ทัวร์สเปน โปรตุเกส 11 วัน


Tour by HappyLongway

รายละเอียดโปรแกรมทัวร์-ทัวร์สเปน โปรตุเกส 11 วัน

รหัสทัวร์ : GRAND SPAIN - PORTUGAL 11D (EK)
ระยะเวลา 11 วัน 8 คืน
สายการบิน : EMIRATES (EK)

กำหนดการเดินทาง

รอบที่ วันเดินทาง ราคา
1 22 ก.พ. 66 - 4 มี.ค. 66 169,900 บาท
2 16 มี.ค. 66 - 26 มี.ค. 66 169,900 บาท
3 31 มี.ค. 66 - 10 เม.ย. 66 179,900 บาท
4 20 เม.ย. 66 - 30 เม.ย. 66 179,900 บาท
5 4 พ.ค. 66 - 14 พ.ค. 66 175,900 บาท
6 18 พ.ค. 66 - 28 พ.ค. 66 175,900 บาท
7 1 มิ.ย. 66 - 11 มิ.ย. 66 175,900 บาท

สถานที่สำคัญ

  • 1
    ชมเมือง PORTO เมืองที่ได้รับการโหวตว่าน่าท่องเที่ยวที่สุดของยุโรปปี 2017 (UNESCO)
  • 2
    ชมกรุง MADRID เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวสำคัญของสเปน
  • 3
    ชมกรุง MADRID เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวสำคัญของสเปน
  • 4
    ชมเมือง LISBON เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวสำคัญของโปรตุเกส
  • 5
    ชมมหาวิหาร SAGRADA FAMILIA มหาวิหารสุดอลังการ ผลงานของศิลปินเกาดี้
  • 6
    ชมมหาวิหาร PENA NATIONAL PALACE มหาวิหารสุดสวยแห่งเมือง SINTRA (UNESCO)
  • 7
    ชมเมือง TOLEDO อดีตเมืองหลวงเก่าของสเปนสุดสวย (UNESCO)
  • 8
    ชมสะพานส่งน้ำโรมัน Acueducto de Segovia แห่งเมือง SEGOVIA (UNESCO)
  • 9
    ชม JERONIMOS MONASTRY มหาวิหารแห่งเมือง Lisbon (UNESCO)
  • 10
    ชม GUELL PARK สวนสาธารณะผลงานศิลปินเกาดี้ (UNESCO)
  • 11
    ชมหุบเขา Montserrat Mountain มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ ในหุบเขา
  • 12
    เข้าชม ROYAL PALACE พระราชวังหลวงสุดสวย
  • 13
    ชม CAPO DA ROCA จุดตะวันตกสุดของทวีปยุโรป
  • 14
    ชมโชว์ ระบำ Framingo

HappyLongWay
ขอนำเสนอโปรแกรมทัวร์ยุโรป
ทัวร์สเปน
สเปน โปรตุเกส 11 วัน 8 คืน
โดยสายการบินเอมิเรสต์ (EK)

DAY1

สนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ

  • 22.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T ประตู 9-10 สายการบินเอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส (EK)
DAY2

ดูไบ – บาร์เซโลน่า - มหาวิหารมอนต์เซอร์รัต - บาร์เซโลน่า

  • 01.35 น. ออกเดินทางสู่ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  เที่ยวบิน EK 385
  • 05.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 07.50 น. ออกเดินทางสู่กรุงบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 185
  • 12.25 น. เดินทางถึงกรุงบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
  • นำท่านเดินทางนำท่านเดินทางสู่หุบเขามอนต์เซอร์รัต เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองบาร์เซโลน่าเมืองหลวงของแคว้นคาตาโลเนีย (ระยะทาง 50 กิโลเมตร ใช้เวลา 1ชม.) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหารซานตามาเรีย มอนต์เซอร์รัต (Santa Maria de Montserrat) อีกหนึ่งมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,236 เมตรที่ตั้งอยู่ในหุบเขามอนต์เซอร์รัต (Montserrat Mountain) ซานตามาเรีย เดอ มอนต์เซอร์รัต ได้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากภายในมหาวิหารยังเป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระแม่มารีดำ (Black Madonna หรือ black virgin) และยังมีความเชื่อว่า ในบริเวณมหาวิหารหรือในหุบเขาแห่งนี้ อาจเป็นที่ซ่อนของจอกศักดิ์สิทธิ์ตามตำนานความเชื่อในศาสนาคริสต์อีกด้วย
  • นำท่านชมภายในวิหาร อิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย                                            Montserrat Monastery - Visit Barcelona
  • จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองบาร์เซโลน่า (Barcelona) เมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศสเปน และเป็นเมืองหลวงแห่งแคว้น คาตาโลเนีย และเป็นท่าเรือสำคัญที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
 HILTON BARCELONA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว  (พัก 2คืน)

DAY3

บาร์เซโลน่า – ชมเมือง – สวนสาธารณะกูเอล - มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย - นั่งกระเช้าขึ้นชมวิวมองต์จูอิค

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านชม  กรุงบาร์เซโลน่า (Barcelona) เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมหลากยุคสมัย มีสวนสาธารณะสิ่งแวดล้อมและการวางผังเมืองที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ชมผลงานก่อสร้างในศิลปะแบบอาร์ตนูโว ที่แสดงความงดงามอย่างมีชีวิตชีวา โดยฝีมือของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่นาม อันโตนีโอ เกาดี้ (Antonio Gaudi) ผู้ที่ทำให้เมืองบาร์เซโลน่า ได้รับฉายาว่า “City of Gaudi
  • นำท่านเข้าชม สวนสาธารณะกูเอล (Guell Park) ณ เชิงเขาคาร์เมล อันเป็นผลงานในปี ค.ศ. 1900 ของ “เกาดี้” ซึ่งใช้เวลาออกแบบตกแต่ง และเนรมิต ความยิ่งใหญ่ของจินตนาการ ที่นำมาประยุกต์กับธรรมชาติ อย่างยาวนานถึง 14 ปี เพลิดเพลินกับจุดชมวิวบน ระเบียงนั่งเล่น (Serpentine Bench) ที่ประดับตกแต่งลวดลายด้วยกระเบื้องโมเสกนับล้านชิ้น สวนลอยฟ้าที่มี “เสาโดริก” รองรับอย่างสวยงาม  Park Güell, Barcelona, Spain
  • ชมประติมากรรม “มังกรโมเสก” Mosaic Dragon ไต่คลานบนบันไดน้ำพุ เป็นขวัญใจของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
  • จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงาน ชิ้นอื่นของเกาดี้ ตรงสีสันอันเรียบนิ่งแบบโทนสีธรรมชาติ ให้ความรู้สึกที่สงบผ่อนคลายและเยือกเย็น เพราะความที่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และยังคงรายละเอียดไว้อย่างดี ดูจากลวดลายสลักเสลาที่ด้านนอกตัวโบสถ์และภายใน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงศรัทธาในศาสนาอย่างท่วมท้น สมกับเป็นงานชิ้นสุดท้ายที่เขาอุทิศตนให้กับศาสนจักร ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ยังคงดำเนินการก่อสร้าง และ คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ใน ปี ค.ศ. 2026 อิสระให้ท่านได้บันทึกภาพความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารที่ยังไม่แล้วเสร็จแห่งนี้                                                    La Sagrada Familia; Hidden secrets & mysteries!

หมายเหตุ : หากตรงกับพิธีหรืองานสำคัญ ทางวิหารจะให้ถ่ายรูปเฉพาะด้านนอกวิหารเท่านั้น

 

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ Place de Catalunya ซึ่งเป็นจุดนัดพบของบาร์เซโลน่าที่เชื่อมเมืองเก่ากับเมืองใหม่ไว้ด้วยกัน
  • จากนั้นนำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับอาคาร Casa Milà ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1906 เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของอันตอนี เกาดี                                                                                                                        La Pedrera (Casa Milá) - Barcelona: Information, rates, prices, tickets, how to get there, telephone, schedules, map, photos, books and guides, guided visits and tours
  • จากนั้นนำท่านสู่ถนน Passeig de Gracia  ถนนสายช้อปปิ้งที่สำคัญและดีที่สุดในเมืองบาเซโลน่าโดยสองข้างทางจะเต็มไปด้วย shop สินค้าทั้งแบรนด์ไฮเอน และแบรนด์ท้องถิ่น เช่น Chanel , Louis Vuitton, Gucci ,Burberry, Zara , H&M  เป็นต้น และถนนนี้ยังเชื่อมต่อกับ ถนนลารัมบลา (La Rambla)  ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตร แต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้าเพื่อ ชมทิวทัศน์บนเนินเขา มองต์จูอิคMont Juic ) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของเมืองบาร์เซโลน่า เป็นเนินเขาในบาร์เซโลน่าที่มีทัศนียภาพอันงดงาม ทางด้านตะวันออกของเนินเขายังมีหน้าผาสูงชันซึ่งทำหน้าที่เป็นดั่งกำแพงเมือง ส่วนด้านบนนั้นเป็นที่ตั้งของป้อมปราการหลายแห่ง ซึ่งในปัจจุบันที่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ได้แก่ Palau Nacional ที่มีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอบาโรก ซึ่งแต่เดิมนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดนิทรรศการต่าง ๆ และปัจจุบันมันได้กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของบาร์เซโลน่าที่ทุกคนจะต้องแวะมาแชะภาพคู่กับมันด้วย และด้านหน้ายังมีน้ำพุ Font Magica de Montjuic ที่นักท่องเที่ยวต่างถ่ายรูป นอกจากนี้ Montjuïc ยังเคยถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี ค.ศ. 1992 ด้วยอิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ                                                                              Montjuic | What is it and why you shouldn't miss the cable car ride

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HILTON BARCELONA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY4

บาร์เซโลน่า – บินภายใน - กรุงมาดริด - พระราชวังหลวง

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • 12.35 น. ออกเดินทางสู่กรุงมาดริด สายการบินไอบีเรีย เที่ยวบินที่ IB3017
  • 14.00 น. เดินทางถึงสนามบินกรุงมาดริด

บินภายในใช้เวลาบิน 1.30 ชม. ประหยัดเวลาได้เยอะ  หากท่านนั่งรถจะใช้เวลา 9 -10 ชม.นั่งรถนานมาก

**หมายเหตุ สายการบินและเที่ยวบินอาจมีการเปลี่ยนแปลง **

  • นำท่านเดินทางสู่ กรุงมาดริด (MADRID) เมืองหลวงของประเทศสเปนเป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ มาดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวง (Royal Palace) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้พระราชวังใดในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาร็อค โดยการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 2,830 ห้อง ซึ่งนอกจากจะมีการตกแต่งอย่างงดงามแล้ว ยังเป็นคลังเก็บภาพเขียนชิ้นสำคัญที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น รวมทั้งสิ่งของมีค่าต่างๆอาทิ พัดโบราณ, นาฬิกา, หนังสือ, เครื่องใช้, อาวุธ         Royal Palace of Madrid Tour | Amigo Tours
  • นำท่านชม อุทยานหลวง ที่มีการเปลี่ยนพันธุ์ไม้ทุกฤดูกาลดอกไม้งดงามตลอดปี
  • ชม อนุสาวรีย์เซอร์แวนเตส กวีเอกชาวสเปนที่ตั้งอยู่เหนืออนุสาวรีย์ดอนกิโฆเต้ ในสวนสาธารณะ

หมายเหตุ : หากพระราชวังหลวงปิด ซึ่งทางพระราชวังจะไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า บริษัทจะจัดให้ท่านได้เข้าชม พระราชวัง ฤดูร้อน อรานคูเอซ (Placio Real De Aranjuez) แทน ซึ่งพระราชวังดังกล่าว เป็นอดีตพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์สเปน สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แทน

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง พร้อมชมโชว์ระบำฟลามิงโก FRAMINGO อันเลื่องชื่อ
NH HOTEL MADRID หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว  (พัก 2 คืน )

DAY5

มาดริด – โทเลโด - มาดริด

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง โทเลโด (Toledo) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลา 1 ชม.)  อดีตเมืองหลวงเก่าของสเปนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 13 เป็นเมืองแห่งศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสเปน ชื่อเมืองหมายถึงการผสมผสานของ 3 วัฒนธรรม คริสเตียน, อิสลามและฮีบรู ตัวเมืองตั้งอยู่บนหน้าผาสูงเบื้องล่างล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำตาโค (Tajo) ซึ่งเหมาะแก่การป้องกันการรุกรานจากข้าศึก ให้ท่านชื่นชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางนำท่านเที่ยวชมเมือง ข้ามสะพานแบบโรมันดั้งเดิม (ปูเอนเต เด อัลกานตารา) บนเนินเขาท่านจะเห็นกัสตีโย เด ซาน เซร์บานโด ป้อมปราการ ขนาดใหญ่ที่ชาวโรมันสร้างขึ้นเพื่อปกปักษ์รักษาเมือง        Toledo : ป้อมปราการเมืองหลวงแห่งอาณาจักรสเปนโบราณ @ Spain – Panasm's Blog
  • นำท่านสู่เขตเมืองเก่า ผ่านประตูเมือง ปูเอร์ตาเดบิซากรา 1 ในประตูเมืองที่มีความสำคัญที่สุด นำท่านชมการผสมผสานของสถาปัตยกรรมแบบอารบิค, มูเดฆาร์โกธิค และเรอเนสซองส์
  • จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารโทเลโด (Toledo Cathedral) สถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ยิ่งใหญ่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก ใช้เวลาสร้างยาวนาน แต่เดิมชาวมุสลิมใช้เป็นสุเหร่า ต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี 1226 และเพิ่มศิลปะแบบมูเดฆาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัดมา ภายในมีการตกแต่งอย่างงดงามวิจิตรด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน มุมด้านในเป็นอัลคาซาร์ ผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยศตวรรษที่ 16 ได้รับการบูรณะและเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน หมายเหตุ : หากทางโบสถ์มีพิธีสำคัญ จะงดให้เข้าชมภายในจะให้ชมเพียงด้านนอกเท่านั้น      Toledo Cathedral, Toledo
  • จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปบริเวณจุดชมวิวเพื่อชมทิวทัศน์ของเมืองโทเลโด ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่จิตรกรชื่อดังของสเปน เอล เกรโก (Ei Greco) ได้เคยจำลองลงบนแผ่นภาพอย่างสวยงาม

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมืองพิเศษ ลิ้มรสข้าวผัดสเปนซีฟู๊ด ขึ้นชื่อ

  • จากนั้นได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ กรุงมาดริด (MADRID) (ระยะทาง 70 กม. ใช้เวลา  1 ชม.)  เมืองหลวงของประเทศสเปนเป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่งกษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจากเมืองโทเลโดมาไว้ที่นี่และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ มาดริดได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
  • แวะถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์หมีกับต้นมาโดรนา อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
  • จากนั้นนำท่านช้อปปิ้งย่าน SOL ซึ่งถือเป็นย่านที่มีร้านค้าหลากหลายทั้งแบรนด์ และสินค้าพื้นเมือง ร้านอาหารต่างๆ มากมาย อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย                                                                    Η Μαδρίτη ξεκινά τη «μεταμόρφωση» της Puerta del Sol

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
NH HOTEL MADRID หรือระดับเทียบเท่า  4 ดาว

DAY6

กรุงมาดริด - เซโกเวีย - ซาลามังกา

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านเดินทางสู่เมือง เซอโกเบีย (Segovia) (ระยะทาง 90 กม. ใช้เวลา  1.15 ชม.) เมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่งของสเปน และยังได้รับการขึ้นทะเบียน (UNESCO) ยังได้ขึ้นทะเบียนให้เมืองนี้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1985
  • จากนั้นนำท่านชมรางส่งน้ำโรมัน (Acueducto de Segovia) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 โดยไม่มีการใช้กาวหรือวัสดุเชื่อมหิน แต่ละก้อนแต่อย่างใด จึงได้ รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมโดยชาวโรมันที่สำคัญที่สุดของสเปน และยังมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย รางส่งน้ำาประกอบขึ้นจากหินแกรนิตกว่า 25,000 ก้อน มีความยาว 818 เมตร มีโค้ง 170 โค้ง จุดที่สูงที่สุดสูงถึง 29 เมตร จุดเริ่มต้นของราง ส่งน้ำตั้งแต่นอกเมือง แล้วลําเลียงส่งน้าเข้ามาในเมือง รางส่งน้ำแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซอโกเบีย และเป็นไฮไลท์หลักของเมือง                                                              Acueducto de Segovia - Una maravilla romana a 30 minutos de Madrid
  • นําท่านเดินเล่นในเขตเมืองเก่า ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้านานาชนิดตลอดสองข้างทาง อิสระให้ท่านเดินตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง  พิเศษ เมนูหมูหัน ขึ้นชื่อ

  • นำท่านเดินทางสู่เมืองซาลามังกา (SALAMANCA) (ระยะทาง 170  กม. ใช้เวลา 2  ชม.) ในแคว้นคาสตีลและเลออนทางภาคตะวันตกของประเทศสเปน ตั้งอยู่บนที่ราบสูงริมแม่น้ำตอร์เมส เป็นเมืองที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นศูนย์กลางของ การค้าขายในสมัยโรมันเรืองอำนาจ ปัจจุบันเมืองนี้ได้รับขึ้นเป็นมรดก โลกจากยูเนสโก้ ในปี ค.ศ. 1988
  • จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ วิหาร ใหม่ซาลามังกา (New Cathedral) ที่นี่นับว่าเป็นอาคารที่ได้ชื่อว่าใหญ่ ที่สุดและสูงที่สุดในซาลาโกซ่าเลยทีเดียว กว่าจะมาเป็นสถาปัตยกรรมที่ งดงาม ที่นี่ใช้เวลาสร้างมานานกว่า 200 ปี งานนี้เป็นสถาปัตยกรรมที่ ผสมผสานกันทั้ง กอธิค เรเนซองค์ และบาโรค ที่มีความสวยงามลงตัว                                                                                                                                    Salamanca New Cathedral - Wikidata
  • จากนั้นนำท่านเข้าสู่จตุรัส Plaza Mayor de Salamanca ซึ่งเป็นจตุรัสใจกลางเมือง ล้อมรอบด้วยตึกเก่าแก่โบราณสวยงาม ถือเป็นหนึ่งในจัตุรัสที่สวยงามอันดับต้นๆของประเทศสเปน

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
HOTEL NH COLLECTION SALAMANCA หรือระดับเทียบเท่า   4  ดาว

DAY7

ซาลามังกา - ปอร์โต (โปรตุเกส) - ชมเมือง

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่เมือง ปอร์โต (Porto) (ระยะทาง 350  กม. ใช้เวลา  4.30  ชม.) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำดูว์โรทางเหนือของโปรตุเกส หนึ่งในเมืองศูนย์กลางเก่าแก่ของยุโรป  อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศโปรตุเกส และเมืองท่าที่สําคัญ และมีชื่อเสียงอย่างมาก จนองค์การยูเนสโกจึงได้ขึ้นทะเบียนเมืองปอร์โต้เป็นเมืองมรดกโลก (Unesco) ในปีค.ศ. 1996 และในปี 2014 และ2017 ยังได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกว่าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวที่สุดอีกด้วย                 Is Picturesque Porto Portugal's Best City? Yes! 5 Reasons Why

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน

  • นําท่านชม เมืองปอร์โต้ ที่มาของชื่อประเทศ โดยมาจากคําว่า Portus & Cale ซึงใช้เรียกเมืองสองฝั่งแม่น้ำ Douro แล้วกลายมาเป็น Portugal (ปอร์ตูกัล) ในปัจจุบัน นําท่านชม ย่านเขตท่าเรือเก่า Caise de Ribira บ้านเรือสุดคลาสสิกที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ Douro ที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งเรืองมากในอดีต ปัจจุบันได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
  • จากนั้นนําท่านเข้าชม โบสถ์แซ่ (Se Cathedral หรือ Se de Porto) โบสถ์เก่าแก่ที่สุดของเมืองมีอายุกว่าพันปี ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณปราสาทโบลซ่า สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 12 แต่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมเรื่อยมาหลายครั้งจนกระทั่งศตวรรษที่ 18 Sé do Porto เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองและเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานโรมันท้องถิ่นที่สำคัญที่สุด ได้รับการจัดให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 1910                                                                                                                                Sé Catedral do Porto | www.visitportugal.com
  • จากนั้นนำท่านสู่ถนน Santa Catarina ถนนสายช้อปปิ้งสำคัญของเมืองปอร์โต้ อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าทั้งแบรนด์เนมของที่ระลึกตามอัธยาศัย                                                                                      Tickets & Tours - Rua Santa Catarina, Porto - Viator
  • จากนั้นนําท่านสัมผัสบรรยากาศการ ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ในแม่น้ำโดรู่ (Douro) ผ่านหมู่บ้านชาวประมงอาชีพเก่าแก่ โรงไวน์ที่มีมากถึง 70 แห่ง สะพานข้ามแม่น้ำ Ponte de D.Luis I สะพานเหล็ก 2 ชั้นทีมีชือเสียงสร้างและออกแบบโดยกุสตาฟ ไอเฟล  จากนั้นอิสระให้ท่านเดินชมเมืองริมแม่น้ำโดรู่ตามอัธยาศัย ให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าที่ระลึก ของฝาก หรือ นั่งจิบกาแฟ ชมเมืองตามอัธยาศัย          Visita a Ponte D. Luis no tuer do Porto

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
CROWNE PLAZA PORTO HOTEL หรือระดับเทียบเท่า   4  ดาว

DAY8

ปอร์โต – ชมวิว – สะพาน Ponte Luise I - โกอิมบลา

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • นำท่านไปยังจุดชมวิว Miradouro da Serra do Pilar  ของเมืองปอร์โต้  เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวต่างมาชมความสวยงามของเมืองปอร์โต้  โดยมีสะพาน Ponte Luis I ที่สร้างขึ้นโดย Gustave Eiffel สถาปนิคชื่อดังที่ทำการออกแบบและสร้างหอไอเฟลขึ้นมาที่กรุงปารีส อยู่เบื้อหน้า                    things to see and do in Porto - Miradouro da Serra do Pilar3 - World Wanderista
  • จากนั้นนำท่านเดินลงเก็บภาพบริเวณจุดชมวิวอีกแห่ง JARDIM DO MORRO ซึ่งเป็นสวนสาธารณะข้างๆ สะพานให้ท่านเดินเล่นบนสะพาน ให้ท่านเก็บภาพเมืองปอร์โต้ตามอัธยาศัย
  • เริ่มตั้งแต่นำท่านเข้าชมโบสถ์ GREJA DO CARMO & IGREJA DOS CARMELITAS โบสถ์ที่ตั้งอยู่บนจัตุรัสที่ Rua do Carmo โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 18 ตามสไตล์ศิลปะโรโกโก (Rococo) หรือบางครั้งก็เรียกกันว่าศิลปะแบบหลุยส์ที่ 14 (Louis XIV Style) ศิลปะโรโกโกเริ่มพัฒนามาจากศิลปะฝรั่งเศส โบสถ์แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็น World Heritage Site โดย UNESCO                   Igreja do Carmo e Igreja das Carmelitas, Porto
  • จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับร้านหนังสือ Livaria lello ร้านหนังสือที่ติดอันดับความสวยงามระดับโลก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 ปัจจุบันมีอายุ 137 ปี ตั้งอยู่ในเมืองโปร์ตู (Porto) ประเทศโปรตุเกส เมืองที่ยูเนสโก (UNESCO) คัดเลือกและขึ้นทะเบียนเป็นให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ. 1996 และเป็นร้านหนังสือที่ เจ เค โรรว์ริ่ง ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบโรงเรียนพ่อมดฮอกวอร์ตในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์  **หากตั๋วเข้าชมแบบจองออนไลน์เต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ พาท่านเข้าคิวแทน **              Livraria Lello in Porto – Not Your Average Bookstore | The Culture Map

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง โกอิมบรา (Coimbra) (ระยะทาง 125  กม. ใช้เวลา  1.30  ชม.) เป็นอีกเมืองสําคัญของโปรตุเกส เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโปรตุเกสและถือเป็นมหาลัยที่เก่าแก่อันดับต้นๆของยุโรปอีกด้วย ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือแม่น้ํามอนเดโก (Mondego) สมัยโรมันปกครองเมืองนี้ได้รับการ เรียกขานว่า เอมีเนียม แต่ในปีค.ศ. 711 เมืองนี้ถูกปกครองโดยชาวแขกมัวร์และเป็นเมืองที่เชื่อมการค้าระหว่าง ชาวคริสต์ทางตอนเหนือและชาวมุสลิมทางตอนใต้และในปีค.ศ. 1064 กษัตริย์เฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งลีออน ได้รบชนะชาวแขกมัวร์และปลดปล่อยเมืองโกอิมบราจากการปกครองของชาวมัวร์                                                                                  View On The Old University City Of Coimbra And The Medieval Capital Of Portugal With Portuguese Flag Europe Stock Photo - Download Image Now - iStock
  • นําท่านเข้าชมมหาวิทยาลัย โกอิมบรา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก่อตั้งในปีค.ศ. 1290 โดยกษัตริย์ Kind Dinis I และ ในปีค.ศ. 1338 กษัตริย์ Afonso IV ได้ทำการย้ายมหาวิทยาลัยและสร้างมหาวิทยาลัยใหม่ที่กรุงลิสบอน และในปี ค.ศ. 1537 กษัตริย์ King John ที่ 3 ได้เปลี่ยนเป็นพระราชวังหลวง (Coimbra Royal Palace)
  • นําท่านชมและถ่ายรูป กับสถานที่สำคัญภายในมหาวิทยาลัย ที่ยังคงศิลปะสไตล์3บารอค                    Portugal's Oldest University Just Banned Beef | LIVEKINDLY
  • จากนั้นนำท่านเดินเล่นชมเมืองเก่าของโกอิมบลา ถนนคนเดินเฟอร์เรยรา บอร์เกส (Rua Ferreira Borges) เราสามารถเดินชมเมืองเก่าไปตลอดทาง พร้อมทั้งช้อปปิ้งได้แบบเพลินๆ                              Historic Centre of Coimbra: view to Rua Ferreira Borges (a) (b) | Download Scientific Diagram
  • นำท่านแวะถ่ายรูปด้านนอกกับ โบสถ์เก่า (Se Velha) และโบสถ์ใหม่ (Se Nova) ที่ยิ่งใหญ่อลังการ ดูแข็งแรงและคลาสสิคในเวลาเดียวกัน ให้ท่านอิสระเดินเล่นเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย                  Sé Velha de Coimbra | EuroVelo Portugal | EuroVelo Portugal

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
TIVOLI COIMBRA HOTEL หรือระดับเทียบเท่า   4  ดาว

DAY9

โกอิมบลา - โอบิดอส - ลิสบอน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง โอบิดอส (OBIDOS) (ระยะทาง 130  กม. ใช้เวลา  1.30  ชม.) เมืองป้อมปราการโบราณ ซึ่งมีประชากรอยู่เพียงหมื่นกว่าคนในปัจจุบัน ชื่อเมืองตั้งมาจากภาษาละตินโบราณ ซึ่งแปลว่าป้อมปราการอันแข็งแกร่ง ก่อตั้งขึ้นโดยอาณาจักรโรมัน และยึดครองโดยแขกมัวร์เมื่อช่วงศตวรรษที่ 7 และอีก 400 ปี ถัดมาได้ถูกยึดครองโดย อฟองโซ่ เฮนริค กษัตริย์องค์แรกแห่งโปรตุเกส นำท่านเดินชมเมืองเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี บ้านเรือนจะถูกทาสีขาวสวยงาม โดยมีป้อมปราการและปราสาทถูกขนานนามเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส โดยป้อมปราการนี้เป็นของขวัญวันอภิเษกสมรสแม่นางอิซาเบลแห่งอาณาจักรอารากอนเมื่อค.ศ. 1282                        A Lifestyle Guide to the Medieval Town of Óbidos, Portugal
  • นำท่านเดินชมเมืองอิสระท่านเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงลิสบอน (LISBON) ) (ระยะทาง 85  กม. ใช้เวลา  1.15  ชม.)  เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส เมืองลิสบอนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทิศตะวันตก ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคของคาบสมุทรไอบีเรีย
  • จากนั้นนำท่านเข้าชม มหาวิหารเจอโรนิโม (Jeronimos Monastry) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ วาสโกดา กามา ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสําเร็จ ในปี ค.ศ.1498 จัดเป็นผลงานอันเยี่ยมยอดของงาน สถาปัตยกรรมที่เรียกกันว่ามานูเอลไลน์ (Manueline) ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นถึง 70 ปี จึงแล้วจึงเสร็จสมบูรณ์ และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก (UNESCO)                      Jerónimos Monastery, Lisbon, Portugal | Jerónimos Monastery … | Flickr
  • จากนั้นนำท่านเข้าสู่ช้อปปิ้งย่านถนน Avenida daLiberdade ถนนสายช้อปปิ้งที่สร้างในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากถนนChamps-Élysées ของปารีสซึ่งเชื่อมระหว่างจัตุรัสสองแห่ง (Praça dos Restauradores และ Praça Marquês de Pombal) และเป็นที่รู้จักจากร้านค้าหรูหรา เป็นถนนที่เชื่อมจากเขตเมืองเก่าผ่าใจกลางเมืองไปสุดทางที่จัตุรัสมาร์เกส เดอ ปอมบาล ที่มีอนุสาวรีย์ของมาร์เกส เดอ ปอมบาล ยืนโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนเสาสูง                                                  AVENIDA DA LIBERDADE E SUA ENVOLVENTE | BestGuide Portugal
  • อิสระกับการช้อปปิ้งสินค้าชื่อดังมากมาย

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

SHERATON LISBOA HOTEL & SPA หรือระดับเทียบเท่า   4  ดาว

DAY10

ซินทรา – พระราชวังพีนา - ลิสบอน

รับประทานอาหารเช้าแบบอเมริกัน ณ โรงแรมที่พัก 

  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ แหลมโรก้า (Capo Da Rocca) (ระยะทาง 40 กม. ใช้เวลา 45 นาที )  ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสุดแผ่นดินทางตะวันตกของยุโรป โดยมีหน้าผาและประภาคารริมมหาสมุทรแอตแลนติคเป็นแลนด์มาร์ค ให้ท่านได้เก็ยภาพความประทำใจหรือท่านใดสนใจสามารถเลือกซื้อใบประกาศนียบัตร ว่าได้มาเยือน ณ ที่แห่งนี้แล้ว                                                                                          Cabo Da Roca, das Ende der Welt!
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ซินทรา (Sintra) (ระยะทาง 20 กม. ใช้เวลา 30 นาที )  เมืองตากอากาศยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่สวยงามที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก (UNESCO)  ความร่มรื่นของเขตอุทยานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของชาวเมืองเป็นอีกเมืองที่มีสถาปัตยกรรมที่ค่อนข้างมีความโดดเด่นของแคว้นแกรนด์ลิสบัว ประเทศโปรตุเกส
  • นำท่านเข้าชม พีน่า พาเลซ (Pena National Palace) พระราชวังที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเหนือเมืองซินตร้า โดยพระราชวังแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโปรตุเกส โดยในอดีตพระราชวังถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์โปรตุเกสมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 ภายในถูกตกแต่งประดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม โดยเฉพาะพื้นกระเบื้องที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดในโปรตุเกส ส่วนใกล้ๆกับพระราชวังจะเป็นพีน่าพาร์ค (Pena Park) สวนป่าขนาดใหญ่ ที่มีการจัดแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด จากนั้นให้ท่านชมความเก่าแก่และสวยงามของเมืองซินตร้า ถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญเช่น พระราชวังซินทรา                             Tickets & Tours - Pena National Palace (Palacio Nacional da Pena), Lisbon - Viator
  • อิสระให้ท่านเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
  • จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุง ลิสบอน (Lisbon) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลา 30 นาที)

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย

  • จากนั้นนําท่านบันทึกภาพกับอนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่ (Monument to the Discoveries) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสนพระชนม์ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ Monument to the discoveries, Lisbon, Portugal. - License, download or print for £14.88 | Photos | Picfair
  • จากนั้นแวะถ่ายรูปกับ หอคอยเบเล็ง (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ำาเพื่อเป็นป้อมรักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก เป็นจุดเริ่มต้นของ การเดินเรือออกไปสํารวจ และค้นพบโลกของ วาสโก ดากามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบมานูเอลไลน์ที่สวยงาม                  TORRE DE BELÉM (Lisbon) - All You Need to Know BEFORE You Go
  • ผ่านชมสะพาน Ponte 25 de April  สะพานที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1966 รูปร่างหน้าตาคล้ายกับสะพานโกเด้นเกทที่เมืองซานฟรานฯ  สหรัฐอเมริกา                                                                                                25th of April Bridge (Ponte 25 de Abril) - What To Know BEFORE You Go | Viator
  • จากนั้นได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบิน  เพื่อมีเวลาให้ท่านทำ Tax Refund
  • 21.15 น.  ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ  โดยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK194

รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง

SHERATON LISBOA HOTEL & SPA หรือระดับเทียบเท่า   4  ดาว

DAY11

ดูไบ - สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ

  • 08.05 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ (แวะเปลี่ยนเครื่อง)
  • 09.40 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบิน EK 372
  • 19.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ


แชร์ให้เพื่อน