ทัวร์ยุโรป เยอรมัน – ออสเตรีย FAIRY TALE VILLAGE
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ยุโรป เยอรมัน – ออสเตรีย FAIRY TALE VILLAGE
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 20 มี.ค. 63 - 29 มี.ค. 63 | 109,900 บาท |
2 | 1 พ.ค. 63 - 10 พ.ค. 63 | 109,900 บาท |
3 | 22 พ.ค. 63 - 31 พ.ค. 63 | 109,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ท่องเที่ยวเจาะลึก เส้นทางสายโรแมนติค (Romantic Road Germany)หนึ่งในเส้นทางสุดสวยของยุโรป
- 2สนุกสนานกับหิมะ ZUGSPITZE Mt. ยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมัน (TOP OF GERMANY)
- 3สนุกตื่นเต้นกับ HIGHLINE 179 หนึ่งในสะพานแขวนที่ยาวที่สุด (Guinness World Record)มลอฟ
- 4ล่องเรือทะเลสาบ KONIGSEE LAKE ทะเลสาบที่น้ำใสสะอาดที่สุดในยุโรป
- 5ชมหมู่บ้าน RAMSAU หมู่บ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยมาก (Unseen)
- 6ชมเมือง ROTHENBURG หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของเยอรมัน (เส้นทางสายโรแมนติค)
- 7ชมเมือง NUREMBERG / WURZBURG / BAMBERG เมืองสวยของเยอรมัน
- 8ชมเมือง DINKELBUHL / LANSBERG AM LECH / NORDILNGEN หมู่บ้านในเส้นทางสายโรแมนติค
- 9ชมหมู่บ้าน MITTENWALD / GARMISCH / OBERAMMERGAU หมู่บ้านเฟรสโก้บาวาเรีย
- 10เข้าชมปราสาท NEUSCHWANSTEIN CASTLE ปราสาทแสนสวยในเทพนิยายของพระเจ้าลุดวิคที่ 2
- 11เข้าชมปราสาท LINDERHOF CASTLE ปราสาทแสนสวยที่สมบูรณ์ที่สุดของพระเจ้าลุดวิคที่ 2
- 12เข้าชมพระราชวัง RESIDENT MUNICH PALACE พระราชวังที่มีชื่อเสียงที่สุด (Unseen)
- 13ชมพระราชวัง NYMPHENBURG PALACE พระราชวังที่พระเจ้าลุควิคที่ 2 ประสูติ
- 14ชมเมือง BERCHTESGADEN เมืองสุดสวยในหุบเขา
- 15ชมโบสถ์ WIESKIRCHE โบสถ์สุดสวยในบาวาเรีย (Unesco)
- 16ชมเมือง FUSSEN เมืองสีลูกกวาดสุดสวย (เส้นทางสายโรแมนติค)
- 17ชมเมือง AUGSBURG เมืองสวยบนเส้นทางสายโรแมนติค (เส้นทางสายโรแมนติค)
- 18ชมเมือง INNSBRUCK หนึ่งในเมืองสวยทที่มีชื่อเสียงระดับโลก
- 19ชมเมือง MUNICH เมืองหลวงแคว้นบาวาเรียสุดสวย
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์ยุโรปเยอรมัน – ออสเตรีย FAIRY TALE VILLAGE
เน้นเส้นทางสายโรแมนติค Romantic Road Germany 10 วัน 7 คืน
โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
- 21.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
มิวนิค (เยอรมัน) - ล่องเรือทะเลสาบโคนิงซี - หมู่บ้านรามเซา (Unseen) – เบิร์ชเทสกาเด้น
- 00.50 น. ออกเดินทางบินตรงสู่มิวนิค ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 924
- 07.05 น. เดินทางถึง สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมัน
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เบิร์ชเทสกาเด้น (Berchtesgaden ) เจ้าของเส้นทางดิอัลไพน์โร้ด 1 ใน 6 เส้นทางแสนสวยและยังเป็น เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นให้เป็น ศูนย์กลางทางการค้าและการสำรวจหาเกลือและสินแร่
- นำท่านล่องเรือสู่ ทะเลสาบกษัตริย์ (Konigsee) ที่มีน้ำใสราวกับมรกต ได้ขึ้นว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสและสะอาดที่สุดในยุโรป ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่งดงาม ที่สุดในประเทศเยอรมนี ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งกำเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา ตั้งแต่ยุคน้ำแข็งก่อให้เกิดทะเลสาบอันงามพิสุทธิ์ และความมหัศจรรย์ของฟยอร์ดที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งใน โลกฟยอร์ดแห่งนี้มีความยาวกว่า 8 กม. กว้างถึง 1,250 เมตร ลึก 190 เมตร และตั้งอยู่บนความสูงกว่า 602 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
- นำท่านล่องเรือพลังงานไฟฟ้า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 เพื่อไม่เกิดมลภาวะ เรือจะนำท่านล่องไปชมบรรยากาศแห่งฟยอร์ด จนถึงโบสถ์บาโธโล มิว อันเป็นเสน่ห์ของดินแดนแห่งฟยอร์ดนี้ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือ
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน รามเซา (Ramsau) หมู่บ้านเล็กๆ Unseen ของเยอรมันที่ติดกับพรมแดนออสเตรียที่หลบซ่อนตัวในเขตเทือกเขาเอลป์ โดยหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยมีโบสถ์เซนต์เซบาสเตียน(St.Sebatian) เป็นฉาก มีสะพานไม่เล็กทอดข้ามแม่น้ำ Arche ที่ไหลตัดผ่านหมู่บ้าน โดยมีฉากหลังของเทือกเขาเอลป์เป็นฉากหลัง นำท่านเดินถ่ายรูปตามอัธยาศัย หรือสามารถเข้าชมด้านในโบสถ์ได้ฟรี
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALPENHOTEL FISCHER หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองเบิร์ชเทสการ์เดน มีจำกัดหากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปเมืองใกล้เคียง
อินน์สบรูค - สะพานแขวน Highline 179 (Unseen) - ฟุสเซ่น
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นําท่านเดินทางสู่เมืองอินน์สบรูค (Innsbruck) หนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ําอิน “Inn River” และโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาเอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิ แม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพักผ่อนในเมือง แห่งนี้ ระหว่างทางท่านจะได้พบกับวิวสองข้างทางที่สวยงาม ตามถนนเส้นทางอัลไพน์ ผ่านทั้งเทือกเขาเอลป์ ทะเลสาบ หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า
- นำท่านเข้าสู่ตัวเมืองนําท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ อาคารหลังคาทองคํา (Goldenness Dachl) ที่สร้างขึ้นด้วยความประณีตละเอียดอ่อน และมีอายุเก่าแก่กว่า 500 ปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ประทับใจกับ เฮลบลิงเฮ้าส์ (Helblinghaus)ตึกสมัยโกธิคตอนปลายที่มีการเพิ่มศิลปะแบบโรโค เข้าไปในศตวรรษที่18 ทําให้ดูโดดเด่นและหรูหรายิ่งขึ้น โรงแรมโกลเดน เนอร์แอดเลอร์ (Goldener Adler Hotel) สร้างตั้งแต่ ค.ศ.ที่16 เป็น โรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและยังเคยใช้ต้อนรับอะคันตุกะจากต่างแดน มาแล้วอย่างมากมาย อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เขตอุทยานของ Reutte natural park
- นำท่านชมสะพานแขวน Highline 179 สะพานแขวนที่ได้รับรองจาก Guinness World Record ว่าเป็นสะพานแขวนเดินข้ามที่ยาวที่สุด โดยตัวสะพานพาดผ่านถนนสาย B179 ระหว่างซากปราสาท Ehrenberg และ ป้อมปราการ Claudia โดยมีความสูงจากพื้นประมาณ 115 เมตร มีความยาว 406 เมตร อิสระให้ท่านเดินเล่นบนสะพานแขวนถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง ฟุสเซ่น ( Fussen) เมืองฟุสเซ่นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้งจักรวรรดิโรมัน เมืองฟุสเซ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของตัวตึกรามบ้านช่องเพราะทั้งเมืองจะมีหลากสีสันมากเหมือนกับลูกกวาดสีสวยๆ ทั้งเมืองจนได้รับสมญานามว่า City of candy
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
LUITPOLDPARK-HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองฟุสเซ่นมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
ฟุสเซ่น - ปราสาทนอยชวานสไตน์ - โบสถ์ วีสเกอเชอ (UNESCO) - โอเบอร์อัมเมอร์เกา
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองชวานเกา ( Schwangau) หมู่บ้านเล็กๆ ที่เป็นที่ตั้งของปราสาทอันโด่งดัง
- นำท่านเดินทางสู่ ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Schloss Neuschwanstein) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845-86 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิต พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียมีพระประสงค์ให้จัดสร้างเพื่อเป็นที่ประทับอย่างสันโดษ ห่างจากผู้คน และเพื่ออุทิศให้แก่กวีชื่อริชาร์ด วากเนอร์ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างให้เป็นไปตามบทประพันธ์เรื่องอัศวินหงษ์ (Swan Knight Lohengrin)
- นำท่านชมวิวสวยจากสะพานแมรี่จุดที่ถ่ายรูปกับปราสาทนี้ได้ดีที่สุด (เวลาเปิด-ปิดขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ) ดั่งรูปโปสเตอร์ โปสการ์ดต่างๆ ซึ่งความงามนี้ยังทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทต้นแบบที่วอลท์ดีสนีย์ได้นำมาสร้างเป็นปราสาทในภาพยนตร์การ์ตูนและเป็นสัญลักษณ์ของบริษัทดิสนีย์ด้วย จากนั้นนำท่านเข้าชมด้านในของปราสาท ให้ท่านได้ชมห้องต่างๆซึ่งมีความวิจิตรพิสดารเป็นอย่างยิ่ง
- ได้เวลานำท่านลงจากปราสาทด้านล่างด้วยรถม้า ให้ท่านสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศและไม่ต้องย้อนเส้นทาง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านแวะชม โบสถ์ วีสเกอเชอ (Wieskirche ) หรือเรียกว่า Pilgrimage Church of Wies (ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) เป็นชื่อของโบสถ์เล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ภายในโบสถ์ตกแต่งในสไตล์ Rococo ที่สมบูรณ์แบบที่สุด จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO โดยโบสถ์แห่งนี้ถือกำเนิดขึ้น จากในปี ค.ศ. 1738 มีคำกล่าวอ้างว่า ประชาชนได้เห็นน้ำพระเนตรหลั่งจากพระเนตรของรูปไม้กางเขนแกะสลักไม้ของพระเยซู หรือที่เรียกกันว่าพระมหาไถ่ถูกเฆี่ยน (Scourged Saviour) เรื่องเล่าแห่งปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น เป็นเหตุให้มีนักแสวงบุญเดินทางไปจารึกบุญ เยี่ยมชม และอธิษฐานขอพรจากรูปแกะสลักพระเยซูอย่างมากมาย ด้วยความเชื่อที่ว่ารูปแกะสลักนี้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ในปีค.ศ. 1740 ได้จัดสร้างชาเปลขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปแกะสลักนี้โดยเฉพาะ แต่เนื่องด้วยขนาดของอาคารที่เล็กเกินกว่าที่จะรองรับจำนวนของนักแสวงบุญที่เดินทางมาจารึกบุญ จึงได้มีการตัดสินใจสร้างโบสถ์วีสแห่งนี้ขึ้น โดยโบสถ์แห่งนี้สร้างแบบศิลปะโรโกโก การตกแต่งภายในออกแบบโดย โดมินิคุส ซิมเมอร์มันน์ ผู้เป็นศิลปินสำคัญของสมัยศิลปะโรโกโก และถือกันว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปีนท่านนี้ โดมินิคุส ซิมเมอร์มันน์ได้ทุ่มเทสร้างโบสถ์แห่งนี้ เป็นเวลา 11 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ 1745 จนถึงปี ค.ศ. 1754 ก่อนที่จะเสียชีวิตลง อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมืองโอเบอร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) ชื่อเมืองมาจากคำ 3 คำ Ober ก็คือ Upper ส่วน Ammer ก็คือ ชื่อแม่น้ำที่อยู่ตรงนั้น ส่วน Gau ก็คือ เขตแดน แปลง่ายๆ ก็คือ ดินแดนที่อยู่เหนือแม่น้ำอัมเมอร์ เมืองเป็นศูนย์กลางของศิลปะการวาดภาพบนผนังที่มีชื่อเสียงด้านการเพ้นท์กำแพงบ้านให้สวยงามในประเทศเยอรมัน ทำให้บ้านเรือนในเมืองนี้รวมถึงร้านค้าแทบทุกหลังมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ตลอดทางเดินจะมีร้านค้าส่วนใหญ่มีสินค้าจำพวกของที่ระลึกที่ใช้ฝีมือทำจากไม้ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา บ้านนก ที่กั้นประตู รูปไม้กางเขน อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง การ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น (Garmisch-Partenkirchen) เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี เป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันบ้านเรือนตกแต่งด้วยสไตล์บาวาเรียนมีภาพเขียนสีตกแต่งตามบ้านเรือนและถือเป็นประตูสู่ยอดเขา Zugspitze ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมันนี จากนั้นนำท่านเดินชมตัวเมืองการ์มิสช์ ท่านจะพบกับร้านเรือนที่ตกแต่งภาพเขียนสีบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
Mercure Hotel Garmisch Partenkirchen หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองการ์มิชส์มีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
มิดเท็นวาลด์ (Unseen) - ยอดเขาซุกสปิตเซ่ ( TOP OF GERMANY) - ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ - มิวนิค
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านออกเดินทางสู่หมู่บ้าน มิดเท็นวาลด์ (Mittenwald) พรมแดนระหว่างเยอรมันกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาเอลป์ และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น1 ใน 10 หมู่บ้านติดอันดับความสวยของเยอรมัน ถือเป็นสถานที่ UNSEEN ของเยอรมันด้วย
- นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนี ให้ท่านเก็บภาพประทับใจจากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน เยอรมนีคือ 9,721 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่ทำให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนี ออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (Alpspitz), ครอยเซ็ค (Kreuzeck) และแวงค์ (Wank) ซึ่งล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทางและนักสกีทั้งสิ้น นิทรรศการศิลปะบนที่สูงที่สุดและซุกสปิตซ์ปลาต ธารน้ำแข็งสายเดียวของเยอรมนีที่ยามหิมะตกหนา ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มิถุนายน กลายเป็นเส้นทางสกีให้เลือกเล่นหลายระดับ
- อิสระท่านตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง บนยอดเขา
- นำท่านเข้าชม ปราสาทลินเดอร์ฮอฟ (Linderhof) เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่พระเจ้าลุควิคที่ 2 ได้สร้างขึ้นมานับเป็นปราสาทหลังที่ 2 ที่พระองค์ได้เสด็จไปเยือนฝรั่งเศสในปี ค.ศ.1867 เพราะความประทับใจในพระราชวังแวร์ซายน์ จุดประสงค์เพื่อใช้ล่าสัตว์และถือว่าเป็นปราสาทที่เล็กที่สุดใน 3 ปราสาทที่พระองค์ทรงสร้างขึ้น โดยใช้เวลาสร้างถึง 4 ปี แบบศิลปะร็อกโคโคแบบฝรั่งเศส นำท่านเข้าชมห้องภายในปราสาท ซึ่งเปิดให้ท่านชมเพียง 9 ห้องเท่านั้น เช่น บัลลังก์เปลือกหอย,ห้องบรรทมห้องเสวย,ห้องแต่งตัว เป็นต้น ซึ่งถูกตกแต่งได้อย่างวิจิตรอลังการมาก ถือว่าเป็นปราสาทเล็กๆ แต่อัดแน่นไปด้วยสถาปัตกรรมและความสวยงามจริงๆ จากนั้นอิสระให้ท่านถ่ายรูปพอสมควร
- นำท่านเดินทางสู่ นครมิวนิค (MUNICH) เมืองที่เต็มไปด้วยความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมในหลายรูปแบบ ไม่ว่าแบบเรอเนซองส์ คลาสสิคหรือทันสมัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
SHERATON ARABELLA PARK HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2คืน)
มิวนิค - พระราชวังนึมเฟ่นบรว์ก - พระราชวังเรสซิเดนส์ - จัตุรัสมาเรียน - ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านแวะถ่ายรูปด้านนอกกับพระราชวังฤดูร้อนนึมเฟ่นบรว์ก (Nymphenburg Palace) เป็นพระราชวังสมัยศตวรรษที่ 18 ที่ยังคงงดงามด้วยสไตล์เรียบหรู บนพื้นที่พระราชวังและอุทยานที่มีการจัดภูมิทัศน์อย่างลงตัว จุดโดดเด่นอยู่ที่การตกแต่งภายในที่ยังคงมีความวิจิตรข้ามสมัย ทำให้นักท่องเที่ยวอยากไปชมให้เห็นกับตาจุดเริ่มต้นของพระราชวังแห่งนี้ เป็นดำริของ Ferdinand Maria และ Henriette Adelaide ในการสร้างพระราชวังฤดูร้อนให้แก่พระราชโอรส Maximilian II Emanuel ในปีค.ศ.1664 และมีการขยาย ตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมแนวบาร็อค และปรับเปลี่ยนอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 18 ปลายๆ จนได้เป็นพระราชวังงดงามเช่นปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ประสูติของพระเจ้าลุควิคที่ 2 อีกด้วย
- นำท่านเข้าชม พระราชวังเรสซิเดนซ์ มิวนิค (Residenz Munich) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1385 ที่นี่ถูกยกให้เป็นพระราชวังใจกลางเมืองที่มีชื่อเสียง และมีขนาดใหญ่มากที่สุดของประเทศเยอรมัน เคยเป็นที่ประทับและทรงงานของกษัตริย์แห่งแคว้นบาเยิร์นมากว่า 500 ปี และยังเป็นที่ตั้งของรัฐสภาเยอรมันในสมัยนั้นๆ อีกหลายยุคสมัยด้วย ซึ่งภายหลังเกิดการปฏิวัติทำให้บ้านเรือนและชุมชนพังเสียหายมากมาย รวมทั้งพระราชวังเรสซิเดนซ์ด้วย ในปี ค.ศ. 1918 เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองสงบลง พระราชวังและรัฐสภาแห่งนี้ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์การออกแบบภายใน ใช้เป็นที่เก็บสะสมงานทางศิลปะและเป็นคลังเก็บสมบัติของกษัตริย์ รวมถึงมีอนุสาวรีย์หินสลักภาพภาพของผู้อุปถัมภ์ผู้ปกครองจาก House of Wittelsbach ผู้ปกครองบาวาเรียตั้งแต่ ศตวรรษที่ 17 เป็นต้นไป แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อสงครามสิ้นสุดลงพระราชวังเรสซิเดนซ์จึงถูกสร้างขึ้นใหม่ในปี ค. ศ. 1945
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านเดินทางสู่ จตุรัสมาเรียน พลัทซ์ (Marienplatz) หรือ จัตุรัสมารี (Mary) แลนด์มาร์คใจกลางเมือง ในอดีตพื้นที่นี้เคยเป็นตลาดเรียกว่า “ตลาดสี่เหลี่ยม” ภายหลังได้กลายเป็นที่ตั้งของ New Town Hall ได้รับการออกแบบและตกแต่งในสไตล์โกธิค ในบริเวณจตุรัสประกอบไปด้วย ศาลากลางเก่าที่มีซุ้มประตูและหอคอย ศาลาว่าการ New Town สถาปัตยกรรมเสารูปปั้นของพระแม่มารีสีทอง น้ำพุปลา และหอคอย Glockenspiel ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ในช่วงฤดูร้อนจะมีการโชว์ระบำตุ๊กตาในช่วงเวลา 11.00 น. – 12.00 น. และ 17.00 น.
- ให้ท่านอิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย หรือเลือกเดินเล่นชมเมืองถ่ายรุปบริเวณจัตุรัสมาเรียน ตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ขาหมูเยอรมัน + เบียร์
SHERATON ARABELLA PARK HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
มิวนิค - (เส้นทางสายโรแมนติค ) - แลนด์เบิร์ก อัม เลค (Unseen) – เอาก์สบูร์ก – เนิร์ดลิงเง่น (Unseen) - ดิงเกลส์บูล โรเธนเบิร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง แลนด์เบิร์ก อัม เลค (Landsberg am Lech) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Lech เป็นที่รู้จักเพราะที่นี่เคยเป็นที่กักขังอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) ในปี ค.ศ.1924 ที่เขาพยายามจะปฏิวัติแต่ไม่สำเร็จก่อนที่เขาจะเรืองอำนาจ และฮิตเลอร์ใช้เวลาขณะถูกจองจำเขียนหนังสือชื่อ Mein Kampf ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้ของเขา แคมป์แรกของพวกลัทธินาซีอยู่ห่างออกจาก Landsberg ไปไม่ไกลนักเคยใช้เป็นที่กักขังนักโทษทางการเมืองกว่า 5,000 คน ถูกทำลายลงเมื่อเดือนเมษายน ปี ค.ศ.1945 โดยกองทัพอากาศของอเมริกา
- นำท่านเดินชมเมืองน่ารักๆ แห่งนี้ ตั้งแต่เขตเมืองเก่าที่มีความเก่าแก่สีสันสวยงาม
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เอาก์สบูร์ก (Augsburg) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของแคว้นบาวาเรียรองจากมิวนิกและนูเรมเบิร์ก เมืองนี้เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์หลายพันปีตั้งแต่สมัยโรมัน ชื่อเมือง Augsburg ก็ได้มาจากชื่อของจักรพรรดิแห่งโรมัน ออกัสทัส เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยสถานที่เที่ยวที่เป็นอาคารโบราณ โบสถ์ หรือตึกที่มีอายุหลายร้อยปีและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ชมจัตุรัส Rathausplatz ถ่ายรูปกับโบสถ์ Augsburg Cathedral ชมหลังคาทองคำ The Golden Hall ที่ศาลาว่าการเมือง Rathaus ชม Moritzplatz ชมอาคารสีสันแปลกตา ชมภาพวาดโบราณสวยๆ ที่ Schaezler Palace อิสระชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เนิร์ดลิงเง่น(Nordlingen) ตั้งอยู่ในเขต Donau-Ries แคว้น Bavaria มีประชากรอาศัยอยูประมาณ 20,000 คน ผู้คนเหล่านี้อาศัยอยู่ในเมืองที่สวยงามดั่งเทพนิยายแห่งนี้ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เป็นแอ่งตื้น เมืองก่อนยุคประวัติศาสตร์แห่งนี้แตกต่างจากเมืองอื่นๆ ในประเทศเยอรมนีก็คือ สถานที่ตั้งของเมืองซึ่งตั้งอยู่กลางหลุมอุกกาบาตขนาดมหึมาซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 25 กิโลเมตร อุกกาบาต Nördlinger Ries ลูกนี้พุ่งชนโลกเมื่อ 14.5 ล้านปีก่อน แต่เพิ่งมาถูกค้นพบต้นกำเนิดและประวัติของมันเมื่อประมาณ 50 ปีก่อนนี่เอง และเป็นเมืองเก่าแก่มีอายุเกือบ 1พันปี ตัวเมืองมีลักษณะเป็นวงกลมมีกำแพงเมือง สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1327 หอคอย 11 แห่งและประตูเมือง 5 ประตูที่ล้อมเมืองไว้ สวยงามราวภาพวาด นำท่านเดินเล่นชมเมือง หรือท่านไหนสนใจขึ้นชมวิวเมืองจากมุมสูงสามารถขึ้นได้ ณ โบสถ์ใจกลางเมือง (ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์)
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิงเกลส์บูล ( Dinkelsbühl ) เมืองท่องเที่ยวที่เก่าแก่แห่งแคว้นบาวาเรีย (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) ส่วนใหญ่มักถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและอาคารเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ด้วยสีสันและศิลปะในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จึงส่งผลให้ดิงเกลส์บูลเป็นเมืองที่น่ามาเยือนมากที่สุด นำท่านชมโบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George’s Cathedral) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 โดยตัวโบสถ์นั้นออกแบบโดย Nikolaus Esele ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์ในแบบสไตล์โกธิคที่สวยงามอีกแห่งของเมือง ชมภาพเขียนรูปพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนฝีมือ มิคาเอล โวลเกอมุท (Michael Wolgemut) ที่อยู่เหนือแท่นบูชาที่สร้างในปี ค.ศ.1892
- นำท่านชมย่าน ไวน์มาร์ค (Weinmarkt) หรือไวน์ มาร์เก็ต (Wine Market) ซึ่งเป็นตึกเก่าเรียงตัวกันอยู่ 5 หลัง มีสีสันตัดกันตั้งแต่สีส้ม สีเขียว สีแดง สีเหลือง ซึ่งการทาสีบ้านในเมืองนี้เน้นการทาสีเดียว (single color) และเขียนชื่อธุรกิจไว้หน้าบ้านด้วยตัวหนังสือแบบลายมือ (calligraphy letter) ในสีเอิร์ธโทน (earth tone) นอกจากตามหน้าต่างจะมีการประดับด้วยกระถางไม้ดอกสีสดใสแข่งขันชูช่อออกดอกบานสะพรั่งแล้ว อีกเอกลักษณ์สำคัญของอาคารเก่าก็คือ หลังคาสีแดงสดที่เหมือนกันไปหมดทั้งเมือง ในส่วนของจุดเด่นของอาคารแถบนี้คงเป็นที่หน้าจั่วแบบขั้นบันได โดยตึกสีส้มที่อยู่ตรงหัวมุมจะมีลักษณะพิเศษเพิ่มนอกจากหน้าจั่วแล้วยังมีโดมเล็กๆ อยู่ด้านบนอีก ปัจจุบันเป็นโรงแรมที่ชื่อว่า อัลเดอร์เมน อินน์ (Aldermen’s Inn) ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นที่ประทับของบุคคลสำคัญๆ เช่น จักพรรดิ์คาร์ลที่ 5 (Emperor Karl V) เมื่อปี ค.ศ.1546 และกษัตริย์กุสตาฟ อดอล์ฟ แห่งสวีเดน เมื่อปี ค.ศ.1632 จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- นำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
โรเธนเบิร์ก - นูเรมเบิร์ก - แบมเบิร์ก (Unesco)
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274 นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า
- นำท่านเดินทางสู่เมือง นูเรมเบิร์ก (Nuremberg) เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทราชวังแบบในการ์ตูน ทางเดินโรยกรวด ปูหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง ต้องที่นี่เลยเพราะนูเรมเบิร์กนั้นเสมือนดังเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่าน เดินชมเมืองโบราณที่มีอายุกว่า 900 ปี ผ่านชม เม้าท์ฮาล์ โรงเก็บส่วยภาษีอากรในอดีตที่ถือเป็นอาคารประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของเมืองนูเรมเบิร์กจากนั้นนำท่านชมบริเวณ จัตุรัสกลางใจเมือง (HAUPTMARKT) ซึ่งมีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง อันถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนีด้านตะวันออกของตลาดมี โบสถ์พระแม่มาเรีย (FRAUENKIRCHE) จุดเด่นคือ มีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรีย ตัวนาฬิกาและตุ๊กตาประดับนี้ถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังในปี ค.ศ. 1509 เพื่อเป็นการรำลึกถึง พระราชกฤษฎีกาทองคำปี 1356 ที่ตราขึ้นตามพระราชบัญชาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอัน ศักดิ์สิทธิ์
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบมเบิร์ก (Bamberg) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของรัฐบาวาเรีย (Bavaria) ต่อมาได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1993 เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน ถือว่าเป็นศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ที่มีความโดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมและมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย
- นำท่านถ่ายรูปกับ อดีตศาลากลางเก่า (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่ในกลางของสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามแม่น้ำเร็กนิทซ์ (Regnitz River) โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 ปัจจุบัน ศาลาว่าการเมืองเก่านั้น ได้แปรสภาพเปลี่ยนไปเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องกระเบื้อง ที่มีชื่อว่า Sammlung Ludwig Collection Bamberg นั่นเอง
- นำท่านชม มหาวิหารแบมเบิร์ก หรือชื่อเป็นทางการว่า มหาวิหารแบมเบิร์กเซนต์ปีเตอร์และเซนต์จอร์จ (Bamberger Dom St. Peter und St. Georg) มีความสำคัญเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลของอัครบาทหลวงแห่งแบมเบิร์ก โดยมหาวิหารถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ.1004 โดยจักรพรรดิเฮนรีที่ 2 (Henry II) ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1012 ทั้งยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง โดยภายในประกอบไปด้วยหอทั้งสองด้านของตัวตึกจำนวน 4 หอ นอกจากนั้นข้างๆ ตัววิหารยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์พิพิธภัณฑ์จัดแสดงของมีค่าทางศาสนาด้วย จากนั้นเชิญท่านอิสระเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
BAMBERGER HOF-BELLEVUE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองแบมเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทาง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ย้ายไปนอนเมืองใกล้เคียง
แบมเบิร์ก - วูซเบิร์ก - แฟรงก์เฟิร์ต – จตุรัสโรเมอร์ – ช้อปปิ้ง - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง วูร์ซเบิร์ก (Wuerzburg) เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน
- นำท่านชมความงดงามของเมือง วูร์ซเบิร์ก โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) แวะถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบริ์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ คศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์ นำท่านเดินชมเมือง จนได้เวลานัดหมาย
- นำเดินทางเข้าสู่เมือง แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำชมย่าน โรเมอร์ จตุรัสเมืองที่เก่าแก่ของแฟรงค์เฟิร์ต ที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือนและศิลปกรรมไว้อย่างดีอิสระให้ท่านเดินเล่น ชมเมืองเมืองช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ เช่น กระเป๋าเดินทาง Rimowa,Samsonite, นาฬิกาหรือ สินค้าแบรนด์เนมหรือของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 20.40 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ
- 06.45 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ