ทัวร์โครเอเชีย ออสเตรีย สโลเวเนีย บอสเนีย มอนเตเนโกร 12 วัน



รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์โครเอเชีย ออสเตรีย สโลเวเนีย บอสเนีย มอนเตเนโกร 12 วัน

รหัสทัวร์ : GRAND EUROPE ADRIATIC 12DAY (OS)
ระยะเวลา 12 วัน 9 คืน
สายการบิน :

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 27 ก.ย. 66 - 8 ต.ค. 66 195,900 บาท
2 11 ต.ค. 66 - 22 ต.ค. 66 195,900 บาท
3 25 ต.ค. 66 - 5 พ.ย. 66 195,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชมทะเลสาบ BLED ทะเลสาบสุดสวย สัญลักษณ์ของประเทศสโลเวเนีย
  • 2
    ชมถ้ำ POSTOJNA CAVE ถ้ำที่ถือว่าสวยที่สุดในยุโรป ของประเทศสโลเวเนีย
  • 3
    ชมอุทยานแห่งชาติ PLITVICE LAKES NATIONAL PARK เป็น 1 ในอุทยานที่สวยที่สุดในโลก (Unesco)
  • 4
    ชมเมือง DUBROVNIK เมืองเก่าที่สวยที่สุดในประเทศโครเอเชีย (Unesco)
  • 5
    ชมเมือง MOSTAR เมืองเก่าที่สวยที่สุดในประเทศบอสเนีย (Unesco)
  • 6
    ชมเมือง KOTOR เมืองเก่าสุดสวยของประเทศมอนเตเนโกร (Unesco)
  • 7
    ชมเมือง TROGIR เมืองเก่าสมัยโรมันทีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unesco)
  • 8
    ชม ZADAR หนึ่งในเมืองสวยริมทะเลอเดรียติก
  • 9
    ชมเมือง GRAZ เมืองสุดสวยที่เคยได้รับรางวัลเมืองแห่งวัฒนธรรมของยุโรป (Unesco)
  • 10
    ชมกรุง ZAGREB เมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย
  • 11
    ชมกรุง LJUBLJANA เมืองหลวงของประเทศสโลเวเนีย
  • 12
    ชมหมู่บ้าน RASTOKE หมู่บ้านสุดสวย UNSEEN
  • 13
    ชมกรุง VIENNA พร้อมช้อปปิ้ง
  • 14
    ช้อปปิ้ง PARNDORF OUTLET

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์โครเอเชีย
ออสเตรีย – สโลเวเนีย – โครเอเชีย – บอสเนีย – มอนเตเนโกร 12 DAYS
โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ (OS)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) – เวียนนา (ออสเตรีย)

  • 20.30 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ G สายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ พบเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก
  • 23.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยเที่ยวบินที่ OS 026 
DAY2

เวียนนา – กราซ – เบลด ( สโลเวเนีย) - ล่องเรือทะเลสาบเบลด

  • 05.35 น.  เดินทางถึง สนามบิน VIENNA INTERNATIONAL AIRPORT หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมบริเวณสนามบิน

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองกราซ (GRAZ) (ระยะทาง 205 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.15 ชั่วโมง) ระหว่างทางชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเกษตรกรรมทั้งสองข้างทาง นำท่านชม เมืองกราซ (Graz) ซึ่งได้รับการยกย่อยให้เป็นเมืองศิลปวัฒนธรรมแห่งยุโรป (Cultural City of Europe) ที่มีการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคของเมืองเก่าและทันสมัยของเมืองใหม่ในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างลงตัวที่สุด เมืองกราซ (Graz) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศออสเตรียเป็นรองเพียงแค่เมืองหลวงกรุงเวียนนาเท่านั้น ยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนรับรองให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1999 (Unseco)  และได้ยังคงรับเลือกให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรปในปี ค.ศ. 2003                  Graz, Austria 2022: Best Places to Visit - Tripadvisor

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ เมืองเบลด (Bled) ประเทศสโลวีเนีย (Slovenia) (ระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง) เมืองเบลด (Bled) เมืองเล็ก ๆ ซึ่งเคยได้รับรางวัลชนะเลิศรีสอร์ทของโลก ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเบลดที่งดงาม แวดล้อมด้วยธรรมชาติของขุนเขาแอลป์ที่เรียกว่า Julian Alps Mountain จึงถูกขนานนามว่าไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์ ทะเลสาบเบลดแห่งนี้โดดเด่นด้วยเกาะกลางทะเลสาบที่น้ำทะเลสาบโดยรอบเป็นสีเขียวมรกต เมืองเบลด (Bled) เริ่มมีชื่อเสียงสำหรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1885 เมื่อแพทย์ชาวสวิสชื่อ  Dr. Arnold Rivli เห็นคุณค่าของอากาศที่แสนบริสุทธิ์ของเมืองนี้ได้ย้ายมารักษาคนไข้ที่เมืองนี้และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนี้เป็นเวลาถึง 50 ปี อีกทั้ง  นโปเลียนยังเคยใช้เป็นสถานที่พักผ่อน  ริมทะเลสาบยังมีคฤหาสน์ของติโต อดีตผู้รวมชาติยูโกสลาเวีย ซึ่งใช้เป็นที่รับแขกบ้านแขกเมือง  อิสระให้ท่านเดินเล่นริมทะเลสาบตามอัธยาศัย            Bled Tours from Ljubljana - 2022 Travel Recommendations | Tours, Trips & Tickets | Viator
  • จากนั้นนำท่าน “ล่องเรือเพลทน่า” ในทะเลสาบเบลด ซึ่งเป็นทะเลสาบที่มีความสวยงาม                  Lake Bled: Exploring Slovenia's romantic alpine retreat | The Seattle Times
  • ขึ้นชมเกาะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ประจำเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างในศตวรรษที่ 11 เล่ากันว่าหากคู่สมรสคู่ใดได้มาโยกระฆังในโบสถ์จะมีชีวิตคู่ยืนยาว โดยเจ้าบ่าวจะต้องอุ้มเจ้าสาวขึ้นบันไดมาจากท่าเรือจนถึงประตูโบสถ์

 รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

 PARK HOTEL BLED  ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

** หมายเหตุ โรงแรมเมือง Bled มีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทของสงวนสิทธิ์พักเมืองข้างเคียง **

DAY3

เบลด - ขึ้นชมวิว Ojstrica - ปราสาทเพรดจามา - ถ้ำโพสทอยน่า - ลุบเบลียน่า

 รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านขึ้นจุดชมวิวทะเลสาบ Bled  ณ จุดชมวิว Ojstrica จุดชมวิวที่ท่านจะได้เดินขึ้นเขา เป็นเส้นทางธรรมชาติ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีในการเดินขึ้น ให้ท่านได้ชมวิวเหนือทะเลสาบตามอัธยาศัย                                                                                                                              Ojstrica • Viewpoint » outdooractive.com
  • จากนั้นได้เวลานำท่านกลับลงสู่ด้านล่าง

** หมายเหตุ ทางขึ้นจุดชมวิว Ojstrica เป็นเส้นทางธรรมชาติ หากฝนตกหรืออากาศไม่เอื้ออำนวยทางบริษัทของดการให้บริการเพื่อความปลอดภัยของคณะทัวร์  และทางบริษัทจะอนุญาตให้เฉพาะท่านที่มีร่างกายแข็งแรง เดินสะดวกเท่านั้นในการขึ้นชมวิวนี้ สำหรับท่านที่ไม่ได้ขึ้นสามารถเดินเล่นรอริมทะเลสาบได้ **

  • นำท่านเดินทางสู่ “ถ้ำโพสทอยน่า” (Postojna Cave) (ระยะทาง 105 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง)
  • นำท่านไปถ่ายแวะรูปด้านนอกของ ปราสาทเพรดจามา (Predjamski Castle) (ระยะทาง 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที)  1 ใน 10 ปราสาท ที่หาดูได้ยาก ซึ่งมีความสวยงาม และแปลกตากว่าปราสาทอื่นๆ ลักษณะที่โดดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือ ตัวปราสาทถูกสร้างให้อยู่รวมกันไปกับถ้ำ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1274  ถือเป็นปราสาทเก่าแก่อีกแห่งของประเทศสโลวีเนีย  8 Perfect Day Trips From Ljubljana, Slovenia | Chasing the Donkey

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมถ้ำโพสทอยน่าโดยการนั่งรถรางไฟฟ้าของทางถ้ำ (15-20 นาที) จากนั้นเดินชมถ้ำซึ่งถือว่าเป็นถ้ำที่สวยที่สุดในยุโรป มีอายุเก่าแก่กว่า 2 ล้านปี มีความยาวภายในถ้ำถึง 27 กิโลเมตร ผ่านลำธาร เขื่อนเก็บน้ำใต้ดินภายในถ้ำตลอดระยะทาง 5 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยหลากหลายแบบและสีสันสวยงามสุดพรรณนา มีห้องต่าง ๆ ภายในถ้ำมากมายลดหลั่นเป็นชั้นๆ ราวกับเนรมิต ท่านจะได้ชมความแปลกของ ปลามนุษย์ (Human Fish)  ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกมากกว่า 10 ล้านคนมาเยือนถ้ำแห่งนี้                                                                                                      COPA E17 - European Migration, May/June 2019
  • อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย

**อุณหภูมิในถ้ำเฉลี่ย 9 องศาเซลเซียส ควรสวมเสื้อคลุมกันหนาวเข้าไปด้วย**

  • นำท่านเดินทางสู่ กรุงลุบเบลียน่า(Ljubljana) เมืองหลวงของประเทศสโลเวเนีย (Slovenia)  (ระยะทาง 53 กิโลมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง) แม้จะเป็นเมืองที่เล็กๆ แต่เปี่ยมไปด้วยบรรยากาศ สงบเรียบร้อยและเป็นระเบียบ
  • นำท่านให้ท่านเดินชมบรรยากาศของ “จตุรัสพรีเซอร์เรนส์” (Preseren Square) กวีเอกแห่งสโลวีเนีย ผู้ประพันธ์บทเพลงชาติสโลวีเนีย อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย                                                      When to Go and Other Fast Facts for Ljubljana, Slovenia
  • นำท่านชมโบสถ์ประจำเมือง ต่อด้วยนำท่านสู่จัตุรัสที่เป็นจุดศูนย์รวมของเมือง ท่านจะได้ชมความสวยงามของสะพาน 3 สะพาน ที่เชื่อมต่อเมืองเข้าด้วยกัน, ถ่ายรูปกับสะพานมังกร (Dragon Bridge) ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงลุบเบลียน่า

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

RADISSON BLU HOTEL LJUBLJANA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

DAY4

ลุบเบลียน่า - กรุงซาเกรบ ( โครเอเชีย )

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ “เมืองซาเกรบ” (ZAGREB)  (ระยะทาง 145 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงของประเทศโครเอเชีย (Croatia) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปี โดยเมืองซาเกรบได้เฉลิมฉลองครบรอบ 900 ปี ในปี ค.ศ.1994 ที่ผ่านมาเป็นเมืองหลวงที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์มากมาย และเป็นหัวใจของการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศ                                                                                                        10 Things to Do in Croatia's Beautiful Capital of Zagreb – skyticket Travel Guide

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านชม มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen’s Cathedral)  (การเข้าชมขึ้นอยู่กับวันและเวลา อาจมีการปิดหรือมีการทำพิธี) สถาปัตยกรรมที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอ-โกธิค (Neo-Gothic) งดงามด้วยหอคอยแฝดปลายแหลมสีทองอร่าม ภายในประดิษฐานรูปนักบุญองค์สำคัญต่างๆ เช่น นักบุญเซนต์ปีเตอร์, เซนต์ปอลล์ ฯลฯ ชมอักษรโบราณที่เป็นอักษรภาพที่มีอายุนับพันปี
  • นำท่านชมเมืองตอนล่าง (Lower Town) จัตุรัสกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยห้างร้านนำสมัย แหล่งชุมชนและศูนย์กลางเมืองของชาวซาเกรบ อันเป็นจุดที่รถรางสายสีฟ้าทั้งรุ่นใหม่และเก่า มาประจบกันที่นี่
  • ชม อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelačić ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ซึ่งต่อสู้เพื่อความอิสระจากชาวฮังการีเมื่อปี ค.ศ. 1848
  • นำท่านสู่ย่าน Flower Square อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์ออโธดอกซ์ ที่มีเพียงไม่กี่แห่งในกรุงซาเกรบ
  • นำท่านขึ้นรถรางไฟฟ้า (Funicular) สู่เมืองตอนบน Upper Town เป็นรถรางสายที่สั้นที่สุดในยุโรป โดยใช้เวลาในการขึ้นเพียง 57 วินาที ชมวิวทิวทัศน์จากจุดชมวิวของเมืองตอนบนที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 17 ที่มีซุ้มเป็นประตูหิน
  • ผ่านชมโบสถ์ เซนต์ มาร์ก (St. Mark’s Church) ที่มีหลังคาสวย แปลกตาไม่เหมือนที่ไหนใดในโลก ชมประตูเมืองโบราณ เป็นที่ตั้งของ รูปไอคอนพระแม่มารี ที่รอดพ้นจากเหตุไฟไหม้ในสมัย ศตวรรษที่ 19 โดยในเหตุการณ์ตอนนั้นทุกอย่างถูกเผาไหม้ มีเพียงรูปไอคอนที่ยังคงเหลือ จนทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลมาขอพรกันมากมาย                                                                                                    Saint Mark's Church [Zagreb Icon] » Visit Zagreb
  • อิสระให้ท่านเดินชมเมือง หรือ ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

WESTIN  HOTEL  ZAGREB  ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

DAY5

ซาเกรบ – รัสต็อคเก้ – อุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ (UNESCO) - ซาดาร์

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติ พลิตวิเซ่ (ระยะทาง 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง)
  • ระหว่างทางนำท่านแวะเที่ยวชม หมู่บ้านท้องถิ่นระหว่างทางในเขตเมืองสลุน (Slunj) มีชื่อเรียกกันว่า รัสต็อคเก้ (Rastoke) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำโคราน่า ที่ไหลรวมกันมาจากอุทยานแห่งชาติพลิทวิเซ่ หมู่บ้านแห่งนี้ถูกสร้างในตอนปลาย ศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ปัจจุบันมีบ้านของชาวพื้นเมืองประมาณ 30 หลังคาเรือน ยังคงอาศัยในหมู่บ้าน และยังคงทำโรงโม่แป้ง จากกระแสน้ำขึ้นตามธรรมชาติ แวะถ่ายรูปกับหมู่บ้าน                                                                                  Rastoke | Travel | Time Out Croatia
  • นำท่านเดินทางเข้าสู่ อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ (National Park Plitvice Jezera) อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1979 อุทยานแห่งนี้มีเนื้อที่กว่า 296 ตารางกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยผิวน้ำทะเลสาบสีเขียวมรกตและสีฟ้ารวมกันถึง 16 ทะเลสาบ                                                  Plitvice Lakes in autumn, Croatia : r/europe

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง  เมนูปลาเทราซ์

  • นำท่านชม อุทยานแห่งชาติพลิตวิเซ่ ท่านจะได้ชมความงามของทะเลสาบและน้ำตกที่ไหลรวยรินลงสู่ทะเลสาบทั่วทุกหนทุกแห่ง ชมฝูงปลาแหวกว่ายในสระน้ำใสราวกระจกสะท้อนสีครามของท้องฟ้า แวดล้อมด้วยหุบเขา ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น
  • นำท่านสู่ท่าเรือล่องเรือข้าม KOZJAK LAKE ที่เชื่อมระหว่างทะเลสาบล่างขึ้นสู่ชั้นบนของอุทยาน (LOWER & UPPER LAKE) จากนั้นเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามและอลังการของ LOWER LAKE ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และงดงามท่ามกลางหุบเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่าน อีกทั้งยังเชื่อมต่อด้วยน้ำตกต่างๆมากมาย                                                                                                          Plitviče Lakes National Park and Rastoke | Audley Travel
  • นำท่านเดินชมทะเลสาบต่างๆ ตามทางเดินสะพานไม้ที่เชื่อมแต่ละทะเลสาบเข้าด้วยกันทั้ง 16 แห่ง และนอกจากนั้นบริเวณรายล้อมยังเต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่กว่า 20 ถ้ำ และชม Big Waterfalls เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งนี้
  • จนได้เวลานัดหมายจากนั้นนำท่านสู่เมือง ซาดาร์ ( ZADAR) แคว้นดัลเมเชีย (Dalmatia) แคว้นทางตอนใต้ที่มีลักษณะภูมิอากาศและภูมิประเทศแบบเมดิเตอร์เรเนียนขนานแท้ หากใครเคยได้ยินชื่อหรือรู้จักสุนัขพันธุ์“ดัลเมเชี่ยน” (Dalmatian) ดินแดนดัลมาเชียแห่งนี้คือต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์นี้นี่เอง

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง  ณ โรงแรมที่พัก

FALKENSTEINER CLUB FUNIMATION BORIK HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า

DAY6

ซาดาร์ – โทรเกียร์ (UNESCO) – สปลิท - ชมพระราชวังโบราณ (UNESCO)

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านชมเมืองซาร์ดาร์ โดยเริ่มจากจัตุรัสกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง และร้านค้าเล็กๆอยู่ไม่กี่แห่ง ถัดมาไปชมบรรยากาศของเมืองเก่า                                                                          Zadar Sea Organ | Adventures Croatia
  • ชม โรมันฟอรัม (Roman Forum) ลานประชุมกลางเมือง ที่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพัง ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในฝั่งตะวันออกของทะเลเอเดรียติก (Adriatic Sea)  โบสถ์ เซนต์ โดแนท (St. Donatus Church) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับโรมันฟอรัม ซึ่งเป็นโบสถ์ไบเซนไทน์ที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทีย ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 โดยตัวอาคารนั้นสร้างแบบหลังคาทรงกลม ใช้งานสำหรับพิธีกรรมทางศาสนา ปัจจุบันได้กลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองซาดาร์ไปแล้วด้วย ถัดไปใกล้ๆกันจะเป็น โบสถ์ เซนต์ แมรี่ (St. Mary’s Church) ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับการเก็บงานศิลปะ วัตถุโบราณที่มีความสำคัญทางศาสนา
  • ชม มหาวิหารเซนต์ อนาตาเซีย (St. Anastasia Cathedral) คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในดัลเมเทีย ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 4 ถึง 5 เป็นประจำเมืองซาดาร์ แม้ว่ามหาวิหารจะผ่านการถูกทำลายในสงครามมาแล้วก็ตาม
  • จากนั้นนำท่านชม ซีออร์แกน (Sea Organ) ในปัจจุบันเป็นสถานที่นัดพบของหนุ่มสาว ชาวซาดาร์สามารถฟังเสียงของออร์แกนทะเลตัวนี้โดยใช้แรงลมจากทะเลเป็นตัว ขับเคลื่อนให้เกิดเป็นเสียงดั่งออร์แกน สร้างสรรค์ผลงานสุดน่าทึ่งชิ้นนี้โดย Nikola Bašić สถาปนิกท้องถิ่น ที่ได้รับมอบหมายโจทย์จากเทศบาลเมือง ให้สร้างผลงานสถาปัตยกรรมเพื่อให้เป็นสีสันและจุดจดจำแห่งใหม่ของเมือง แทนที่โบราณสถานอันทรงคุณค่ามากมาย ที่ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจนเหลือเพียงซาก นอกจากนี้ยังมี “Greeting to the Sun” สร้างขึ้นโดยสถาปนิก Nikola Basic ซึ่งเขาได้ใช้แผงโซลาเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์มาสร้างสรรค์เป็นสถาปัตยกรรมงานศิลปะที่น่าทึ่ง โดยใช้แผ่นกระจกหลายชั้นวางเรียงกันครอบคลุมเซลล์แสงอาทิตย์ ในพื้นที่วงกลม ในตอนกลางวันเซลล์เหล่านี้ก็จะดูดกลืนพลังงานแสงอาทิตย์จนอิ่ม และจะออกมาดี๊ด๊าในตอนกลางคืน                                          See the Magical Croatian Town Where the Ocean Actually Sings — Best Life
  • จากนั้นได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่เมือง โทรเกียร์ (TROGIR) (ระยะทาง 130 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง1 ชม. 45 นาที) เมืองสวยที่เป็นมรดกโลก ระหว่างทางผ่านชมเมืองที่มีสภาพเป็นเกาะอยู่โดดเดี่ยวสวยงามมีชื่อเสียงของโครเอเชีย คือ เมืองพรีโมสเตน ซึ่งเป็นเมืองเล็กที่สวยงามและเป็นเกาะเล็กๆ ในสมัยก่อนมีคนยกย่อง ให้ชาวเมืองนี้เป็นชาวเมืองที่มีความอดทนมาก ต่อการใช้ชีวิตเนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาหินแต่ยังอุตสาหะปลูกพืชและทำการเกษตรกรรม                                  A Peaceful Day Trip to Trogir from Split, Croatia - Travelsewhere

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมเขตเมืองเก่าโทรเกียร์ที่มีสถาปัตยกรรมในสไตล์ กรีก – โรมันโบราณ อาทิเช่น ประตูเมืองเก่าที่ได้มีการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 16 , หอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในสมัยที่ 14
  • ผ่านชมมหาวิหารเซ็นต์ลอว์เรนซ์ (St. Lawrences Cathedral) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาก่อสร้างนับสิบปี ที่มีความงดงามด้วยกรอบและบานประตูหินแกะสลัก มีรูปปั้นสิงโต อดัม & อีฟและรูปสลักนักบุญเซนต์ลอว์เรนซ์องค์สำคัญ ที่ผู้สร้างมหาวิหารแห่งนี้อุทิศให้  ซึ่งปัจจุบันด้วยเอกลักษณ์และความเก่าแก่ของเมืองโทรเกียร์ทำให้ยังได้รับการยกย่องจาก  ยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดยองค์การ (UNESCO )ใน ปี 1997 มีเวลาให้ท่านเดินเล่นในเมืองเก่า เลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นที่ระลึกมากมายในเขตเมืองเก่าโทรเกียร์แห่งนี้ เมื่อได้เวลาอันสมควร St Lawrence's Cathedral - Review of The St. Lawrence Cathedral and Bell Tower, Trogir, Croatia - Tripadvisor
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองสปลิท (Split) (ระยะทาง 30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที) เมืองสปลิทเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของโครเอเชีย สามารถนั่งเรือข้ามฟากระหว่างประเทศไปที่ประเทศอิตาลีได้ ณ เมืองแห่งนี้                        Split, Croatia: The Hottest Low-Key City | Luxury Travel Advisor
  • นำท่านชม “พระราชวังดิโอคลีเชี่ยน” (Diocletian’s Palace) ที่สร้างขึ้นจากพระประสงค์ของจักรพรรดิ์ดิโอคลีเชี่ยน ที่ต้องการสร้างพระราชวังสำหรับบั้นปลายชีวิตของพระองค์ ซึ่งใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 10 ปี ในยุคสมัยของจักรพรรดิ ดิโอคลีเชี่ยน เป็นช่วงยุคสมัยเริ่มต้นของจักรวรรดิโรมันตะวันออก หรือ จักรวรรดิไบเซนไทน์นั่นเอง พระราชวังดิโอเคลเชี่ยนได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ.1979 (UNESCO)  ชมห้องโถงกลางซึ่งมีทางเดินที่เชื่อมต่อสู่ห้องอื่นๆ ชมลานกว้างซึ่งล้อมไว้ด้วยเสาหินแกรนิต 3 ด้าน และเชื่อมต่อด้วยโค้งเสาที่ตกแต่งด้วยช่อดอกไม้สลักอย่างวิจิตรสวยงาม อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้งตามอัธยาศัย                                                                                                      The Diocletian's Palace | VOLARE MAGAZINE | VOLOTEA

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

LE MERIDIEN HOTEL SPLIT ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

DAY7

สปลิท - โมสตาร์ (UNESCO) (บอสเนีย & เฮอเซโกวีน่า)

 รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก หรือ แบบกล่อง

  • นำท่านสู่ “เมืองโมสตาร์” (Mostar) (ระยะทาง 166 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.) โดยระหว่างทางท่านจะผ่านเมืองสวยชื่อว่าเมืองโอมิช (Omis) เป็นเมืองสวยตั้งอยู่ริมทะเลอาเดรียติค ให้ท่านชมวิวระหว่างทาง

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินชมเมือง โมสตาร์ (Mostar) เป็นเมืองที่เคยถูกระเบิดครั้งใหญ่และโดนผลกระทบในช่วงสงครามระหว่างเซิร์บกับโครแอต โมสตาร์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ ตั้งอยู่บนแม่น้ำเนเรทวา (Neretva) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นพรมแดนกั้นวัฒนธรรมของสองท้องถิ่น คือทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจะเป็นส่วนของศาสนาอิสลามคือเป็นส่วนที่เป็นที่ตั้งของสุเหร่าและเตอร์กิสเฮาส์ ส่วนฝั่งตะวันตกจะเป็นส่วนของศาสนาคริสต์แบบคาทอลิก อันเป็นที่ตั้งของโบสถ์และที่อยู่ของนักบวช ปัจจุบันโมสตาร์เป็นเมืองที่สวยงามและโด่งดังที่สุดอีกแห่งหนึ่งประเทศของบอสเนีย คำว่า โมสตาร์ มาจากคำว่า “The Bridge Keepers” หรือแปลว่า ชาวโมสตาร์ที่คอยดูรักษาสะพานที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำเนเรทว่า  อิสระให้ท่านเดินชมเมืองเลือกซื้อของที่ระลึก ตามอัธยาศัย                                              Mostar and Počitelj, Bosnia & Herzegovina | Audley Travel
  • อิสระให้ท่านเดินชมเมืองเก่า ให้ท่านเลือกซื้อของที่ระลึก ตามอัธยาศัย

รับประทานอาคารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองของโรงแรมที่พัก

MEPAS HOTEL MOSTAR ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า

DAY8

โมสตาร์ - ดูบรอฟนิค (โครเอเชีย) – กำแพงโบราณ - ชมเมืองเก่า

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองดูบรอฟนิค (Dubrovnik) (ระยะทาง 140 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.) ดูบรอฟนิคหรือไข่มุกแห่งทะเลอาเดรียติก เมืองทางตอนใต้ของสาธารณรัฐโครเอเชีย เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโครเอเชีย และเป็นเมืองที่สวยงามติดอันดับต้นๆของโลก ซึ่งในอดีตเมื่อปี 1991 เมืองดูบรอฟนิค ได้ถูกโจมตีจากกองทหารยูโกสลาฟ บ้านเรือนกว่าครึ่ง อนุสาวรีย์ต่างๆ เสียหาย และทรุดโทรม และหลังจากนั้นในปี 1995 ได้มีการได้มีการลงนามในสนธิสัญญา ERDUT สงบศึก และเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ UNESCO และสหภาพยุโรป ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม เมืองส่วนที่เสียหายขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจุบันเมืองดูบรอฟนิค ก็กลับมาสวยงามอีกครั้ง และปัจจุบันเขตเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์และยกย่องให้เป็นมรดกโลก (Unesco)                                                              A Solo Traveller's Guide to Dubrovnik, Croatia

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านเยี่ยมชม “เมืองเก่าดูบรอฟนิค (Dubrovnik) ถ่ายรูปที่ระลึกบริเวณจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่นัดพบและประกอบกิจกรรมของชาวเมืองในอดีต รวมถึงสถานที่ลงโทษผู้กระทำผิดด้วย
  • อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึกกับ เสาหินอัศวิน (Orlando Column)หอนาฬิกา (Bell Tower) ที่ตั้งอยู่ปลายสุดของถนนสายหลัก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1444 หน้าปัดทำด้วยเหล็ก มีความพิเศษตรงลูกกลมๆ ใต้หน้าปัดซึ่งแทนพระจันทร์บอกข้างขึ้นข้างแรมในสมัยก่อน และรูปปั้นของ นักบุญ St. Blaise ซึ่งมีโบสถ์ประจำเมืองสไตล์โรมาเนสก์แห่งแรกของเมืองเป็นฉากหลังเพิ่มสเน่ห์มนต์ขลังสวยสดงดงาม
  • นำท่านชมกำแพงเมืองโบราณ ขึ้นชมความสวยงามของแนวหลังคาสีส้มตระหง่านไปทั้งเมืองเก่า กำแพงแห่งนี้มีความยาวรวมกันประมาณ 2 กิโลเมตร ท่านจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงาม โดยว่ากันว่าใครมาเมืองดูบรอฟนิคแล้วไม่ได้ขึ้นมาชมกำแพงเมืองโบราณแห่งนี้ ถือว่ามาไม่ถึงดูบรอฟนิค

รับประทานอาหาร ค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนูพิเศษ กุ้ง LOBSTER ย่าง เสิร์ฟพร้อมสปาเก็ตตี้ 

DUBROVNIK PALACE HOTEL   ระดับ 5 ดาว หรือระดับเทียบเท่า

DAY9

ดูบรอฟนิค – ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ชมวิว – กอเตอร์(UNESCO) (มอนเตเนโกร) – บุดวา

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านขึ้นเคเบิ้ลคาร์ สู่จุดชมวิวบนยอดเขาความสูง 405 เมตร เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองแบบพาโนรามา กล่าวกันว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมือง                                                                        DUBROVNIK CABLE CAR - All You Need to Know BEFORE You Go
  • อิสระให้ท่านถ่ายรูปตามอัธยาศัย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางกลับสู่ด้านล่าง นำท่านข้ามพรมแดนสู่ ประเทศมอนเตเนโกร (Montenegro) แปลความหมายเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า BLACK MOUNTAIN หรือ “ภูเขาสีดำ” ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ปัจจุบันมอนเตเนโกรเป็นประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ และพยายามร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป
  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองกอเตอร์ (Kotor) (ระยะทาง 75 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง)  มรดกโลก UNESCO แห่งแรกของประเทศมอนเตเนโกรที่ได้รับการรับรองในปี ค.ศ.1979  The Lens: Visiting Kotor, Montenegro | globalhelpswap

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านล่องเรือสู่เกาะโบสถ์พระแม่มารีย์แห่งหิน( Our Lady of the Rocks) ตั้งอยู่ที่ Gospa od Škrpjela ณ ใจกลางอ่าวโคเตอร์ เป็นเกาะที่เล็กๆ และเงียบสงบ สร้างขึ้นปี 1632 โดยชาวเวนิสค่า ป็นเหมือนอนุสาวรีย์ที่ช่วยปกป้องรักษาชาวเมืองให้รอดชีวิตจากภัยพิบัติ และอุบัติเหตุต่างๆ ให้ท่านได้ชมโบสถ์พระแม่มารีย์ จากนั้นอิสระให้ท่านตามอัธยาศัยจากนั้นนำท่านกลับสู่แผ่นดินใหญ่                    Our Lady of the Rocks,Montenegro Visitor's Guide
  • นำท่านชมเขตเมืองเก่าของกอเตอร์นำท่านชม ST.TRIPHUN CHURCH โบสถ์นิกายคาทอลิก และ ST.NIKOLA CHURCH โบสถ์นิกายออโธดอกซ์
  • จากนั้นเมื่อได้เวลาอันสมควร  นำท่านชมเขตเมืองเก่าของเมืองกอเตอร์
  • อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
  • จากนั้นได้เวลานำท่านสู่ เมืองบุดว่า (BUDVA) (ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที) เป็นเมืองโบราณตั้งอยู่บนชายฝั่งอาเดรียติค  เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดอีกแห่งที่ตั้งอยู่รอบทะเลอาเดรีตติค มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2,500 ปี ปัจจุบันได้รับฉายาว่าเป็น  ริเวียร่าแห่งมอนเตเนโกร

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง ณ โรงแรมที่พัก

 SPENDID HOTEL BUDVA   ระดับ 5 ดาว หรือระดับเทียบเท่า

DAY10

บุดว่า – สเวติ สเตฟาน - พอตกอริซ่า – เวียนนา (ออสเตรีย)

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านแวะถ่ายรูปกับ หมู่บ้านสเวติ สเตฟาน (Sveti Stefan) ที่เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของประเทศมอนเตเนโกร เพราะความน่าสนใจตรงที่เป็นเกาะที่มีถนนเชื่อมต่อกับชายฝั่ง หลังคาบ้านเรือนทำจากดินเผาสีส้ม ตัดกับสีน้ำทะเล จึงได้บรรยากาศที่ดูเป็นส่วนตัว และที่นี่ยังจัดเป็นรีสอร์ทอีกด้วย โดยเมื่อก่อน สมัยศตวรรษที่ 15 หมู่บ้านสเวติ สเตฟาน (Sveti Stefan) เคยเป็นชุมชนชาวประมงแบบเรียบง่าย แต่ก็น่าเศร้าที่ชาวบ้านถูกขับไล่ เพื่อสร้างเกาะดังกล่าวให้เป็นโรงแรมเหมือนอย่าง ปัจจุบัน โดยแขกคนดังที่เคยมาเข้าพัก ส่วนมากจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น มาริลีน มอนโรและเคิร์ก ดักลาส และทางเกาะไม่อนุญาตให้เข้าชม ยกเว้นผู้ที่พักรีสอร์ทในเกาะเท่านั้น  เมื่อได้เวลาอันสมควร              MyBestPlace - Sveti Stefan, the jewel of Montenegro
  • นำท่านเดินทางสู่ กรุงพอดกอริซ่า เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน พอดกอรีซา สนามบินนานาชาติ ณ เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร
  • 15.00 น.ออกเดินทางสู่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน OS 728 (ใช้เวลาบิน ประมาณ 1:20 ช.ม.) 
  • 16.25 น. เดินทางถึง กรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย นำท่านตรวจรับสัมภาระ

รับประทานอาหารค่ำ ณ  ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

RADISSON BLU RED VIENNA HOTEL  ระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า

DAY11

เวียนนา - ชมเมือง - Parndorf Outlet - สนามบิน

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • นำท่านชมกรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย  เมืองแห่งเสียงดนตรีคลาสสิค และเป็นดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวอีกมากมายที่ต่างพากันมาเยือนดินแดนอันแสนโรแมนติค นำท่านผ่านชมความงามของอาคารสำคัญๆ อาทิ อาคารรัฐสภา โรงละครโอเปร่า ศาลาว่าการนครเวียนนา พระราชวังหลวง ฯลฯ ผ่านชมแม่น้ำดานูบที่มีชื่อเสียงและท่านจะได้เห็นที่ทำการขององค์การสหประชาชาติ สาขาที่ 3ที่ตั้งสูงตระหง่านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นย่านใจกลางเมืองบน ถนนคนเดิน คาร์ทเนอร์สตราเซ่  ที่มีร้านค้านานาชนิด และยังเป็นที่ตั้งของ วิหารเซนต์สตีเฟ่นโบสถ์ใหญ่ในศิลปะแบบโกธิค                                                     Tourists on Foot Graben Street in Vienna. Editorial Image - Image of graben, population: 57040975
  • จากนั้นอิสระทุกท่านเลือกสินค้า เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า สินค้าแบร์นดเนมมากมาย เช่น Luis Vutton, Gucci,Chanel,Zara,H&M  และนาฬิกาหลากหลายยี่ห้ออาทิเช่น ROLEX,PANERIA,PATEK PHILIPPE, ตามอัธยาศัยหรือท่านอาจใช้เวลาว่างซื้อซัคเคอร์เค้ก เค้กช็อคโกแลต ชื่อดัง มาทดลองชิมหรือจะซื้อเป็นของฝากทางบ้าน

  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • จากนั้นนำท่านเดินทางออกนอกสนามบินเพื่อช้อปปิ้ง ณ พาร์นดอร์ฟเอาท์เลท (PARNDORF OUTLET )สถานที่ช้อปปิ้งเอาท์เลทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย มีสินค้าหลากหลายให้ท่านเลือกซื้อในราคาถูกมากมาย  อิสระให้ทุกท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย                                                         Index - Infó - Stílusos készülődés a karácsonyra: Fashion Shopping Week divathét November 2-6-ig a Designer Outlet Parndorf-ban

  **เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้งของท่าน อิสระมื้อเย็นตามอัธยาศัย**

  • 19.00 น. จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางออกสู่สนามบินเวียนนา
  • 23.25 น. ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินออสเตรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน OS 025
DAY12

สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ)

  • 14.40 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ…


แชร์ให้เพื่อน