (German) โดยเมืองถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1120 และเป็นหนึ่งในเมืองแห่งตลาดเสรีที่มีชื่อเสียงและมีความเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของประเทศFreiburg im Breisgau und seine Sehenswürdigkeiten
  • นำท่านชมโบสถ์ Freiburg Muenster เป็นโบสถ์ใหญ่ประจำเมืองที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 313 ปี และมีความสูงถึง 116 เมตร โบสถ์นี้รอดพ้นจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้อย่างเหลือเชื่อ ทั้งที่ตัวเมืองถูกทำลายลงถึง 90%                                            9 Best Things to Do in Freiburg - What is Freiburg Most Famous For? - Go Guides
  • จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับศาลาว่าการเมืองเก่า บริเวณจัตุรัสที่ Münster อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 และใช้สำหรับจัดเก็บสินค้าและเคลียร์ด่านศุลกากร สินค้าเคยถูกเก็บไว้ในลานภายใน 300 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันใช้สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นถนนที่สวยสุดของเมืองที่เรียกว่า Konviktstrasse เป็นบริเวณที่มีร้านค้ามากมาย มีไม้เลื้อยขึ้นตามบ้าน ทำให้ถนนเส้นนี้น่ารักยิ่งขึ้นไปอีก ละถือเป็นไฮไลท์ของเมืองแห่งนี้คือ รางน้ำเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมถนนเกือบทุกเส้นในเมือง สร้างขึ้นในสมัยยุคกลางเป็นที่ระบายของเสีย ดับไฟ และใช้ป้องกันไม่ให้ไฟลามตอนเกิดไฟไหม้ และให้สัตว์ได้ดื่มกิน ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและเป็นที่นั่งเล่นของเด็กๆในฤดูร้อน

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง เจนเก้นบาค (Gengenbach) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนีใกล้ป่าดำ เป็นเมืองที่มีความสวยงามตามแบบฉบับของเมืองเยอรมันแบบดั้งเดิมจึงได้รับเลือกให้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์เช่น ‘Charlie and the Chocolate Factory’ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้คือ อัญมณียุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีถนนสายหลักสามสาย Hauptstrase, Adlergrasse และ Victor Kretz Strase ตรอกซอกซอยเล็ก ๆ เริ่มต้นจากถนนทั้งสามแห่งนี้ซึ่งสามารถเดินทางได้ด้วยการเดินเท้าหรือขี่จักรยานเท่านั้นซึ่งจะทำให้มีความสงบมากขึ้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองอิมพีเรียลเสรีในอดีตซึ่งหมายความว่ามีอิสระทางการค้าในการจัดเก็บภาษี ปัจจุบันเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ด้วยเสน่ห์ที่ทำให้มีผู้มาเยือนมากมาย                                                                          Gengenbach private and guided walking tour | musement
  • นำท่านชมตรอก Engelgasse เป็นตรอกที่สวยงามที่สุดในเมือง
  • จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส(Alsace)ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม La Petite France (ปารีสน้อย)46 Facts About Strasbourg - Facts.net

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
HILTON STRASBOURG  HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)

หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง

DAY8

สตราสบูร์ก - กอลมาร์ - เอกิซไฮม์ - ริคเวีย - สตราสบูร์ก

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE)                                                                            Colmar France Stock Photo - Download Image Now - iStock
  • ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาส และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบ Half – Timber และบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง ด้วยบรรยากาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลกเดินทางมาฮันนีมูนที่นี่
  • นำท่านเดินชเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง
  • นำท่านเดินเล่นชมเมืองกอลมาร์ จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Equisheim) (ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) Les Plus Beaux Village de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Villageมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึงปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่                                                                                                                    Eguisheim, France | bluesyemre
  • ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาประมาณ 25 นาที) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส                                                                   Riquewihr France Images – Browse 4,315 Stock Photos, Vectors, and Video | Adobe Stock
  • นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน  เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก                                                                          5 main stops on the Alsace Wine Route | Alsace Wine Route
  • นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นมีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูป
  • ให้ท่านได้เดินเล่นอิสระเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

HILTON STRASBOURG  HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว   

DAY9

สตราสบูร์ก - บาเดน บาเดน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านชมเขต La Petite France ของเมืองสตราสบูร์ก ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des MoulinsLa Petite France, la Venise strasbourgeoise par excellence - easyVoyage
  • อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง
  • จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บาเดน-บาเดน (Baden-Baden) (ระยะทาง 50 กิโลเมตร / ใช้เวลาประมาณ50นาที) เป็นเมืองในหุบเขาตั้งอยู่ในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์ค ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทิวเขาป่าดำ บริเวณพรมแดนใกล้กับประเทศฝรั่งเศส เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านสปา คำว่าบาเดินเป็นคำนามซึ่งตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่าเบดิง (Bathing) ที่แปลว่าการอาบน้ำ ประวัติศาสตร์ของบาเดิน-บาเดินสามารถย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฮาดริอานุสแห่งโรมัน มีการขุดค้นพบซากอ่างอาบน้ำโรมันใน ค.ศ. 1847 ใน พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสเมืองนี้เพื่อรักษาพระองค์แบบธาราบำบัดตามคำแนะนำของแพทย์หลวง ชาวเยอรมัน ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสปาที่ดีที่สุดในยุโรป
  • นำท่านชม Trinkhalle ในคอมเพล็กซ์สปา Kurhaus ในเมือง Baden-Baden ประเทศเยอรมนีสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1839-42 โดย Heinrich Hübsch ในรูปแบบสถาปัตยกรรมเสริมเป็นอาคารหลักของสปา อาร์เคดยาว 90 เมตรเรียงรายไปด้วยจิตรกรรมฝาผนังและม้านั่ง ว่ากันว่าน้ำสปามีพลังบำบัดTrinkhalle Baden-Baden – Wikipedia
  • นำท่านเดินเล่นชมเมืองบาเดน บาเดน ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของฝากตามอัธยาศัย หรือท่านใดจะเลือกพักผ่อนแช่น้ำแร่ที่โรงแรม หรือจะลองแช่น้ำแร่ ณ บ่อสาธารณะ (สำหรับบ่อสาธารณะมีค่าใช้จ่ายไม่รวมในค่าทัวร์)

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

LEONARDO ROYAL HOTEL BADEN- BADEN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว

DAY10

บาเดิน - บาเดิน - แฟรงเฟิร์ต

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • อิสระให้ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
  • นำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน (ระยะทาง 175 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER) ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อ(OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียด
  • นำท่านถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน ผ่านชมโบส์ถเซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมือง
  • อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัยRömerberg - Frankfurt - Arrivalguides.com
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
  • 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย  เที่ยวบินที่ TG 923
DAY11

สุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 12.30 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน