ทัวร์ตุรกี EXCLUSIVE TURKEY



รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์ตุรกี EXCLUSIVE TURKEY

รหัสทัวร์ : EXCLUSIVE TURKEY 9D (TK)
ระยะเวลา 9 วัน 6 คืน
สายการบิน :

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 26 มี.ค. 63 - 3 เม.ย. 63 69,900 บาท
2 9 เม.ย. 63 - 17 เม.ย. 63 69,900 บาท
3 24 เม.ย. 63 - 2 พ.ค. 63 69,900 บาท
4 30 เม.ย. 63 - 8 พ.ค. 63 69,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชมเมือง CAPPADOCIA เมืองมรดกโลกสุดมหัศจรรย์
  • 2
    ชม ปราสาทปุยฝ้าย COTTON CASTLE เมือง PAMUKKALE มรดกโลก
  • 3
    ชมเมือง ISTANBUL อดีตเมืองหลวงสุดสวยของตุรกี
  • 4
    ชม HAGIA SOPHIA สุเหร่าเซนต์โซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
  • 5
    ชม BLUE MOSQUE สุเหร่าสีน้ำเงินสถานที่ศักดิ์ของชาวตุรกี
  • 6
    ชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา
  • 7
    ชม พระราชวังโดลมาบาเช่
  • 8
    ชม อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน
  • 9
    ล่องเรือ ชมช่องแคบบอสฟอรัส
  • 10
    ช้อปปิ้ง 2 ตลาดดัง แกรนด์บาร์ซาร์ + สไปซ์
  • 11
    ชมโชว์ Belly Dance

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์ตุรกี 9 วัน 6 คืน
โดยสายการบินนเตอร์กิชแอร์ไลน์

พักเมืองคัปปาโดเกีย 2 คืน ให้ท่านมี โอกาสขึ้นบอลลูนถึง 2 วัน

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ – อิสตันบูล (ตุรกี)

  • 19.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 9  เคาน์เตอร์ U  สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airlines)  พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
  • 23.00 น.  ออกเดินทางสู่นครอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบิน TK 69
DAY2

อิสตันบูล - อิชเมียร์ - บ้านพระแม่มารี - เมืองโบราณเอเฟซุส - คูซาดาสึ

  • 05.45 น.  เดินทางถึงกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
  • 08.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองอิชเมียร์ (Izmir) โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบิน TK2312 มีบริการอาหารว่างบนเครื่องบิน
  • 09.15 น. เดินทางถึงสนามบินเมืองอิชเมียร์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ บ้านของพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีมาอาศัยและสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์โดยแม่ชีตาบอดชาวเยอรมันชื่อ แอนนา แคเทอรีน เอมเมอริช Anna Catherine Emmerich ค.ศ. 1774-1824 หลังจากนั้นได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลง มีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้ จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารี ซึ่ง พระสันตะปาปา เบเนดิกส์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้าน มีก๊อกน้ำสามก๊อกที่เชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แทนความเชื่อในเรื่อง สุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นความจริงให้เขียนลงในผ้าฝ้ายแล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน อิสระให้ท่านเดินชมหรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย

 รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองโบราณเอเฟซุส (City of Ephesus) ที่ยิ่งใหญ่และงดงามจนกระทั่งจารึกว่า “มหานครแห่งแรกและยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเซีย” เมืองโบราณที่สมบูรณ์และมั่งคั่งที่สุด ถนนทุกสายปูด้วยหินอ่อน
  • ชมห้องสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง โดยบริเวณประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเทพีทั้ง 4 องค์นี้เป็นของจำลอง ส่วนของจริงนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรียและตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา
  • แวะชมโรงละครเอเฟซุส ซึ่งจุคนได้ประมาณ 30,000 คน เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโรงละครโบราณในตุรกี มีลานแสดงตรงกลางแวดล้อมด้วยที่นั่งชมไล่ระดับขึ้นไป ปัจจุบันยังสามารถใช้งานได้ดีอยู่และมีการจัดการแสดงแสงสีเสียงบ้างเป็นครั้งคราว ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ชมโบสถ์นักบุญเซนต์ จอห์น (Basilic of St. John) สาวกของพระเยซูคริสต์ที่ออกเดินทางเผยแพร่ศาสนาไปทั่วดินแดนอนาโตเลียหรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • นำท่านเยี่ยมชมโรงงานหนังชั้นนำ โดยที่มีแบรนด์ดังๆระดับโลก อาทิเช่น Versace, Micheal Kors และแบรนด์ดังอื่นๆ อีกมากมายมักจะส่งมาให้โรงงานในตุรกีผลิต
  • ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อหรือชมเสื้อหนังคุณภาพดี พร้อมแบบดีไซน์ที่ทันสมัย แต่ราคาถูกกว่าห้างสรรพสินค้า  ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้นๆของประเทศตุรกี
  • นนำท่านเดินทางสู่เมืองคูซาดาสึ (Kusadasi) เมืองต่างอากาศริมทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศตุรกี ในช่วงฤดูร้อนของแต่ละปีชาวตุรกีและนักท่องเที่ยวจากต่างชาติมาพักและทำกิจกรรมในเมืองอย่างมากมาย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
ASAYRA THERMAL HOTEL KUSADASI หรือระดับเทียบเท่า  5 ดาว

DAY3

คูซาดาสึ – ปามุคคาเล - ปราสาทปุยฝ้าย - เมืองโบราณเฮียราโพลิส- อิสปาร์ต้า

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง ปามุคคาเล่ (Pamukkale) เมืองแห่งน้ำพุเกลือแร่ร้อน เป็นน้ำตกหินปูนสีขาวที่เกิดขึ้นจากธารน้ำใต้ดินที่มีอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นที่มีแร่หินปูน (แคลเซียมออกไซด์) ผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ไหลรินลงมาจากภูเขา “คาลดากึ” ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศเหนือ รินเอ่อท้นขึ้นมาเหนือผิวดิน และทำปฏิกิริยาจับตัวแข็งเกาะกันเป็นริ้ว เป็นแอ่ง เป็นชั้น ลดหลั่นกันไปตามภูมิประเทศ เกิดเป็นประติมากรรมธรรมชาติ อันสวยงามแปลกตาที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ยากจะหาที่ใดเหมือน จนทำให้ปามุคคาเล่แห่งเมืองเฮียราโพลิส ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988
  • นำท่านท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย (Cotton Castle) ในภาษาตุรกี เกิดจากน้ำแร่ร้อนที่มีแร่ธาตุแคลเซี่ยมคาร์บอเนต มาตกตะกอน เกิดเป็นลักษณะหน้าผา ซ้อนกันเป็นชั้นน้ำตก มีสีขาวคล้ายกับสร้างมาจากปุยฝ้าย ซึ่งน้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ย้อยเป็นรูปร่างต่างๆอย่างสวยงามและน่าอัศจรรย์ น้ำแร่นี้มีอุณหภูมิตั้งแต่ประมาณ 35 – 100 องศาเซลเซียส ประชาชนจึงนิยมไปอาบหรือนำมาดื่ม เพราะเชื่อว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรคหัวใจ โรคไขข้ออักเสบ ความดันโลหิตสูง โรคทางเดินปัสสาวะ และโรคไต ในอดีตกาลชาวโรมันเชื่อว่าน้ำพุร้อนสามารถรักษาโรคได้ จึงได้สร้างเมืองเฮียราโพลิสล้อมรอบ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมเข้าเมืองโบราณเฮียราโพลิส (Hierapolis) ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนสที่ 1แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสต์กาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ 1334 จึงไม่มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางของเฮียราโพลิสเป็นบ่อน้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในปามุคคาเล่ สถานที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ปามุคคาเล่ โรงอาบน้ำโรมัน โบสถ์สมัยไบแซนไทน์
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิสปาร์ตา (Isparta) เป็นเมืองทางตะวันตกของตุรกีและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดอิสปาร์ตา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของ City of Roses ไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อเรื่องของดอกกุหลาบเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นดอกลาเวนเดอร์ ดอกลิลลี่ สวนเชอรี่ สตรอเบอร์รี่ และองุ่นอีกด้วย ซึ่งจะมีการปลูกตามแต่ช่วงฤดูกาล

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก
BARIDA HOTEL ISPARTA หรือระดับเทียบเท่า  5 ดาว

DAY4

อิสปาร์ตา - คอนย่า – พิพิธภัณฑ์เมฟลานา - คัปปาโดเกีย

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจูคในช่วงปี ค.ศ. 1071-1308 รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาคแถบนี้อีกด้วย ระหว่างทางให้ท่านได้ชมทัศนียภาพสองข้างทางสบายๆที่งดงามตามธรรมชาติตลอดสองฝั่งทาง
  • นำท่าน เข้าชมพิพิธภัณฑ์เมฟลานา (Mevlana museum) หรือสำนักลมวน ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี  ค.ศ. 1231โดยเมฟลานา เจลาเลดดิน รูบี ซึ่งเชื่อกันว่าชายคนนี้เป็นผู้วิเศษของศาสนาอิสลาม หรือเรียกได้ว่าเป็นผู้ชักชวนคนที่นับถือศาสนาคริสต์ให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ (Whirling Dervishes) โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟานา เจลาเลดดิน ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในตกแต่งประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดาและบุตรของเมฟลานา  อิสระให้ท่านถ่ายรูปเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ระหว่างทางแวะ “คาราวานสไลน์”  นำท่านเข้าชมที่พักกองคาราวานในอดีตของสุลต่านฮานี (Sultan Han Caravanserai) ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านสุลต่านฮานี สร้างโดยสุลต่านอาเลดดิน เคย์โคบาท ราวศตวรรษที่ 13 ประตูทำด้วยหินอ่อนสกัดลวดลายโบราณ ตรงกลางเป็นสุเหร่า ส่วนบริเวณอื่นจัดเป็นครัว ห้องน้ำ และห้องนอน

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
 
BEST WESTERN PREMIER HOTEL CAPPADOCIA หรือระดับเทียบเท่า 4 – 5 ดาว  (พัก 2 คืน)

 ** หมายเหตุ     บริษัทเราเลือกใช้โรงแรมสไตล์ถ้ำ (ไม่ใช่โรงแรมถ้ำ) เพราะโรงแรมสไตล์ถ้ำเป็นโรงแรมใหม่ แต่ตกแต่งให้เหมือนถ้ำ ห้องนอนใหม่กว่าสะอาดกว่า สะดวกสบายกว่า ไม่เหม็นอับหรือชื้น เหมือนโรงแรมถ้ำที่ค่อนข้างอับ และเก่า  ** หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง ***

DAY5

( OPTIONAL บอลลูน) คัปปาโดเกีย - เกอเรเม - นครใต้ดิน - ชมระบำ Belly Dance

ท่านใดสนใจขึ้นบอลลูน กรุณามาเจอกัน ณ Lobby  โรงแรมประมาณ 04.30 น. โดยท่านสามารถเลือกซื้อ Optional Hot Air Balloon Tour ได้ ( ไม่รวมในค่าทัวร์ ) สนนราคาประมาณ 230 USD / ท่าน  สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทยไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional tour ขึ้นกับดุลยพินิจของท่านเอง 

** หมายเหตุ : บอลลูนจะขึ้นได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยสภาพอากาศเป็นสำคัญ ทางบริษัทไม่สามารถควบคุมได้ **

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินเข้าชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม (Goreme) ศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 เป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์และยังเป็นการป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ก่อนที่ศาสนาคริสต์จะเผยแพร่ในดินแดนคัปปาโดเกีย ผู้คนแถบนี้นับถือเทพเจ้ากรีก-โรมัน จนเมื่อประมาณกลางคริสต์ศตวรรษที่ 1 “เซนต์ปอล” เดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกีย แต่ดูเหมือนว่าชาวโรมันผู้ปกครองในยุคนั้นจะไม่ให้การยอมรับ ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในคัปปาโดเกียต้องหลบซ่อนจากการถูกรังควานของโรมัน ด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นดินลงไปเป็นอุโมงค์ เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา และได้ขุดเจาะบริเวณเกอเรเม่ทำเป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมากกระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 5-6 ชาวโรมันให้การยอมรับศาสนาคริสต์ สำหรับโบสถ์ถ้ำในเกอเรเม่ ว่ากันว่ามีถึง 365 หลังด้วยกัน (สร้างตามจำนวนวันใน 1 ปี) แต่ว่าปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
  • นำท่านแวะชมโรงงานทอพรม ต่อด้วยโรงงานอัญมณี พร้อมจับจ่ายซื้อของฝากตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเข้าชมนครใต้ดิน (Underground city of Kaymakli) ซึ่งเป็นเมืองใต้ดินที่มีครบทุกอย่าง ทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ ซึ่งสาเหตุแท้จริงของการสร้างเมืองใต้ดินปัจจุบันยังสรุปไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าเป็นการสร้างเพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรู (โดยเฉพาะพวกทหารโรมัน) แม้จะเป็นเมืองขนาดใหญ่ขุดลึกลงไปใต้ดินหลายชั้น แต่ว่าอากาศในนั้นกลับถ่ายเทเย็นสบาย เนื่องจากเป็นหินภูเขาไฟ มีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 17-18 องศาเซลเซียส หน้าร้อนอากาศเย็น หน้าหนาวอากาศอบอุ่น

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • หลังอาหารค่ำนำท่านชมการแสดงระบำหน้าท้องอันเลื่องชื่อ Belly Dance

 BEST WESTERN PREMIER HOTEL CAPPADOCIA หรือระดับเทียบเท่า 4 – 5 ดาว

DAY6

( OPTIONAL บอลลูน) คัปปาโดเกีย – ชมเมือง - อิสตันบูล

** เช้าวันนี้เราจัดให้ท่านได้มีโอกาสเลือกขึ้นบอลลูนอีก 1 วัน หากในกรณีวันแรกที่ไม่สามารถขึ้นบอลลูนได้ ในกรณีเกี่ยวกับสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยต่อการขึ้นบอลลูน  ซึ่งปกติทัวร์ทั่วๆ จะมีโอกาสให้ท่านขึ้นแค่วันเดียวเท่านั้น **

ท่านใดสนใจขึ้นบอลลูน กรุณามาเจอกัน ณ Lobby  โรงแรมประมาณ 04.30 น. โดยท่านสามารถเลือกซื้อ Optional Hot Air Balloon Tour ได้ ( ไม่รวมในค่าทัวร์ ) สนนราคาประมาณ 230 USD / ท่าน  สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทยไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และ เครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional tour ขึ้นกับดุลยพินิจของท่านเอง

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านผ่านชมเมืองต่างๆในเขตคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ดินแดนที่มีภูมิประเทศอันน่าอัศจรรย์แปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม คัปปาโดเกีย (Cappadocia) เป็นชื่อเก่าแก่ภาษาฮิตไทต์ (ชนเผ่ารุ่นแรกๆที่อาศัยอยู่ในดินแดนแถบนี้) แปลว่า “ดินแดนม้าพันธุ์ดี” ตั้งอยู่ทางตอนกลางของตุรกี เป็นพื้นที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเออซิเยสและภูเขาไฟฮาซาน เมื่อประมาณ 3 ล้านปีที่แล้ว เถ้าลาวาที่พ่นออกมาและเถ้าถ่านจำนวนมหาศาลกระจายทั่วบริเวณ จนทับถมเป็นแผ่นดินชั้นใหม่ขึ้นมา จากนั้นกระแส น้ำ ลม ฝน แดด และหิมะ กัดเซาะกร่อนกินแผ่นดินภูเขาไฟไปเรื่อยๆนับแสนนับล้านปี จนเกิดเป็นภูมิประเทศประหลาดแปลกตาน่าพิศวง ที่เต็มไปด้วยหินรูปแท่ง กรวย  ปล่อง กระโจม โดม และอีกสารพัดรูปทรง ดูประหนึ่งดินแดนในเทพนิยายจนผู้คนในพื้นที่เรียกขานกันว่า “ปล่องไฟนางฟ้า” ในปี ค.ศ.1985 ยูเนสโกได้ประกาศให้พื้นที่มหัศจรรย์แห่งนี้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของตุรกี ให้ท่านถ่ายรูปเดินเล่นเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินไคเซรี  (Kayseri)
  • 14.45 น.  ออกเดินทางสู่เมืองอิสตันบูล โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบิน TK 2013
  • 16.30 น.  เดินทางถึงสนามบินเมืองอิสตันบูล นำท่านตรวจรับสัมภาระ

***หมายเหตุ : ทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน***

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

INTERCONTINENTAL ISTANBUL หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว  (พัก 2คืน)

DAY7

อิสตันบูล - ฮิปโปโดม - สุเหล่าสีน้ำเงิน – ฮาเยียโซเฟีย - อ่างเก็บน้ำใต้ดิน - ตลาดแกรนด์บาร์ซาร์

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่จัตุรัสสุลต่านอาห์เหม็ด (Sultan Ahmed Complex) มีชื่อเรียกโบราณคือ ฮิปโปโดม (Hippodrome) ตั้งอยู่หน้าสุเหร่าสีน้ำเงิน เดิมเป็นลานแข่งรถม้าและศูนย์กลางเมืองในยุคไบแซนไทน์
  • นำท่านเข้าชม สุเหร่าสีน้ำเงิน  (Blue Mosque)  สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ทางศาสนา ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่ง  ชื่อนี้ได้มาจากกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินที่ใช้ปูตลอดแนวฝาผนังด้านใน  และถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ซึ่งเคยเป็นวังของจักรพรรดิไบเซนไทน์ โดยสุลต่านอาห์เหม็ตที่ 1  ค.ศ. 1609  ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 7 ปี
  • นำท่านเข้าชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย (Mosque of Hagia Sophia) หรือชื่อในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ฮาเยียโซเฟีย (Ayasofya Museum) เดิมเคยเป็นโบสถ์ของคริสต์ศาสนา นิกายออร์โธดอกส์ ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นสุเหร่า ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง และ ถือเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง จุดเด่นอยู่ที่ยอดโดมขนาดมหึมากลางวิหาร และนับเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • นำท่านชมความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างของชาวโรมันในอดีต อ่างเก็บน้ำใต้ดินเยเรบาตัน (Underground Cistern) ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศวรรษที่ 6 ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ เสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูปและชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่ ได้เวลานำท่านสู่ย่านการค้าชื่อดัง แกรนด์บาร์ซาร์ (Grand Barzar) ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยกลาง ค.ศ. 15 เป็นตลาดค้าพรมและทองที่ใหญ่ที่สุดของตุรกี มีร้านค้ากว่า 4,000 ร้าน ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าที่มีชื่อเสียงของตุรกีอย่างจุใจ เช่น โคมไฟ, ของฝาก, ผ้าพันคอ, ของที่ระลึก, เสื้อผ้า ฯลฯ
  • นําท่านแวะชมโรงงานเครื่องหนัง ร้านลูกอม พร้อมจับจ่ายซื้อของฝากตามอัธยาศัย

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง 360 Istanbul Restaurant

 INTERCONTINENTAL ISTANBUL หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว 

DAY8

อิสตันบูล – ล่องเรือ – พระราชวังโดลมาบาเช่ - ตลาดสไปซ์ มาร์เกต

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งเป็นช่องแคบที่เชื่อมทะเลดำ (The Black sea) เข้ากับทะเลมาร์มาร่า (Sea of Marmara) ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 32 กิโลเมตร ความกว้างตั้งแต่ 500 เมตรจนถึง 3 กิโลเมตร ถือว่าสุดขอบของทวีปยุโรปและสุดขอบของทวีปเอเชียมาพบกันที่นี่ นอกจากความสวยงามแล้ว ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้ ว่ากันว่าจนกระทั่งถึงยุคของการนำเอาเรือปืนใหญ่มาใช้ และไม่เคยปรากฏว่ากรุงอิสตันบูลถูกถล่มจนเสียหายอย่างหนักมาก่อนเลย ทั้งนี้เป็นเพราะป้อมปืนดังกล่าวนี้เอง ปี ค.ศ. 1973 มีการเปิดใช้สะพานบอสฟอรัส ซึ่งทำให้เกิดการเดินทางไปมาระหว่างฝั่งเอเชียและยุโรปสะดวกมากขึ้น ขณะที่ล่องเรือท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางไม่ว่าจะเป็น พระราชวังโดลมาบาชเช่ หรือ บ้านเรือนสไตล์ยุโรปของบรรดาเศรษฐี ซึ่งล้วนแล้วแต่สวยงามตระการตาทั้งสิ้น
  • นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาเช่ (Dolmabahce Palace) พระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งได้แผ่ขยายอำนาจออกไปอย่างกว้างขวาง พระราชวังแห่งนี้สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ในปี ค.ศ. 1843 ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เพราะความที่สุลต่านทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ยุโรปอย่างสุดขอบ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม การดำรงชีวิต ตลอดจนการทหาร ล้วนคัดลอกมาจากตะวันตกทั้งสิ้น พระราชวังแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ  บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ภายนอกพระราชวังประดับตกแต่งด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็กๆของช่องแคบบอสฟอรัส ภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน และ โคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน  ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่
  • นำท่านสู่ ตลาดสไปซ์ มาร์เกต (Spice Market) หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี แอปปลิคอทหรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน
  • 20.15 น. ออกเดินทางสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 64
DAY9

สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพมหานคร

  • 09.50 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน