ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (Christmas) 11 วัน
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส (Christmas) 11 วัน

กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 30 พ.ย. 66 - 10 ธ.ค. 66 | 185,900 บาท |
2 | 10 ธ.ค. 66 - 20 ธ.ค. 66 | 185,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมหมู่บ้าน Colmar / Riquewihr / Strasbourg เมืองสวยที่สุดในแคว้นอัลซาสของฝรั่งเศส
- 2ชมหมู่บ้าน Rothenburg ob der Tauber หนึ่งในสามหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเยอรมัน
- 3ชมหมู่บ้าน Bacharach / Rudesheim / Beilstein ลุ่มแม่น้ำไรน์เป็นหนึ่งในหมู่บ้านสวยของเยอรมัน
- 4ชมหมู่บ้าน Idstien / Gengenbach / Essingen / Besigheim / Bad Wimpfen/ Schwabisch hall เมืองเส้นทางไวน์และบ้านเรือนทรงไม้ German Timber-Frame Road
- 5ชมหมู่บ้าน Dinkelsbühl หมู่บ้านสีลูกกวาดของเยอรมัน
- 6ชมเมือง Trier อดีตเมืองแห่งอาณาจักรโรมัน และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมัน
- 7ชมเมือง Wurzburg / Bamberg / Nuremberg หนึ่งในเมืองสวยของเยอรมัน
- 8ชมหมู่บ้าน Beilstein ริมแม่น้ำ Mosel สุดสวยเป็นหนึ่งในหมู่บ้านสวยของเยอรมัน (UNSEEN)
- 9ชมเมือง Stuttgart เมืองต้นกำเนิดของรถยนต์ในยุคแรก ๆ
- 10ชมเมือง Frankfurt
- 11ชมเมืองบอนน์ (Bonn) เมืองหลวงของอดีตประเทศเยอรมันตะวันตก
- 12ชมเมือง Besigheim ซึ่งได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองไวน์ที่สวยที่สุดของเยอรมนี
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์ยุโรปChristmas Market
ทัวร์เยอรมัน – ฝรั่งเศส 11 วัน 9 คืน
โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ – กรุงเทพฯ - แฟรงก์เฟิร์ต
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
- 23.40 น. ออกเดินทางบินตรงสู่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 920
แฟรงก์เฟิร์ต (เยอรมัน) – อิดสไตน์ - รูเดสไฮม์ -นั่งกระเช้า - โคเบลนซ์
- 05.55 น. เดินทางถึง เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองอิดสไตน์ (IDSTEIN) (ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ) ตั้งอยู่ใจกลางประเทศเยอรมนี ตรงบริเวณเชิงเขา “เทานุส” ที่มีความสูงประมาณ 300 เมตร เป็นที่ตั้งของ ปราสาทอิดสไตน์ (Burg Idstein) เป็นปราสาทบนเนินเขาที่พำนักของแนสซอ-อิดสไตน์ สถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนสซองส์ โดยหอคอยแม่มดของปราสาทเป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและเป็นสถานที่สำคัญในท้องถิ่น โดยปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นประมาณ ค.ศ.1170 ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17สมัยเจ้าชายจอร์จ ออกัสตัส ซามูเอลแห่งแนสซอ-อิดสไตน์ การตกแต่งภายในแบบบาโรกเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1714 โดดเด่นและสวยงามของบ้านสไตล์ Fachwerkstraße หรือเรียกว่าเยอรมันไม้กรอบ (German Timber-Frame Road) ถือเป็นเส้นทางหมู่บ้าน Fachwerkstraße Road นำท่านชมย่านจัตุรัสเมือง อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง รูเดสไฮม์ อัม ไรน์ (Rudesheim am Rhein) (ระยะทางประมาณ 63 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ) (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน) เป็นเมืองเก่าเล็กๆ ที่มีประวัติเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำไรน์ ทิวทัศน์เต็มไปด้วยไร่องุ่นนับพันไร่จึงเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงทางการผลิตไวน์ชั้นดี มีปราสาทเก่าแก่อยู่หลายแห่ง บางแห่งอายุนับพันปี นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีบ้านเรือนที่เก่าแก่และธรรมชาติที่สวยงาม นำท่านเดินเล่นถนนที่ดังที่สุดของเมือง ถนน Drosselgasse ยาว 144 เมตร แต่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ผ่านชมพิพิธภัณฑ์ไวน์ไรน์ เกา (Rheingau Wine Museum) อันเลื่องชื่อในหมู่คอไวน์ เพราะเป็นแหล่งรวบรวมประวัติความเป็นมาของการผลิตไวน์ในเมืองรูเดสไฮม์ จากนั้นนำท่านชมอาคารไม้ ที่มีลวดลายสวยงาม และเป็นอาคารไม้เก่าแก่ของเมืองที่สร้าง ขึ้นตั้งแต่สมันศตวรรษที่ 16 ที่เรียกว่า Klun- khardshof ถ่ายภาพกับหอพญาอินทรีย์ (EAGLE TOWER) หอคอยสูงประมาณ 20 เมตรอันเคยเป็นสถานที่ที่เกอเธ่ กวีเอกของเยอรมันมาพักอาศัยช่วงที่เดินทางมาเมืองแห่งนี้
- อิสระให้ท่านเดินเล่นเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้า Seilbahn-Ruedesheim Cable car ขึ้นสู่จุดชมวิวเหนือเมือง ท่านจะได้ชมวิว ของแม่น้ำไรน์ ที่รายล้อมไปด้วยไร่องุ่นและปราสาท ให้ท่านชื่นชมทัศนียภาพของตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 21 พ.ย. – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองบอนน์ (Bonn) (ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 45 นาที ) เมืองหลวงของอดีตประเทศเยอรมันตะวันตก (Federal Republic of Germany หรือ West Germany) จนกระทั่งได้รวมกับประเทศเยอรมันตะวันออก (East Germany) จนมีการรวมเยอรมันกันเกิดขึ้น ทำให้บอนน์ถูกเเทนที่ด้วยเมืองหลวง เก่าดั้งเดิมอย่างกรุงเบอร์ลิน อีกทั้ง ยังเป็นเมืองบ้านเกิด เมืองที่เป็นบ้านเกิดของเบโธเฟน (Beethoven) คีตกวีชาวเยอรมันผู้มีชื่อเสียงก้องโลก
- ห้ท่านได้ถ่ายรูปกับ อนุสาวรีย์บีโธเฟ่น (Beethoven Monument) และ หะฟพห ถ่ายรูปกับ ศาลาว่า การเมือง Bonn’s Town Hall แหล่งรวมความคึกคักของเมือง และยังเป็นสถานที่จัดงานคาร์นิวัลอีก ด้วย บริเวณแห่งนี้ถูกล้อมรอลด้วยตลาด และร้านค้ามากมาย ให้คุณได้หามุมจิบกาแฟ หรือ เลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 21 พ.ย. – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
AMERON BONN HOTEL KÖNIGSHOF หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
บอนน์ - มอนเชาว์ – Beilstein - เทียร์
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน มอนเชาว์ (Monschau) (ระยะทาง 33 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) (เมือง Unseen คนไทยไปน้อยมาก) เมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในเขตอาเคิน (Aachen District) ของรัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน เมืองมอนเชาว์นั้นตั้งอยู่ในหุบเขาไอเฟล (Eifel mountain range) เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา โดยตัวเมืองทอดยาวไปตามถนนแคบๆ ซึ่งเรียงรายไปด้วยบ้านครึ่งไม้ (Half -Timbered) โดยบ้านเหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพราะรอดพ้นจากสงครามต่างๆมาได้ โดยหมู่บ้านมีแม่น้ำรูร์ (Rur River) ไหลผ่านด้านหลัง โดยเมืองมอนเชาว์ ถือเป็นเมืองเก่าแก่อีกเมืองของเยอรมันและได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน15 เมืองสวยของประเทศเยอรมันอีกด้วย
- นำท่านเดินชมเมือง เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง Beilstein (ระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 45 นาที) เป็นเมืองเล็กๆริมน้ำโมเซล บางครั้งก็รู้จักกันในชื่อ Rothenburg ob der Tauber ขนาดจิ๋วหรือ Dornröschen der Mosel (“เจ้าหญิงนิทราแห่ง Moselle”) ใกล้กันท่านจะได้พบกับปราสาท Hohenbeilstein ปราสาทนี้เชื่อกันว่ามีอายุย้อนไปถึงศตวรรษที่ 12 และถูกทำลายโดยกองทหารฝรั่งเศสในปี 1689 ขณะที่อยู่ภายใต้กรรมสิทธิ์ของตระกูลเมทเทอร์นิช ปัจจุบัน เหลือเพียงฐานรากของกำแพงปราสาทเท่านั้น จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เทียร์ (Trier) หรือเมืองทิเออร์ (ระยะทาง ประมาณ 82 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 20 นาที) เมืองที่มีชื่อเสียงมากๆอีกเมืองของเยอรมัน และถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมันด้วย ถูกตั้งขึ้น 16 ปีก่อนคริสตกาล และในช่วงต้นศตวรรษที่3 ยังได้รับการสถาปนาเป็นโรมที่สองอีกด้วย และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) อีกด้วย
- นำท่านถ่ายรูปกับประตูโรมัน พอร์ทา นีกา (Porta Nigra) ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 ถือเป็นประตูโรมันมี่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของเทือกเขาเอล์ป จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านอกกับ มหาวิหารเทียร์(Trier Cathedral) เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุด และมีความเก่าที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมัน ถูกสร้างตั้งแต่ช่วงสมัยโรมัน ปัจจุบันถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียร์อีกด้วย
- จากนั้นอิสระทุกท่านเดินเล่นชมเมืองเทียร์
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 24 พ.ย. – 22 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นจีน
PARK PLAZA HOTEL TRIER หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
เทียร์ - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 220 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2.45) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส (Alsace)ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม La Petite France (ปารีสน้อย)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านชมเขต La Petite France ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins
- นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 26 พ.ย. – 20 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนู หอยเอสคาโก้
MERCURE STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2คืน)
หมายเหตุ : โรงแรมมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
สตราสบูร์ก - กอลมาร์ - ริคเวีย - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1ชม. ) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาส และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ
- เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบ Half – Timber และบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง ด้วยบรรยากาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลกเดินทางมาฮันนีมูนที่นี่ นำท่านเดินชมเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง
- จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 24 พ.ย. – 29 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นได้เวลานำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr) (ระยะทาง 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส
- นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองสตราสบูร์ก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 24 พ.ย. – 29 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารเมือง
MERCURE STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
สตราสบูร์ก - เจนเก้นบาค – เอสลิงเก้น - ชตุตการ์ต
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเจนเก้นบาค (Gengenbach) (ระยะทาง 40 กม. ใช้เวลาประมาณ 38 นาที) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนีใกล้ป่าดำ เป็นเมืองที่มีความสวยงามตามแบบฉบับของเมืองเยอรมันแบบดั้งเดิมจึงได้รับเลือกให้เป็นฉากหลังในภาพยนตร์เช่น ‘Charlie and the Chocolate Factory’ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้คือ อัญมณียุคกลางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี มีถนนสายหลักสามสาย Hauptstrase, Adlergrasse และ Victor Kretz Strase ตรอกซอกซอยเล็ก ๆ เริ่มต้นจากถนนทั้งสามแห่งนี้ซึ่งสามารถเดินทางได้ด้วยการเดินเท้าหรือขี่จักรยานเท่านั้นซึ่งจะทำให้มีความสงบมากขึ้น ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองอิมพีเรียลเสรีในอดีตซึ่งหมายความว่ามีอิสระทางการค้าในการจัดเก็บภาษี ปัจจุบันเป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ด้วยเสน่ห์ที่ทำให้มีผู้มาเยือนมากมาย
- จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเอสลิงเก้น อัม เน็คคาร์ (Essingen an Neckar) (ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เมืองริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ เมืองแห่งนี้มีการพัฒนามาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน ทำให้ขนาดเมืองนี้ค่อนข้างใหญ่ โดยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น สิ่งทอ อาหาร เหล็ก เอสลิงเก้น ได้รับความเสียหายบางส่วนจากเหตุสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในเขตเมืองเก่านั้นได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี
- นำท่านชม St.Agnes Bridge สะพานข้ามคลองที่สร้างขึ้นในปีค.ศ.1893 โดยถือว่าจุกนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ชม Church of St.Dionys โบสถ์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
- จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 22 พ.ย. – 22 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
- นำท่านเดินทางสู่ ชตุตการ์ต (Stuttgart) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) คือเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ Baden-Württemberg ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Neckar เป็นต้นกำเนิดของรถยนต์ในยุคแรก ๆ มีบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ,พอร์เช่ ,มายบัค รวมถึงรถต้นแบบคันแรกของโฟล์คสวาเกน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
PARK INN BY RADISSON STUTTGART HOTEL (SUPERIOR ROOM) หรือระดับ เทียบเท่า 4 ดาว
ชตุตการ์ต - Besigheim - บาด วิมเฟน - ชตุตการ์ต
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ เมือง Besigheim (ระยะทาง 35 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที) ซึ่งได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองไวน์ที่สวยที่สุดของเยอรมนี เป็นเมืองเก่ายุคกลาง มีถนนแคบๆให้เดินเล่นขึ้นไปยังสันเขาซึ่งถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำสามด้าน นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง ซึ่งถูกสร้างเมื่อปี 1459 นั่นคือมีอายุประมาณหกร้อยปี อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองบาด วิมเฟน (Bad Wimpfen) (ระยะทาง 45 กม. ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเนคคาร์ ( River Neckar) ปัจจุบันเมืองบาด วิมเฟนได้กลายเป็นศูนย์รวมของสถาบันสปาต่างๆ รวมไปถึงเหล่าอาคารบ้านเรือนที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะเป็น อาคารศาลาว่าการเมือง โบสถ์ หอคอย โรงแรม พิพิธภัณฑ์ รวมไปถึงเหล่าอาคารบ้านเรือนที่สร้างในแบบโบราณ ซึ่งปัจจุบันยังคงได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ ชตุตการ์ต (Stuttgart) (ระยะทาง 65 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) นำท่านชม จตุรัสลอสส์พลาทซ์ (Schlossplatz) เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในสตุทท์การ์ท ปัจจุบันจัตุรัสกลางแห่งนี้มีอาคารประวัติศาสตร์ล้อมรอบ มีอนุสาวรีย์กระจายอยู่ทั่วไป มีการออกแบบที่สมมาตร โดยมีสนามหญ้าหลายแห่งตัดกับทางเดินกว้าง ตรงกลางมีอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะที่เป็นเสาสูง ซึ่งประดับด้านบนด้วยรูปปั้นคองคอร์เดียเคลือบทอง ด้านข้างอนุสาวรีย์มีน้ำพุประดับทั้งสองข้าง ซึ่งน้ำพุนี้เป็นจุดไฮไลท์ของจัตุรัสแห่งนี้ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยียมชมเป็นจำนวนมาก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 29 พ.ย. – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
PARK INN BY RADISSON STUTTGART HOTEL (SUPERIOR ROOM) หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ชตุตการ์ต - ชเวบิชฮาล – ดิงเกลส์บูล - โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองชเวบิชฮาล (Schwabisch hall) (ระยะทาง 70 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองเล็กๆทางตอนใต้ของเยอรมัน โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ที่ราบระหว่างหุบเขา โดยชื่อเมืองที่มีคำว่า Hall ต่อท้ายนั้น มีที่มาจากวิธีการผลิตเกลือที่อยู่ใต้ดินด้วยการใช้ความร้อนซึ่งเป็นที่แพร่หลายอย่างมากในช่วงยุคกลาง (คำว่า Hall ในภาษาเยอรมันแถบตะวันตกมีความหมายว่าการทำบางอย่างให้แห้งโดยใช้ความร้อน) นำท่านชมบ้านเรือนยุคกลางศิลปะแบบ Half-Timbered ที่ตั้งเรียงกันตามแนวแม่น้ำ Kocher ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้
- อิสระท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 24 พ.ย. – 22 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองดิงเกลส์บูล ( Dinkelsbühl ) (ระยะทาง 68 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1ชม.) เมืองท่องเที่ยวที่เก่าแก่แห่งแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ของประเทศเยอรมนี (เป็น 1 ใน 10 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในเยอรมัน ) ส่วนใหญ่มักถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและอาคารเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง ด้วยสีสันและศิลปะในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน จึงส่งผลให้ดิงเกลส์บูลเป็นเมืองที่น่ามาเยือนมากที่สุด
- จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านชมโบสถ์เซนต์จอร์จ (Saint George’s Cathedral) โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 โดยตัวโบสถ์นั้นออกแบบโดย Nikolaus Esele ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ์ในแบบสไตล์โกธิคที่สวยงามอีกแห่งของเมือง ชมภาพเขียนรูปพระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนฝีมือ มิคาเอล โวลเกอมุท (Michael Wolgemut) ที่อยู่เหนือแท่นบูชาที่สร้างในปี ค.ศ.1892
- นำท่านชมย่าน ไวน์มาร์ค (Weinmarkt) หรือไวน์ มาร์เก็ต (Wine Market) ซึ่งเป็นตึกเก่าเรียงตัวกันอยู่ 5 หลัง มีสีสันตัดกันตั้งแต่สีส้ม สีเขียว สีแดง สีเหลือง ซึ่งการทาสีบ้านในเมืองนี้เน้นการทาสีเดียว (single color) และเขียนชื่อธุรกิจไว้หน้าบ้านด้วยตัวหนังสือแบบลายมือ (calligraphy letter) ในสีเอิร์ธโทน (earth tone) นอกจากตามหน้าต่างจะมีการประดับด้วยกระถางไม้ดอกสีสดใสแข่งขันชูช่อออกดอกบานสะพรั่งแล้ว อีกเอกลักษณ์สำคัญของอาคารเก่าก็คือ หลังคาสีแดงสดที่เหมือนกันไปหมดทั้งเมือง ในส่วนของจุดเด่นของอาคารแถบนี้คงเป็นที่หน้าจั่วแบบขั้นบันได โดยตึกสีส้มที่อยู่ตรงหัวมุมจะมีลักษณะพิเศษเพิ่มนอกจากหน้าจั่วแล้วยังมีโดมเล็กๆ อยู่ด้านบนอีก ปัจจุบันเป็นโรงแรมที่ชื่อว่า อัลเดอร์เมน อินน์ (Aldermen’s Inn) ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นที่ประทับของบุคคลสำคัญๆ เช่น จักพรรดิ์คาร์ลที่ 5 (Emperor Karl V) เมื่อปี ค.ศ.1546 และกษัตริย์กุสตาฟ อดอล์ฟ แห่งสวีเดน เมื่อปี ค.ศ.1632 จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร
- จากนั้นนำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก (ระยะทาง 49 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274
- นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า เก่า อิสระท่านเดินเล่นชมเมือง ซื้อของฝาก และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 1 – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
โรเธนเบิร์ก – นูเรมเบิร์ก - แบมเบิร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) (ระยะทาง 83 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1ชม.) เมืองที่ได้รับสมญานามว่าเมืองแห่งเทพนิยายของเยอรมัน หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบความสวยงามของธรรมชาติ ขุนเขาสลับซับซ้อน ปราสาทราชวังแบบในการ์ตูน ทางเดินโรยกรวด ปูหินแบบยุคกลาง โบสถ์สวยเก่าแก่ หิมะที่ปกคลุมขาวโพลนไปทั่วทั้งเมือง นูเรมเบิร์กนั้นเสมือนดังเมืองแห่งเทพนิยายที่ได้รับการรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ นำท่าน เดินชมเมืองโบราณที่มีอายุกว่า 900 ปี ผ่านชม เม้าท์ฮาล์ โรงเก็บส่วยภาษีอากรในอดีตที่ถือเป็นอาคารประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของเมืองนูเรมเบิร์ก
- ชมบริเวณ จัตุรัสกลางใจเมือง (HAUPTMARKT) ซึ่งมีตลาดนัดขนาดใหญ่ประจำเมือง อันถือเป็นตลาดนัดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี
- ชม โบสถ์พระแม่มาเรีย (FRAUENKIRCHE) จุดเด่นคือ มีนาฬิกาตุ๊กตาไขลานที่หน้าจั่วของโบสถ์พระแม่มาเรีย ตัวนาฬิกาและตุ๊กตาประดับนี้ถูกสร้างเพิ่มเติมภายหลังในปี ค.ศ. 1509 เพื่อเป็นการรำลึกถึง พระราชกฤษฎีกาทองคำปี 1356 ที่ตราขึ้นตามพระราชบัญชาของจักรพรรดิคาร์ลที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อิสระท่านตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 1 – 24 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบมเบิร์ก (Bamberg) (ระยะทาง 61 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1ชม.) ได้รับการบรรจุเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1993 เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงอีกเมืองนึงในรัฐบาวาเรีย อีกทั้ง เมืองแบมเบิร์กยังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมเพราะเป็นเมืองที่โดดเด่นมากในด้านสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม อีกด้วย
- ชม มหาวิหารบัมแบร์กเซนต์ปีเตอร์และเซนต์จอร์จ (Bamberger Dom St. Peter and St.Georg) มีความสำคัญเป็นที่ตั้งของสังฆมณฑลของอัครบาทหลวงแห่งบัมแบร์ก โดยมหาวิหารถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ สร้างครั้งแรกในปี ค.ศ.1004 โดยจักรพรรดิเฮนรีที่ 2 (Henry II) ซึ่งแล้วเสร็จในปี 1012 อีกทั้งยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเมือง โดยสถาปัตยกรรมแบบโรมานเนสก์ตอนปลายและศิลปะแบบโกธิค โดยภายในประกอบไปด้วยหอทั้งสองด้านของตัวตึกจำนวน 4 หอ นอกจากนั้นข้างๆ ตัววิหารยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์พิพิธภัณฑ์จัดแสดงของมีค่าทางศาสนาด้วย
- ชม ศาลาว่าการเมืองเก่า (Altes Rathaus) ตั้งอยู่กลางเมืองแบมเบิร์กบนสะพาน Obere Brücke คล่อมแม่น้ำเร็กนิทซ์ เป็นเมืองมรดกโลกของเยอรมนี โดยที่ปัจจุบันนั้น ศาลาว่าการเมืองเก่านั้น ได้แปรสภาพเปลี่ยนไปเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องกระเบื้อง ที่มีชื่อว่า Sammlung Ludwig Collection Bamberg นั่นเอง ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอาคารศาลาว่าการเมืองเก่า จะเป็นที่ตั้งของบ้านในสไตล์ Half-timbered หลายหลังในย่านที่เรียกว่า Little Venice เพราะมีคูคลองตัดผ่าน รวมถึงท่าเรือหน้าบ้านด้วย อิสระท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 22 พ.ย. – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
WELCOME HOTEL RESIDENZSCHLOSS BAMBERG หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองแบมเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
แบมเบิร์ก – วูซเบิร์ก - แฟรงค์เฟิร์ต – จตุรัสโรเมอร์ – ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง วูร์ซเบิร์ก (Wuerzburg) (ระยะทาง 93 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. )เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
- นำท่านชมความงดงามของเมือง วูร์ซเบิร์ก โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) แวะถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบริ์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ คศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Wurzburg Residence สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่า สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 1 – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
- นำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน ( ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. )
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER)ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อ (OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียดนำท่าน ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน
- ผ่านชมโบส์ถเซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมือง
- อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยูมากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น
- อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 21 พ.ย. – 22 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 20.40 น.ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
สุวรรณภูมิ - กรุงเทพ ฯ
- 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ