ทัวร์ฝรั่งเศสใต้-อิตาลี ริเวียร่า
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ฝรั่งเศสใต้-อิตาลี ริเวียร่า
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 7 พ.ค. 68 - 18 พ.ค. 68 | 209,900 บาท |
2 | 17 พ.ค. 68 - 28 พ.ค. 68 | 209,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ขึ้นเคเบิ้ลไฟฟ้าสูงสุดในโลก AIGUILLE DU MIDI ชมวิวยอดเขา Mont Blance ยอดเขาสูงที่สุดในยุโรป
- 2ชมเมือง NICE / CANNES / MONACO เมืองสวยหรูหราระดับโลกในริเวียร่า
- 3ชมเมือง AVIGNON / AIX EN PROVENCE เมืองแสนสวยเขตโพรว๊องซ์
- 4ชมหมู่บ้าน Cinque Terre หมู่บ้านชาวประมงหน้าผาบ้านริมทะเลอิตาลี
- 5ชมหมู่บ้าน YVOIRE อายุกว่า 700 ปี ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อหมู่บ้านดอกไม้ ของยุโรป (Unseen)
- 6ชมหมู่บ้าน GORDES หนึ่งในหมู่บ้านแสนสวยของฝรั่งเศส (Unseen)
- 7หมู่บ้านบนภูเขา EZE สวยระดับโลกของริเวียร่า (Unseen)
- 8หมู่บ้านแห่งขุนเขา CHAMONIX หมู่บ้านแสนสวยในเขตเทือกเขาเอลป์
- 9เมืองสุดสวยริมทะเลสาบ ANNECY หนึ่งในเมืองคูคลองที่สวยติดอันดับโลก (Unseen)
- 10ชมหมู่บ้าน ROUSSILLON หมู่บ้านสีชมพู (Unseen)
- 11ชมหมู่บ้าน LES BAUX DE PROVENCE หมู่บ้านโบราณบนเนินเขา (Unseen)
- 12ชมเมือง MARSEILLE เมืองท่าในเขตริเวียร่าที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุด
- 13ชมโบสถ์ ABBAYE DE SENANQUE โบสถ์แสนสวย (Unseen)
- 14ช้อปปิ้ง Serravalle Designer Outlet
- 15ชมเมือง MILAN เมืองแฟชั่นของโลก
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 21.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 4 เคาน์เตอร์ H สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
มิลาน (อิตาลี) - ชาโมนิกซ์ (ฝรั่งเศส) - ชมเมือง
- 00.40 น. ออกเดินทางสู่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 940
- 07.35 น. เดินทางถึงสนามบินมิลาน ประเทศอิตาลี
- จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ประเทศฝรั่งเศส สู่เมือง ชาโมนิกซ์ (CHAMONIX) (ระยะทาง 230 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชม.) เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่นักเล่นสกีและนักปีนเขานิยมมาเล่นสกีหรือปีนเขาที่แห่งนี้โดยมียอดเขามองบลังค์ (MONT BLANC) เป็นจุดหมายปลายทาง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- ให้ท่านอิสระเดินชมเมืองชาโมนิกซ์ ที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาสูง ชมเมือง ชาโมนิกซ์ ที่เป็นเมืองตากอากาศสีสันสดใส และมีการตกแต่งบ้านเรือนไว้อย่างสวยงาม ให้ท่านเดินเล่นช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของฝากของที่ระลึกมากมายกับบรรยากาศโอบล้อมไปด้วยภูเขาสูง หากอากาศดีๆ ท่านสามารถมองเห็นยอดเขามองบลัง ที่สูงถึง 4,807 เมตร สูงสุดในยุโรป และ อันดับที่ 11 ของโลก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
LES AIGLONS HOTEL CHAMONIX หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
**หมายเหตุ โรงแรมมีจำกัดและห้องพักมีขนาดเล็ก**
นั่งเคเบิ้ล AIGUILLEDU MIDI - ชมวิวยอดเขามองบลังค์ - อีวัวร์ - อานซี
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านนั่งเคเบิ้ลไฟฟ้าขึ้นสู่สถานี ไอกุย ดู มิดิ (Aiguille du Midi) ด้วยความสูงระดับ 3,842 เมตร เป็นกระเช้าที่สูงที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นเมือปี ค.ศ. 1955 ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากสถานีนี้ท่านสามารถมองเห็นยอด เขามองบลังค์ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป (สูงกว่าจุงฟราวน์) และสูงเป็นอันดับที่ 11 ของโลก ที่มีความสูง 4,807 เมตร
- อิสระให้ท่านชมวิวหรือทำกิจกรรมต่างๆ ตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่ด้านล่างเมืองชาโมนิกซ์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่หมู่บ้าน อีวัวร์ (Yvoire) (ระยะทาง 100 กิโลเมตร // ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที) เป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่กว่า 700 ปี เป็นเมืองในยุคกลางของยุโรป ที่ยังมีการอนุรักษ์เก็บรักษาปราสาท ประตูเมือง และกําแพงเก่าแก่เอาไว้ ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้าน 18 ที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส โดยได้ฉลองอายุครบ 700 ปี ในปี 2006 และยังได้รับรางวัลชนะเลิศในปี 2006 ในการดูแลรักษาได้ดีที่สุด ตัวบ้านเรือนถูกประดับด้วยดอกไม้ไม่ว่า จะฤดูไหนก็ตามจนได้รับรางวัล “Four Flowers” ระดับยุโรป จนได้รับการขนานนามว่า หมู่บ้านดอกไม้ และได้รับรางวัล International Trophy for Landscape และพืชสวน และยังได้รับเป็น “หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” (Les Plus Beaux Village de France)
- อิสระนำท่านเดินชมหมู่บ้านให้ท่านเก็บภาพความประทับใจหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย
- นำท่านสู่เมือง อานซี่ (Annecy) (ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.) เมืองเก่าเล็กๆ น่ารักที่อยู่ท่ามกลางทะเลสาบ Annecy Lake (ติดอันดับความสวยงามของโลก) และเทือกเขาเอลป์ เป็นเมืองตากอากาศที่สวยและบรรยากาศดีมากๆ อยุ่ห่างจากเมืองเจนีวาเพียง 35 กิโลเมตร
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
NOVOTEL ANNECY HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัดหากเต็มและมีขนาดเล็ด ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง
อานซี - อาวิญง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านชมเมืองอานซี นำท่านถ่ายรูปกับ Palais de L’Isle เป็นมุมกลางน้ำ ตั้งโดดเด่นอยู่ในคลอง เคยเป็นที่อาศัยของตระกูลเดล ลิส์ล สร้างในศตวรรษที่ 12 แต่อีก 200 ปี กลายสภาพเป็นศาล จากนั้นก็เป็นคุก แล้วมาเป็นโรงกษาปณ์ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นที่ทำการของรัฐในศตวรรษที่ 15 แล้ว กลับมาเป็นคุกใหม่อีกครั้งในช่วงปฏิวัตฝรั่งเศส จนถึงปี 1986 ทางการฝรั่งเศสได้เข้าบูรณะใหม่ ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ แสดงนิทรรศการ ประวัติศาสตร์ของเมืองอ้านซี และซาวัว และปัจจุบันมุมของอาคารแห่งนี้ก็ยังใช้เป็นสัญญาลักษณ์ ของเมืองด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ถูกถ่ายไว้มากที่สุดในฝรั่งเศส
- อิสระให้ท่านเดินเล่นในตัวเมือง ริมทะเลสาบ หรือเลือกซื้อของที่ระลึกสินค้าพื้นเมือง ตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอาวิญง (AVIGNON) (ระยะทาง 350 กิโลเมตร ใช้เวลา 4 ชม.) เมืองยุคกลางที่พระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 5 แห่งโรม อพยพหนีความวุ่นวายทางการเมืองมาตั้งศูนย์กลางทางศาสนาขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 14 ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากทางด้านศิลปะ และบันเทิงจุดสนใจที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาชมกันมาก คือ เมืองโบราณที่มีกำแพงล้อมรอบ และช่วงเวลาที่มีผู้คนหลั่งไหลมามาก
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAND HOTEL AVIGNON หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัดหากเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง
อาวิญง - แอ๊บบี้เดอซีนอคค์ - หมู่บ้านกอร์ด - ครุสสิยง - อาวิญง - พระราชวังของสันตะปาปา
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ แอ๊บบี้เดอซีนอคค์ (Abbaye de Sénanque) (ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลา 45 นาที) ให้ท่านแวะถ่ายรูปด้านนอกกับ สำนักสงฆ์เก่าที่ได้รับการก่อสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกอร์ด (Gordes) (ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที) เมืองเก่าแก่ที่มากด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล เป็นแหล่งผลิตไวน์ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ลักษณะเมืองจะสร้างจากยอดเขา และปลูกลดหลั่นกันมาตามไหล่เขามีบ้านเรือนที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศแบบชนบทดั้งเดิมของโพรวองซ์ รอบนอกของหมู่บ้าน นี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านหิน 6,000 ปี (Le village des Bories) หมู่บ้านหินเก่าแก่ที่สร้างด้วยการน่าหินมาวางเรียงรายโดยไม่ได้ใช้วัสดุเชื่อมใดๆความสวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ทำให้ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส (LesPlus Beaux Villange de France)
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองครุสสิยง (Roussillon) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 15 นาที) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ เขตเมือง Vaucluse ส่วนหนึ่งของแคว้นโพรวองซ์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส หมู่บ้านแห่งนี้มีจุดเด่นที่บ้านเรือนสีสันสดใส ทั้งสีส้ม แดง และน้ำตาล ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน “หมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส” (Les Plus Beaux Village de France) สีของบ้านเรือนใน Roussillon นี้จะโดดเด่นกว่าเมืองอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกัน คือจะมีสีในโทนส้ม และแดง (แซมด้วย เหลืองอ่อน และน้ำตาล) สีของหมู่บ้านที่เป็นสีในโทนส้มแดงแบบนี้เนื่องจากที่นี่มีผาหินสีส้ม ซึ่งนำมาใช้ในการสร้างบ้าน ตั้งแต่สมัยโบราณ หมู่บ้านนี้ยังเป็นแหล่งผลิตสีจากแร่ Ochre ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ซึ่ง Ochre นั้นใช้ในการทำสีตั้งแต่สมัยโบราณ แบบเดียวกับที่ใช้เขียนภาพบนผนังถ้ำ และภาพเขียนต่าง ๆ ในหมู่บ้านนี้ยังนำมาทำพวกของตกแต่ง เซรามิคต่าง ๆ ซึ่งมีเวิร์คช้อปในเมืองสำหรับผู้ที่สนใจจะเรียนรู้ รวมถึงอาร์ตแกลลอรี่หลายแห่ง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชมจัตุรัสของเมืองที่มีอาคารบ้านเรือนรอบๆ สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ในบริเวณนั้นจะเป็นที่ตั้งของมีร้านค้า และอาร์ต แกลลอรี่หลายแห่งในบริเวณใกล้เคียงกับจตุรัสอิสระถ่ายภาพกับเมืองแห่งนี้ตามอัธยาศัย
- นำท่านเข้าชม พระราชวังของสันตะปาปา (PALAIS DES PAPES) ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และเคยเป็นที่ประทับขององค์พระสันตะปาปาถึง 10 พระองค์ แม้จะถูกทำลายไปจากการเกิดเพลิงไหม้ในบางส่วนแต่ก็ได้รับการบูรณะ และกลับเป็นเหมือนดังเดิม
- ให้ท่านถ่ายรูปกับสะพานเซนต์เบเนเซ่ (Pont Saint-Bénézet) หรือสะพานแห่งเมืองอาวิญง (Pont d’Avignon) สะพานคอนกรีตโบราณขาดเหลือไม่ถึงครึ่ง ที่ใช้ในการข้ามแม่น้ำโรนน์ ปัจจุบันกลายเป็นเครื่องหมายการแบ่งแยกดินแดนของฝรั่งเศสกับคริสตจักรที่ไม่ราบรื่น เป็นสะพานที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากบทเพลง (ซูริ เลอ ปองต์ ดาวิญง) ที่โดดเด่นสะดุดตามากที่สุด
- นำท่านเดินเล่นชมเมืองอาวิญง เมืองที่คงอนุรักษ์ศิลปะในยุคกลางไว้ได้อย่างดี ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองหรือเลือกนั่งดื่มกาแฟ ชมบรรยากาศของเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
GRAND HOTEL AVIGNON หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2 คืน)
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัดหากเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง
อาวีญง - Les Baux de Provence - เอ็กซ์ ออง โพรวองส์ - มาร์กเซย
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ Les Baux de Provence (ระยะทาง 40 กิโลเมตร ใช้เวลา 45 นาที) ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งในฝรั่งเศส โดดเด่นด้วย Château des Baux ปราสาทและป้อมปราการเก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่บนเนินเขาท่ามกลางบ้านเรือนสถาปัตยกรรมแบบยุคกลางและป่าเขา เพียงแค่ได้เดินเล่นรอบๆ เมือง ผ่านร้านค้า ร้านอาหารน่ารักๆ มากมาย สัมผัสกลิ่นอายเก่าๆ ก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยยุคกลางเลยทีเดียว
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเอ็กซ์ ออง โพรวองส์ (AIX EN PROVENCE) (ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.) เมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดเมืองหนึ่งของฝรั่งเศส
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินเล่นชมเมือง เพื่อสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวโพรวองซ์ พร้อมชมอาคารบ้านเรือนสไตล์บาร็อคที่หรูหรา ซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองเก่าแก่ในสมัยโรมันที่มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ต่อมามีการปรับปรุง และมีการก่อสร้างอาคารที่สวยงามมากขึ้น ปัจจุบันจึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงที่มีเทศกาลดนตรีในเดือนกรกฎาคม
- อิสระให้ทุกท่านเดินชมเมืองตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมืองมาร์กเซย (Marseille) (ระยะทางประมาณ 38 กิโลเมตร ใช้เวลา 40 นาที) เป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศฝรั่งเศส อาหารทะเลสด มีความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรม
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
NH COLLECTION MARSEILLE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
มาร์กเซย - คานส์ - นีซ
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเข้าชม มหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด (The Church of Notre-Dame de la Garde) ว่ากันว่ามหาวิหารแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์เรื่องการขอพร และถ้าอยากให้สัมฤทธิ์ผลโดยง่าย ชาวเมืองเชื่อกันว่า การเดินเท้าขึ้นไปสักการะจะขลังกว่า เมื่อก้าวเท้าเข้าไปในมหาวิหาร ทั้งสองฝั่งของโถงกลาง จะเต็มไปด้วยป้ายหินสลักชื่อพร้อมคำขอบคุณ บางคนนำสิ่งของมาสักการะแทน เราจึงจะได้เห็นภาพเขียนเก่าแก่ ของตกแต่งอย่างเรือไม้แกะสลัก รวมทั้งของมีค่าต่างๆ ประดับอยู่ทั่ว มหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอไบเซนไทน์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 บนยอดโดมมีรูปปั้นพระแม่มารีและพระบุตร สร้างขึ้นจากทองแดงและทองคำเปลว ภายในสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเพดานที่เต็มไปด้วยลวดลายสุดวิจิตรบรรจง ข้อสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงควรใช้เวลาอย่างเงียบสงบเพื่อแสดงความเคารพ วิวระดับ to die for 360 องศา มองเห็นได้รอบเมืองมาร์กเซยจากบริเวณมหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ดคือที่สุดของหัวใจ เราจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเมืองที่ไม่ได้มีตึกสูงแบบเมืองทันสมัย แต่เต็มไปด้วยบ้านเรือนหลังคากระเบื้องสีคุมโทนไปจนสุดลูกหูลูกตา
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคานส์ (CANNES) (ระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร ใช้เวลา 2 ชม. 20 นาที) เมืองชายทะเลเล็กๆที่มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี และเป็นเมืองที่ใช้สถานที่ในการประกวดภาพยนตร์นานาชาติที่โด่งดังไปทั่วโลก
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- อิสระให้ท่านได้เก็บภาพกับ PALAIS DES FESTIVALS ที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานประกวดภาพยนตร์ และ ศูนย์ประชุมนานาชาติ โดยรอบอาคารจะมีรอยฝ่ามือของบรรดาเหล่าศิลปินที่มีชื่อเสียงจากฮอลลีวู้ดมาประทับเอาไว้บนพื้นซีเมนต์ ผ่านชมวิวทิวทัศน์ของเมืองบริเวณถนนลา กรัว เซต ย่านเดินเที่ยวริมทะเลที่ทันสมัยที่สุดในโลก เรียงรายไปด้วยทิวแถวของต้นปาล์ม ร้านบูติก และร้านค้ามีระดับ
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองนีซ (NICE) (ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที) เมืองพักตากอากาศทางที่เรียกว่า เฟรนช์ริเวียร่า มีชายทะเลที่สวยงาม ซึ่งเริ่มกลายเป็นสถานตากอากาศยอดนิยมของคนอังกฤษ และ ชาวยุโรปมาตั้งแต่สมัยวิคทอเรีย ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมานีส เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ชายหาดของ นีซไม่ใช่หาดทราย แต่จะเป็นหินก้อนเล็กๆที่ไม่คม ซึ่งคือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนีส
- นำท่านชมเมืองนีซ เมืองซึ่งอุดมไปด้วยสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมชั้นเยี่ยม ซากปรักหักพัง พิพิธภัณฑ์ ร้านเสื้อผ้า ตลาดกลางแจ้ง ภัตตาคาร อันเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม
- ถ่ายภาพกับโบสถ์นอร์ทเทรอดามของเมืองนีซ (BASILQUE NOTRE-DAME DE NICE) เป็นโบสถ์ที่ได้รับการออกแบบสไตล์โกธิคอย่างชัดเจน เคยถูกสร้างขึ้นใหม่จากโครงสร้างเดิมในปี ค.ศ. 1868 ออกแบบโดยสถาปนิก C. Lenormand เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองและเป็นอาคารทางศาสนาแห่งแรกที่มีความทันสมัย ตั้งโดดเด่นสง่างามกลางถนนสายหลักในเมือง
- จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้งบริเวณจัตุรัสมาสเซนา (Place Massena) บริเวณที่เป็นจุดคมนาคมที่สำคัญแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยร้านแฟชั่น และน้ำหอม อันเป็นที่ตั้งของห้างชื่อดัง Nice Etoile และ Galeries Lafayette
- อิสระทุกท่านเดินเล่นช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
RADISSON BLU HOTEL NICE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
นีซ - เอเซ่ - โมนาโก - มองเต คาร์โล - เจนัว (อิตาลี)
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเอเซ่ (EZE VILLAGE) (ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลา 20 นาที) หมู่บ้านโบราณแห่งนี้ มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 และ มีทัศนียภาพที่งดงามโอบล้อมไปด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ที่ต้องบอกกันปากต่อปาก เดินทางถึง หมู่บ้านเอเซ่ หมู่บ้านที่แสนจะน่ารัก อบอุ่น คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายชาติ เป็นหมู่บ้านเล็กๆกะทัดรัดแต่แฝงด้วยเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ที่ท่านไม่ควรพลาดมาเยือน หากได้มาเยือนแถบนี้ อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านทางสู่ โมนาโค (Monaco) (ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที) ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางท้องทะเลอันงดงาม ผ่านชมมหาวิหารเซนต์นิโคลัส ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ 1875 ที่เคยใช้จัดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิงเกรซ เคลลี ราชธิดาแห่งโมนาโค
- นำท่าน ถ่ายภาพกับปาเล เดอ แปรงซ์ (PALAIS DE PRINCES) ปราสาทที่ประทับของเจ้าชายแห่งรัฐ จากนั้นอิสระให้ท่านชมวิวทิวทัศน์ที่ขนาบด้วยท่า จอดเรือยอร์ชอันหรูหราซึ่งแสดงถึงความมั่งคั่ง และร่ำรวยของดินแดนแห่งนี้
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเต คาร์โล (MONTE CARLO) เมืองใหม่ที่ตั้งอยู่ทางตอนปลายของฝรั่งเศส นําท่านถ่ายภาพกับความหรูหราของคาสิโนแห่งมองเต คาร์โล ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สําคัญของเมือง
- จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองเจนัว (GENOA) (ระยะทาง 170 กิโลเมตรใช้เวลา 2 ชม.) หนึ่งในเมืองใหญ่ของอิตาลี ทั้งยังเป็นรัฐอิสระที่ตั้งอยู่ที่ลิกูเรีย ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเลอิตาลีที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 และด้วยสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการเดินเรือนี่เอง จึงส่งผลให้เมืองเจนัวกลายเป็นเมืองท่าที่สําคัญริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางฝั่งตะวันตกของอิตาลี
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MELIA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เจนัว - ลา สเปเซีย - หมู่บ้านชิงเกว่ แตร์เร - เจนัว
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ลา สเปเซีย (La Spezia) (ระยะทาง 100 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที) เมืองท่าที่เป็นประตูสู่ 5 หมู่บ้านริมทะเลที่สวยที่สุดในโลก
- จากนั้นนำท่านนั่งรถไฟสู่หมู่บ้านชิงเกว่ แตร์เร (CINQUE TERRE) หมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่บน ชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี CINQUE TERRE มีความหมายว่า ห้าดินแดน(FIVE LANDS) ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ VERNAZZA,MANAROL, RIOMAGGIORE , CORNIGLIA. MONTEROSSO AMARE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้มีหุบเขาล้อมรอบประกอบกันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติฯ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ด้วย (UNESCO) เรานำท่านชมหมู่บ้านเพียงบางส่วน เช่น
- หมู่บ้าน RIOMAGGIOR
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- หมู่บ้าน MANAROLA
- ช่วงเย็นๆนำท่านเดินทางกลับสู่โรงแรมพัก อิสระให้ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MELIA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เจนัว - Serravalle Designer Outlet - มิลาน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Serravalle Designer Outlet (ระยะทาง 55 กิโลเมตร ใช้เวลา 50 นาที) เต็มไปด้วยร้านค้าใน Serravalle มีทั้งหมดกว่า 180 ร้าน สินค้าแฟชั่นแบรนด์อิตาลีและแบรนด์เนมระดับโลกอื่นๆ เช่น Gucci, Burberry, Prada,Benetton, Armani, Nike, Adidas, Michael Kors, Calvin Klein เป็นต้น อีกทั้งยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่หลากหลายให้เลือกใช้บริการอีกด้วย
อิสระรับประทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย (คืนเงินให้ท่านละ 30 ยูโร)
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง มิลาน (MILAN) (ระยะทาง 95 กิโลเมตร ใช้เวลา 1.15 ชม.) เมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ในแคว้นที่ราบลอมบาร์ดีเป็น เมืองที่มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับ นิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน และ โรม
- จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ลานจตุรัสบริเวณ มหาวิหารแห่งมิลานหรือมิลานดูโอโม (DUOMO) สัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเมืองซึ่งมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างขึ้นด้วย หินอ่อนสีขาวในศิลปะแบบโกธิคใช้เวลาสร้างนานกว่า 500 ปีปัจจุบันเป็นโบสถ์แคธอล์ลิกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกและเป็นมหาวิหารใหญ่อันดับ 4 ของโลก สูง 157 เมตรกว้าง 92 เมตรเริ่มสร้างในปีค.ศ. 1386 ใช้เวลาก่อสร้าง นานถึง 500 ปีชมความงดงามปราสาทที่มีปลายยอดแหลมกว่า 135 ยอด
- อิสระให้ทุกท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัยบริเวณอาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 (Galleria Vittorio Emanuele II) เป็นห้างหรือศูนย์การค้าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อาคารนี้สวยงามมากๆ พอเข้าไปข้างใน ซึ่งเป็นอาเขตยิ่งสวยงาม เรียกว่าเป็นอาคารช้อปปิ้งที่สวยสุดแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้ มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่าเป็นห้องนั่งเล่นของเมืองมิลาน นอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมขายแล้ว ยังมีร้านกาแฟที่เรียกกันว่าไซด์วอล์คคาเฟ่ สามารถนั่งจิบคาปูชิโน นั่งดูหนุ่มสาวแต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
DOUBLE TREE BY HILTON HOTEL MILAN หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
มิลาน - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินเมืองมิลาน เพื่อทำการเช็คอินและทำ TAX REFUND
- 14.05 น. ออกเดินสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 941
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 05.55 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ