ทัวร์อียิปต์ 11 วัน


Tour by HappyLongway

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์อียิปต์ 11 วัน

รหัสทัวร์ : LUXURY GRAND EGYPT 11 DAYS (EK)
ระยะเวลา 11 วัน 8 คืน
สายการบิน : EMIRATES (EK)

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 13 ม.ค. 68 - 23 ม.ค. 68 189,900 บาท
2 10 ก.พ. 68 - 20 ก.พ. 68 189,900 บาท
3 17 มี.ค. 68 - 27 มี.ค. 68 189,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชม มหาพีระมิดแห่งเมืองกีซ่า (Great Pyramid of Giza) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
  • 2
    ชม The Grand Egyptian Museum มิวเซียมโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
  • 3
    ชม พีระมิดโจเซอร์ (Step pyramid at Saqqara) พีระมิดแห่งแรกของอารยธรรมอิยิปต์
  • 4
    ชม สฟิงซ์ (Sphinx) แกะสลักจากหินธรรมชาติ เป็นการผสมกันระหว่างมนุษย์กับสิงโต
  • 5
    ชม มหาวิหารรามเสสที่ 2 (Great Temple of Ramses 2) แห่งเมืองอัสวาน
  • 6
    ชม มหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel Temples) แห่งเมืองอัสวาน
  • 7
    ชม วิหารคอมออมโบ (TEMPLE OF KOMOMBO) แห่งเมืองอัสวาน
  • 8
    ชม วิหารเอ็ดฟู (TEMPLE OF EDFU OR TEMPLE OF HORUS) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด
  • 9
    ชม หุบผากษัตริย์ (Valley of the Kings) ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 62 พระองค์
  • 10
    ชม วิหารเดลบาฮารี (Deir El Bahari) อนุสรณ์สถานที่ประดิษฐานพระศพของฟาโรห์หญิงฮัปเซปซุท
  • 11
    ชม วิหารเมดินาทฮาบู (Medinate Habu) เป็นวิหารฝังศพของฟาโรห์ Ramses III
  • 12
    ชม มหาวิหารคาร์นัค (Great Temple of Karnak) เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดของอียิปต์
  • 13
    ชม สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs Of Alexandria) คำสุสานใต้ดินที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยมนุษย์
  • 14
    ชม ป้อมปราการซิทาเดล หรือ ป้อมปราการเคทเบย์ (The Citadel of Qaitbay) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
  • 15
    ชม เรือเฟลุคกะ Felucca ชมเมืองอัสวาน

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์
แกรนด์ อียิปต์ 11 วัน 8 คืน
ไคโร-กีซ่า-ลักซอร์-อัสวาน-อาบูซิมเบล-เอ็ดฟู-อเล็กซานเดรีย
โดยสายการบิน EMIRATES AIRLINE

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 23.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T ประตู 9-10 สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวก
DAY2

กรุงเทพ - ดูไบ - ไคโร (อิยิปต์) - ป้อมปราการไคโร - The National Museum of Egyptian Civilization - พักโรงแรมระดับ 5 ดาว Pyramids View 2 คืน

  • 03.10 น. ออกเดินทางสู่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK371
  • 06.55 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 08.10 น. ออกเดินทางสู่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK927
  • 10.25 น. เดินทางถึงกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา มีประวัติยาวนานกว่า 5,000 ปี จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านชมป้อมปราการไคโร (Cairo Citadel) คนอียิปต์รู้จักกันในนาม ป้อมปราการ ซอลาฮุดดีน (Mosque of Muhammad Ali) ซึ่งตั้งตามชื่อแม่ทัพซอลาฮุดดีนผู้พิชิตกรุงไคโรได้ในปีค.ศ.1176 ป้อมนี้ตั้งอยู่บนภูเขาขนาดใหญ่ชื่อ Mokattam ด้วยความแข็งแกร่งและทรงคุณค่าของสถานที่แห่งนี้ องค์กร UNESCO จึงบันทึกให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1979 นับเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านประวัติศาสตร์อิสลามของโลกแห่งนึงเลย ป้อมนี้สูงมากก่อขึ้นจากก้อนอิฐทำจากดินทราย และหินขนาดใหญ่ สร้างขึ้นเพื่อใช้ป้องกันเมืองจากการถูกรุกรานในอดีต เทียบกับคนแล้วคนดูตัวเล็กไปเลยค่ะ ลักษณะป้อมเป็นกำแพงโอบล้อมเมืองเล็กๆ ด้านในมีมัสยิด 3 แห่งพิพิธภัณฑ์ 4 แห่ง ที่พักของทหาร ห้องใต้ดินต่างๆ ในป้อมมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองไคโรได้ทั้งเมืองไกลสุดลูกหูลูกตาCairo Citadel | The Saladin Citadel of Cairo is a medieval I… | Flickr
  • นำท่านเข้าชม มัสยิด Mosque of Muhammad Ali Pasha เป็นมัสยิดที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอียิปต์ โดยสามารถจุผู้คนได้ถึง 10.000 คนเลยทีเดียว                                                    Mosque of Muhammad Ali Pasha, Cairo Citadel | Muhammad Ali P… | Flickr
  • เมืองเก่าไคโร กรุงไคโรเก่าเป็นที่ตั้งของชุมชนคริสเตียนคอปติกไคโรส์ คริสตจักรออร์โธดอกซ์คอปติก ป้อมปราการโรมันที่มีลายอิฐสีแดงและสีขาวก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน
  • จากนั้นนำท่านชมพิพิธภัณฑ์ด้านความเจริญรุ่งเรืองของชาวอียิปต์ (The National Museum of Egyptian Civilization) ซึ่งรวบรวมเรื่องราวความเจริญรุ่งเรืองของชาวอียิปต์ตั้งแต่อดีต ชมมัมมี่ของ ฟาโรห์และของราชินี ซึ่งปกครองอียิปต์ในยุคโบราณ ซึ่งเป็นมัมมี่ของฟาโรห์ต่าง ๆ จัดแสดงอยู่ภายในโลงแก้วรักษาความชื้นไม่ให้ซากเน่าเปื่อย และมัมมี่ร่างที่น่าสนใจที่สุดคือมัมมี่ของฟาโรห์รามเซสที่ 2 มหาราช                                                                                                          File:NMEC-MainEntrance.jpg - Wikimedia Commons
  • ให้ท่านได้ชมความยิ่งใหญ่สิ่งของที่จัดชมด้านในอันยิ่งใหญ่

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก STEIGENBERGER PYRAMID CAIRO HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว (พัก 2 คืน) โรงแรมที่เราเลือกใช้ Pyramids View

DAY3

ไคโร - พีระมิดโจเซอร์ - The Grand Egyptian Museum - กีซ่า - มหาพีระมิดแห่งเมืองกีซ่า - สฟิงซ์

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านชม พีระมิดโจเซอร์ (Step pyramid at Saqqara) บางครั้งเรียกเป็น พีระมิดขั้นบันไดโจเซอร์ เป็นโบราณสถานที่ยังคงอยู่ในสุสานของเมืองซักกอเราะฮ์ โครงสร้างสี่มุมหกชั้นเป็นอาคารหินมหึมาที่เก่าแก่ที่สุดในอียิปต์ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 27 ก่อนคริสตกาล ในช่วงราชวงศ์ที่ 3 เพื่อฝังพระศพของฟาโรห์โจเซอร์ ซึ่งมีผู้ออกแบบพีระมิดคือ อิมโฮเทป และมีเป็นจุดศูนย์กลางของอาคารที่ฝังศพกว้างใหญ่ในลานขนาดมหึมาล้อมรอบด้วยโครงสร้างพิธีและการตกแต่ง พีระมิดนี้ผ่านการบูรณะและปรับปรุงใหม่หลายครั้ง เดิมพีระมิดขั้นบันได สูง 62.5 m และฐานมีความยาวประมาณ 109 โดย 121 เมตร (358 โดย 397 ฟุต) และถูกฉาบด้วยหินปูนสีขาว ใน ค.ศ. 1997 พีระมิดขั้นบันได (หรือพีระมิดดั้งเดิม) เคยถือเป็นสิ่งก่อสร้างหินตัดขนาดใหญ่ที่สร้างโดยมนุษย์ ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2020 มีการเปิดพีระมิดนี้ให้แก่ผู้เข้าชมอีกครั้งหลังปิดฟื้นฟูเป็นเวลา 14 ปี                                                                              The Step Pyramid of Djoser at Saqqara - World History Encyclopedia
  • จากนั้นนำท่านเดินทางไปยังเมืองกีซ่า (Ginza) (ระยะทาง 20 กม. ใช้เวลา 20 นาที) เมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศอียิปต์
  • นำท่านชม The Grand Egyptian Museum มิวเซียมโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2002 รัฐบาลอียิปต์ได้ประกาศความตั้งใจในการสร้าง Grand Egyptian Museum (GEM) ขึ้นมาเพราะต้องการสร้างพื้นที่และรูปแบบการจัดแสดงที่ล้ำสมัยในการเล่าประวัติศาสตร์ ทางโบราณคดีให้สมบูรณ์ที่สุด ตัวอาคารถูกออกแบบโดย Heneghan Peng ด้วยแนวคิดการออกแบบสถานที่เก็บวัตถุโบราณล้ำค่าไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตัวอาคาร จึงถูกตั้งอยู่ใต้ดินเพื่อหลีกเลี่ยงแสงอาทิตย์เพื่อรักษาของให้คงสภาพได้ดีที่สุด และไม่รบกวนสายตาและภูมิทัศน์รอบๆ เมือง Giza อีกด้วย                  GEM - Grand Egyptian Museum | Giza | Ron Frazier | Flickr

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชม มหาพีระมิดแห่งเมืองกีซ่า (Great Pyramid of Giza) คือ พีระมิดคูฟู (Khufu) , พีระมิดคาเฟร (Khafre), พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) โดยพีระมิดคูฟู นั้นเป็นพีระมิดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในบรรดามหาพีระมิดแห่งเมืองกีซ่า เป็นที่บรรจุพระบรมศพของกษัตริย์คีออปส์ (Cheops) หรือ ฟาโรห์คูฟู (Khufu) แห่งราชวงศ์ที่ 4 ซึ่งปกครองอาณาจักรอียิปต์เมื่อประมาณกว่า 4,600 ปีมาแล้ว ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 30 ปี และใช้แรงงานกว่าแสนคน ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่าและเป็นหนึ่งเดียวในสิ่งมหัศจรรย์ยุคเก่าที่ยังคงอยู่ถึงปัจจุบันGreat Pyramid of Giza - World History Encyclopedia
  • จากนั้นนำท่านชมสฟิงซ์ (Sphinx) ที่แกะสลักจากหินธรรมชาติ เป็นการผสมกันระหว่างมนุษย์กับสิงโต ส่วนหัวที่เหมือนมนุษย์นั้น มีสัญลักษณ์ของฟาโรห์อียิปต์แสดงไว้คือมีเคราที่คาง ตรงหน้าผากมีงูแผ่แม่เบี้ยและมีเครื่องประดับ รัดเกล้าแบบกษัตริย์ ลำตัวมีลักษณะคล้ายสิงโตFile:Sphinx with the third pyramid.jpg - Wikimedia Commons

**ไม่รวมค่าขี่อูฐ และค่าเข้าด้านในพีระมิด หากท่านสนใจ กรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์**

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
STEIGENBERGER PYRAMID CAIRO HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว

DAY4

ไคโร - อัสวาน - ชมเมือง - วิหารฟิเล - เสาหินโอเบลิสก์ - ล่องเรือ เฟลุคกะ

รับประทานอาหารเช้า แบบ BOX

  • นำท่านเดินทางสู่สนามบินไคโร
  • 07.00 น. ออกเดินทางสู่เมืองอัสวาน โดยสายการบิน Nile Air เที่ยวบิน NP081
  • 08.25 น. เดินทางถึงสนามบินอัสวาน นำท่านตรวจรับสัมภาระ

**หมายเหตุ : ไฟล์ทบินและสายการบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง**

  • จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ กรุงอัสวาน (Aswan) เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญมากเมืองหนึ่งของประเทศอียิปต์ โดยตัวเมืองตั้งทางตอนเหนือของเขื่อนอัสวาน (Aswan Dam) และอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไนล์ (Nile River)
  • ชมเขื่อนอัสวาน (Aswan Dam) เขื่อนขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อช่วยให้มีน้ำหล่อเลี้ยงไร่นาตลอดปี อีกทั้งยังใช้พลังน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของคนทั้งประเทศ และเพื่อป้องกันน้ำไหลท่วมจากแม่น้ำไนล์เวลาฝนตกหนัก เขื่อนแห่งนี้มีความยาว 36,000 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทะเลสาบที่เกิดจากการสร้างเขื่อนสร้างแม่น้ำไนล์ คือ ทะเลสาบนัสเซอร์ (Nasser) มีความลึก 80 เมตรและกว้าง 10 เมตร                                                        File:Aswan Dam.jpg - Wikimedia Commons
  • จากนั้นชม วิหารฟิเล (Philae) เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส เป็นวิหารที่มีความสําคัญและงดงามมาก ในอดีตวิหารเคยถูกสร้างขึ้นบนเกาะฟิเลกลางแม่น้ำไนล์ แต่เมื่อเขื่อนอัสวานสร้างเสร็จ วิหารทั้งวิหารก็จมอยู่ใต้ระดับน้ำ นานาชาติจึงเข้ามาช่วยเหลือโดยการทำทำนบกั้นน้ำ และค่อยๆย้ายหินทีละก้อน ขึ้นมาสร้างวิหารแห่งใหม่ที่เกาะอากิลเกีย (Agilkia Island) แทนที่ตั้งเดิมFile:Philae Temple Complex, Agilkia Island, Aswan, AG, EGY (48026946072).jpg - Wikimedia Commons

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านชมเสาหินโอเบลิสก์ (Unfinished Obelisk) อนุสาวรีย์โบราณที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของอียิปต์ เป็นเสาหินที่แกะสลักจากหน้าผาซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ แต่มีรอยราวจึงทิ้งค้างไว้เช่นนั้น แท่งหินนี้เป็นของพระนางฮัทเชปซุท หากไม่แตกร้าวจะเป็นเสาโอเบลิสก์ที่สูง 41 เมตร หนัก 1,200 ตัน ปัจจุบันเสาโอเบลิสก์ได้กลายเป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์โบราณ สร้างเพื่อบูชาแด่เทพ อามุน-รา หรือ สุริยะเทพ
  • จากนั้นนำท่านล่องเรือใบโบราณ หรือที่เรียกกันว่า เรือเฟลุคกะ (Felucca) ผ่านชมสวนพฤกษศาสตร์ (Botanical Gardens) เป็นที่ศูนย์รวมพันธ์ไม้นานาชนิด สุสานอากาข่าน รวมไปถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองอัสวาน ที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยที่เทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น                                                                                                                  Aswan, nile, kitchener island, felucca, desert - free image from needpix.com

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
MÖVENPICK ASWAN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว

DAY5

อัสวาน - อาบูซิมเบล - มหาวิหารรามเสสที่ 2 - มหาวิหารอาบูซิมเบล - อัสวาน พักบนเรือสำราญ

รับประทานอาหารเช้า แบบ set box

  • นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองอาบูซิมเบล (Abu Simbel) (ระยะทาง 290 กม. ใช้เวลา 3 ชม. 30 นาที) เพื่อชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คือ มหาวิหารรามเสสที่ 2 (Great Temple of Ramses 2) ซึ่งถือว่าเป็นวิหารที่สำคัญแห่งหนึ่ง ด้านหน้าวิหารจะมีรูปสลักซึ่งมีพระพักตร์ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ตั้งอยู่ 4 องค์ตรงทางเข้า สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นที่บูชาแด่เทพอามุนรา (Amun Ra) ฮอรากาติ (Horakhati) และสร้างวิหารใกล้เคียงกันสร้างเป็นเกียรติแก่ราชินีเนเฟอร์ตารี (Nefertari) เดิมทีวิหารแห่งนี้ได้จมอยู่ใต้น้ำจากการสร้างเขื่อนอัสวาน ทางยูเนสโกได้ช่วยกู้วิหารนี้ตามแบบเดิมทุกตารางนิ้วคงสภาพไว้เหมือนเดิมAbu Simbel, Facade of the Temple of Ramesses II (Illustration) - World History Encyclopedia
  • นำท่านชม มหาวิหารอาบูซิมเบล (Abu Simbel Temples) หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า อนุสรณ์สถานแห่งนูเบีย เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของอียิปต์จากการสู้รบกับนูเบีย มหาวิหารอาบูซิมเบล ถูกสร้างขึ้นในสมัยของฟาโรห์รามเสสที่ 2 เป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของอียิปต์จากการสู้รบกับนูเบีย และเป็นการข่มขู่นูเบียไม่ให้มายุ่งกับอียิปต์อีก โดยใช้เวลาในการสร้างถึง 20 ปี ต่อมามหาวิหารแห่งนี้ได้ถูกปล่อยให้รกร้าง และทรายปกคลุมจนกระทั่งในปี 1813 โจฮัน ลุดวิก เบิร์คฮารดต์ นักประวัติศาสตร์เกี่ยวกับวัฒนธรรมตะวันออกชาวสวิสเซอร์แลนด์ ได้ค้นพบส่วนบนของมหาวิหารแห่งนี้ แต่ไม่สามารถขุดเข้าไปภายในมหาวิหารได้ ใช้เวลาถึง 3 ปีจึงสามารถเข้าไปภายในได้และพบสิ่งของมีค่ามากมายภายในมหาวิหารแห่งนี้Abu simbel temple,egypt,luxor,free pictures, free photos - free image from needpix.com

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นท่านเดินทางกลับสู่อัสวาน (ระยะทาง 290 กม. ใช้เวลา 3 ชม. 30 นาที)

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือ
เข้าพักบนเรือสำราญล่องแม่น้ำ MOVENPICK MS HAMEES NILE CRUISE หรือระดับเทียบเท่า DELUXE (พัก 3 คืน)

*หมายเหตุ :ชื่อเรือและรอบเรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับตารางเดินเรือของอิยิปต์*

DAY6

อัสวาน - คอมออมโบ - เอ็ดฟู - ลักซอร์ - พักบนเรือสำราญ

รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารบนเรือ

  • นำท่านชม วิหารคอมออมโบ (TEMPLE OF KOMOMBO) สร้างเพื่อถวายแด่เทพเจ้า 2 องค์ คือเทพโซเบ็ก เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์หรือเทพผู้สร้างโลก รักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ซึ่งมีเศียรเป็นจระเข้ และเทพฮอรัส (HORUS) มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ ซึ่งได้รับการนับถืออย่างมากจากชาวอียิปต์โบราณ ที่ผนังของวิหารคอมออมโบ ยังปรากฏภาพสลักเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ปรากฎให้เห็นอยู่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องวัดระดับน้ำ ซึ่งเรียกว่า ไนล์โลมิเตอร์ ที่เป็นตัวช่วยประเมินการบอกปริมาณผลผลิตในแต่ละปี และทำให้ทางการสามารถกำหนดระดับภาษีที่ต้องเก็บจากประชาชนได้ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับขึ้นเรือ                                                                    File:Kom Ombo Portal 04.jpg - Wikimedia Commons

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือ

  • นำท่านชมเมืองเอ็ดฟู (EDFU) ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์
  • ชม วิหารเอ็ดฟู (TEMPLE OF EDFU OR TEMPLE OF HORUS) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด เป็นวิหารขนาดใหญ่ที่สวยงาม สร้างขึ้นเพื่อบูชา เทพฮอรัส (HORUS) มีเศียรเป็นเหยี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนเหยี่ยว ขนาดของวิหารนี้ มีความกว้างบริเวณซุ้มถึง 79 เมตร และมีความยาวถึง 137 เมตร มีหลักฐานแกะสลักไว้ว่า เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี 237 ก่อนคริสต์ศักราช                                                File:Temple Edfou Egypte.jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านเดินทางสู่เมืองลักซอร์ (Luxor) ซึ่งมีความหมายว่าพระราชวัง เป็นเมืองโบราณที่ยังคงร่องรอยอารยธรรมอียิปต์โบราณมากที่สุด

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือ
นำท่านเข้าพักบนเรือสำราญ MOVENPICK MS HAMEES NILE CRUISE หรือระดับเทียบเท่า DELUXE (พัก 3 คืน)

DAY7

ลักซอร์ -หุบผากษัตริย์ - วิหารเดลบาฮารี - วิหารเมดินาทฮาบู - อนุสาวรีย์แห่งเมมนอน - วิหารลักซอร์ - พักบนเรือสำราญ

รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารบนเรือ

  • นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองลักซอร์ (Luxor) ซึ่งมีความหมายว่าพระราชวัง เป็นเมืองโบราณที่ยังคงร่องรอยอารยธรรมอียิปต์โบราณมากที่สุด เป็นที่ตั้งของวิหารคาร์นัค (Kanak) สุสานกษัตริย์ (Valley of the Kings) และวิหารของพระนางฮัตเชปสุต (Djeser-Djeseru Hatshepsut’s Temple) ภายในเมืองลักซอร์คือที่ตั้งของนครธีบส์ (Thebes) อันเป็นเมืองหลวงของอียิปต์ยุคใหม่ (1570-1070 ก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของอียิปต์ เมืองนี้จะแบ่งเป็น 2 โซน กั้นโดยแม่น้ำไนล์ โดยโซนเมืองใหม่ คือ ฝั่งตะวันออก (East Bank) และโซนที่เป็นที่ตั้งของสุสาน อยู่ฝั่งตะวันตก (West Bank) เพราะเขาถือว่าโลกหลังความตายจะอยู่ทางตะวันตก
  • นำท่านชมฝั่งตะวันตกของเมืองลักซอร์ นำท่านเดินทางข้ามไปฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ (West Bank) หรือ นครธีบส์ในสมัยอียิปต์โบราณ อดีต เชื่อว่าเป็นที่อยู่ของคนตาย หรือ นครของผู้วายชนม์ (Necropolis of Thebes) เต็มไปด้วยกลุ่มโบราณ สถานที่มีประวัติน่าพิศวง ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ                                                                                                                    File:Luxor West Bank R02.jpg - Wikimedia Commons
  • ชม หุบผากษัตริย์ (Valley of the Kings) ซึ่งเป็นสถานที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 62 พระองค์ แยกตามสุสานต่างๆ ในบริเวณหุบผา ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าผาธีบัน ที่บริเวณนี้เป็นภูเขาหินทรายสีแดง ในแต่ละสุสานต้องใช้การขุดเจาะภูเขาเข้าไปทำเป็นช่องทางลับ ภายในจะทำทางเดินเป็นช่วงๆ และทำเป็นห้องสำหรับวางโลงศพ สมบัติ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของฟาโรห์                                                  Valley of the Kings | Supermac1961 | Flickr
  • นำท่านชมด้านในภายในหุบผากษัตริย์
  • จากนั้นนำท่านชมวิหารเดลบาฮารี (Deir El Bahari) อนุสรณ์สถานที่ประดิษฐานพระศพของฟาโรห์หญิงฮัปเซปซุท หรือที่รู้จักกันในนามของ “ราชินีหนวด” ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกคนสนิท “เซเนมุท” เมื่อกว่า 3,500 ปีมาแล้ว การที่พระนางต้องปลอมพระองค์เป็นชายนั้น ก็คงมีความจำเป็นที่จะต้องทำให้ผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาเชื่อฟัง เพราะการเป็นผู้นำหญิงนั้นไม่น่าจะเป็นที่ยอมรับมากนักFile:Tempel der Hatschepsut (Deir el-Bahari).jpg - Wikimedia Commons

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำท่านเที่ยวชม วิหารเมดินาท ฮาบู (Medinate Habu) เป็นวิหารฝังศพของฟาโรห์ Ramses III (รามซิสที่สาม) ฟาโรห์รามเสสที่ 3 (1186-1155 ปีก่อน ค.ศ.) เป็นฟาโรห์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ที่ 20 พระองค์ทรงเป็นฟาโรห์นักรบองค์สุดท้ายของสมัยอียิปต์โบราณ พระองค์ทรงเอาชนะข้าศึกที่รุกรานอียิปต์ทั้งจากอาณาจักรลิเบีย และกลุ่มคนที่มาจากทะเล (Peoples of the Sea) น่าจะหมายถึงชาวเกาะจากทะเลอีเจียน เพราะหลังสิ้นยุคของพระองค์ อาณาจักรอียิปต์โบราณก็เริ่มเสื่อมถอยลงไปเรื่อย ๆ จนถูกชนชาติอื่น ๆ ผลัดกันเข้ามาปกครอง เช่น ลีเบีย นูเบีย
  • นำท่านเที่ยวชม อนุสาวรีย์แห่งเมมนอน (Colossi of Memnon) รูปสลักหินทรายขนาดใหญ่ 2 รูป มีความสูงถึง 20 เมตรซึ่งสมัยก่อนเป็นวิหารที่ใช้ฝังพระศพของฟาโรห์อเมนโนฟิสที่ 3 แต่เมื่อ 27 ปีก่อนคริสตกาลเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ทำให้ตัววิหารทั้งหลังพังลงมา เหลือเพียงรูปสลัก 2 รูปเท่านั้น ซึ่งต่างมีตำนานที่เล่าต่างกันไป แต่บ้างก็ว่าอาจจะได้ยินเสียงออกมาจากรูปสลักทั้งสองนี้ก็เป็นได้Colossi of Memnon - World History Encyclopedia

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเรือ
นำท่านเข้าพักบนเรือสำราญ MOVENPICK MS HAMEES NILE CRUISE หรือระดับเทียบเท่า DELUXE (พัก 3 คืน )

DAY8

ลักซอร์ - มหาวิหารคาร์นัค - พิพิธภัณฑ์ลักซอร์ - ไคโร

รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารบนเรือ

  • จากนั้นนำท่านชมฝั่งตะวันออกของเมืองลักซอร์
  • นำท่านชม มหาวิหารคาร์นัค (Great Temple of Karnak) เป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดของอียิปต์ เรื่องราวและร่องรอยแห่งอารยธรรมที่แท้จริงของอียิปต์โบราณทั้งทางด้านศิลปะ และวัฒนธรรมของคนในยุคนั้นได้บ่งบอกไว้ในซากปรักหักพังของมหาวิหารคาร์นัคอัน ยิ่งใหญ่และกว้างใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้เอง มหาวิหารคาร์นัคอยู่ห่างจากศูนย์กลางตัวเมืองคือ ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของวิหารลักซอร์ประมาณ 2.6 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อถวายแด่เทพเจ้าอะมอนราเช่นเดียวกันกับวิหารลักซอร์ และเพื่อเป็นสถานที่จัดพิธีกรรมเกี่ยวกับความเชื่อของอียิปต์โบราณ ดังนั้นวิหารทั้งสองจึงมีความเกี่ยวพันกันเกี่ยวกับการประกอบพิธีกรรมทาง ศาสนา ในอดีตจึงมีเส้นทางถนนเชื่อมต่อถึงกันและสองข้างทางเข้าสู่กำแพงชั้นที่ 1 จะถูกประดับด้วยตัวสฟิงซ์ (Sphinx) นั่งหมอบเรียงรายตลอดความยาว 2.6 กิโลเมตรอย่างอลังการ                                                                                              View of the Karnak Temple, Luxor, Egypt · Free Stock Photo
  • นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ลักซอร์ (Luxor Museum) เป็นอาคารก่อด้วยอิฐแดงหันหน้าไปทางแม่น้ำไนล์ บริเวณด้านนอกแสดงรูปปั้นขนาดใหญ่ของกษัตริย์และฟาโรห์องค์สำคัญหลายยุคสมัย ภายในตัวอาคาร 2 ชั้น แสดงศิลปะสมบัติและโบราณวัตถุ ตั้งแต่ยุคฟาโรห์ไปจนถึงยุคสมัยมัมลุก ห้องแรกที่พบคือห้อง Cachette Hall แสดงรูปปั้นที่ขุดพบจากใต้วิหารลักซอร์ รูปปั้นชิ้นที่น่าสนใจคือ สฟิงซ์ยุคตุตันคาเมน ทำด้วยหินอลาบัสเตอร์ และรูปแกะสลักจากหินแกรนิตสีชมพูเป็นเศียรของอาเมนโอ เทปที่ 3 กับเทพฮอรัส ทำด้วยหินบะซอลต์ รูปปั้นฟาโรห์ฮอร์เอมเทปคุกเข่าอยู่หน้าเทพอามุน เป็นต้น ในปีกตึกที่สร้างต่อเติมใหม่ เป็นที่เก็บโบราณวัตถุยุคเมืองธีปส์รุ่งเรืองชื่อห้อง Thebes Glory จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์ส่วนนี้คือ มัมมี่ของฟาโรห์อาโมซิสที่ 1 (Ahmosis I) และมัมมี่ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นมัมมี่ของฟาโรห์รามเสสที่ 1 (Ramses I)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นชม วิหารลักซอร์ (The Temple of Luxor) สร้างโดยฟาโรห์อเมโนฟิสที่3 พระองค์ทรงสร้างวิหารแห่งนี้พร้อมกับการบูรณะต่อเติมวิหารคาร์นัคไปด้วย หากนับวิหารถึงปัจจุบันจะมีอายุรวม 3,400 ปี วิหารได้รับการปฏิสังขรณ์สานต่อจากฟาโรห์องค์ต่อมาหลายพระองค์ แต่ที่เด่นที่สุดจนวิหารแห่งนี้ดูสมบูรณ์แบบสวยงามนั้นเป็นฝีมือของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ที่นี่เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองเพื่อการพักผ่อนของเทพอะมอนราและครอบครัวคือเทวีมัตและเทพคอนส์หรือคอนชู หน้าวิหารมีเสาโอเบลิสก์ตั้งโดดเด่น 1 ต้น เป็นสัญลักษณ์ควบคู่วิหารแห่งนี้ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง เข็มแข็ง มั่นคง มีความหมายถึงชีวิต ความสว่างและความรุ่งโรจน์ ปกติแล้วมักจะนิยมวางเสานี้เป็นคู่ แต่ปัจจุบันอีกต้นถูกนำไปตั้งไว้ที่ปลาซเดอลาคองคอร์ด กลางกรุงปารีส เพื่อเป็นของขวัญแก่ประเทศฝรั่งเศสในสมัยของโมฮาเหม็ด อาลี ดาชา (Mohamed Ali Dasha)                                                                                            Det gamle Egypts historie – Store norske leksikon

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HILTON LUXOR RESORT & SPA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว    

DAY9

ลักซอร์ - ไคโร - CAIRO MUSEUM (หน้ากากทองคำฟาโรห์ตุตันคาเมน) - อเล็กซานเดรีย

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินลักซอร์
  • 09.30 น. ออกเดินทางสู่เมืองไคโรโดยสายการบิน Niles Air เที่ยวบิน NP072
  • 10.40 น. เดินทางถึงสนามบินไคโร นำท่านตรวจรับสัมภาระ

**หมายเหตุ : ไฟล์ทบินและสายการบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง**

  • นำท่านชม โบสถ์เซ้นท์เซอร์เจียส (Church of Saint Sergius) โบสถ์คริสต์อยู่กลางเมืองไคโรเก่า เคยเป็นที่หลบภัย ของครอบครัวพระเยซูคริสต์จากเยรูซาเล็ม

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • นำทุกท่านเข้าชม CAIRO MUSEUM พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ (เก่า) อันเลื่องชื่อของโลกเป็นสถานที่ที่รวมศิลปะวัตถุโบราณมากมายที่สุดในโลกแห่งหนึ่งชม โลงศพทองคำแท้พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมนและสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ (ซึ่งยังไม่ได้ย้ายไปอันใหม่) อาทิเตียงบรรทม รถศึกและเก้าอี้บรรลังก์ทองคำซึ่งภาพบนพนักเก้าอี้โรแมนติกมาก เป็นภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั่งอยู่บนเก้าอี้และมเหสีของพระองค์กำลังทาน้ำมันหอมให้ ทั้งคู่ใส่รองเท้าแตะคนละข้างอันแสดงถึงความรักอันลึกซึ้ง นอกจากนี้ท่านยังจะได้ชมสมบัติอันล้ำค่าอื่นๆ อีกจำนวนมาก เช่น แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคอ ฝีมือประณีต สิ่งของทั้งหมดล้วนมีอายุเก่าแก่กว่า 3,300 ปี

*หมายเหตุ :หากหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตันคาเมน ถูกย้ายไปยังที่ใหม่ The National Museum of Egyptian Civilization ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ตัดรายการนี้*

  • นำท่านเดินทางสู่ เมืองอเล็กซานเดรีย (Alexandria) (ระยะทาง 200 กม. ใช้เวลา 2.30 ชม.) เป็นเมืองใหญ่อันดับสองในประเทศอียิปต์ รองจากกรุงไคโร อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในอดีตปกครองโดยชาวอียิปต์จนกระทั่งตกเป็นของชาวกรีกและโรมัน นอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพลจากอาณาจักรออตโตมัน จนทำให้อเล็กซานเดรียกลายเป็นเมืองที่มีอารยธรรมและศิลปะ กรีก โรมัน ตุรกี ปะปนกันไป นอกจากเมืองอเล็กซานเดรียจะมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานและยังมีตำนานรักอันลือลั่นของพระนางคลีโอพัตราแล้ว การมาทัวร์อเล็กซานเดรีย อียิปต์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอักหลายแห่งรอให้เราไปชมทั้งในอเล็กซานเดรียและตามเมืองสำคัญแห่งลุ่มแม่น้ำไนล์              Alexandria, Egypt | ASaber91 | Flickr

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HILTON ALEXANDRIA CORNICHE HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว
  

DAY10

อเล็กซานเดรีย - ป้อมปราการเคทเบย์ - สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย - ไคโร - ตลาดข่านเอลคาลีลี - สนามบิน - ดูไบ

รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

  • จากนั้นนำท่านเข้าชมป้อมปราการซิทาเดล หรือ ป้อมปราการเคทเบย์ (The Citadel of Qaitbay) ป้อมปราการที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 15 ในอดีตนั้นเคยเป็นที่ตั้งประภาคารฟาโรสมาก่อน และได้ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณFile:Front view Citadel of Qaitbay.jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านชม สุสานแห่งอเล็กซานเดรีย (Catacombs Of Alexandria) คำว่าคาตาโกมบ์นั้น หมายถึงสุสานใต้ดินที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยเป็นคำที่มีในสมัยจักรวรรดิโรมัน ประกอบกับเป็นสุสานแบบที่โรมันนิยม จึงสันนิษฐานว่าคาตาโกมบ์แห่งอเล็กซานเดรียสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 1 – 2 ซึ่งสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นอีก 1 รูปแบบของสุสานของกษัตริย์อียิปต์ นอกเหนือจากรูปแบบพีรมิด และแบบวิหารที่เจาะเข้าไปในเขา สุสานแห่งนี้นั้นถูกค้นพบโดยบังเอิญเมื่อปี 1900 หลังจากลาลากเกวียนหล่นลงไปในสุสานแห่งนี้ โดยภายในนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น เป้นชั้นปลงศพ ชั้นฝังศพ และชั้นสำหรับเป็นที่รวมญาติของผู้เสียชีวิต คาดว่าในยุคหลังใช้เป็นที่ฝังศพของชาวโรมันด้วย เนื่องจากมีการขุดค้นพบศพเป็นจำนวนมากกว่า 50,000 ศพ                                                                                                            File:Catacombs of Kom El Shoqafa, Alexandria, Egypt - 50852603281.jpg - Wikimedia Commons
  • นำท่านชม เสาปอมเปย์ (Pompey’s Pillar) เป็นอนุสาวรีย์โบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เป็นเสาแกรนิต สูง 27 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นเสาหินที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างขึ้นมา จากประวัตินั้นเชื่อว่าเสาแห่งนี้ได้ชื่อมาจาก ปอมเปย์ (Pompey) ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของจูเลียส ซีซ่า (Julius Caesar) ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งโรมัน แต่ภายหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกัน และปอมเปย์ก็ได้หลบหนีมายังเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ ก่อนถูกชาวอิยิปต์ฆ่าตาย โดยมีการเล่าขานกันว่าจูเลียสซีซาร์ได้ทำพิธีเผาศีรษะของปอมเปย์ที่เสาแห่งนี้ ปัจจุบันนี้เหลือเพียงแค่เสาแบบกรีกตั้งอยู่อย่างโดดเด่น และสฟิงซ์อีกสองตัว ที่ยังคงทำหน้าที่เฝ้าสถานที่แห่งนี้ต่อไป                                                                                              The Pompey's Pillar, Alexandria, Egypt. | The Memorial of Di… | Flickr

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงไคโร (ระยะทาง 200 กม. ใช้เวลา 2.30 ชม.)
  • นำท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่ ตลาดข่านเอลคาลีลี (Khan El Khalili) อิสระให้ทุกท่านตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินไคโร 
DAY11

ไคโร - ดูไบ - สุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 00.50 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK926
  • 06.10 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 08.55 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK370
  • 18.05 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน