ทัวร์เยอรมัน – เบลเยี่ยม – ฝรั่งเศส (Christmas)
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์เยอรมัน – เบลเยี่ยม – ฝรั่งเศส (Christmas)
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 24 พ.ย. 65 - 4 ธ.ค. 65 | 155,900 บาท |
2 | 1 ธ.ค. 65 - 11 ธ.ค. 65 | 155,900 บาท |
3 | 21 ธ.ค. 65 - 31 ธ.ค. 65 | 155,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1ชมหมู่บ้าน Colmar / Riquewihr / Eguisheim / Strasbourg เมืองสวยที่สุดในแคว้นอัลซาสของฝรั่งเศส
- 2ชมหมู่บ้าน Rothenburg ob der Tauber หนึ่งในสามหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเยอรมัน
- 3ชมหมู่บ้าน Monchau หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเยอรมัน
- 4ชมเมือง Brugge เมืองที่สวยที่สุดของเบลเยี่ยม Unesco
- 5ชมเมือง Ghent สวยระดับโลก ของประเทศเบลเยี่ยม Unesco
- 6ชมกรุง Brussels เมืองหลวงของเบลเยี่ยม
- 7ชมกรุง Metz 1 ในตลาดคริสต์มาสที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส
- 8ชมเมือง Tier เมืองสวยของเยอรมัน Unesco
- 9ชมหมู่บ้าน Dinant หนึ่งหมู่บ้านสุดสวยของเบลเยี่ยม
- 10เข้าชมปราสาท Heidelberg Castle ได้ขึ้นชื่อว่า ปราสาทซากปรักหักพังที่สวยที่สุดในโลก
- 11ชมมหาวิหาร Cologne โบสถ์สุดสวยแห่งเมืองโคโลญจน์ ได้รับ Unesco
- 12ชมเมือง Esslingen am Neckar เมืองประวัติศาสตร์ยุคโรมัน
- 13ชมเมือง Wurzburg เมืองแสนสวยต้นทางของเส้นทางสายโรแมนติคของเยอรมัน
- 14ชมเมือง Frankfurt หนึ่งในเมืองดังของเยอรมัน
- 15ชม Atomium อีกหนึ่งสัญลักษณ์กรุงบรัสเซลส์
HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์ยุโรปChristmas Market
ทัวร์เยอรมัน – เบลเยี่ยม – ฝรั่งเศส 11 วัน 7 คืน
โดยสายการบินไทย (TG)
สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ
- 20.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตูทางหมายเลข 3 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทยพบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
- 23.40 น. ออกเดินทางบินตรงสู่แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ TG 920
แฟรงค์เฟิร์ต – โคเบลนซ์ - โคโลญจน์
- 05.55 น. เดินทางถึง เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมันนี
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคเบลนซ์ (Koblenz) (ระยะทาง 125 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 30 นาที) เป็นเมืองโบราณที่ถูกสร้างขึ้น 8 ปีก่อนคริสตกาล โดยจักรพรรดินีโร หรือที่รู้จักในชื่อ นีโรจอมโหด ซึ่ง มีชื่อเต็มใหม่ ว่า นีโร คลอดิอุส ซีซาร์ ดรุสซุส (Nero Claudius Caesar Drusus) สำหรับตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ตรงปากแม่น้ำซึ่งเป็นที่บรรจบกันของแม่น้ำ 2 สาย คือแม่โมเซล (Moselle River) และแม่น้ำไรน์ (Rhine River) ซึ่งต่อมาในปี 1992 เมืองโคเบลนซ์ได้ฉลองครบรอบอายุ 2000 ปีของเมืองอีกด้วยเมืองโคเบลนซ์ยังเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ค่อนข้างโดดเด่น ภายในเมืองนั้นรายล้อมไปด้วยป้อมปราการที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงอาคารที่มีความเก่าแก่
- จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าสู่ป้อมเอียเรียนบรายทชไตน์ (Ehrenbreitstein Fortress) ป้อมปราการรูปสามเหลี่ยมที่มีผนังหนากว่า 20 ฟุตถูกสร้างขึ้นโดยปรัสเซียในต้นศตวรรษที่ 19 ป้อมเอียเรียนบรายทชไตน์ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเมืองโคเบลนซ์ ในช่วงระหว่างปี 1817 – 1832 ป้อมปราการถูกใช้รักษาพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำไรน์และแม่โมเซล ปัจจุบันถือว่าเป็นอีกหนึ่งป้อมปราการที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากแห่งหนึ่งของประเทศ
- นำท่านชม มุมแห่งเยอรมนี (Deutsches Eck) ชมพระบรมรูปทรงม้าสง่างามของจักรพรรดิวิลเฮล์มที่ 1 ประดิษฐานเมื่อปี ค.ศ. 1897 แต่ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วสร้างขึ้นมาใหม่ในปีค.ศ. 1993
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญจน์ (Cologne) (ระยะทาง 250 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชม.) เมืองต้นตำรับน้ำหอมโอเดอโคโลญจน์ 4711 นำท่านถ่ายรูปกับ มหาวิหารโคโลญจน์ ในศิลปะสไตล์โกธิค ชมโดมที่สูงที่สุดในโลก ภายในเป็นที่เก็บรักษาหีบทองคำ บรรจุอัฐิของกษัตริย์ ที่เดินทางตามดวงดาว มาคารวะพระเยซูในคืนประสูติ ด้วยความสวยงามและความยิ่งใหญ่ทำให้มหาวิหารโคโลญจน์ ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ปี ค.ศ.1996
- จากนั้นอิสระกับการเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 21 พ.ย. – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาส ที่สวยงามของเมืองโคโลญจน์ แม้ว่าจะจบงานเทศกาลตลาดคริสต์มาสแล้ว ท่านก็ยังจะสามารถเห็นความสวยงามของการประดับประดาตกแต่งบ้านเรือนได้อยู่ในช่วงเวลานี้
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
PULLMAN COLOGNE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
โคโลญจน์ – อาเค่น – มอนเชา – บรัสเซลส์
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง อาเค่น (Aachen) (ระยะทาง 80 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เมืองพรมแดนตะวันตกสุดของเยอรมัน ติดพรมแดนประเทศเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์ มีชื่อเสียงจากเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์
- นำท่านเข้าชม มหาวิหารอาเค่น (Aachener Dom) อันเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน นับเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของเมือง มหาวิหารแห่งอาเค่น นี้ถูกจัดเป็นมรดกโลกของยูเนสโก ในปี ค.ศ 1987 ( ได้รับ Unesco แห่งแรกของประเทศเยอรมัน )
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 18 พ.ย. – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน มอนเชาว์ (Monschau) (ระยะทาง 33 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที) (เมือง Unseen คนไทยไปน้อยมาก) เมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในเขตอาเคิน (Aachen District) ของรัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน เมืองมอนเชาว์นั้นตั้งอยู่ในหุบเขาไอเฟล (Eifel mountain range) เป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขา โดยตัวเมืองทอดยาวไปตามถนนแคบๆ ซึ่งเรียงรายไปด้วยบ้านครึ่งไม้ (Half -Timbered) โดยบ้านเหล่านี้ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพราะรอดพ้นจากสงครามต่างๆมาได้ โดยหมู่บ้านมีแม่น้ำรูร์ (Rur River) ไหลผ่านด้านหลัง โดยเมืองมอนเชาว์ ถือเป็นเมืองเก่าแก่อีกเมืองของเยอรมันและได้รับการยอมรับว่าเป็น 1 ใน15 เมืองสวยของประเทศเยอรมันอีกด้วย
- นำท่านเดินชมเมือง เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ตัวเมือง กรุงบรัสเซลส์ (Brussels) (ระยะทาง 150 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 40 นาที) เมืองหลวงประเทศเบลเยี่ยม และประชาคมร่วมยุโรป และเป็นที่ตั้งขององค์กรสำคัญมากมายหลายองค์กร นำท่านถ่ายรูปคู่ อะตอมเมี่ยม ประติมากรรมรูปอะตอมมหึมา สัญลักษณ์จากการรวมตัวครั้งแรกของกลุ่มประเทศยุโรปเมื่อปี ค.ศ. 1959
- ผ่านชมบริเวณพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์แห่งเบลเยี่ยม
- ชมจัตุรัสแกรนด์เพลซ ใจกลางเมือง ประทับใจกับหมู่ตึกต่างๆอาทิ ศาลาว่าการเมือง หมู่ตึกกริลเฮาส์ ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นสถานที่ประทับของราชวงศ์กษัตริย์เบลเยี่ยม และเป็นตลาดนัดจุดรวมการแลกเปลี่ยนสินค้าในอดีต
- ชม แมนาคินพิส อนุสาวรีย์หนูน้อยยืนฉี่ สัญลักษณ์ของกรุงบรัสเซลส์
- อิสระให้ท่านเดินเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาทิชอคโกแล๊ตผ้าลายลูกไม้ เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋า ฯลฯ หรือเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
** เมือง บรัสเซลส์ ติด 1 ใน 10 เมืองที่สวยที่สุดของยุโรปที่มีการจัดตลาดคริสต์มาส**
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 25 พ.ย. – 1 ม.ค.ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
BRUSSELS MARRIOTT HOTEL GRAND PLACE หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
บรัสเซลส์ - เกนต์ - บรูจน์
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เกนต์ (Ghent) (ระยะทาง 65 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองที่สวยอันดับ 3 ของเบลเยี่ยม เมืองเล็กที่น่ารักแห่งเบลเยี่ยม นำท่านชมเขตเมืองเก่าแห่งเกนต์ย่านจตุรัสใจกลางเมืองเป้นที่ตั้งของโบสถ์ St Bavo’s Cathedral โบสถ์แห่งนี้มีความเป็นมายาวนานมากครับ โดยพื้นที่เดิมตรงนี้นั้นเคยเป็น Chapel มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 942 และต่อมาก็ได้มีการสร้างอาคารที่ใหญ่ขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 14-16 และเป็นโบสถ์แบบโกธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลก (Unesco) อีกด้วย
- อิสระถ่ายรูปหรืออาจจะเลือกเดินเล่นชมร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย หรือนั่งจิบกาแฟด้านหน้าร้านกาแฟเท่ห์ที่น่ารักมากมามาย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 8 – 31 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมือง บรูจน์ (Bruges) เป็นเมืองที่สวยอันดับ 1 ของประเทศเบลเยี่ยม และยังติดอันดับต้นๆเมืองสวยที่สุดโลก) (ระยะทาง 56 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.)
- นำท่านเยี่ยมชมเมือง บรูจน์ เมืองเล็กๆทางตะวันตกของเบลเยียม ที่ยังคงอนุรักษ์ เมืองในสมัยโบราณ อายุกว่า 500ปี และได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก Unesco และเคยเป็นเมืองหลวงของแคว้นเฟลนเดอร์ เมืองที่คูคลองล้อมรอบเมือง ชมศาลาว่าการกลางเมือง ในสไตล์แบบโกธิค หอระฆังแห่งบรูจน์ ที่มีบันไดกว่า 300 ขั้น ให้นักท่องเที่ยว ลองเดินขึ้นทดสอบความ แข็งแรงและสามรถชมทัศนียภาพของเมืองที่สวยงามได้อย่างรอบทิศทาง จตุรัสมาร์ก หรือตลาดประจำเมือง ที่รายล้อมด้วยอาคารอันสวยงามของศิลปกรรมในยุคต่างๆที่ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัวกัน
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 25 พ.ย. – 8 ม.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ARAGON HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
บรูจน์ – ดินองท์ - เทียร์
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง ดินองท์ (Dinant) ประเทศเบลเยี่ยม (Unseen) (ระยะทาง 212 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 30 นาที ) เมือง เล็กๆแห่งนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดนามูร์ (Namur) ทางตอนใต้ของประเทศเบลเยี่ยม โดยตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิวส์ (Meuse River) ที่ขนาบข้างไปกับแม่น้ำและแนวผาสูงชัน จากนั้นนำท่านนั่ง CABLE CAR ขึ้นชมวิวเมืองดินองท์ บนป้อมปราการ Dinant Citadel ป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1530 แต่ถูกทำลายในช่วงสงครามฝรั่งเศส และมีการซ่อมแซมในปี ค.ศ.1821
- จากนั้นนำท่านกลับลงสู่ด้านล่างนำท่านเดินเล่นชมเมืองดินองท์
** หมายเหตุ : หากเกิดเหตุสุดวิสัยหรือว่า cable car ปิดไม่ให้บริการทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้บริการ**
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมือง เทียร์ (Trier) หรือเมืองทิเออร์ (ระยะทาง ประมาณ 82 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม. 20 นาที) เมืองที่มีชื่อเสียงมากๆอีกเมืองของเยอรมัน และถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในเยอรมันด้วย ถูกตั้งขึ้น 16 ปีก่อนคริสตกาล และในช่วงต้นศตวรรษที่3 ยังได้รับการสถาปนาเป็นโรมที่สองอีกด้วย และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (Unesco) อีกด้วย
- นำท่านถ่ายรูปกับประตูโรมัน พอร์ทา นีกา (Porta Nigra) ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 2 ถือเป็นประตูโรมันมี่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในทางตอนเหนือของเทือกเขาเอล์ป จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านอกกับ มหาวิหารเทียร์(Trier Cathedral) เป็นมหาวิหารที่สำคัญที่สุด และมีความเก่าที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมัน ถูกสร้างตั้งแต่ช่วงสมัยโรมัน ปัจจุบันถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียร์อีกด้วย
- จากนั้นอิสระทุกท่านเดินเล่นชมเมืองเทียร์
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 18 พ.ย. – 22 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวย สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
MERCURE HOTEL TRIER PORTA NIGRA หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
เทียร์ - เมสซ์ - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเมสซ์ (Metz) (ระยะทาง 110 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 20 นาที) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศฝรั่งเศส ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส มีอายุกว่า 3,000 ปี ชม Porte des Allemands สะพานยุคกลางที่เป็นป้อมประตูเข้าสู่เขตเมืองเก่า
- จากนั้นชม Saint-Stephen Cathedral หรือ Metz Cathedral วิหารสไตล์โกธิคที่ประดับด้วยกระจกสีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในบริเวณใจกลางเมือง ที่จัตุรัส Place d’Armes บางครั้งอาจจะถูกเรียกว่าโบสถ์ Saint Stephen รูปแบบของโบสถ์ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมโกธิคในยุคกลาง และได้รับการขนานนามให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมในปี 1930 เนื่องมาจากความงดงามและประวัติศาสตร์ที่ยาวนานนั่นเอง โบสถ์แห่งนี้สร้างจากหินปูนที่ได้มาจากแคว้นลอแรนนั่นเอง สีของหินปูนที่เปลี่ยนสภาพมาเป็นสีเหลืองเนื่องจากการการกลัดกร่อน ทำให้โบสถ์มีสีดังที่เห็น กระจกสีที่ใช้ตกแต่งภายในโบสถ์นั้นมีขนาด 6.496 ตารางเมตร และได้รับการขนานนามว่าเป็นกระจกสีที่ดีที่สุดในโลก กระจกสีนี้ใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าจะแล้วเสร็จ หนึ่งในศิลปินที่ร่วมสร้างสรรค์ผลงานนี้ คือ Chagall ซึ่งเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงอย่างมาก Basilica of Saint-Pierre-aux-Nonnains โบสถ์เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส Temple Neuf โบสถ์สไตล์โรมาเนสก์ยุคใหม่บนเกาะกลางแม่น้ำ จุดถ่ายรูปหลักของเมือง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมือง สตราสบูร์ก (Strasbourg) (ระยะทาง 170 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เป็นเมืองแห่งความโรแมนติค และเมืองหลวงของแคว้นอัลซาส (Alsace)ประเทศฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามเมืองหนึ่งของยุโรป ซึ่งเมื่อท่านเดินทางมาแถบลุ่มแม่น้ำไรน์ไม่ควรพลาดเด็ดขนาด เมืองขนาดกลางแห่งนี้มีย่านเมืองเก่าทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักกันในนาม La Petite France (ปารีสน้อย) นำท่านชมเขต La Petite France ภูมิทัศน์สวยงามด้วยบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองแม่น้ำ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเมือง มีลักษณะเป็นพื้นที่ล้อมรอบด้วยแม่น้ำอิลล์ทั้งสี่ด้านและมีเส้นทางคูคลองเชื่อมต่อกันไปมากมาย บริเวณใกล้เคียงเป็นเกาะที่มีสะพานหลายแห่งเป็นตัวเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆของเมือง ภายในย่านนี้มีลักษณะเป็นตรอกซอกซอย พื้นถนนปูลาดด้วยหินกรวด เรียงรายด้วยบ้านไม้โบราณสไตล์อัลซาสที่สวยงามซึ่งทอดตัวเป็นภาพเงาสะท้อนในคลองตลอดถนน Rue des Moulins
- นำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารนอร์ทเทอดาม ได้รับการยกย่องให้เป็นมหาวิหารที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปและมียอดโดมสูงที่สุดในยุโรปตะวันตก อีกด้วยออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิค สร้างด้วยหินทรายสีชมพูทั้งหลังโดยสร้างขึ้นในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 12 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 260 ปีตัววิหารมีการรวบรวมรูปแบบการก่อสร้างที่งดงามหลายส่วนรวมถึงรูปแกะสลักต่างๆ ช่วงยุคกลาง จากนั้นอิสระถ่ายรูปหรือเลือกซื้อสินค้าพื้นตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 25 พ.ย. – 25 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง เมนู หอยเอสคาโก้
HILTON STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว (พัก 2คืน)
สตราสบูร์ก - เอกิซไฮม์ - กอลมาร์ - ริคเวีย - สตราสบูร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่หมู่บ้าน เอกิซไฮม์ (Equisheim) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ) Les Plus Beaux Village de France เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดในประเทศฝรั่งเศส และได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Typical Villageมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตไวน์ บ้านเรือนเป็นแบบกึ่งไม่กึงปูนแบบสมัยในยุคกลางกว่า 70 หลัง พื้นที่กว่า 600 ไร่ ให้ท่านเดินชื่นชมบรรยากาศ บ้านเรือนตามอัธยาศัย
- นำท่านเดินทางสู่เมือง กอลมาร์ (COLMAR) (ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที) เมืองในแคว้นอัลซาส ประเทศฝรั่งเศส เป็นเมืองที่ถูกจัดอันดับ 1ใน 10เมืองโรแมนติคที่สุดในโลก ได้รับการขนานนามว่าเวนิสน้อย (LA PETITE VENISE) ตั้งอยู่บนเส้นทางไวน์ของอัลซาส และยังเป็นบ้านเกิดของศิลปิน เฟรดเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี ผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ เมืองกอลมาร์มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้คงเป็นเมืองที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมการสร้างบ้านแบบ Half – Timber และบรรยากาศของเมืองโบราณ ในตัวเมืองมีพิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ที่อยู่อาศัยเหมือนในยุคกลาง ด้วยบรรยากาศที่สวยงามตัดกับบ้านเรือนสีสันสดใสจึงเป็นเมืองที่คู่รักจากทั่วโลกเดินทางมาฮันนีมูนที่นี่
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 24 พ.ย. – 29 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินชมเมืองกอลมาร์เริ่มตั้งแต่ย่าน La Petite Venise และเข้าสู่จัตุรัสกลางเมือง
- จากนั้นอิสระให้ทุกท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือเลือกซื้อสินค้าของที่ระลึกตามอัธยาศัย
- จากนั้นได้เวลานำท่านสู่เมือง ริคเวีย (Riquewihr) (ระยะทาง 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) เมืองที่ติดกับเมืองกอลมาร์ เป็นแหล่งปลูกไวน์ชั้นเลิศของแคว้นอาลซาส และเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Village de France หรือหมู่บ้านที่สวยที่สุดในฝรั่งเศส
- นำท่านเดินชมบ้านเรือนที่อยู่ในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่นที่ไว้สำหรับทำไวน์ โดยเฉพาะช่วงเดือน เม.ย – พ.ย. จะเห็นต้นองุ่นที่ถูกปลูกสวยงามยิ่งนัก นำท่านเดินเล่นชมเมือง ริคเวีย ท่านจะได้พบกับร้านเรือนที่มีสีสันสวยงามล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น มีตรอกซอกซอยร้านค้า ร้านไวน์ ร้านกาแฟ ให้ท่านเลือกนั่งจิ๊บไวน์หรือกาแฟ หรือเลือกซื้อไวน์ที่มีชื่อเสียง อิสระให้ท่านเดินถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจ จนกระทั่งได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองสตราสบูร์ก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 26 พ.ย. – 20 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HILTON STRASBOURG HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
สตราสบูร์ก – เอสลิงเก้น - ชตุตการ์ต
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเอสลิงเก้น อัม เน็คคาร์ (Esslingen am Neckar) (ระยะทาง 170 กม. ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) เมืองริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ เมืองแห่งนี้มีการพัฒนามาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน ทำให้ขนาดเมืองนี้ค่อนข้างใหญ่ โดยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น สิ่งทอ อาหาร เหล็ก เอสลิงเก้น ได้รับความเสียหายบางส่วนจากเหตุสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในเขตเมืองเก่านั้นได้รับการป้องกันเป็นอย่างดี
- นำท่านชม St.Agnes Bridge สะพานข้ามคลองที่สร้างขึ้นในปีค.ศ.1893 โดยถือว่าจุกนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้
- ชม Church of St.Dionys โบสถ์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 13
- จากนั้นอิสระท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่ ชตุตการ์ต (Stuttgart) (ระยะทาง 15 กม. ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) คือเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ Baden-Württemberg ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Neckar เป็นต้นกำเนิดของรถยนต์ในยุคแรก ๆ มีบริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงเช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ,พอร์เช่ ,มายบัค รวมถึงรถต้นแบบคันแรกของโฟล์คสวาเกน เช่นกัน
- นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ ปอร์เช่ (Porsche Museum) คือสถานที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาตั้งแต่รถยนต์ปอร์เช่คันแรกที่สร้างจนถึงรถรุ่นปัจจุบัน โดยมีรถปอร์เช่กว่า 80 คันและมีเพียงรุ่นละ 1 คันในโลกเท่านั้นที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์
- นำท่านชม จตุรัสลอสส์พลาทซ์ (Schlossplatz) เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในสตุทท์การ์ท ปัจจุบันจัตุรัสกลางแห่งนี้มีอาคารประวัติศาสตร์ล้อมรอบ มีอนุสาวรีย์กระจายอยู่ทั่วไป มีการออกแบบที่สมมาตร โดยมีสนามหญ้าหลายแห่งตัดกับทางเดินกว้าง ตรงกลางมีอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะที่เป็นเสาสูง ซึ่งประดับด้านบนด้วยรูปปั้นคองคอร์เดียเคลือบทอง ด้านข้างอนุสาวรีย์มีน้ำพุประดับทั้งสองข้าง ซึ่งน้ำพุนี้เป็นจุดไฮไลท์ของจัตุรัสแห่งนี้ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 26 พ.ย. – 20 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
PARK INN BY RADISSON STUTTGART HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
ชตุตการ์ต – ไฮเดลเบิร์ก - โรเธนเบิร์ก
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านออกเดินทางสู่เมือง ไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg) (ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลา 1 ชม.30 นาที)ตั้งอยู่ในรัฐ baden-Wurttemburg ทางใต้ของแฟรงค์เฟิร์ตเป็นเมืองที่มีบรรยากาศสวยงามริมฝั่งแม่น้ำเน็คคาร์ (Neckar) โดยมีปราสาทไฮเดลเบิร์กตั้งอยู่บนเชิงเขา
- จากนั้นเข้าชม ปราสาทไฮเดลเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่บนเขาแบร์กบาห์น ปราสาทแห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 400 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ สถาปัตยกรรมที่เห็นจึงมีหลากหลายตามยุค โดยเริ่มก่อสร้างจากยุคโกธิค ในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้ารูเพรชท์ที่ 3 ปราสาทได้รับความาเสียหายในปี 1622 ซึ่งอยู่ในช่วงสงคราม30ปีและมาถูกเผาทำลายถึง 2ครึ่งในปี 1689และ 1693 ในสงครามกับฝรั่งเศส จึงเหลือตาซากปรักหักพัง และได้การยอมรับว่านี้คือซากปรักหักพังของปราสามที่สวยงามที่สุดในโลก
- นำท่านชมวิวจากจุดชมวิวบนตัวปราสาท ท่านจะมองเห็นเมืองไฮเดลเบิร์กได้อย่างสวยงาม
- นำท่านชมเก็บ ถังไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดความจุราว 222,000 ลิตร
- นำท่านลงสู่ตัวเมืองเก่าของไฮเดลเบิร์ก
- นำท่านชมสะพานเก่าอัลเทอบรุคเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเน็คคาร์ ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 เมื่อเดินข้ามสะพานไปแล้วมองหันกลับมาท่านจะเห็ปราสาทไฮเดลเบิร์กสีชมพูอมแดงตั้งโดดเด่นเหนือตัวเมืองไฮเดลเบิร์ก
- นำท่านชมรูปปั้นลิง บนตัวสะพานที่มีความเชื่อว่าหากได้มาสัมผัสรูปปั้นลิงนี้จะได้กลับมาเยือนอีกครั้งหนึ่ง
- จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่จตุรัสมาร์คพลัทซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบสถไฮลิก ไกสท์เคียร์เค่อ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นศิลปะแบบโกธิค
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 21 พ.ย. – 1 ม.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย
- นำท่านเดินสู่เมือง โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber) หรือเรียกๆว่า เมืองโรเธนเบิร์ก (ระยะทาง 166 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 10 นาที) เมืองเก่าแก่ของจักรวรรดิฟรังค์ ในเขตบาวาเรีย (Bavaria) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ สำคัญของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองในยุคกลางที่สวยที่สุดในเยอรมัน
- นำท่านเดินชมเมือง โรเธนเบิร์ก เป็นเมืองโบราณ ที่ตั้งอยู่ภายในวงล้อมของกำแพงเมืองถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างมีประวัติศาสตร์อันแสนโรแมนติกของเยอรมนีเช่นกันอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์และแนวกำแพงป้องกันเมืองดั้งเดิมบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของเมืองที่ทำการค้า ไวน์ โค กระบือ และขนสัตว์ที่มีมาตั้งแต่ ค.ศ. 1274 นำท่านชม ศาลาว่าการเมือง (Town Hall) ที่ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง โดยตัวอาคารนั้นถูกสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1250 ในแบบอาคารโกธิค นำท่านขึ้นไปชมทัศนียภาพอันงดงามของอาคารบ้านเรือนหลากสีสัน
- จัตุรัส Plönlein จัตุรัสเล็ก ๆ แต่มีชื่อเสียงในไปทั่วโลก บริเวณรอบ ๆประกอบไปด้วยลานน้ำพุและตลาดเก่า เก่า อิสระท่านเดินเล่นชมเมือง ซื้อของฝาก และถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 25 พ.ย. – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ALTES BRAUHAUS HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 4 ดาว
หมายเหตุ : โรงแรมเมืองโรเธนเบิร์กมีจำกัด หากโรงแรมเต็มทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์นอนเมืองใกล้เคียง
โรเธนเบิร์ก – วูซเบิร์ก - แฟรงค์เฟิร์ต – จตุรัสโรเมอร์ – ช้อปปิ้ง
รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่เมือง วูร์ซเบิร์ก (Wuerzburg) (ระยะทาง 60 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. )เมืองบนเนินเขาทางตอนเหนือของแคว้นบาวาเรีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมนซึ่งเป็นอีกแหล่งเพาะปลูกองุ่นเพื่อผลิตไวน์ของเยอรมัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก
- นำท่านชมความงดงามของเมือง วูร์ซเบิร์ก โดยเริ่มจาก ศาลาว่าการเมือง (City Hall) แวะถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งเมืองวูร์ซเบริ์ก (Wurzburg Cathedral) สร้างขึ้นเมื่อ คศ. 788 และในการก่อสร้างระหว่างปี 1040 – 1225 ได้รับอิทธิพลจากศิลปะแบบโรมาเนสก์ จึงทำให้ภายนอกมหาวิหารสร้างแบบโรมาเนสก์ จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Wurzburg Residence สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 10 ซึ่งอดีตคือพระราชวังเก่า สร้างแบบสถาปัตยกรรมบาโรก และได้มีการบูรณะหลายครั้งเนื่องจากถูกทำลายจากสงครามโลกครั้งที่ 2
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 25 พ.ย. – 23 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
- นำท่านเดินทางสู่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt) เมืองธุรกิจการค้าที่สำคัญของเยอรมัน ( ระยะทาง 120 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. )
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- นำท่านชมจัตุรัสโรเมอร์ (ROMERBERG) ย่านใจกลางเมืองเก่า อันเป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเมือง (THE ROMER)ศิลปะแบบโกธิคที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในปี 1405 ตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมือง ท่านจะพบกับอาคารกึ่งไม้ซุงอันงดงามแบบฟาคแวร์กเฮ้าส์ที่เรียกว่า ออสไซเล่อ (OSTZEILE) ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่โดยสามารถรักษารายละเอียดของอาคารดั้งเดิมที่เคยถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่สองได้ทุกรายละเอียดนำท่าน ถ่ายภาพความสวยงามของน้ำพุแห่งความยุติธรรม ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอยู่กลางลาน
- ผ่านชมโบส์ถเซนต์พอล และวิหารใหญ่ประจำเมือง
- อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายบริเวณถนนสายช้อปปิ้ง ย่านถนนซายล์ (ZEIL) ถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดของประเทศเยอรมนีที่เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังเรียงรายอยูมากมายไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton, Hugo Boss, Chanel, Giorgio Armani เป็นต้น
- อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
พิเศษ : ช่วงระหว่าง วันที่ 21 พ.ย. – 22 ธ.ค. ท่านจะได้พบกับเทศกาลตลาดคริสต์มาสที่สวยเป็นอันดับต้นๆ ของยุโรป
- จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน ให้ท่านได้มีเวลาทำ TAX REFUND
- 20.40 น.ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923
สุวรรณภูมิ - กรุงเทพ ฯ
- 12.30 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ