ทัวร์จอร์แดน ชม PETRA BY NIGHT
รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์จอร์แดน ชม PETRA BY NIGHT
กำหนดการเดินทาง
รอบที่ | วันเดินทาง | ราคา |
---|---|---|
1 | 12 พ.ย. 67 - 19 พ.ย. 67 | 139,900 บาท |
2 | 3 ธ.ค. 67 - 10 ธ.ค. 67 | 139,900 บาท |
3 | 14 ม.ค. 68 - 21 ม.ค. 68 | 139,900 บาท |
4 | 14 ก.พ. 68 - 21 ก.พ. 68 | 139,900 บาท |
สถานที่สำคัญ
- 1พิเศษชม PETRA BY NIGHT กิจกรรมจุดเทียนกว่า 1,500 แท่งหน้านครเพตรา UNSEEN
- 2ชมนคร PETRA 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (UNESCO)
- 3ชมทะเลทราย WADI RAM หนึ่งในทะเลทรายที่เก่าแก่และสวยที่สุดในโลก (UNESCO)
- 4สนุกสนานกับทะเล DEAD SEA ในท่านลองลอยตัวในน้ำทะเลสุดมหัศจรรย์
- 5ชมซากโบราณเมือง JERASH อดีตที่ตั้งเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันตะวันออก
- 6ชม MOUNT NEBO ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์แห่งโมเสส
- 7ชมเมือง AMMAN เมืองหลวงของจอร์แดน
- 8พักโรงแรมโดมกระจก กลางทะเลทราย
สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 23.30 น. คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 8 ROW Q สายการบิน ROYAL JORDANIAN AIRLINES (RJ) พบเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
อัมมาน - มาดาบา - เมาท์ เนโบ - เพตรา - OPTION พิเศษ PETRA BY NIGHT
- 03.50 น. ออกเดินทางสู่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน โดยสายการบินรอยัลจอร์แดนเนี่ยน เที่ยวบินที่ RJ183
- 09.30 น. เดินทางถึง สนามบินอัมมาน ประเทศจอร์แดน จากนั้นนำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)
- ท่านเดินทางสู่เมืองมาดาบา (MADABA) (ระยะทาง 25 กม. ใช้เวลา 30 นาที) เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุดในฐานะ “เมืองแห่งโมเสก” โดยไฮไลท์ของที่นี่คือโบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์ แห่งเซนต์จอร์จ ที่มีภาพแผนที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่ง เยรูซาเล็มที่ทำจากโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2 ล้านชิ้นด้วยขนาดที่ใหญ่ถึง 25×25 ตารางเมตร และยังคงสภาพเดิมไว้ได้จนถึงทุกวันนี้
- นำท่านเข้าชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ (Greek Orthodox Church Of Antioch)
- นำท่านชมไฮไลท์ของเมืองมาดาบา แผนที่อันศักดิ์ของชาวเยรูซาเล็มที่ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ จำนวนกว่า 2.3 ล้านชิ้นโดยเนื้อหาบนแผนที่นั้นจะแสดงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ อาทิ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเล็ม, แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เขาไซนาย และ และอียิปต์
- นำท่านเดินทางสู่ เมาท์ เนโบ (Mount Nebo) (ระยะทาง 10 กม. ใช้เวลา 15 นาที) มีความสูง 817 เมตร จากระดับน้ำทะเล เชื่อว่ายอดเขาเนโบเป็นสถานที่ฝังศพของโมเสสและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์แดน เมื่อคุณยืนอยู่บนยอดเขา คุณจะได้เห็นสิ่งที่โมเสสเคยเห็นที่แห่งนี้เป็นสถานที่สุดท้ายของโมเสส ก่อนจะชี้ทางให้ผู้สืบทอดนำพาผู้คนไปยังดินแดนพันธสัญญา ในประเทศอิสราเอลปัจจุบัน
- จากจุดนี้สามารถชมวิวไปได้ไกลถึงฝั่งอิสราเอล (ดินแดนพันธสัญญา)
- ชมพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ภายในเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่สำคัญคือภาพที่โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000
- ชมอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู เชิญถ่ายรูป ณ จุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านเดินทางสู่เมืองเพตรา (Petra) (ระยะทาง 220 กม. ใช้เวลา 3 ชม.) เมืองเพตรา มหานครศิลาทรายสีชมพู หรือ Rose City ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ (New 7 Wonders of the World) จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07 มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาวาดี มูซา (Wadi Musa Valley) หรือหุบเขาแห่งโมเสส
- นำท่านชมเมืองเพตร้า มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA) ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์ จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาวอาหรับเผ่าเร่ร่อนนาบาเทียน
- ให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก
MOVENPICK RESORT PETRA หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว (พัก 2 คืน)
** OPTION พิเศษ PETRA BY NIGHT (ไม่รวมในค่าทัวร์ กรณีติดต่อหัวหน้าทัวร์)
หลังอาหารค่ำ ท่านที่สนใจกิจกรรมพิเศษ PETRA BY NIGHT เป็นกิจกรรมที่ทาง PETRA จุดเทียนกว่า 1,500 แท่ง ด้านหน้าของวิหาร มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ นครเพตรา ท่านจะได้ชมแสงเทียน สว่างไสวสวยงามสุดโรแมนติค ** กิจกรรม PETRA BY NIGHT มีเฉพาะ วันจันทร์ / พุธ / พฤหัส เท่านั้น
หากมีเหตุสุดวิสัยไม่สามารถจัด Petra by night ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิก
เพตรา - มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้นนำท่านเท้าเข้าชม นครเพตรา (Petra) ให้ท่านได้สัมผัส 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอันน่าอัศจรรย์นอกจากจะขนานนามว่า “นครศิลาสีกุหลาบ The Rose City” ยังมีอีกฉายาว่า “นครที่สูญหายไป The Lost City” ชมความสวยงามดั่งมนต์สะกดที่ซ่อนตัวลึกลับอยู่ในหุบเขาวาดิมูซา ในอดีตนครเพตราคือนครแห่งการค้าขายที่มีขนาดใหญ่เป็นเมืองที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยไบแซนไทน์ ก่อนคริสตกาลถึง 400ปี โดยพวกบานาเทียน และถูกทิ้งล้างมานานกว่า 700 ปีจึงถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวสวิสเซอร์แลนด์นายโจฮันน์ ลุดวิก เบิร์กฮาดท์ในปี ค.ศ.1812ต่อมาในปี ค.ศ.1985 นครเพตราจึงได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ และเคยใช้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดัง เรื่องอินเดียนน่า โจนส์ (Indiana Jones) ภาคที่ 3 ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า”,Transformers: Revenge of the Fallen, The Mummy Returns ฯลฯและยังได้รับการคัดเลือกจากนิตยสาร Smithsonianให้เป็น “1ใน 28สถานที่ต้องไปเยือนก่อนตาย” อีกด้วย
- ระหว่างทางที่เข้าชมท่านจะได้พบกับความแปลกตาของภูเขาที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำที่เกิดขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อนที่เรียกว่า ซอกหินซิค (The Siq) ที่มีระยะทาง 1.5 กม.และจะสิ้นสุดปลายทางของช่องเขาก็จะพบกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (EL-KHAZNEH / TREASURY)
- มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (EL-KHAZNEH / TREASURY) ลักษณะเป็นวิหารที่เจาะหน้าผาหินและแกะสลักความสูงถึง 40 เมตร ของภูเขาที่มีลักษณะเป็นภูเขาสีชมพูทั้งลูกโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมของอียิปต์และโรมัน
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- อิสระให้ท่านชื่นชมความสวยงาม และเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพภายในบริเวณนครเพตราตามอัธยาศัย
- จากนั้นให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการนั่งรถม้า กลับออกมาจากนครเพตรา
** หมายเหตุ : ท่านไหนสนใจเดินเที่ยวต่อไปยัง The Monastery หนึ่งในไฮไลท์และสถานที่ที่สวยที่สุดของนครเพตรา เนื่องจากระยะทางจาก The Treasury ไปยัง The Monastery ค่อนข้างไกล 3.5 กิโลเมตร ติดต่อสอบถามข้อมูลกับไกด์หรือหัวหน้าทัวร์เพิ่มเติม **
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก
MOVENPICK RESORT PETRA หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว
ทะเลทรายวาดิรัม - กิจกรรมทัวร์ทะเลทราย - พักโรงแรมสไตล์โดมกระจก
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ ทะเลทรายวาดิรัม (WADI RAM) (ระยะทาง 105 กม. ใช้เวลา 1.40 ชม.) หรืออีกชื่อเรียกว่า“หุบเขาแห่งพระจันทร์” (The Valley of the Moon) เชื่อว่าทะเลทรายแห่งนี้มีมนุษย์อาศัยก่อนคริสต์กาล8,000ปีและยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังฮอลลีวูดชื่อดังเรื่อง Lawrence of Arabia ให้ท่านชื่นชมวิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทาง
- จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พัก SUN CITY CAMP WADI RUM ห้องพักสไตล์โดมกระจก หรือระดับเทียบเท่า
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านสนุกกับกิจกรรมทัวร์ทะเลทราย (Desert Tour In Wadi Rum)
- นำท่านนั่งรถ JEEP 4×4 ตะลุยทะเลทรายที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เป็นทะเลทรายอันกว้างใหญ่และเงียบสงบมีผืนทรายสีส้มเม็ดละเอียดและจะเปลี่ยนสีไปตามสีของพระอาทิตย์ในอดีตนั้นเคยเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศซาอุฯ ที่เดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์ ในครั้งศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของ นายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอว์เรนซ์ และเจ้าชายไฟซาล ผู้นำแห่งชาวอาหรับที่ร่วมรบขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกราน ต่อมาได้ใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA”
- นำท่านสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเบดูอินที่อาศัยอยู่กลางทะเลทราย และชมภาพแกะสลักต่างๆของชาวบานาเทียน นำท่านชมทะเลทราย และมีวิวสวยๆ ให้ท่านได้ถ่ายรูป
- นำท่านกลับสู่ที่พัก อิสระให้ทุกท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก
SUN CITY CAMP WADI RUM ห้องพักสไตล์โดมกระจก หรือระดับเทียบเท่า
** หมายเหตุ : ห้องพักสไตล์โดม มีหลากรูปแบบ ขึ้นอยู่แต่ละโรงแรม **
ทะเลทรายวาดิรัม - เมืองเครัค - ทะเลเดดซี
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำทุกท่านเดินทาง สู่เมืองเครัค (ระยะทาง 260 กม. ใช้เวลา 3.20 ชม.) ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามข้างทางระหว่างทางขึ้นสู่เขา โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็น (แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน)
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- นำท่านสู่ปราสาทเครัค (AL KARAK CASTLE) ตั้งอยู่ที่เมืองเครัค ทางตอนกลางของประเทศจอร์แดน นับเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในช่วงยุคสงครามครูเสด จากประวัติศาสตร์สงครามครูเสดเป็นสงครามระหว่างคริสเตียนจากยุโรปและชาวมุสลิมซึ่งยึดครองพื้นที่แถบนี้รวมทั้งนครเยรูซาเล็ม นครศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของศาสนาอับราฮัมหลักทั้งสาม (ศาสนายูดาย ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม) โดยชาวคริสต์ต้องการฟื้นฟูการเข้าถึงที่ศักดิ์สิทธิ์ในและใกล้เยรูซาเล็มปราสาทเครัคแห่งนี้สร้างในศตวรรษที่ 12 ปี ค.ศ. 1115 โดย King Baldwin ที่ 1 แห่งเยรูซาเลม เพื่อเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการควบคุมกองคาราวานในเส้นทางการค้าขายที่เชื่อกับประเทศอียิปต์ไปยังกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย โดยตัวปราสาทสร้างด้วยหิน กำแพงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาโค้งยาว แล้วก็เจาะร่องแสงเล็กๆ ลักษณะแบบนี้ทำให้ง่ายต่อการป้องกันศัตรูปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ยังคงเหลือโครงสร้างที่สมบูรณ์ การแวะเยี่ยมชมที่นี่ ทำให้เราได้เห็นมุมมองของการทำสงครามสมัยประวัติศาสตร์ (ครูเสด)
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี (DEAD SEA) (ระยะทาง 80 กม. ใช้เวลา 1.15 ชม.) ทะเลที่ได้ชื่อว่าเค็มที่สุดในโลก ที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ จึงถูกขนานนามว่าเป็นทะเลมรณะ ทะเลเดดซีนับว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลมากที่สุด เนื่องจากน้ำในทะเลเดดซีมีความหนาแน่นมาก และมีเกลือละลายอยู่ในน้ำถึง 25% จึงทำให้วัตถุต่างๆ สามารถลอยเหนือน้ำได้ แม้แต่คนที่ลงไปว่ายน้ำก็ไม่จมเช่นกัน
- จากนั้นให้ท่าน ได้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำในทะเลเดดซี ซึ่งเป็นทะเลที่ถูกบันทึกลงใน กินเนสส์บุ๊ค ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดในโลก มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซนต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ ให้ท่านอิสระในการลงเล่นน้ำทะเล และ พิสูจน์ความจริงว่าสามารถลอยตัวได้จริงหรือไม่ นอกจากนี้การพอกโคลนทะเลเดดซีโคลนเดดซีเป็นโคลนธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความสวยความงาม เพราะเป็นโคลนจากทะเลน้ำเค็ม ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากหิมะละลายบนเทือกเขาสูงในประเทศซีเรียและจอร์แดนที่พาเอาดินโคลนบริสุทธิ์จากเทือกเขาไหลลงมารวมกันที่ทะเลเดดซีนี้นับพันๆปี (การลงเล่นน้ำในทะเลมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อควรระวังต่างๆ ควรฟังคำแนะนำจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่น)
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารของโรงแรมที่พัก
MOVENPICK DEAD SEA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว
เดดซี - มาอิน ฮอตสปริง - อัมมาน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- จากนั้น อิสระช้อปปิ้ง ผลิตภัณฑ์ SKINCARE ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นขุมทรัพย์ของแร่ธาตุมากมายจากทะเลสาบเดดซี มีทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพใบหน้าและลำตัว นอกจากนี้ ปัจจุบันยังได้นำวัตถุดิบจากทะเลสาบเดดซีมาบรรจุคัดกรองแร่ธาตุต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบเครื่องสำอาง และมีสถาบันเสริมความงามหลายที่ ได้นำวัตถุดิบโคลนทะเลสาบเดดซีมาใช้ในการทำสปา เพื่อเป็นการผ่อนคลายและมอบความสดใสชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย
- นำท่านเดินทางสู่ มาอิน ฮอตสปริง (Ma’in Hot Spring) (20 กิโลเมตร) บ่อน้ำแร่ร้อนที่โด่งดังของจอร์แดน มีประวัติสืบย้อนไปได้ตั้งแต่สมัยโรมัน ที่ทหารชาวโรมันได้ค้นพบที่แห่งนี้ และได้ใช้น้ำแร่ที่นี้ในการรักษาอาการอาการบาดเจ็บ ด้วยเหตุนี้ท่านจะได้ผ่อนคลาย และรื่นรมย์ไปกับการ แช่น้ำพุร้อน มาอิน ฮอตสปริง (Ma’in Hot Spring) ที่มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งและสปาตั้งอยู่ใต้น้ำตกน้ำพุร้อน และท่ามกลางด้วยเทือกเขาอันงดงาม
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน (Amman) (ระยะทาง 75 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 15 นาที) เมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปี ผ่านชมย่านเมืองเก่า เมืองใหม่ ย่านธุรกิจ ตลาดใจกลางเมือง ย่านคนรวย ฯลฯ
- จากนั้นนำท่านชม ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (Citadel) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุการณ์ต่างๆรอบเมือง ให้ท่านอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครโรมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดนที่สามารถจุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และ ตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันแปลกตายิ่งนัก
- นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์โบราณคดี (The Jordan Archaeological Museum) ด้านในจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือเครื่องใช้ รูปปั้น เมื่อครั้งสมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงศตวรรษที่ 15 ที่มีความสำคัญทางด้านโบราณคดีในประเทศจอร์แดนจัดแสดงไว้ที่นี่
- ชม วิหารเฮอร์คิวลิส (Temple of Hercules) หรือรู้จักกันในชื่อซากเสาหินแห่งเฮอร์คิวลิสตั้งอยู่บนทำเลที่สวยมากของเมืองอัมมานถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมัน ลักษณะเป็นเสาหินโรมันขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่อันเป็นเอกลักษณ์ของวิหารเฮอร์คิวลิส
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
GRAND HYATT HOTEL IN AMMAN หรือระดับเทียบเท่า 5 ดาว
อัมมาน – อัจลุน - เจอราช - อัมมาน – ช้อปปิ้ง - สนามบิน
รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
- นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัจลุน (Ajloun) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลา 1 ชม. 30 นาที) 1 ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองอัมมาน
- ชม ปราสาทอัจลุน (Ajloun Castle) ปราสาทอัจลุน หรือ ป้อมอัจลุนซึ่งเป็นป้อมของชาวมุสลิมที่มีความสำคัญในยุคทำสงครามครูเสด ที่สร้างขึ้นโดยนักรบมุสลิม มีประวัติการสร้างที่ใกล้เคียงกับปราสาทเครัดที่ถูกตีแตกไปก่อนหน้านั้น เนื่องจากปราสาทอัจลุนตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้ศัตรูเข้าโจมตีได้ยาก ซึ่งการขึ้นชมปราสาทอัจลุนนั้นรถยนต์สามารถขับขึ้นไปได้จนถึงปราสาท ด้านบนปราสาทยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวเมืองอัจลุนได้อีกด้วย
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเจอราช (JERASH) (ระยะทาง 20 กม. 30 นาที) 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน โดยสันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทราย หลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
- ชมซุ้มประตูกษัตริย์เฮเดรียน (Hadrian ‘s Arch)
- จากนั้นนำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ชมโอวัลพลาซ่า (Oval Plaza) สถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง
- ชมโรมันโบราณ (South Roman Theatre) ซึ่งก็คือโรงละครทางทิศใต้ สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียงสะท้อนตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบาๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา
- จากนั้นนำท่านชมน้ำพุใจกลางเมือง (Nymphaeum) ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุ
- จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงอัมมาน (Amman) (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลา 50 นาที)
- จากนั้นให้ท่านได้ อิสระช้อปปิ้งที่ ห้าง City Mall – Carrefour เป็น 2 ห้างใหญ่ติดกัน มีของแบรนด์เนมให้เลือกสรรมากมาย
- จากนั้นให้ท่านได้ซื้อของฝากร้านขนมหวานของชาวอาหรับ ซาลาติโม (Zalatimo Bros Sweets) ร้านขนมที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงอัมมาน เปิดกิจการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1860 โดยร้านเดิมร้านแรกได้เปิดขายอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม อิสราเอล และจากนั้นจำเป็นต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศ แต่ยังคงสืบทอดขนมจากรุ่นสู่รุ่น และได้พัฒนาคุณภาพ และรสชาติของขนมให้มีความหอม อร่อย จนถึงปัจจุบัน
รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน
- จนกระทั่งได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินอัมมาน
สุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ
- 03.10 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินรอยัลจอร์แดนเนี่ยน เที่ยวบินที่ RJ182
- 15.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดยสวัสดิภาพ